ตอนที่ 147 การต่อสู้ที่มีความเสี่ยงสูง
หานเซิ่นดึงสายธนูเลือดศักดิ์สิทธิจนสุด และเล็งลูกธนูแบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์ไปที่แฟนท่อมแอนท์ขนาดใหญ่ เขาหยุดอยู่ชั่วขณะก่อนจะยิงธนูออกไป
เคร็ง!
ลูกธนูแบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์พุ่งไปโดนหัวของมัน และล่วงลงบนพื้น เปลือกหนาของมันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
"เปลือกของมันแข็งมาก มันต้องเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิแน่นอน" หลินเป้ยเฟิงตะโกนออกไป
ในชั่วพริบตา แฟนท่อมแอนท์ยักษ์ก็ออกมาจากรอยแยก และพุ่งตรงเข้ามาหาหานเซิ่นด้วยความเร็วพอๆกับเสือชีตาห์
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรแบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์กลับมา เขารั้งสายธนูจนสุด และยิงธนูไปใส่แฟนท่อมแอนท์ยักษ์อีกครั้ง
เคร็ง!
ลูกธนูพุ่งไปโดนหัวของมันอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันแฟนท่อมแอนท์ยักษ์ก็พุ่งเข้ามากว่า 600 ฟุตในชั่วอึดใจ
"นายหนีไปก่อนเลย" หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรแบล็ตสริงเกอร์กลายพันธ์กลับมา และยิงไปที่แฟนท่อมแอนท์อีกครั้ง
"ไปด้วยกันดีกว่า ช่องว่างระหว่างเปลือกของมันแคบมาก ไม่มีทางที่ลูกธนูจะเข้าไปได้!" หลินเป้ยเฟิงเริ่มตื่นตระหนก
"ฉันรู้ว่ากำลังทำอะไร นายไปได้เลย!"
ตอนที่หานเซิ่นดึงสายธนูอีกครั้ง มอนสเตอร์ก็อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงครึ่งไมล์แล้ว
เมื่อหลินเป้ยเฟิงเห็นว่าหานเซิ่นไม่ยอมถอยแน่ๆ เขาเลยต้องตัดสินใจหนีไปก่อน หลินเป้ยเฟิงรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เขาไม่มีทางจะสู้กับมันได้ และถ้าอยู่ต่อไปก็จะเป็นตัวถ่วงของหานเซิ่นเปล่าๆ
หลินเป้ยเฟิงหันมองมาข้างหลังตลอดเวลาที่เขาวิ่งไป เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของหานเซิ่น
หานเซิ่นยิงธนูออกไปอีก 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลทั้ง 2 ครั้ง ในตอนนี้มดยักษ์อยู่ห่างจากหานเซิ่นไม่ถึง 600 ฟุตแล้ว หลินเป้ยเฟิงรู้สึกกลัวจนไม่กล้าที่จะมอง
หานเซิ่นยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคงเหมือนกับก้อนหิน ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ห่อหุ้มด้วยชุดเกราะสีแดง บนหัวสวมมงกุฎ และผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นผมยาวสีบลอนด์
ตาสีแดงของเขากำลังจ้องมองไปที่มดยักษ์
มดยักษ์อยู่ห่างจากหานเซิ่นเพียงแค่ 9 ฟุต มันกระโจนใส่หานเซิ่น และใช้กรงเล็บที่เหมือนกับใบเลื้อยของมันโจมตีใส่หานเซิ่น
หัวใจของหลินเป้ยเฟิงเต้นรัว เขาเห็นหานเซิ่นเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแทนการถอยหลังกลับ หานเซิ่นเข้าไปใกล้มดยักษ์ และในที่สุดเขาก็ยิงธนูออกไปอีกครั้ง
สวบ!
ระยะห่างระหว่างเขากับมดยักษ์นั้นใกล้กันมาก หานเซิ่นยิงธนูเข้าไปในปากของมัน ซึ่งลูกธนูทั้งลูกหายไปในทันที และมดยักษ์ก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความทรมาน
หานเซิ่นเคลื่อนที่ถอยออกมาจากมดยักษ์ แต่มดยักษ์ก็พุ่งเข้าจู่โจมหานเซิ่นด้วยความเร็วสูง
มดยักษ์เคลื่อนที่เข้ามาหาหานเซิ่นด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อมาก ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถถอยห่างจากมันได้ เเต่เมื่อมันเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็เคลื่อนที่หลบออกไปด้านข้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นการต่อสู้ของหานเซิ่นจากระยะไกล หลินเป้ยเฟิงก็รู้สึกกระวนกระวาย มดยักษ์เคลื่อนไหวเร็วมาก และการโจมตีของมันก็ดูรุนแรง ถ้าหานเซิ่นเคลื่อนไหวพลาดสักครั้งก็อาจจะถึงตายได้เลย
แต่เมื่อเห็นหานเซิ่นต่อสู้แบบไม่กลัวตาย หลินเป้ยเฟิงก็เริ่มเลือดร้อนขึ้นมา เขาอยากจะวิ่งกลับไปช่วยหานเซิ่นสู้ แต่เมื่อดูความเร็วของมดยักษ์แล้วหลินเป้ยเฟิงก็ถอดใจ ถ้าเขาเข้าไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้เลยนอกจากเป็นตัวถ่วง
หลินเป้ยเฟิงรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นดูแปลกๆ ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่ได้เร็วถึงขนาดมดยักษ์ แต่เขากับสามารถหลบการโจมตีของมันได้ทั้งหมด
เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นนั้นฝึกฟุตเวิร์คระดับสูงมา แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น หัวใจของหลินเป้ยเฟิงก็ยังคงเต้นรัว เพราะสถานการณ์ยังคงอันตรายมาก
หานเซิ่นฝึกสปาทติเคิล ซึ่งเป็นไฮเปอร์จีโนประเภทฟุตเวิร์คระดับ s ของสถาบันเซนท์มา แต่เขาก็ยังไม่ได้ชำนาญมันมากนัก เขาสามารถเร่งสปีดสูงสุดได้เพียงแค่ก้าวเดียว และเขาต้องรออีกสักพักถึงจะสามารถใช้ก้าวที่สองได้
แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับหานเซิ่น ตราบใดที่เขาหลบการโจมตีของมันได้ เขาก็จะมีเวลาหาโอกาสโต้กลับได้
ตอนนี้ดูเหมือนว่าหานเซิ่นสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของมดยักษ์ได้ เนื่องจากเขาเปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ควีน ทำให้การเคลื่อนไหวของมดยักษ์ดูไม่ได้เร็วมาก เมื่อเขามองด้วยสายตาของแฟรี่ควีน เขามีเวลาพอที่จะตอบสนอง ถึงแม้ความเร็วของเขาจะน้อยกว่ามัน แต่ด้วยสปาทติเคิล ทำให้สามารถหลบมันได้สบาย
ขณะที่หลบการโจมตีของมดยักษ์ หานเซิ่นก็หาโอกาสยิงธนูของเขา แต่เป้าหมายของหานเซิ่นตอนนี้ก็คือปากของมัน
ร่างกายของมันแข็งมาก แม้จะยิงไปที่รอยต่อระหว่างเปลือกที่เป็นจุดอ่อน แต่ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ มีทางเลือกเดียวก็คือต้องยิงเข้าไปในตัวของมันโดยผ่านทางปาก
สวบ!
ลูกธนูหายเข้าไปในปากของมันอีกครั้ง ทำให้มดยักษ์ลงไปกลิ้งบนพื้นด้วยความเจ็บปวด หานเซิ่นได้โอกาสที่จะถอยห่างจากมัน
เมื่อมันพุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง หานเซิ่นที่รั้งสายธนูรอไว้อยู่แล้ว ก็ยิงใส่มันอีกครั้ง
สวบ!
ระหว่างถอย หานเซิ่นยิงธนูเข้าไปในปากของมดยักษ์อย่างต่อเนื่อง
หลินเป้ยเฟิงที่กำลังดูอยู่จากระยะไกลตกตะลึงกับภาพที่เห็น มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนักธนูระดับนี้ หานเซิ่นสามารถยิงธนูจากมุมแปลกๆและยิงได้ต่อเนื่องไม่หยุด ลูกธนูทุกดอกไม่มีพลาดเป้า ความสามารถด้านธนูของหานเซิ่นนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก
เล่ยปาน ซึ่งเคยเป็นคู่ต่อสู้ของหานเซิ่นในการประลองผู้ถูกเลือกเป็นคนแสดงเทคนิคนี้ให้เขาดู การยิงขณะเคลื่อนที่เป็นหัวใจสำคัญ ตั้งแต่นั้นมาหานเซิ่นก็มุ่งมั่นฝึกซ้อมมันควบคู่ไปกับการฝึกพิเศษเพื่อเข้าเหยี่ยวดำ และตอนนี้หานเซิ่นก็เชี่ยวชาญมันเรียบร้อยแล้ว
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเล่ยปานแล้ว ความแม่นของเขายังน้อยกว่า แต่ด้วยระดับความแข็งแกร่ง และการมีวิญญาณอสูรแฟรีควีนช่วย ทำให้เขาทำได้ดีไม่แพ้เล่ยปาน
มดยักษ์ล้มลงหลังจากที่โดนยิงเข้าไปในปาก 6 ครั้ง หานเซิ่นรู้ว่าพิษของลูกธนูกำลังทำงาน แม้ว่ามันจะไม่ถึงตาย แต่มดยักษ์ก็สูญเสียพละกำลังไปมาก
ตีเหล็กก็ควรทำตอนที่ร้อนๆ หานเซิ่นไม่ยอมพลาดโอกาสแบบนี้ เขาหาโอกาสที่จะยิงลูกธนูต่อไป
มดยักษ์ตัวนี้ไม่ได้ฉลาดเหมือนกับราชาจิ้งจอก เมื่อมันบาดเจ็บหนัก แต่มันก็ยังไม่ต้องการหนี