บทที่ 19 ออกข่าวแล้ว (อ่านฟรี)
เนื่องด้วยมีของว่างมาเป็นตัวล่อ หลี่น่าจึงสามารถมาสอนเฝิงหยู่ได้ทุกวันในตอนเที่ยงและตอนเย็น เฝิงหยู่เรียนด้วยความตั้งใจ เขาจึงสามารถพัฒนาได้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด
เมื่อเวลาผ่านไป หลี่น่าก็อาสามาช่วยติวเฝิงหยู่ แม้เขาไม่มีขนมของว่างมาให้ และเมื่อลี่น่ามีขนมกินเล่น เธอก็จะแบ่งกันกินกับเฝิงหยู่
ครูซุนประหลาดใจมาก ในอดีตเฝิงหยู่เป็นคนเกียจคร้านไม่เอาการเรียน แต่ช่วงเวลานี้ทำไมเฝิงหยู่จึงเปลี่ยนไปกลายเป็นคนทั้งอกตั้งใจเรียนได้ขนาดนี้? sinvเขาถูกกระตุ้นโดยบางสิ่งบางอย่าง? นอกจากนี้ เฝิงหยู่และหลี่น่ายังอยู่ด้วยกันทุกวันทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็น หรือเด็กสองคนเหล่านี้จะเดทกัน?
ดังนั้น เขาจึงได้เรียกเฝิงหยู่มาพูดคุยด้วย หนึ่งคือควรตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แต่อย่าเรียนหนักเกินไปจนส่งผลเสีย แต่เฝิงหยู๋ยืนกรานกับครูซุนว่า เป็นเพราะเขาอยากจะเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายในเมืองบิงให้ได้ จึงต้องตั้งใจเรียนให้มากยิ่งขึ้น เขากำลังทำงานหนักเพราะเป้าหมายนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ และบทเรียนเหล่านี้ก็ทำให้เขาผ่อนคลายตัวเองทุกวัน
เมื่อครูซุนได้ยินคำอธิบายของเฝิงหยู่ เขาก็เตือนให้เฝิงหยู่ดูแลตัวเอง ในเมื่อเด็กคนนี้มีความคิดและเป้าหมายของตัวเอง ครูซุนยินดีที่จะให้เขาลอง นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่าเฝิงหยู่และหลี่น่าติวเรื่องเรียนด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรเกินเลย
ผลการทดสอบประจำเดือนของพวกเขาถูกประกาศออกมาแล้ว เฝิงหยู่ได้คะแนนเต็มในวิชาภาษารัสเซียภาษาและคณิตศาสตร์ คะแนนวิชาการเมืองการปกครองของเขาไม่ต่ำเกินไปด้วยเช่นกัน และเขาผ่านวิชาชีววิทยาฟิสิกส์และเคมีอีกด้วย
"เฝิงหยู่ คะแนนของนายคงทำให้นายเข้าโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่นหรือในตำบลได้ แต่ถ้านายตั้งใจศึกษาพัฒนาวิชาวิทยาศาสตร์ของนาย นายคงมีโอกาสที่จะแอดเข้าโรงเรียนมัธยมในเมืองได้! "หลี่น่ามองผลคะแนนของเฝิงหยู่ เธอดูราวกับจะมีความสุขมากกว่าเฝิงหยู่เสียอีก
"เป็นเพราะเธอที่คอยสอนฉันทุกวัน ขอบคุณมาก แต่ผลการเรียนของฉันเทียบของเธอไม่ได้หรอก "
หลี่น่าเชิดศีรษะขึ้นและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "นายคิดว่า แค่นายตั้งใจเรียนขึ้นมาไม่กี่วันแล้วสามารถเอาชนะฉันได้หรือ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายต้องช่วยติวภาษารัสเซียให้ฉัน แล้วพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน."
เฝิงหยู่หักนิ้วตัวเอง: "ไม่มีปัญหา!"
เมื่อผลคะแนนการทดสอบเดือนแรกถูกส่งไปยังผู้ปกครอง เฝิงซิ่งไท่ยินดีอย่างปิติ อย่างยิ่ง ด้วยเพราะอาจารย์บอกว่าลูกชายของเขามีโอกาสที่จะได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมในเมือง
แต่เฝิงหยู่มีนิสัยไม่ดีนัก เขาใช้เงินมากเกินไป ทุกสัปดาห์ที่เขากลับบ้าน เขาจะมาขอเงินเพิ่ม จำนวนเงินที่ลูกชายเขาใช้จ่ายในหนึ่งสัปดาห์นั้นมากกว่าที่เขาใช้จ่ายในหนึ่งเดือน
แต่เฝิงหยู่บอกพ่อของเขาว่า ในเดือนนี้เดือนเดียวหลี่ซื่อเฉียงทำรายได้นับพันหยวนจากพันธบัตรรัฐบาล เมื่อเทียบกับเหล่านี้เงินที่ลูกชายของเขาใช้ก็น้อยนิดเหมือนเมล็ดถั่วลิสง!
ทุกค่ำคืน เฝิงซิ่งไท่ถอนหายใจอารมณ์ เป็นทางเลือกถูกต้องที่ส่งลูกชายไปโรงเรียน เขาไม่เพียงแค่ใช้ภาษาต่างประเทศได้เท่านั้น แต่เขายังรู้วิธีทำเงินอีก ลูกชายของเขืออัจฉริยะ! ครอบครัวตระกูลเฝิงมีอัจฉริยะ!
……
"พี่หลี่ มีข่าวอะไรบ้างไหมครับ?" เฝิงหยู่ถาม
ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เฝิงหยู่โทรหาหลี่ซื่อเฉียงทุกวัน เขากลัวว่าจะจำอะไรผิดหรือไปหรือเปล่า? มันไม่ใช่เดือนเมษายนนี้หรือ?
สิ่งที่เฝิงหยู่กลัวมากที่สุด คือ การเกิดใหม่ของเขาอาจทำให้เกิดทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก* จนสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ถ้าหากพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการซื้อขาย เขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำเงินอย่างไรให้ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
เฝิงหยู่ไม่รู้จะต่อยอดสิงประดิษย์จากโลกอนาคตว่าต้องทำเช่นไร ในอดีตเขาชอบเล่นกับโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจำเป็นต้องรู้วิธีผลิตโทรศัพท์มือถือ?
หากเกิดทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีกขึ้นมาจริงๆ เขาคงทำได้แค่อิงตามวิธีการของหลี่ซื่อเฉียงด้วยการรวบรวมพันธบัตรรัฐบาลจากมือต่อมือ และหารายได้จากการทำธุรกิจเช่นนี้ แต่เขาต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเก็บเงินล้านเพื่อเริ่มแผนสู่ความมั่งคั่งของเขาได้?
"พี่ยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ของวันนี้เลย เพราะฉันยุ่งตลอดทั้งวัน เธอรอสักครู่แล้วพี่จะโทรกลับใน 10 นาที " หลี่ซื่อเฉียงตอบ
อาจารย์สงคุ้นชิ้นกับการที่เฝิงหยู่มาใช้โทรศัพย์ทุกๆสัปดาห์ ใครบางของครอบครัวของเด็กคนนี้กำลังทำธุรกิจในเมืองและจะสร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ช่วงสามวันที่ผ่านมามันแปลกไปจากเดิมเล็กน้อย เพราะเฝิงหยู่กำลังมาใช้โทรศัพย์ทุกวันเลย
"เฝิงหยู่ มาดื่มน้ำสักแก้วก่อน ไม่กี่วันนี้เธอมาใช้โทรศัพย์ทุกวันเลย มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านไหม? " อาจารย์ถาม
"ขอบคุณครับ อาจารย์สง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องธุรกิจของพี่เขย " เฝิงหยู่ไม่ต้องการอธิบายมากนัก เพราะยุ่งยากลำบากเกินกว่าจะอธิบาย แต่สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นไม่ผิดกฎหมาย
"อ๋อ เป็นเรื่องปกติละนะคู่รักทะเลาะกัน แม้แต่พ่อแม่ของเธอทำอะไรไม่ได้ ทำไมเธอต้องกังวลด้วยละ? " อาจารย์สงกล่าว
เฝิงหยู่: "...... "
อาจารย์สงจินตนาการไปไกลแล้ว ผมคงอธิบายให้เขาฟังอย่างไม่ค่อยอย่างคลุมเคลือ
กริ๊ง, กริ๊ง, กลิ๊ง ~ ~
เฝิงหยู่คว้าโทรศัพท์ได้ก่อนอาจารย์สงเสียอีก
"เฝิงหยู่ใช่ไหม?" หลี่ซื่อเฉียงถาม
"ผมเอง พี่หลี่" เฝิงหยู่ตอบ
"มีข่าวใหม่ออกมาแล้ว เมืองเสินจะเริ่มทำการซื้อขายในวันจันทร์ถัดไป เมืองเสินและอีก 6 เมืองที่เหลือจะเริ่มขึ้นอีกใน 10 วันข้างหน้า แล้วพันธบัตรรัฐบาลจะสามารถซื้อขายได้อย่างเป็นทางการ! " หลี่ซื่อเฉียงพยายามพูดเบา ๆ แต่ความตื่นเต้นของเขามากเกินไปที่จะปกปิด
"พี่หลี่ ลดระดับเสียงของพี่ลงหน่อย ผมได้ยินเสียงพี่เลยครับ. วันจันทร์พี่หาเวลาวันหยุดเพื่อไปที่เมืองเสินหน่อย เพื่อเช็คดูราคาของพันธบัตรตั๋วรัฐบาล หากราคาค่อนข้างสูง พี่จะขายทั้งหมดเลยก็ได้ แต่ถ้าเป็นมูลค่าที่เหมาะสม ให้ใช้เงินทั้งหมดของพี่กว้านซื้อมาเลย"
"เสี่ยวหยู่ ถ้าราคาที่เมืองเสินยังคงมีมูลค่าเท่าราคาต้นทุน ที่เมืองปิงราคาจะสูงใช่ไหม?" หลี่ซื่อเฉียงยังกังวลอยู่ ตอนนี้เขาจ้างคนงานชายหนุ่มเจ็ดหรือแปดคนเพื่อให้มาช่วยเขารวบรวมธนบัตร และเขาทำรายได้ได้หลายพันต่อเดือนเชียวนะ " หลี่ซื่อเฉียงถาม
"ไม่สำคัญหรอก แต่ต้องมีเมืองอื่นๆที่ราคาจะสูงขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น เราจะไปที่เมืองนั้นและขายในราคาสูงสุด สิ่งที่เราต้องทำคือการถามราคาในทุกๆเมือง " เฝิงหยู่กล่าว
"มั่นใจได้ พี่มีเพื่อนทำงานในธนาคาร พี่จะไปขอลาจากหัวหน้างานของพี่และจะขอสับเปลี่ยนวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนร่วมงานของพี่ " หลี่ซื่อเฉียงกล่าวกับเฝิงหยู่อย่างตื่นเต้น
"ดีเลย ซื้อตั๋วเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วไปในคืนวันอาทิตย์ พี่จะไปถึงที่นั่นในวันจันทร์ตอนเช้า เมื่อไปถึงแล้วให้นั่งรถแท็กซี่ไป แท็กซี่ไม่แพงนัก รวดเร็วและปลอดภัย " เฝิงหยู่เตือนเขา
"เสี่ยวหยู่ เธอจะมากับพี่หรือเปล่า? พี่ต้องพกพาเงินจำนวนมากแล้พี่ก็ไม่ไว้วางใจคนอื่น พี่กลัวว่าพี่จะหลับรถไฟ และถูกคนล้วงกระเป๋าไป! " หลี่ซื่อเฉียงกล่าว
หลี่ซื่อเฉียงกลัว เขาจะถือรับเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลมูลค่ากว่าแสนแสนหยวน ถ้ามันถูกขโมยไป เขาคงจะฆ่าตัวตายเป็นแน่
เฝิงหยู่เองก็รู้ด้วยว่าในยุคนี้มีคนล้วงกระเป๋ามากมายบนขบวนรถไฟ หากเงินและพันธบัตรรัฐบาลสูญหายไป ความฝันของเฝิงหยู่ที่มีที่จะสร้างอาณาจักรแห่งธุรกิจคงจะถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลาหลายปี
"ตกลง พี่ก็ซื้อตั๋วรถไฟสองใบ ผมจะไปกับพี่! " เฝิงหยู่กล่าว
หลังจากวางโทรศัพท์แขวน เฝิงหยู่จ่ายเงินและวิ่งออกไปที่สนาม ที่สนาม เขาตะโกนและโห่ร้องด้วยความปิติยินดี!
ในที่สุด โอกาสก็มาถึง! เฝิงหยู่สามารถทำเงินได้หลายพันในหนึ่งวันจากการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล เขาสามารถสร้างรายได้เป็นแสน หรือแม้แต่เป็นล้าน!
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เฝิงหยู่ไม่กลับบ้าน เขาฝากเหวินตงจุนส่งข้อความถึงพ่อแม่ของเขาว่าเขาจะอยู่ที่โรงเรียนเพื่อตั้งใจศึกษาพิเศษ และเขาจะกลับบ้านสัปดาห์หน้า และเขายังบอกกับครูซุนว่าด้วยว่า เขาต้องไปเยี่ยมญาติที่ป่วยหนักในเมืองปิง โดยเขาจะกลับมาก่อนวันอังคาร
เวลาสองชั่วโมงในการนั่งบนรถบัส เฝิงหยู่ก็ถึงเมืองปิงในตอนเช้า และตอนนี้ เขามองเห็นเฝิงตันอิงกำลังโบกมือให้เขา
"พี่มาทำอะไรที่นี่?" เฝิงหยู่ถาม
"ถ้าพี่ไม่มา เธอจะหาทางไปอย่างไร? วันนี้พี่หลี่ต้องทำงาน เขาขอให้พี่มารับนาย นายนี่เป็นปัญหาจริงๆ ตอนนี้พี่หลี่ของนายกำลังหาเงินได้หลายพันต่อเดือนด้วยธุรกิจพันธบัตรรัฐบาล แต่นายยังสร้างความลำบากให้เขาอยู่ " เฝิงตันอิงบ่นขณะที่ช่วยให้เฝิงหยู่ถือกระเป๋าของเขา
"พี่ครับ พี่ไม่เข้าใจหรอก พี่ก็รอดูไปก่อน เราจะทำเงินให้มากกว่าในอนาคตได้แน่! " เฝิงหยู่ตอบ
"มากกว่านั้น? ทำเป็นพูดอวดดี พี่ได้ยินจากแม่และพ่อว่าคะแนสอบของนายตอนนี้ดีขึ้นมาก ดังนั้น ตอนนี้พี่จะยังไม่บอกพ่อแม่ของเรา ไปเที่ยวเล่นที่เมืองเสินกันสักวัน แล้วค่อยกลับเรียน หากนายทำคะแนนไม่ดีจนโรงเรียนมัธยมปลายไม่ได้ฉัน เวลานายถูกพ่อแม่ตี พี่จะไม่ช่วยนาย!
"พี่ เราพนันกันไหม เดือนหน้าเราจะมีรายได้มากกว่า 50,000 หยวน พี่เชื่อหรือเปล่า? "เฝิงหยู่ถาม
*Butterfly Effect เป็นหนังเกี่ยวกับพระเอกสามารถย้อนเวลากลับไปกลับมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้โดยการอ่านสมุดบันทึก เขาพยายามกลับไปแก้ไขอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคต แต่กลายเป็นว่ายิ่งกลับไปแก้ไขอดีตเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ "Butterfly Effect" คือส่วนหนึ่งของทฤษฎีความยุ่งเหยิง (chaos theory) ซึ่งมีความลึกลับซับซ้อน และต้องมีหลายๆ ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องจนเกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึง เรียกเป็นภาษาไทยก็คือ ทฤษฏีผีเสื้อกระพือปีก โดยมีใจความอยู่ว่า "เรื่องเล็กๆ ก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต" เช่น ผีเสื้อธรรมดาตัวนึงกระพือปีก แม้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศแค่นิดเดียว แต่ภายหลังมันอาจก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดได