TWO Chapter 123 เม็ดอาหารทหาร
TWO Chapter 123 เม็ดอาหารทหาร
เวลา 14.00 น. ณ ห้องโถงประชุม เมืองซานไห่
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่เราจะเริ่มพูดคุยเรื่องสงครามโจวหลู่อย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งที่ข้าอยากรู้ก็คือ แต่ละคนมีกำลังทหารที่สามารถนำไปด้วยจำนวนมากเท่าใดบ้าง?”
มู่หลานเยว่และกงเฉิงซีเป็นวิสเคาท์ขั้น 3 พวกเขาจึงนำทหารไปได้เพียงคนละ 100 นาย, ซุ่นหลงเตียนเซว่เป็นวิสเคาท์ขั้น 2 เขาจึงนำทหารไปได้ 200 นาย ในบรรดาลอร์ดทั้ง 4 คนนี้ ไป๋ฮัวมีตำแหน่งสูงสุด เธอเป็นวิสเคาท์ขั้น 1 และเธอนำทหารไปได้ 300 นาย พวกเขา 4 คน สามารถนำทหารไปได้รวม 700 นาย ซึ่งน้อยกว่าโอหยางโชวคนเดียวเสียอีก
หลังจากที่พวกเขาแสดงจำนวนทหารที่สามารถนำไปได้เสร็จสิ้น โอหยางโชวก็กล่าวต่อว่า “สมรภูมิครั้งนี้ คือ สงครามโจวหลู่ ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ มันจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายจักรพรรดิเหลืง และฝ่ายชี่โหยว เกี่ยวกับการเลือกฝ่าย ทุกคนคิดเห็นเช่นไร? ข้าจะบอกไว้ก่อนว่า ข้าจะเข้าร่วมกับฝ่ายจักรพรรดิเหลือง(หวงตี้)”
กงเฉิงซีทำหน้าเหมือนพูดไม่ออก “พี่ชาย ถ้าท่านเลือกแล้วจะถามเราทำไมหรือ?”
โอหยางโชวอายเล็กน้อย เอาไอออกมา แล้วกล่าวว่า “อะแฮ่ม มันไม่มีข้อผูกมัดที่ว่าสมาชิกในพันธมิตรจะต้องเลือกฝ่ายเดียวกัน ข้าเพียงแค่บอกทุกคนเท่านั้นว่าข้าเลือกฝ่ายใด แม้ว่าจะเลือกฝ่ายตรงข้ามกันก็ไม่เป็นไร ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกแต่ละคนต่างก็มีความสนใจที่แตกต่างกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ทุกคนจะเลือกฝ่ายที่แตกต่างกัน”
ซุ่นหลงเตียนเซว่พยักหน้าเข้าใจ เขายิ้ม แล้วกล่าวว่า “พี่ชายหวู่ยี่กล่าวถูกต้อง ถ้าวันหนึ่งในสมรภูมิ หากข้าต้องการที่จะกำราบขุนพลฝ่ายหนึ่ง คณะที่อืกคนต้องการกำราบขุนพลอีกฝ่ายหนึ่ง มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ที่จะเลือกฝ่ายตรงข้ามกัน มันเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ การเลือกฝ่ายตรงข้ามกันก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป เรายังสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ด้วย” ซุ่นหลงเตียนเซว่ได้ชื่อว่า ‘คนบ้าภารกิจ’ เขาสามารถจับไอเดียของเกมส์ได้อย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าคนอื่นๆมาก
มู่หลานเยว่เป็นคนแรกที่เลือก เธอกล่าวด้วยเสียงหวานว่า “ตั้งแต่ที่พี่ชายหวู่ยี่ได้เลือกฝ่ายจักรพรรดิเหลือง ข้าก็จะเลือกตามท่านเช่นกัน ข้ามีทหารเพียงแค่ 100 นายเท่านั้น ข้าจึงต้องการการปกป้องจากท่าน”
“ไม่มีปัญหา!” สำหรับมู่หลานเยว่ โอหยางโชวมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอ นอกจากนี้ นอกจากมู่กุ้ยหยิงแล้ว เธอก็มีเพียงทหาร 100 นายเท่านั้น
“ข้าก็จะเข้าร่วมฝ่ายจักรพรรดิเหลืองเช่นกัน” ไป๋ฮัวกล่าวต่อ
“ข้าก็ด้วย” ตามด้วยกงเฉิงซี
มีเพียงซุ่นหลงเตียนเซว่เท่านั้นที่แตกต่าง เขายิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้าจะเลือกฝ่ายชี่โหยว มันเป็นฝ่ายที่แพ้สงครามตามประวัติศาสตร์ มันอาจจะมีภารกิจซัก 2-3 อย่าง ที่มีรางวัลที่น่าสนใจ”
“โอเค งั้นก็เอาตามนี้” โอหยางโชวกล่าว
ในฐานะที่เป็นคนกลับมาเกิดใหม่ โอหยางโชวตัดสินใจที่จะเปิดเผยความลับเล็กๆน้อยๆกับพันธมิตรของเขา แน่นอน เพื่อไม่ให้พวกเขาสงสัยมากเกินไป การเลือกคำกล่าวของเขาเต็มไปด้วยความไหลลื่น เขากล่าวว่า “สำหรับสงครามที่กำลังจะมาถึง ข้ามีการคาดเดาบางอย่าง และเราจะคุยกันในเรื่องนี้”
“เปิดกล่าว!” ทั้ง 4 คน กล่าวออกมาพร้อมกัน
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ประการแรก มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโลจีสติกส์ ยุคของจักรพรรดิเหลืองและชี่โหยว ยังคงอยู่ในยุคป่าเถื่อน มีผู้เล่นลอร์ดที่เข้าร่วมประมาณ 100 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ลอร์ดจะนำทหารไปได้ 200 นาย รวมแล้วจะมีทหารประมาณ 20,000 นาย เมื่อแยกเป็น 2 ฝ่าย จะมีฝ่ายละประมาณ 10,000 นาย พวกท่านคิดว่าจักรพรรดิเหลืองและชี่โหยวจะสามารถเลี้ยงอาหารให้กับกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้ได้หรือ?”
ซุ่นหลงเตียนเซว่ส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่าไม่ พวกเขาคงมีเพียงพอสำหรับเลี้ยงตัวเองเท่านั้น และมีไม่มีมากพอจะแบ่งมาให้พวกเราแน่ ความหมายของพี่ชายหวู่ยี่ก็คือ พวกเราต้องเตรียมทีมโลจีสติกส์ทางทหารไปเองหรือ? พวกเรามีพื้นที่จำกัด คงไม่สามารถเพิ่มอะไรอย่างทีมโลจีสติกส์ทางทหารได้แน่ มิฉะนั้น เราจะทำสงครามได้อย่างไร?”
ไป๋ฮัวคิดถึงการสวนสนามของซานไห่เมื่อเช้า ซ่านไห่ได้เตรียมทหารไว้เต็ม 1,000 นาย และไม่มีสัญญาณใดๆเกี่ยวกับทีมโลจีสติกส์เลย เธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอยิ้ม แล้วกล่าวว่า “พี่ชายหวู่ยี่มีวิธีแก้ปัญหาแล้ว?”
โอหยางโชวมองไปที่เธอด้วยใบหน้าชื่นชม แล้วกล่าวว่า “ถูกต้อง ขณะที่ข้าอยู่ในตลาด ข้าอังเอิญได้เห็นไอเท็มพิเศษอย่างนึง คือ เม็ดอาหารทหาร ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ข้าจึงได้ซื้อมันมาและทดสอบมัน จากนั้น ข้าก็พบว่า มันเป็นอาหารประเภทหนึ่ง มันมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สามารถทดแทนอาหารสำหรับทหาร 1 นาย ได้ 1 วัน”
“ราคาขายล่ะ?” ซุ่นหลงเตียนเซว่ถามอย่างกระหาย
“สำหรับสิ่งที่วิเศษเช่นนี้ แน่นอนว่ามันมีราคาแพงเล็กน้อย เม็ดอาหารทหาร มีราคาเม็ดละ 1 เหรียญเงิน โดยทั่วไป ทหารจะบริโภคอาหาร 2 หน่วย/วัน เทียบได้กับเงิน 20 เหรียญทองแดง เม็ดอาหารทหารจึงมีราคาเป็น 5 เท่าของการบรืโภคปกติในแต่ละวัน”
“มันก็ยังคงคุ้มค่า เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าต้องเตรียมทีมโลจีสติกส์ทางทหารไปด้วย เฮะ!เฮะ! แต่พี่ชายหวู่ยี่คงลำบากซักหน่อย เพราะท่านมีทหารไปด้วยเป็นจำนวนมาก จำนวนเม็ดอาหารทหารที่ต้องเตรียมคงจะมีไม่น้อยเลย” ซุ่นหลงเตียนเซว่กล่าวติดตลก
โอหยางโชวยิ้ม แต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา สำหรับสถานการณ์การเงินของเมืองซานไห่ เม็ดอาหารทหารเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาเลย
ทหาร 1,000 นาย รวมกับม้าศึก จะแบกค่าใช้จ่ายเพียงวันละ 15 เหรียญทองเท่านั้น หรือแม้ว่าสงครามจะกินเวลา 1 เดือน มันก็เพียง 400-500 เหรียญทอง เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้จากในสมรภูมิแล้ว มันคุ้มค่ามากที่จะลงทุน
“นอกจากเม็ดอาหารทหารแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียม นั่นคือ เต้นท์ทหาร เต้นท์ทหารสามารถแยกส่วนและพับเก็บได้ มันสามารถรับทหารได้เต้นท์ละ 5 นาย แน่นอนสิ่งนี้ราคาไม่ถูก มันมีราคาเต้นท์ละ 1 เหรียญทอง” โอหยางโชวยังคงแนะนำเล็กๆน้อยๆ
“โอ้ ไอเท็มระดับพระเจ้าทั้ง 2 รายการ ทีนี้ เราก็ไม่ต้องกังวลกับการเตรียมทีมโลจีสติกส์ทางทหารอีกต่อไป” กงเฉิงซีกล่าวด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
แม้แต่ไป๋ฮัวก็ตื่นเต้น แต่ดวงตามของเธอยังคงจ้องไปที่โอหยางโชว พยายามอย่างสุดกำลังที่จะมองเขาให้ทะลุปรุโปร่ง เธอไม่เข้าใจจริงๆ ฉีเยว่หวู่ยี่ใช้วิธีไหนถึงได้เข้าใจเกมส์ได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะเขาใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆหรือ? หรือว่าเขามีพรสวรค์ในการเล่นเกมส์ สามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองข้ามได้ เม็ดอาหารทหารและเต้นท์ทหารเป็นตัวอย่างที่ดี ระบบขายมันอย่าอิสระในตลาด แต่ก็ยังไม่มีใครรู้วิธีใช้พวกมัน
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวต่อว่า “ในความเป็นจริง มีอะไรที่วพิเศษกว่าที่พวกท่านจะสามารถจินตนาการได้ในตลาด พวกท่านควรจะเข้าไปสำรวจมันถ้ามีเวลาว่าง อาจจะมี 1-2 สิ่งที่ทำให้พวกท่านประหลาดใจ เช่น ไฟสงสัญญาณ ข้าคงไม่จำเป็นต้องบอกใช่หรือไม่ว่ามันคืออะไร?”
“ทั้งหมดที่ข้าคิดไว้ ข้าได้กล่าวไปหมดแล้ว สำหรับกลยุทธ์และแผนยุทธวิธีต่างๆ ข้าอยากฟังความเห็นของท่านกงหยู” โอหยางโชวยิ้ม ขณะที่เขามองไปที่จูโชว(กงหยู) ที่ยืนอยู่ด้านหลังกงเฉิงซี
ในบรรดาบุคคลากรที่มีทั้งหมด จูโชวเป็นนักวางกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
เมื่อวานนี้ โอหยางโชวได้วางแผนร่วมกับเก่อหงเหลียง เพื่อเตรียมกลยุทธ์ไว้ใช้ในสงคราม แต่เมื่อกงเฉิงซีมาพร้อมนักวางกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในยุค 3 ก๊ก อย่างจูโชว โอหยางโชวก็ยกเลิกแผนที่เขาเตรียมไว้ในทันที เมื่ออยู่ต่อหน้าจูโชว เก่อหงเหลียงก็มีความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ไป๋ฮัว, ซุ่นหลงเตียนเซว่ และมู่หลานเยว่ไม่ใช่คนโง่ ทั้ง 3 คน เห็นด้วยกับการตัดสินในของโอหยางโชว และพวกเขาทุกคนก็มองไปที่จูโชว
แม้ว่าจะถูกมองจากคนจำนวนมาก จูโชวก็ไม่ได้แสดงความกังวลใดๆออกมา เขาลุกขึ้น แล้วกล่าวว่า “ข้าขอขอบคุณโอกาสดีๆที่ท่านได้มอบให้ข้า จากนี้ ข้าจะขอแสดงความเห็นของข้า”
“เชิญ!” โอหยางโชวกล่าวอย่างจริงจัง
“ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ของสงครามโจวหลู่ มันเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ กินเวลาถึง 3 ปี กับการรบขนาดใหญ่ 9 ครั้ง ระหว่างช่วงเวลานั้น การรบอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เพื่อที่จะอยู่รอดและได้รับผลประโยชน์จากมันมากที่สุด เราต้องไม่คาดหวังเพียงการรบครั้งสุดท้ายเท่านั้น เรายังต้องเข้าร่วมในการรบเล็กๆด้วย ฉะนั้น ข้าเสนอให้พวกเราเลือกกองทหารที่เคลื่อนที่เร็วและมีความสามารถในการรบสูง และนอกเหนือจากเม็ดอาหารทหารและเต้นท์ทหารแล้ว เราควรจะมีบทบาทเป็นผู้นำในสงคราม” จูโชวกล่าว
แปะ!แปะ!แปะ! โอหยางโชวเป็นคนแรกที่ปรบมือ ก่อนที่คนอื่นๆจะทำตาม โอหยางโชวยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ท่านจูเป็นคนที่พิเศษจริงๆ”
เมื่อถึงเวลา 16.00 น. การประชุมปรึกษาหารือก็สิ้นสุดลง ในตอนนี้ การชุมนุมครั้งแรกของพันธมิตรซานไห่ได้สิ้นสุดอย่างเป็นทางการแล้ว
ก่อนที่จะเดินทางกลับ โอหยางโชวได้มอบของขวัญให้กับทุกคน ฉินฉีอ๋องได้รับเหล้า 3 ดอกไม้ 1 ไห(เหยือก), จูโชวได้รับชาขาวพิเศษจำนวนหนึ่ง, กงเฉิงซีและซุ่นหลงเตียนเซว่ได้รับดาบถังคุณภาพสูงคนละเล่ม
สำหรับสาวๆ พวกไป๋ฮัวและมู่หลานเยว่ได้รับผ้าไหมสายรุ้งคุณภาพสูงสุด มันเหมาะที่จะนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสตรี สุดท้าย หลังจากที่พิจารณาอย่างจริงจัง โอหยางโชวได้มอบธนูเขาสัตว์ระดับทองดำให้กับมู่กุ้ยหยิง มันเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษของฝ่ายธนูและหน้าไม้ มันเป็นคันธนูเขาสัตว์สุดพิเศษเพียงอันเดียวเท่านั้นที่ถูกทำขึ้น
เหตุผลเดียวที่โอหยางโชวให้ของขวัญที่มีค่านี้กับเธอ ก็เพราะว่า เมืองมู่หลานและเมืองซานไห่ ทั้ง 2 อยู่ในแอ่งเหลียนโจว มีโอกาสมากมายที่พวกเขาจะร่วมมือกันในอนาคต การแสดงความปรารถนาดีของเขาไปยังอีกฝ่าย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ใครจะไปรู้ ในอนาคต ซานไห่และมู่หลานอาจจะรวมกันเป็น 1 เดียวก็ได้
หลังจากที่เขาส่งพันธมิตรกลับแล้ว โอหยางโชวก็เริ่มเตรียมการสำหรับสงคราม
ในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม เหมืองแร่หลางซานได้ทำงานอย่างเต็มที่ พวกเขาสามารถส่งมอบเหรียญทองให้กับดินแดนได้มากถึง 4,000 เหรียญทอง โอหยางโชวได้นำเงิน 500 เหรียญทอง มอบให้กับเมืองเป่ยไห่ เพื่อใช้ในการจัดตั้งกองพันทหารราบที่ 2
จากนั้น เขาก็เดินไปที่ตลาดขั้นสูง โอหยางโชวเริ่มช็อปปิ้งอย่างสนุกสนาน ถุงเก็บของของเขาได้รับการอัพเกรดแล้ว 2 ครั้ง จนมีความจุ 100 ลูกบาศก์เมตร ถ้าเขาใช้มันเพียงคนเดียว แน่นอนว่ามันมีขนาดมหึมาเลยทีเดียว แต่ถ้าเขานำสินค้าทางทหารไปด้วย 100 ลูกบาศก์เมตรยังไม่เพียงพอ
ไม่มีทางเลือก โอหยางโชวกัดฟันซื้อหินพื้นที่ขนาดใหญ่ มูลค่า 1,000 เหรียญทอง เพื่ออัพเกรดถุงเก็บของของเขา ให้มีความจุ 1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการของเขาในตอนนี้แล้ว สำหรับการอัพเกรดขั้นต่อไป หินพื้นที่ขนาดยักษ์นั้นไม่มีขายในตลาด แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเงินของโอหยางโชวขนาดนี้ เขาก็ยังไม่มีสามารถจ่ายค่าหินพื้นที่ขนาดยักษ์ที่มีราคาอย่างน้อย 50,000 เหรียญทองได้
ถุงเก็บของเองก็เป็นสิ่งที่ถ้าทายธรรมชาติ มันอาจถูกนับได้ว่าเป็นไอเท็มพิเศษ ที่อยู่ในระดับเดียวกับไอเท็มระดับพระเจ้าได้ ดังนั้น เพื่อที่จะอัพเกรดมัน จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล
แฟนเพจ : TWOแปลไทย