TWO Chapter 128 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 2
TWO Chapter 128 สงครามโจวหลู่ ตอนที่ 2
ในเมืองจักรพรรดิเหลือง หลังจากที่โต้เถียงกันเล็กน้อย จุดลงทะเบียนก็เริ่มสงบขึ้น
โอหยางโชวได้พบกับไป๋ฮัว มู่หลานเยว่ และกงเฉิงซีอย่างราบรื่น สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เฟิงฉิวฮวงได้เลือกที่จะเข้าร่วมกันฝ่ายจักรพรรดิเหลืองด้วยเช่นกัน
ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของ 6 ทรราชย์แห่งหานตานเดิม มันเป็นไปไม่ได้ที่เฟิงฉิวฮวงจะไม่รู้ว่า ตี่เฉินเลือกที่จะนำพันธมิตรหานตาน เข้าร่วมกับฝ่ายจักรพรรดิเหลือง เช่นเดียวกับที่เธอควรจะรู้ว่า ชุนเซิ่นจุนและจานหลางเลือกที่จะนำพันธมิตรชุนฉิวและพันธมิตรโลหะโลหิต เข้าร่วมกับฝ่ายชี่โหยว เธอเหตุผลคือ เธอต้องการจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเขาล่ะก็ เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะเลือกฝ่ายนี้
เฟิงฉิวฮวงเป็นเอิร์ลขั้น 3 เธอนำทหารมาได้ 500 นาย หลังจากลงทะเบียนเสร็จ เธอก็เดินมาทางโอหยางโชว เธอยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ทำไม? ท่านลอร์ดหวู่ยี่แปลกใจกับการเลือกของข้าหรือ?”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ใช่ ข้ากำลังสงสัยว่า ในพันธมิตรซานไห่ของเรา มีตุ่นแอบไปบอกท่านหรือไม่? ถ้าไม่เช่นนั้น ทำไมมันถึงได้บังเอิญเช่นนี้ล่ะ?”
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม!” เมื่อกงเฉิงซีได้ยินคำกล่าวของโอหยางโชว เขาก็เริ่มไอ ความจริงแล้วเป็นกงเฉิงซีที่บอกเรื่องนี้กับเฟิงฉิวฮวง
โอหยางโชวจ้องไปที่กงเฉิงซี เขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า “จริงหรือนี่? ข้าแค่เดาสุ่ม กลายเป็นว่าเจ้าเป็นคนทรยศหรือ?”
กงเฉิงซีรู้สึกอับอาย เขาหัวเราะ แล้วกล่าวว่า “อะแฮ่ม อะแฮ่ม พี่ชายหวู่ยี่...อากาศในวันนี้ดีนะ, เอ่อ ข้าคิดว่า ด้วยการเพิ่มท่านลอร์ดเฟิงเข้ามา กองกำลังของเราก็จะเหนือกว่าตี่เฉินมาก แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ?”
มู่หลานเยว่เยอะเย้ยเขา “เห็นได้ชัดว่าท่านหลงเสน่ห์นาง และยังทำมาเป็นพูดดีอีก พี่ชายสิงโตไม่รู้สึกละอายบ้างหรือ?”
กงเฉิงซีหน้าแดง “เยว่เยว่ เจ้าไม่ควรหยอกล้อพี่ชายของเจ้าแบบนี้นะ”
หลังจากรวมกองกำลัง พวกเขาก็มีทหารรวมกันถึง 2,000 นาย จากนั้น พวกเขาก็เดินออกจากเมืองไป
เมืองสอดคล้องของไป๋ฮัว มีทซิงยี่และหงหยิงติดตามมาด้วย จากบุบผาทั้ง 4 มีเพียงฉีลั้วหลานที่อยู่คอยปกป้องดินแดน ไป๋ฮัวนำกองกำลังทหารมา 300 นาย และเป็นทหารม้าทั้งหมด ผู้ติดตามที่เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ของพวกเขาก็ตามมาด้วย เขาก็คือ จางเลี้ยว[เตียวเลี้ยว] หนึ่งในขุนพลยุค 3 ก๊ก และเป็น 1 ใน 5 ขุนพลเอกของโจโฉ
จากเลี้ยวและฉีเหวินหยวนมาจาก ย่าเหมินหม่ายี่ เคยทำงานภายใต้ติงหยวน, ตาโจว และลิโป้
หลังจากจบศึกที่เสียวพ่าย เขาก็ได้ติดตามโจโฉ ภายใต้โจโฉ เขาได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย เขาออกจากกับดักม้าขาวมาพร้อมกับกวนหยู, บุกตงไห่, โจมตีหยวนซางในเมืองเย่, และฆ่าหวู่ฮวนในภูเขาหมาป่าขาว และคนอื่นๆอีกมากมาย
หลังจบศึกรู่สู โจโฉก็ได้ทำการแต่งตั้งจางเลี้ยว หลี่เตียน และเล่ยจิง จางเลี้ยงปกป้องดินแดนจากการโจมตีของซุนหวู่ และในสงคราม 20 ปี แห่งเสี่ยวเหยาหลู่ เขาได้นำทหาร 7,000 นาย เอาชนะกองทัพ 100,000 นาย ได้สำเร็จ สงครามครั้งนี้ทำให้ทั่วทั้งเจียวตงตะลึง และชื่อเสียงของจางเลี้ยวก็ทะยานขึ้น จนกลายเป็น 1 ในขุนพลที่ถูกจดนำในหน้าประวัติศาสตร์
เมื่อโจเหรินขึ้นสู่อำนาจ เขาบอกให้จางเลี้ยวปกป้องซุนฉวนต่อไป ในปีที่ 2 ของฮวงชู เขาเกิดอาการเจ็บป่วย ในปีที่ 3 เขาได้พ่ายแพ่ต่อหลู่ฟ่าน ในขณะที่เขายังเจ็บป่วยอยู่ และในปีเดียวกันนี้เอง ที่เขาได้เสียชีวิตในเจียงตง ด้วยวัยเพียง 54 ปี
ด้านเมืองหงส์สาบสูญ นอกเหนือจากเฟิงฉิวฮวง ยังมีผู้เล่นอีกคนที่ตามมา คือ ฉิงหลวน และนำทหารมาตามาด้วย 500 นาย โดย 300 นาย เป็นทหารโล่ดาบ, 200 นาย เป็นทหารธนู ขุนพลของเธอเพียงนายทหารขั้นต้น ชื่อว่า ‘ตี่ฉิว’
สำหรับมู่หลานเยว่และกงเฉิงซี กงเฉิงซีนำทหารโล่ดาบมาทั้ง 100 นาย ส่วนมู่หลายเยว่นำทหารธนูมาทั้ง 100 นาย นำโดยขุนพลมู่กุ้ยหยิง
ดังนั้น ในกองกำลังทั้ง 2,000 นาย จะมีทหารม้า 500 นาย โดย 50 นาย เป็นทหารม้าเกราะหนัก, ทหารราบ 1,500 นาย โดย 100 นาย เป็นทหารราบเกราะหนัก 600 นาย เป็นทหารโล่ดาบ 500 นาย เป็นทหารธนู และ 300 นาย เป็นทหารหน้าไม้ ผู้นำในกองกำลังนี้ นอกจากขุนพลซีแล้ว ยังมีมู่กุ้ยหยิง จางเลี้ยว และนักวางกลยุทธ์ จูโชว
ในดินแดนทั้ง 5 มีเพียงเมืองหงสูสาบสูญที่ไม่มีขุนพลที่เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์
เหตุผลก็เพราะ คนที่เหมือนกับเฟิงฉิวฮวง ที่ได้รับเหรียญการสร้างหมู่บ้าน โดยไม่ได้ทำเควสการสร้างหมู่บ้าน พวกเขาได้รับความแข็งแกร่ง แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เสียโอกาสที่จะได้รับยันต์อันเชิญบุคคลทางประวัติศาตร์ ดังนั้น เธอจึงไม่มีพวกเขา
ในเควสการสร้างหมู่บ้าน ผู้เล่นที่ได้รับเหรียญระดับสัมฤทธิ์ จะได้รับผู้มีความสามารถพิเศษระดับทอง 1 คน, ผู้เล่นที่ได้รับเหรียญระดับเหล็กดำ จะมีโอกาศได้รับยันต์อันเชิญระดับกษัตริย์ 1%, ส่วนผู้เล่นที่ได้รับเหรียญระดับเงิน จะมีโอกาสได้รับยันต์อันเชิญระดับกษัตริย์ 100%
จากผู้เข้าร่วมเควสการสร้างหมู่บ้านทั้ง 10,000 คน มี 1,000 คนล้มเหลว, 7,200 ได้รับเหรียญระดับสัมฤทธิ์, 1,800 คน ได้รับเหรียญระดับเหล็กดำ และมีเพียง 5 คน เท่านั้น ที่ได้รับเหรียญระดับเงิน ดังนั้น จึงมีเพียง 20 กว่าคน เท่านั้น ที่ได้รับยันต์อันเชิญระดับกษัตริย์ จากเควสการสร้างหมู่บ้าน
มู่หลานเยว่และกงเฉิงซีได้รับเหรียญระดับเหล็กดำ แต่พวกเขาโชคดีที่ได้รับยันต์อันเชิญระดับกษัตริย์ สำหรับไป๋ฮัวและซุ่นหลงเตียนเซว่ พวกเขาทั้ง 2 ได้รับเหรียญระดับเงิน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือที่ได้รับเหรียญระดับเงิน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็คงจะเป็น ซีอ๋องป้า, เพียวหลิงฮวน และหวู่ฟู่
ในการจัดอันดับจากการป้องกันการรุกรานของสัตว์ร้าย 12 อันดับแรกของภูมิภาคจีน นอกจากเมืองซานไห่ที่ได้รับเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับทองแล้ว อีก 11 แห่ง ได้รับเหรียญระดับเงิน นี่คือ 11 คน ที่เขารู้จัก สำหรับคนอื่นๆที่ได้รับเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับเงิน ยังไม่ปรากฎข่าวใดๆ
ขณะที่เขาเดินออกมาจากประตูเมือง ก็มีเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น
“แจ้งเตือนสงคราม : สงครามโจวหลู่มีดินแดนเข้าร่วมทั้งสิ้น 105 ดินแดน มีกำลังทหารรวม 18,000 นาย โดยฝ่ายจักรพรรดิเหลือง มีดินแดนเข้าร่วม 40 ดินแดน มีกำลังทหารรวม 8,000 นาย, ฝ่ายชี่โหยวมีดินแดนเข้าร่วม 65 ดินแดน มีกำลังทหารรวม 10,000 นาย”
เป็นไปตามที่คาด ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกฝ่ายชี่โหยว เพื่อไล่ตามผลตอบแทนของการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ถ้าโอหยางโชวไม่ได้เลือกฝ่ายจักรพรรดิเหลือง ความแตกต่างในด้านกำลังก็จะมากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ 12 อันดับแรกของจีน อยู่ฝ่ายละ 6 คน เท่ากัน โดยในฝ่ายจักรพรรดิเหลือง ได้แก่ ฉีเยว่หวู่ยี่, ตี่เฉิน, เฟิงฉิวฮวง, ซาโพจุ่น, ไป๋ฮัว และหวู่ฟู่ ส่วนในฝ่ายชี่โหยว ได้แก่ ชุนเซิ่จุน, เฟิงฉิงหยาง, จานหลาง, ซีอ๋องป้า, เพียวหลิงฮวน และซุ่นหลงเตียนเซว่ โดย 6 ทรราชย์แห่งหานตานเดิมก็แบ่งฝ่ายละ 3 คน เช่นกัน
ในตอนแรก ดูเหมือนว่าผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย จะรวมกลุ่มกัน อย่างไรก็ตาม ใรฝ่ายจักรพรรดิเหลือง มันได้ถูกแบ่งออกเป็นพันธมิตรซานไห่ และพันธมิตรหานตาน แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 พันธมิตร จะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวน หรือว่าความสามัคคี ดูเหมือนว่าฝ่ายจักรพรรดเหลืองจะดูเป็นรอง
“แจ้งเตือนสงคราม : เนื่องจากฝ่ายจักรพรรดิเหลืองมีจำนวนน้อยกว่า เพื่อความเป็นธรรม พวกคุณจะได้รับบัฟเพิ่มการป้องกัน 10%”
การแจ้งเตือนนี้ทำให้ผู้เล่นฝ่ายจักรพรรดิเหลืองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นี่คือวิธีการรักษาสมดุลของระบบ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมีอำนาจใกล้่เคียงกัน พวกเขาก็จะต่อสู้กันได้ แต่ถ้าพวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป แล้วจะเกิดการต่อสู้ได้อย่างไร หากเกิดขึ้น มันอาจจะทำให้สงครามที่จะจัดขึ้นในอนาคต ทุ่มอยู่แต่ฝ่ายเดียว และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ระบบต้องการให้เกิดขึ้น
ภายใต้สถานะการปกติ การชดเชยของระบบจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของความแข็งแกร่ง การชดเชยอาจจะเพิ่มทั้งการป้องกันและพลังต่อสู่ หรือแม้แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่
นอกจากนี้ ถ้าอำนาจแต่งต่างกันมากเกินไป อาจมีกรณีของการปรับลด เช่น การลดการป้องกัน, พลังต่อสู่ หรือความเร็วในการเคลื่อนที่ของฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า
“แจ้งเตือนสงคราม : ตามกฎของสงคราม ผู้เล่นที่มีตำแหน่งสูงสุดจะได้เป็นตัวแทน เขามีอำนาจที่จะเข้าพบผู้นำฝ่ายและเข้าร่วมการประชุมทางทหารได้ ถ้าตำแหน่งของผู้เล่นเท่ากัน ก็จะตัดสินโดยคะแนนการกุศล”
“แจ้งเตือนสงคราม : ตัวแทนของฝ่ายจักรพรรดิเหลือง คือ เอิร์ลขั้น 2 ฉีเยว่หวู่ยี่ และตัวแทนของฝ่ายชี่โหยว คือ เอิร์ลขั้น 3 ชุนเซิ่นจุน”
ขณะที่ประกาศดังออกไป ผู้เล่นต่างก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แม้ว่าตัวแทนนั้นจะไม่มีอำนาจในการนำฝ่าย แต่พวกเขาก็มีสิทธิพิเศษที่ผู้เล่นทุกคนต่างก็ปรารถนา
นอกจากที่ได้พบกันผู้นำโดยตรงแล้ว ตัวแทนยังสามารถพบกับบุคคลหลักๆของฝ่ายได้อีกด้วย ทำให้การเปิดเควสรับสมัครบุคคลทางประวัติศาสตร์ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถติดตามอยู่รอบๆผู้นำฝ่าย และกระทั่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลยุทธ์ ผลประโยชน์จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้เล่นเข้าใจและใช้มัน ไม่มีคำอธิบายใดๆ
การฟังในที่ประชุมทหาร ตัวแทนจะได้เข้าไปอยู่ในแกนกลางของฝ่าย และยังสามารถทำความเข้าใจกลยุทธ์และแผนการรบของฝ่ายได้ ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นและพันธมิตรของเขา ในการวางแผนการรบของพันธิมิตรในอนาคต และถ้าได้รับโอกาส ผู้เล่นอาจจะได้แสดงความเห็นของเขาในที่ประชุม ซึ่งยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับผลประโยชน์ที่มากขึ้น
อาจกล่าวได้ว่า ตัวแทนทั้ง 2 ได้สิทธิ์และอำนาจ ในการได้รับผลประโยชน์หลักของระบบสมรภูมิ แล้วจะไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นๆอิจฉาได้อย่างไร? ผู้เล่นที่มีสมองจะสามารถเข้าใจได้ว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะกลายเป็นผู้นำในหมู่ผู้เล่นทั้งหมด และการติดตามเขาย่อมเป็นการตัดสินใจที่ดี
แฟนเพจ : TWOแปลไทย