เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 149 ฝูงหมาป่าโจมตีหมู่บ้าน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 149 ฝูงหมาป่าโจมตีหมู่บ้าน
เหยาลี่ส่งซ่งเจียวม่านกับคนอื่นๆที่ประตูและจ้องมองพวกเธอจากไป
แต่มันเป็นการแยกจากที่สั้นมากๆ เพราะเพียงสิบห้านาทีหลังจากนั้นพวกเธอก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง
"พวกเราโชคร้ายพบฝูงหมาป่า" ซ่งเจียวม่านหัวเราะขมขื่น
ใบหน้าของผู้ใช้วิญญาณในอาคารไม้ไผ่กลายเป็นเคร่งเครียดเมื่อได้ยินเรื่องนี้
กลุ่มของซ่งเจียวม่านมีสมาชิกหลายคนแต่พวกเขายังถูกผลักดันให้ล่าถอยกลับเข้ามาในหมู่บ้าน นี่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์
"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ฝูงหมาป่ากำลังจะบุกโจมตีหมู่บ้าน" ซ่งเจียวม่านกล่าว
บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันไปชั่วขณะก่อนที่เสียงเตือนภัยของหมู่บ้านจะดังขึ้น
"สัญญาณเตือนภัย! ฝูงหมาป่ากำลังจะบุกโจมตีหมู่บ้าน!"
"เร็วเข้า! รวบรวมคนทั้งหมด การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น"
"บัดซบ! ข้าพึ่งกลับมา ข้าต้องการนอนพักมากกว่านี้!"
ผู้ใช้วิญญาณบางคนสาปแช่ง บางคนแสดงออกอย่างเย็นชา ในอาคารไม้ไผ่กลายเป็นชุลมุนวุ่นวาย บนถนนสามารถมองเห็นกลุ่มผู้ใช้วิญญาณเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อไปยังประตูหมู่บ้านทั้งสี่
ด้านในกำแพงหมู่บ้าน ผู้ใช้วิญญาณเริ่มปีนขึ้นไปบนกำแพงเพื่อปกป้องหมู่บ้าน
ฟางหยวนอยู่ท่ามกลางฝูงชนและพาตนเองขึ้นไปตามบันไดไม้ด้วยการฉุดบางคนลงมา
"บัดซบ..." ชายที่ถูกดึงกำลังจะก่นด่า แต่เมื่อเห็นว่าเป็นฟางหยวน ชายผู้นั้นจึงหุบปากลงทันที
ฟางหยวนเร่งกระตุ้นใช้งานวิญญาณหยกขาวและเฝ้ามองสถานการณ์อยู่ในแนวหน้า
นอกหมู่บ้านปรากฏหมาป่าสายฟ้าเคลื่อนไหวอยู่นับพันตัว
ด้วยการกวาดตามอง พวกเขาสามารถมองเห็นดวงตาสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนส่องประกายไปทั่วเป็นเหตุให้ผู้คนที่พบเห็นต้องหลั่งเหงื่ออันเย็นเยียบออกมาอย่างช่วยไม่ได้
หมาป่าทั้งหมดกำลังหิวโหย บางตัวยังหิวมากกระทั่งร่างกายสั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อน
จำนวนหมาป่าสายฟ้ามีอยู่มากเกินไปจนกลายเป็นภัยพิบัติ สัตว์ป่าโดยรอบถูกล่าเป็นอาหาร สุดท้ายฝูงหมาป่าเหล่านี้จึงล่าอาหารได้น้อยลงเรื่อยๆ
สำหรับพวกมัน หมู่บ้านเต็มไปด้วยมนุษย์และเป็นแหล่งอาหารที่เย้ายวนใจ
หมาป่าสายฟ้ามีความป่าเถื่อนเป็นทุนเดิม แต่เมื่อพวกมันกำลังหิวโหย พวกมันจึงยิ่งบ้าคลั่งและยิ่งอันตราย
หมาป่าที่อิ่มแล้วจะไม่บุกโจมตีหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตามหมาป่าที่หิวโหยเหล่านี้นอกจากหมาป่าสายฟ้าธรรมดา มันยังมีหมาป่าสายฟ้าเดือดรวมอยู่ด้วย
แม้พวกมันจะอยู่รวมกลุ่มแต่หมาป่าสายฟ้าเดือดที่มีร่างกายใหญ่โตกว่ายังสามารถสังเกตเห็นได้อย่างง่ายดายและมันก็มีอยู่อย่างน้อยสามสิบตัวในเวลานี้
เมื่อเห็นฉากนี้ ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องสูดหายใจลึกรับเอามวลอากาศเย็นเข้าไปดับความรุ่มร้อนที่อยู่ภายในหัวใจ
นี่เป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลถูกโจมตี แต่คราวนี้ฝูงหมาป่ากลับมีจำนวนมากกว่าก่อนหน้าอย่างน้อยสองเท่า
หมาป่าสายฟ้าเดือดกลุ่มนี้เป็นหมาป่าที่เติบโตเต็มวัยและมีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากวัว หมาป่าสายฟ้าทั่วไปอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่ราชาร้อยอสูรแน่นอนว่าพวกมันได้รับคุณค่าทางอาหารอย่างเต็มที่่
เป็นธรรมชาติที่ทรัพยากรจะถูกมอบให้กับชนชั้นสูงเป็นอันดับแรก
ผลประโยชน์ของสมาชิกระดับล่างจะถูกลดทอนลงไปเรื่อยๆ พวกเขาหรือพวกมันต้องเสียสละให้แก่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นสังคมมนุษย์หรือสัตว์ป่าก็ไม่มีความแตกต่าง
'หมาป่าสายฟ้าเดือดไม่ใช่ภัยคุกคามที่แท้จริง' ฟางหยวนมองไปยังเงาร่างสามสายที่อยู่ด้านหลังฝูงหมาป่าและซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มไม้
ราชาพันอสูร หมาป่าสายฟ้าคลั่ง!
หมาป่าสายฟ้าคลั่งมีร่างกายใหญ่โตไม่ต่างจากช้าง
เมื่อฟางหยวนเห็นพวกมัน ลูกตาดำของเขาพลันหดเล็กลงก่อนจะกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาจึงกวาดตามองหมาป่าสายฟ้าเดือดที่กำลังตรงเข้ามาจากทุกทิศทาง
ฟางหยวนไม่เห็นหมาป่ามงกุฎสายฟ้า
นี่ทำให้เขาสามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะปราศจากราชันหมาป่ามงกุฎสายฟ้า การหลบอยู่ในหมู่บ้านยังถือว่าปลอดภัย
ในความทรงจำของเขาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าจะปรากฏในเดือนสิงหาคม มันจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล หากไม่ใช่เพราะผู้นำตระกูลนำเหล่าผู้อาวุโสออกไปต่อต้านอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับฉิงซูที่เสียสละชีวิตของตนเอง หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลจะต้องถูกลบออกไปอย่างแน่นอน
แต่เมื่อฟางหยวนกำเนิดใหม่ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ฉิงซูตายก่อนเวลาอันควร ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่กล้าประมาท เพราะมีความเป็นไปได้ว่าหมาป่ามงกุฎสายฟ้าจะปรากฏตัวเร็วขึ้นหรือแม้แต่เวลานี้ นี่เป็นเหตุให้ฟางหยวนเร่งออกมาตรวจสอบสถานการณ์
"อะวู้..."
หมาป่าสายฟ้าคลั่งสามตัวปรากฏกายออกมาพร้อมกับเสียงเห่าหอน
ด้วยเสียงเห่าหอนของพวกมัน ฝูงหมาป่าสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนบุกโจมตีหมู่บ้านทันที
ด้านผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาจัดขบวนพร้อมรับมือเอาไว้แล้วเช่นกัน
ผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งมากมายยืนอยู่ที่มุมต่างๆด้านหลังกำแพงและใช้มือทั้งสองข้างส่งพลังวิญญาณเข้าไปในกำแพงหมู่บ้าน
ผู้ใช้วิญญาณระดับสองหลายคนยืนอยู่บนบันไดไม้ขณะที่คนอื่นๆยืนอยู่บนกำแพง
ป้อมปราการที่ถูกดัดแปลงมาจากอาคารบ้านเรือนเต็มไปด้วยผู้ใช้วิญญาณ บางกลุ่มเป็นสายสนับสนุน บางกลุ่มเป็นสายรักษาจากห้องโถงพยาบาล ผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาเพื่อส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ด้านหลัง
ผู้อาวุโสบางคนอยู่แนวหลังคอยบัญชาการ แต่บางคนก็อยู่บนแนวหน้าเพื่อเป็นเสาหลักและขวัญกำลังใจให้แก่ทหารกล้าของตระกูล
'พวกมันมาแล้ว' ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
ฝูงหมาป่าราวกับคลื่นทะเลสาดซัดมาจากภูเขา
"ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ..."
กับดักหลาวไม้แทงทะลุร่างกายของหมาป่าจำนวนมาก บางตัวตายคาที่ บางตัวได้รับบาดเจ็บและกรีดร้องออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน
กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งเข้าจมูกของผู้คนพร้อมกับเสียงร้องของหมาป่าที่ทิ่มแทงเข้าสู่โสตประสาทของพวกเขา
ด้วยความหิวโหย หมาป่าสายฟ้าไม่เพียงไม่หยุดแต่ยังก้าวข้ามซากศพสหายของพวกมันผ่านกับดับหลาวไม้เข้าปะทะกำแพงหมู่บ้านทีละตัวทีละตัว
แม้พละกำลังของหมาป่าสายฟ้าจะไม่สามารถทำลายกำแพงหมู่บ้านแต่ด้วยการโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน กำแพงหมู่บ้านจึงเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ยังต้องส่งพลังวิญญาณเข้าไปในกำแพงหมู่บ้านเพื่อกระตุ้นการทำงานของวิญญาณเถาวัลย์องุ่นกับวิญญาณพิษดอกไม้อยู่ตลอดเวลา
หนามของเถาวัลย์องุ่นที่เคลือบคลุมไปด้วยพิษดอกไม้ทิ่มแทงเข้าไปในร่างของหมาป่าเป็นเหตุให้พวกมันเริ่มอ่อนแรงลง
"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."
ดาบแสงจันทร์ถูกยิงลงมาจากบนกำแพงโดยผู้ใช้วิญญาณระดับสองทำให้เลือดพุ่งกระจายไปทั่วพร้อมกับชิ้นส่วนร่างกายของหมาป่าที่บินขึ้นสู่อากาศ
เป็นเพียงเวลานี้ที่หมาป่าสายฟ้าเดือดพุ่งเข้าสู่สนามรบและสังหารผู้ใช้วิญญาณหลายคนในพริบตา
ด้านฟางหยวน
สายฟ้าสีครามพุ่งเข้าปะทะกำแพงหมู่บ้านและสร้างรูขนาดใหญ่ขึ้นทันที มันยังสังหารผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ด้านหลังกำแพงไปอีกด้วย
หมาป่าสายฟ้าเดือดตัวที่ปลดปล่อยสายฟ้าสีครามออกมาดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้วิญญาณจำนวนมากเป็นเหตุให้ดาบแสงจันทร์พุ่งไปที่มันจากทางทิศทิศทุกทาง
แต่ด้วยการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วทำให้มันได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"อะวู้..."
มันเปิดปากและส่งสายฟ้าพุ่งออกมาอีกครั้งแต่ครั้งมันกลับพุ่งตรงมาทางฟางหยวน
วิญญาณเกราะวารี!
ฟางหยวนพ่นลมออกจากจมูกก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นเกราะน้ำปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้ทั้งหมด
โล่น้ำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่กระแสไฟฟ้าทั้งหมดจะสลายไป
วิญญาณจันทร์กระจ่าง!
ฟางหยวนเก็บโล่น้ำและสะบัดมือส่งดาบแสงจันทร์ออกไป
หมาป่าสายฟ้าเดือดสามารถหลบดาบแสงจันทร์เล่มแรก แต่ขาของมันยังถูกโจมตีด้วยดาบแสงจันทร์เล่มที่สองเป็นเหตุให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลง ดังนั้นดาบแสงจันทร์เล่มที่สามจึงปะทะเข้ากับศีรษะของมันอย่างแม่นยำและฝากบาดแผลร้ายแรงไว้บนตาซ้ายของมัน
เมื่อมันกรีดร้องออกมา ผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆจึงฉวยโอกาสนี้ส่งดาบแสงจันทร์จำนวนมากพุ่งเข้าโจมตีมันจากทุกทิศทาง
"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."
ร่างกายของหมาป่าสายฟ้าเดือดตัวนี้ถูกอาบย้อมไปด้วยเลือด มันล้มลงก่อนจะนอนแน่นิ่งไปในที่สุด เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับฝูงหมาป่าราวกับเกิดระลอกคลื่นขึ้นในบ่อ
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าสายฟ้าคลั่งที่อยู่ด้านหลังจึงส่งเสียงเห่าหอนขึ้นมาเพื่อหยุดความโกลาหลและทำให้ฝูงหมาป่ากางกรงเล็บก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีหมู่บ้านอีกครั้ง
ฟางหยวนยิงดาบแสงจันทร์ออกไปอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะเดินลงบันไดไปเพราะทะเลวิญญาณของเขาเริ่มเหือดแห้งและจำเป็นต้องดูดซับพลังจากหินวิญญาณ
เมื่อเห็นเขาเดินออกมา ผู้ใช้วิญญาณระดับสองอีกคนจึงเร่งเข้าไปประจำตำแหน่งแทนที่อย่างรวดเร็ว
ปกติแล้วผู้ใช้วิญญาณที่สามารถโจมตีระยะไกลจะขึ้นไปอยู่บนที่สูงและให้ความสำคัญกับการโจมตีหมาป่าสายฟ้าเดือดที่เป็นภัยคุกคามมากกว่าหมาป่าสายฟ้าทั่วไป
อย่างไรก็ตามหมาป่าสายฟ้าเดืิอดบางตัวมีวิญญาณที่ช่วยในการกระโดดทำให้พวกมันสามารถกระโดดข้ามกำแพงหมู่บ้านเข้ามาด้านใน
ฟางหยวนล่าถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง
รอบตัวเขามีผู้คนเดินอยู่มากมาย บางคนเป็นเหมือนเขาที่ทะเลวิญญาณเหือดแห้งและจำเป็นต้องกู้คืนพลังวิญญาณ ส่วนอีกกลุ่มคือผู้ใช้วิญญาณที่กำลังจะเข้าสู่สนามรบ
นี่คือสงคราม
พลังการต่อสู้ของผู้ใช้วิญญาณระดับสองค่อนข้างต่ำ มีเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสามที่เป็นเสาหลักและสามารถควบคุมสถานการณ์
ฟางหยวนกลับมายังอาคารไม้ไผ่ที่ถูกปรับให้เป็นป้อมปราการชั่วคราวสำหรับสนับสนุน เขาเบียดผู้คนเข้าไปภายในอาคารและมันก็เต็มไปด้วยผู้ใช้วิญญาณที่กำลังดูดซับพลังจากหินวิญญาณ
ผู้ใช้วิญญาณสายรักษาบางคนกำลังเคลื่อนย้ายผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ บางคนนั่งอยู่บนพื้น บางคนกำลังปฐมพยาบาลโดยมีเครื่องมือวางอยู่ด้านข้าง
เมื่อฟางหยวนพบจุดที่สามารถนั่ง ผู้ใช้วิญญาณสายรักษาผู้หนึ่งเร่งเข้ามาหาเขา
แต่เมื่อเห็นฟางหยวนส่ายศีรษะ เธอจึงเข้าใจสถานการณ์และรีบเดินไปรักษาผู้อื่นต่อไปทันที
ยุทธวิธีหมุนเวียนดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเวลาสี่ทุ่ม ฟางหยวนออกไปต่อสู้ห้าครั้ง แต่ดูเหมือนจำนวนหมาป่าแทบจะไม่ลดลง ในความเป็นจริงพวกเขายังรู้สึกว่ามันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
"ดูเหมือนหมาป่าเหล่านี้จะอยู่ตลอดทั้งคืน" ผู้อาวุโสคนหนึ่งมองไปด้านนอกหมู่บ้านและกล่าวออกมาด้วยความกังวล
กลางดึก วิสัยทัศน์ของผู้ใช้วิญญาณจะถูกจำกัด ตรงข้ามกับหมาป่าสายฟ้าที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนและไม่ได้รับผลกระทบจากความมืด
"เพียงการโจมตีครั้งที่สองในรอบปี มันยังรุนแรงถึงเพียงนี้ ไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่สามารถมองในแง่ดีได้จริงๆ" ผู้อาวุโสอีกคนถอนหายใจ
ใบหน้าของเหยาจี้บูดบึ้งอย่างที่สุด
เธอเป็นผู้อาวุโสห้องโถงพยาบาล ดังนั้นรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจึงถูกส่งมาที่เธออย่างต่อเนื่อง
กระดาษแผ่นเล็กในมือของเธอเต็มไปด้วยรายชื่อของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตซึ่งชัดเจนว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
แต่เธอเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เพราะคุณภาพของผู้ใช้วิญญาณลดน้อยลงแต่มันเนื่องมาจากจำนวนหมาป่าสายฟ้าที่มีมากเกินไป
"ได้โสมเก้าชีวิตเพิ่มขึ้นหรือไม่?" เหยาจี้ถอนหายใจก่อนจะเปิดปากถามอย่างแผ่วเบา
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอตอบกลับอย่างรวดเร็วว่ามีอีกสามคนที่ยังไม่ได้ส่งมอบโสมเก้าชีวิตและฟางหยวนเป็นหนึ่งในนั้น
เหยาจี้ก่นเสียงเย้ยหยันก่อนจะเอ่ยถาม "เหยาลี่อยู่ที่ใด?"
"น้องสาวเหลาลี่นำผู้ใช้วิญญาณสายรักษาไปยังประตูหมู่บ้านทางทิศตะวันตก ข้ากล่าวเตือนเธอหลายครั้ง แต่เธอไม่ยอมรับฟังและยืนยันจะออกไปอยู่แนวหน้า" ขณะกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ เขาก็คุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว
เหยาจี้พยักหน้าก่อนจะโบกมือไล่ชายผู้นั้นให้ออกไป
ที่นั่นมีอาวุโสของตระกูลยืนหยัดอยู่ นอกจากนั้นซ่งเจียวม่านและกลุ่มของเธอยังอยู่ข้างกายเหยาลี่ ดังนั้นเหยาจี้จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเธอ
แม้เหยาจี้จะห่วงใยดูแลหลานสาวผู้นี้เป็นอย่างดีแต่เธอก็สนับสนุนความกล้าหาญเช่นกัน
ด้วยการแสดงออกที่กล้าหาญ ผู้มีอำนาจจะพิจารณาถึงเรื่องนี้ สุดท้ายมันจะทำให้เหยาลี่กลายเป็นผู้นำห้องโถงพยาบาลที่ทรงอำนาจและเป็นประโยชน์ทางการเมืองสำหรับเธอในอนาคต