TWO Chapter 125 การหยอกล้อ
TWO Chapter 125 การหยอกล้อ
(***หมายเหตุ : เผื่อใครไม่รู้ ซ่งเจี๋ยเรียกโอหยางโชวว่า ‘วู๊ดซี่’ นะครับ )
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ โอหยางโชวก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งเจี๋ย
“วูดซี่ นายได้เข้าร่วมสงครามโจวหลู่มั้ย?”
“แน่นอน!” โอหยางโชวกล่าวอย่างภูมิใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าซ่งเจี๋ย โอหยางโชวรู้สึกผ่อนคลายเสมอ เขาสามารถกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกมาได้ โดยที่ไม่มีความกังวลใดๆและไม่จำเป็นต้องให้มันค้างคา เหมือนกับที่เด็กๆคุยกัน แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อซ่งเจี๋ย
“หื้ม หลงตัวเอง!” ซ่งเจี๋ยกล่าวอย่างไร้ปราณี ต่อการกระทำอันไร้เดียงสาของโอหยางโชว เธอยังไม่รู้ว่านี่เป็นการแสดงความรู้สึกของเขาต่อเธอ
เธอมองเขา ราวกับว่าเธอเห็นเด็กชายตัวน้อยในโรงเรียนมัธยม ที่ชอบอยู่ในมุมห้องเรียนตามลำพัง และเขาได้มาปรากฎตัวอยู๋ต่อหน้าเธออีกครั้ง เธอมีความรู้สึกรื่นรมและพึงพอใจอยู่ในใจของเธอ
“หมู่บ้านเทียนซวงของพี่ชายเธอได้อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 แล้วรึยัง?”
ซ่งเจี๋ยส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “ยังเลย เมื่อตอนที่เราซื้อหมู่บ้านเทียนซวงนั้น มันเพิ่งจะถูกอัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3 นอกจากนี้ มันยังถูกก่อตั้งโดยเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับสัมฤทธิ์ คุณสมบัติของมันแย่มาก พี่ชายของฉันพยายามอย่างหนัก แต่มันก็ยังไม่เป็นไปตามที่ต้องการ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เราไม่สามารถเข้าร่วมสมรภูมิได้”
โอหยางโชวพยักหน้าของเขา ในขณะที่หัวใจของเขาแอบโศกเศร้า โชคดีแล้วที่พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมสมรภูมิ ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับซ่งเจี๋ยอย่างไร เขาไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้น เขาควรจะเปิดเผยตัวตนของเขาหรือจะเก็บซ่อนมันไว้ต่อไปดี
ถ้าเขาเข้าหาเธอ อัตลักษณ์ของเขาก็จะถูกเปิดเผย โอหยางโชวไม่ได้กังเรื่องที่ซ่งเจี๋ยจะรู้ถึงตัวตนของเขา แต่ถ้าบริษัทซ่งเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวตนของเขา พวกเขาก็จะสืบค้นตัวตนของเขา และสุดท้ายเขาก็คงไม่อาจที่จะซ่อนมันได้
แต่ถ้าเขายังคงหลบซ่อนตัวตนจากซ่งเจี๋ยต่อไป มันก็อาจจะไม่ยุติธรรมกับเธอ ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในแผนที่เดียวกัน พวกเขาก็คงไม่มีโอกาสได้พบกัน และนั่นก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเกิดพวกเขาอยู่บนแผนที่เดียวกัน มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะพบกัน และเพื่อปกปิดตัวตนของเขาจากซ่งเจี๋ย มันอาจทำให้เขาต้องออกนอกทางเล็กน้อย
โชคดีที่มันยังไม่เป็นอย่างนั้น โอหยางโชวจึงยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกดังกล่าว
“ไม่เป็นไรนะ ยังมีโอกาสแบบนีัอีกมากมายในอนาคต!” โอหยางโชวปลอบเธอ
ซ่งเจี๋ยพยักหน้า เธอไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไร ความสนใจของเธออยู่ในเส้นทางของนักผจญภัยมากกว่าการสร้างอาณาจักร เธอรู้สึกเศร้าเพียงเล็กน้อย หลังจากที่เห็นความกังวลของพี่ชาย
“ขอให้โชคดี และได้รับรางวัลดีๆนะ” ซ่งเจี๋ยยิ้มขณะกล่าว
“แน่นอน ฉันต้องได้รับมันอยู่แล้ว!” โอหยางโชวยังคงทำท่าทางเหมือนเด็ก
ซ่งเจี๋ยกุมหน้าผาก แล้วกล่าวด้วยเสียงหวานว่า “ฉันคงไม่สามารถยืนมองหน้าหนาๆของนายได้อีกต่อไป นายสามารถเอามันมาสร้างกำแพงได้เลย”
โอหยางโชวแสรงทำเป็นว่าเขาเจ็บปวด แล้วกล่าวว่า “อ่า เธอไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของฉันเลย มันช่างเจ็บปวดจริงๆ ชีวิตฉันเหมือนอยู่โดดเดี่ยวกลางหิมะเลย”
“เอาล่ะ! ฉันรู้ว่านายทรงอำนาจ แม้ของฉันโทรมา แล้วค่อยคุยกันนะ บ๊ายบาย!” ซ่งเจี๋ยกล่าวจบการสนทนา
“บ๊ายบาย!”
………………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองคุณหมิง, เซิ่งซีการ์เด้น
เซิ่งซีการ์เด้น เป็นย่านวิลล่าระดับไฮเอนด์ เฉพาะผู้มีอำนาจและมั่งคั่งเท่านั้น ถึงจะอาศัยอยู่ที่นี่ได้ พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นสวนสีเขียวขจีและดอกไม้ที่งดงาม มีวิลล่ากระจายไปทั่วสวรรค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นแห่งนี้
ในมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ วิลล่าแห่งหนึ่ง โดยมีหญิงสาวอยู่ที่นี่ 4 คน ทั้ง 4 ต่างก็มีสไตร์และออร่าเป็นของตัวเอง แม้ในพื้นที่ระดับไฮเอนด์ที่เต็มไปด้วยคนพิเศษ พวกเธอก็ยังสามารถยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนได้ อย่างไรก็ตาม ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พวกเธอเป็นเพียงแมลงวันในกองครีมเท่านั้น ทั้ง 4 สาว ปิดกันเกินไป พวกเธอแทบจะไม่ออกมาจากวิลล่าเลย และมีเพียงวัสดุที่มาส่งถึงพวกเธอ 3-4 รายการเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่า วิลล่านี้เป็นของสตูดิโอสอดคล้อง
4 สาวงามก็คือ ‘กรีน เรด เพอเพิ่ล ไวท์’ แห่งสอดคล้อง เนื่องจากความสำเร็จในเกมส์ของพวกเธอ พวกเธอแต่ละคนจึงมีทรัพย์สินอย่างน้อย 10 ล้านเครดิต ส่วนำไป๋ฮัวที่เป็นพี่ใหญ่ เธอมีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านเครดิต ดังนั้น พวกเธอจึงสามารถซื้อวิลล่าระดับไฮเอ็นได้ไม่ยาก
เหมือนกับเสี่ยวเยว่ ทั้ง 4 สาว นอนหลับหลังจากที่ออกมาจากเกมส์ พวกเธอตื่นเมื่อถึงเวลา 11.00 น. หุ่นยนต์แม่บ้านของพวกเธอได้ทำอาหารเสร็จสิ้น และรอคอยที่จะเสิร์ฟอาหารให้กับเจ้านายของตน
ต้องขอบคุณการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงในยุคสมัยใหม่นี้ หุ่นยนต์ได้กระจายออกไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว มันสามารถทำได้ทั้ง ทำความสะอาดบ้าน, ซักผ้า, ทำอาหาร และอื่นๆ โดยความสามารถในการทำอาหารของมันเทียบได้กับเชฟในโรงแรมหรูเลยทีเดียว
เมื่อมีหุ่นยนต์แม่บ้าน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีแม่บ้านที่เป็นมนุษย์อีกต่อไป เพียงแค่ออกคำสั่งไว้ มันก็จะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนทั่วไปจะสามารถเพลิดเพลินได้ มีเฉพาะคนชั้นสูงและมั่งคั่งเท่านั้นที่จะซื้อพวกมันได้
แน่นอนว่าพวกเธอนั้นร่ำรวย หุ่นยนต์แม่บ้านของพวกเธอก็เป็นของเกรดสูง ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครในหมู่พวกเธอที่จู้จี้จุกจิกเรื่องอาหาร นั่นคือเหตุผลที่พวกเธอไม่ค่อยออกจากวิลล่า สำหรับการช็อปปิ้ง? พวกเธอสามารถสั่งออนไลน์มาได้ ส่วนสิ่งอื่นๆอย่างของสดที่ต้องไปซื้อที่ร้าน คงเป็นไปไม่ได้ที่สาวสวยที่ติดเกมส์ทั้ง 4 จะไป
180 ปีก่อน นับตั้งแต่ที่เทคโนโลยี VR กระจายไปทั่วโลก แนวคิดของการช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี VR ได้รับการกล่าวถึงหลายครั้ง ตอนนี้ เทคโนโลยี VR กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ส่วนการซื้อขายได้พัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง ลูกค้าสามารถเข้าห้างสรรพสินค้าได้ เช่นเดียวกับที่เข้าเกมส์ และสามารถซื้อสินค้าได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ หากมีการซื้อสินค้า สินค้านั้นจะถูกส่งโดยเจ้าหน้าที่ภายใน 2 ชั่วโมง มันสะดวกสบายมากๆ
เหตุผลเดียวที่โอหยางโชวพาปิงเอ๋อไปช็อปปิ้งที่และนันทนาการ เป็นเพราะเขาไม่ต้องการแยกเธอออกจากโลกแห่งความจริง และอาศัยอยู่แต่โลกเสมือนตั้งแต่ยังเด็ก
หลังจากทานอาหารว่างแล้ว ทั้ง 4 สาวก็คุยกันในห้องนั่งเล่น
เนื่องจากพวกเธออยู่ที่บ้าน บวกกับอากาศในฤดูร้อน พวกเธอจึงสวมเพียงเสื้อผ้าเรียบง่ายบางๆ
ไป๋ฮัวสวมเสื้อยืดสีขางหลวมๆ และกางเกงขาสั้น มันทำให้รูปร่างนาฬิกาทรายของเธอโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากมีผู้ชายเข้ามาเห็น เขาอาจจะเลือดกำเดาไหลออกมาจนหมดตัวได้ ไป๋ฮัวมองไปที่ทซิงยี่ที่นั่งอยู่ข้างเธอ แล้วกล่าวว่า “น้องเล็ก เธอได้ไปที่ซานไห่เมื่อวานนี้ เธอคิดยังไงบ้าง?”
ในการเดินทางไปเมืองซานไห่ แม้ว่าทซิงยี่จะไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเลยระหว่างที่อยู่ที่นั่น แต่เธอเป็นคนที่มีการสังเกตที่ดีที่สุดในหมู่ทั้ง 4 สาว คำถามของไป๋ฮัวไม่ใช่การหยอกล้อเธอ
ทซิงยี่ในโลกแห่งความจริงนั้นเป็นสาวน้อยน่ารัก เธอสวมเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักๆ และสวมกางเกงสีชมพู นอกเหนือจากใบหน้าที่ดูเป็นเด็กน้อยน่ารักของเธอแล้ว ถ้ามองโดยรวม เธอเป็นสาวน้อยที่น่ารักมาๆ
เธอจ้องไปที่หน้าอกของไป๋ฮัว แสดงความอิจฉาออกมาบริเวณใบหน้า เธอมองไปที่ไป๋ฮัว แล้วกล่าวว่า “พี่สาว พี่กินอะไรทำไมมันถึงได้โตขนาดนี้?”
ไป๋ฮัวตบหน้าผาก เธอคิดอยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ในเกมส์ ทซิงยี่ถูกเรียกว่าจูเก๋อน้อย แต่ในชีวิตจริง เธอเป็นสาวน้อยแสนซน เธอมักจะล้อเลียนพี่สาวของเธออยู่เสมอ
ก่อนที่ไป๋ฮัวจะทันได้กล่าวอะไร ฉีลั้วหลานก็มาจากด้านหลัง แล้วกอดไป๋ฮัวไว้แน่น เธอยกมือของเธอขึ้น และลวนลามหน้าอกของไป๋ฮัวในทันที เธอกล่าวด้วยเสียงอันชั่วร้ายว่า “เฮะเฮะ น้องเล็๋กไม่ต้องอิจฉา ทั้งหมดนี้จะมาเองตามธรรมชาติ เดี๋ยวหน้าอกของเธอก็จะโตขึ้นเอง”
“หื้ม พี่สาว นี่พี่โกหกฉันอีกแล้ว ครั้งก่อนพี่บอกว่ามะละกอสามารถช่วยในการเจริญเติบโตของหน้าอกได้ แต่มันกลับไม่มีผลเลย พี่เป็นจอมโกหก” ทซิงยี่ไม่เชื่อในทฤษฎีของฉีลั้วหลาน
ด้วยความสัตว์จริง ร่างกายของฉีลั้วหลายนั้นเทียบได้กับไป๋ฮัวเลยทีเดียว เธออาจจะดูเซ็กซี่กว่าด้วยซ้ำ
ฉีลั้วหลานสวมเสื้อสีดำ และไม่ได้สวมยกทรง ทำให้สามารถมองเห็นหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจน สวนด้านล่างของเธอสวมเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้น และมันก็แทบจะไม่ปกปิดก้นของเธอเลย เผยให้เห็นเรียวขายาวขาวที่ใสสวยงามของเธอ
ในบรรดา 4 สาว หงหยิงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีสิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าเซ๊กซี่เลย เธอตัดผมสั้น สวมเสื้อยืดสีเขียวลายทหาร และกางเกงยีนขาสั้น คล้ายกับเครื่องแต่งกายของทหาร ด้วยหน้าอกแบนๆของเธอ หากมองจากระยะไกล อาจมีคนเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้ชายได้
ไปฮัวผลักฉีลั้วหลานออกไป เธอปวดหัวกับน้องๆของเธอจริงๆ เธอหันไปหาทซิงยี่อีกครั้ง เธอยิ้ม แล้วกล่าวว่า “น้องเล็กยังไม่มีแฟน แล้วเธอจะกังวลเรื่องขนาดของหน้าอกไปทำไมกัน? นอกจากนี้ สำหรับเด็กสาวที่น่ารักเช่นเธอ คงมีแต่คนอยากเข้าหาทั้งนั้นแหละ”
“ใช่ ใช่ หน้าอกใหญ่ๆก็เป็นแค่ภาระเท่านั้น” หงหยิงเห็นด้วยอยู่ด้านข้าง
ฉีลั้วหลานหันไปกล่าวกับหงหยิงว่า “น้องสาม เธอกำลังเดินไปในเส้นทางของทอมบอย เธอสิ้นหวังไปแล้ว น้องเล็กยังคงทำตัวให้น่ารักได้ แต่เธอ...เธอทำหน้าที่เป็นได้เพียงผู้คุ้มกันเท่านั้น”
“ถ้าฉันเป็นทอมบอย ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรนี่” หงหยิงกล่าวอย่างมั่นใจ
ไป๋ฮัวไม่สนทั้ง 2 คน และยังคงพูดคุยกับทซิงยี่ต่อไป “หรือน้องเล็กของเรากำลังตกหลุมรัก เด็กหนุ่มที่ไหน?”
“พี่ใหญ่!” ทซิงยี่ไม่สามารถทนได้ เธอพุ่งไปหาไป๋ฮัว แล้วกล่าวว่า “แม้ว่าฉันจะตกหลุมรัก แต่ต้องอยู่แต่บ้านทุกวันแบบนี้ฉันก็คงไม่มีโอกาสเลย”
“อ่า ฤดูใบไม้ผลิเพิ่งจะผ่านไป และมันก็เป็นฤดูใบไม้ผลิของเธอ แต่เธอก็ยังกล่าวคำว่าไม่มีโอกาสเลยออกมาจากปากของเธอ” ฉีลั้วหลานล้อเลียนเธอ
“อ๊า!” ทซิงยี่รู้ตัวว่ากล่าวผิดไป มันทำให้เธอหน้าแดงทันดี
“ฮ่าๆๆ!” พวกพี่สาวของเธอหัวเราะ
ฉากดังกล่าวเป็นชีวิตประจำวันของพวกเธอ ทุกวันทซิงยี่จะอิจฉาไป๋ฮัว และทุกครั้ง ฉีลั้วหลานก็จะลวนลามไป๋ฮัว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย