ตอนที่ 55 การปรากฏตัวของเสวี่ย หรู
ประตูไม้เขียวถูกบดขยี้โดยลำแสงสีดำ หยี่ เยว่หยู่ กระอักเลือดออกมาเพราะเธอได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี
อสรพิษดำได้เปล่งเสียงมาจากด้านบนของเทือกเขาหิมะ
เสียงฟังดูราวกับเป็นการโจมตีทางวิญญาณ หลิน ฮวง และคนอื่นที่อยู่ห่างไป10กิโลเมตรรู้สึกปวดหัวหลังจากที่ได้ยินเสียงคำราม
ทันใดนั้น ลำแสงสีดำก็ถูกยิงอีกครั้ง ขณะที่คนอื่นๆกำลังตื่นตระหนก ลำแสงก็ทะลวงผ่านท้องเธอและผ่านหลังเธอไป
รูขนาดเท่ากำปั้นปรากฏบนหน้าท้องของหยี่ เยว่หยู่
หยี่ เยว่หยู่ พ่นเลือดออกมาอีกครั้งและล้มไปบนพื้น หลิน ฮวง รีบวิ่งไปแบกเธอทันที
หยี่ เสิ่น มองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำท่ายังไงแต่ก็กุมมือเธอเอาไว้
“เยว่หยู่!”เมื่อมองไปยังน้องสาวที่กำลังจะตาย มือของหยี่ เสิ่น ก็สั่นสะท้าน
“ฉันขอโทษ....ทั้งหมดคือความผิดของฉันเอง...”หยี่ เยว่หยู่ไม่มีพลังพอที่จะพูดอีกต่อไปแต่เธอก็พยายามจะพูด“หากมันไม่ใช่เพราะฉัน......ทุกคนคงจะไม่มาอยู่ที่นี่...”
“หยุดพูดโง่ๆ เธอคือน้องสาวของพี่ จนกว่าเธอจะแต่งงาน พี่จะตามเธอไปทุกที่ที่เธอไป นี่คือหน้าที่ของพี่ชาย พี่ขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องน้องได้...”หยี่ เสิ่น กล่าวผ่านหยาดน้ำตา
ดวงตาของหลิน ฮวง เองก็เปียกชื้นเช่นกัน
“ฉันไม่ได้เห็นพี่ร้องมาตั้งแต่ฉันอายุ5ขวบ”หยี่ เยว่หยู่ ยกนิ้วมือขึ้นและปาดน้ำตาบนใบหน้า หยี่ เสิ่น“พี่ยังจำได้ไหม....ตอนที่ฉันถูกรังแกโดยกลุ่มเด็กที่แก่กว่า พี่ได้ยินขึ้นต่อหน้าพวกมันและเมื่อพวกมันต่อยและเตะพี่ พี่ไม่ได้พูดอะไรและไม่ต่อสู้กลับ.....และหลังจากที่ฉันถามว่าทำไมพี่จึงไม่ร้อง พี่ก็บอกว่า พี่เป็นผู้ชายและแม้ว่าพี่จะตาย พี่ก็จะไม่มีวันร้องไห้ต่อหน้าน้องสาว ในตอนนั้น พี่อายุเพียงแค่7ขวบเท่านั้นเอง”
“พี่ขอโทษ พี่ผิดสัญญา...”หยี่ เสิ่น พยายามจะหัวเราะ
หยี่ เยว่หยู่ หันหัวของเธอไปทางหลิน ฮวง ช้าๆ“ฉันต้องการให้นายรู้ว่านายคือผู้ชายที่พิเศษที่สุดที่ฉันเคยพบมาและฉันไม่ต้องการให้นายตายที่นี่....หากนายรอด นายจะกลายเป็นคนที่ดีเช่นพี่ชายฉัน”
หลิน ฮวง พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
“เจ้าต้องการเห็นเขาเติบโต?”เสียงที่ราวกับผีดังขึ้น อสรพิษดำพูดเยาะเย้ย“ข้าจะทำให้แน่ใจว่านั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้น!”
สายสีดำปรากฏตัวขึ้นบนอากาศบางเบาและผูกมัดรอบเอวของหลิน ฮวง เขาถูกดึงไปในทิศทางของปากอสรพิษดำ
“โอ้ ไม่ ฉันกำลังจะตาย มันคือความจริงที่ว่าโอกาสตายของนักเดินทางนั้นค่อนข้างจะสูง....”ความคิดของหลิน ฮวง ถูกตัดโดยความรู้สึกที่คลายตัว
เขาสับสนและตระหนักว่าเขากำลังลอยอยู่ตรงหน้าปากของอสรพิษดำขณะที่สายสีดำรอบเอวเขาได้หายไป
หยี่ เสิ่น และคนที่เหลือกำลังเฝ้าดูเมื่อร่างของหลิน ฮวง ถูกแช่แข็งในอากาศและดวงตาของอสรพิษดำมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
“ตาย!”
ยักษ์คริสตัลได้ตกลงมาจากฟ้าและฝ่ามือยักษ์ของมันก็บดขยี้ลงบนอสรพิษดำ
ร่างของอสรพิษดำดูราวกับมดภายใต้ฝ่ามือยักษ์ ต่อหน้ายักษ์คริสตัลที่ยืนบนพื้น ร่างของมันก็ได้แบนราบติดอยู่กับพื้นโดยสมบูรณ์ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เทือกเขาหิมะกำลังสั่นสะเทือนจากการโจมตี มันรู้สึกราวกับว่าพระเจ้ากำลังพิโรธ
หลิน ฮวง จ้องมองไปที่ฝ่ามือยักษ์ที่ราวกับฝ่ามือยูไลซึ่งอยู่ห่างจากเขาไปเพียง1เมตร
เทือกเขาหิมะได้ถล่มจากการโจมตี
อสรพิษดำถูกฝังไว้ภายใต้เทือกเขาหิมะด้วยหัวของมันที่ถูกบดขยี้
“อะไรกัน...?”หลิน ฮวง ร้องไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าอสรพิษดำถูกฆ่าตาย แต่เพราะเขานั้นยืนอยู่ใกล้กับอสรพิษดำมาก และเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
แม้กระทั่งเมืองภูเขาหิมะเองก็ไม่ได้รับความเสียหายและผู้คนก็ไม่ได้บาดเจ็บจากการถล่มของภูเขา
มันเห็นได้ชัดว่าคนที่ช่วยเหลือหลิน ฮวง นั้นทรงพลังกว่าอสรพิษดำมากนัก
“ท่านหลิน เป็นยังไงบ้าง?”เสียงที่รุนแรง แต่ก็อบอุ่นดังขึ้น
หลิน ฮวง มองไปทางขอบฟ้า เสวี่ย หรู กำลังเดินผ่านอากาศมาทางเขาด้วยเท้าเปล่า มีชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวเดินตามหลังเธอมา
“ท่านหญิง เสวี่ย หรู?!”หลิน ฮวง ประหลาดใจ เขาคิดว่าเขาจะไม่ได้เห็นเธออีก เขามองไปยังชายชราด้วยความสับสน“เขาคือใครกันครับ?”
“คุณหลิน ข้าคือปิง หวาง ข้าจะไม่ตำหนิท่านเพราะข้ารู้ว่ารูปลักษณ์ของข้ามันเปลี่ยนไป”ชายชราหัวเราะ
“มันคือปิง หวาง...?”
“มันเป็นเสวี่ย หรู ที่ช่วยชีวิตผม?”หลิน ฮวง พยายามจะเชื่อมต่อจุดต่างๆ
“มันไม่ใช่ข้า”เสวี่ย หรูยิ้มและส่ายหัวเธอ(ขอเปลี่ยนนะครับ ผมว่าให้เสวี่ย หรู เรียกข้ากับท่านจะเหมาะกว่า)
“ท่านหลิน มันนานกว่า700ปีแล้วที่ข้าไม่ได้ปรากฏตัว มันคือข้าที่ช่วยชีวิตท่าน”
“โอ้ ขอบคุณมาก ท่านปิง หวาง และท่านหญิง ก็เช่นกัน”หลิน ฮวง ไม่รู้ว่าปิง หวาง จะทรงพลังขนาดนี้ เขากลับสามารถฆ่ามอนสเตอร์ระดับหลุดพ้นได้ด้วยมือข้างเดียว
“ให้ข้านำดวงวิญญาณของมันออกมาก่อน เมื่อท่านกลายเป็นผู้หลุดพ้น ท่านจะสามารถฝึกมันให้เป็นสัตว์วิญญาณของท่านได้”จากนั้น เสวี่ย หรูก็หายไป
เหลือเพียง ปิง หวาง และหลิน ฮวง ที่ยืนอยู่
“เจ้างูบัดซบ มันเห็นการกระทำของท่านหลิน และคิดว่ามันคือเวทมนต์ มันคิดว่าท่านมีเชื้อสายของเทพเจ้า”ปิง หวาง ส่ายหัวและหัวเราะ“หากมันไม่ได้เล็งเป้ามาที่ท่าน ท่านหญิงคงจะไม่ยอมให้ข้าเข้ามาก้าวก่าย”
หลิน ฮวง ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่ปิง หวาง กล่าวและถาม”ท่านปิง หวาง ท่านสามารถช่วยเหลือเพื่อนของผมได้ไหม?’
ปิง หวาง มองไปที่หยี่ เยว่หยู่และรู้ว่าเธอกำลังจะตาย เขาส่ายหัว“กงล้อชีวิตของเธอได้พังเสียหายและแสงแห่งชีวิตมันเกือบจะหายไปจนสิ้น ไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถกระทำได้”
หลิน ฮวง เศร้าใจ แต่ปิง หวางก็พูดอีกครั้ง “อย่างไรก็ตาม หากนายของข้าลงมือ มันก็อาจจะมีความหวัง”
“ท่านหญิง เสวี่ย หรู!”ดวงตาของหลิน ฮวง สว่างขึ้น เขาพึ่งจะนึกได้ว่าตัวตนของเสวี่ย หรูคือเทพเจ้า บางทีเธออาจจะช่วยชีวิตหยี่ เยว่หยู่ได้
เมื่อได้ยินเสียงร้องของหลิน ฮวง เสวี่ย หรู ก็เดินมาทางพวกเขาพร้อมกับงูสีดำขนาดเล็กบนมือเธอ ร่างของงูมันกึ่งโปร่งใส ทำให้มันดูเหมือนเวทมนต์
จากนั้นเธอก็ส่งงูมาให้หลิน ฮวง “ข้าได้นำจิตสำนึกของอสรพิษดำตนนี้ออกมา ตอนนี้ ท่านสามารถเก็บมันไว้ในกงล้อชีวิตของท่านได้และเพาะเลี้ยงมัน ท่านจะสามารถฝึกฝนมันได้เมื่อท่านถึงระดับของผู้หลุดพ้น มันจะเป็นสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้ว่ามันจะกลายพันธ์เพียงหนึ่งครั้ง มันก็ยังมีเลือดมังกรเล็กน้อยในร่างของอสรพิษดำตนนี้ หากท่านเพาะเลี้ยงมันอย่างเหมาะสม มีความเป็นไปได้ที่มันจะกลายพันธ์ครั้งที่สองและความสามารถของมันจะเปลี่ยนไป”
หลิน ฮวง เมินเฉยสิ่งที่เสวี่ย หรูพูดและทันทีที่เธอพูดจบ เขาก็ร้องขอ“ท่านหญิง เสวี่ย หรู ผมรู้ว่าคุณไม่ได้มีส่วนร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มานานกว่า700ปี แต่ผมอยากจะขอร้องคุณ”
“ท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนนั้น?”เสวี่ย หรู มองไปทางหยี่ เยว่หยู่และมองไปที่งูบนมือเธอ“เพื่อรวมกงล้อชีวิตที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เราจำเป็นต้องใช้ดวงวิญญาณระดับหลุดพ้น ท่านจะยอมยกดวงวิญญาณของมอนสเตอร์ที่มีเลือดมังกรเพื่อแลกเปลี่ยนกับชีวิตเธอ?”
“แน่นอน นั่นมันสำคัญกว่า!”หลิน ฮวง ขึ้นเสียง
“เอาละ ถ้างั้น...”เสวี่ย หรู ส่งงูไปให้หลิน ฮวง “เก็บสิ่งนี้ไว้”
“ผมคิดว่าคุณต้องใช้สิ่งนี้เพื่อช่วยเธอ?”หลิน ฮวง ผลักงูออกไป
“ข้าเพียงลองใจท่าน : ข้ามีดวงวิญญาณมอนสเตอร์อื่นอีกมากมาย”เสวี่ย หรูยิ้มอย่างสนุกสนาน“ตอนนี้ หากท่านไม่เก็บสิ่งนี้ไว้ ข้าจะไม่ช่วยเธอ”
หลิน ฮวง รีบคว้างูออกจากมือเธอในทันที
เสวี่ย หรู นำพวกเขาทั้งคู่ร่อนลงไปบนพื้นต่อหน้าทุกคน
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นฝ่ามือยักษ์ก่อนหน้า แต่พวกเขาก็ยังยืนกรานที่จะยืนตรงหน้าหยี่ เยว่หยู่เพื่อปกป้องเธอ
“หลิน ฮวง คนเหล่านี้เป็นใครกัน?”มีคนร้องถามหลิน ฮวง
“ฉันไม่มีเวลาที่จะอธิบาย ผู้หญิงคนนี้สามารถช่วย หยี่ เยว่หยู่ ได้ โปรดหลบไป”คนอื่นขยับตัวออกทันทีโดยไม่ร้องถามต่อ
เสวี่ย หรู เดินไปทางหยี่ เยว่หยู่ และพยุงเธอขึ้น ลมหายใจของเธอกำลังจะหมดลง
หยี่ เสิ่น ได้ยินสิ่งที่หลิน ฮวง กล่าวและมองไปทางเสวี่ย หรู ด้วยความหวัง
“วางเธอลงบนพื้นลาดสูง คนที่เหลือโปรดหลบไปข้างๆ”เสวี่ย หรู ต้องการพื้นที่ส่วนตัว หลังจากที่วางหยี่ เยว่หยู่ลงบนพื้น หยี่ เสิ่น ก็ขยับไปข้างๆอย่างเงียบๆ
เสวี่ย หรู วางฝ่ามือของเธอลงบนอกหยี่ เยว่หยู่ และมีชั้นน้ำแข็งไหลเข้าไปในร่างของหยี่ เยว่หยู่
ชั่วอึดใจต่อมา เสวี่ย หรู ก็แย้มร้อยยิ้มและพึมพำกับตัวเธอเอง“ร่างกายที่น่าสนใจ ข้าจะมอบดวงวิญญาณมอนสเตอร์ให้เจ้า”
นกสีแดงกึ่งโปร่งแสงปรากฏบนฝ่ามือเสวี่ย หรู เธอเคาะนกสีแดงและมันก็บินไปตรงระหว่างคิ้วของหยี่ เยวหยู่
ชั้นน้ำแข็งบางๆได้แผ่กระจายไปทั่วร่างเธอและในไม่ช้า ทั่วร่างของเธอก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
มันเห็นได้ชัดว่าหน้าท้องของหยี่ เยว่หยู่ กำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วอย่างมาก ทุกคนเริ่มส่งเสียงกระซิบ กงล้อชีวิตใหม่กำลังเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
มันแตกต่างจากกงล้อชีวิตปกติ ตอนนี้ มันมีลายสีแดงแปลกๆบนใจกลางกงล้อชีวิตที่ดูคล้ายกับนกสีแดงขนาดใหญ่ที่กำลังสยายปีกกว้างของมัน......
.....
“ฉันตายแล้ว?”หยี่ เยว่หยู่ รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่ท่ามกลางความมืด
เธอนึกถึงคำอธิบายเกี่ยวกับความตายที่ถูกเขียนโดยนักเขียนที่เธอชื่นชอบ’ความตายคือความโดดเดี่ยวของจิตสำนึกมนุษย์ในความมืด มันไม่อาจมองเห็น มันไม่อาจได้ยิน และมันไม่อาจสัมผัส ไม่มีอะไรในความตาย นั่นคือสถานที่ที่มนุษย์ทุกคนล้วนต้องไป....’
“อ่า คำอธิบายมันช่างคล้ายกับสิ่งที่ฉันกำลังรู้สึกในตอนนี้....”หยี่ เยว่หยู่ พึมพำ
เธอไม่แน่ใจว่าเวลามันผ่านไปนานแค่ไหน หนึ่งปีหรือบางทีอาจจะไม่กี่วินาที ในความมืดมิด หยี่ เยว่หยู่ ได้สูญเสียความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาไป
แสงสว่างเรืองรองเหนือหัวเธอ มันราวกับม่านสีดำกำลังถูกฉีกขาดและมือที่ราวกับคริสตัลเนื้อดีก็ยื่นมาหาเธอท่ามกลางความมืด
“มือสวยจัง....”หยี่ เยว่หยู่จับมัน มันเย็น มือได้ดึงเธอออกจากความมืดด้วยพลังอันมหาศาล เธอรู้สึกสั่นสะท้านเมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอเห็นกลุ่มคนที่ยืนล้อมรอบเธอ
ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงที่ร้องอย่างตื่นเต้น“เธอยังไม่ตาย!”