ตอนที่ 136 สาวๆ
"เจี้ยนกั๋ว ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วฉันจะไปหาเขาที่ไหน?" จ้าวหลียนหัวรู้สึกหดหู่
ลิ่วเจี้ยนกั๋วหยุดคิดชั่วครู่และพูด "ไปที่ไหนก็ได้ ตอนนี้เขาสำคัญกับพวกเรามาก ถ้าพวกเรามีเขา พวกเราก็จะสามารถโลดแล่นในการแข่งขันระดับกาแล็กซี่ได้ และมันจะง่ายมากถ้าเราต้องหาสปอนเซอร์"
"ฉันจะลองดู" จ้าวเหลียนหัวตอบรับอย่างช่วยไม่ได้
เขารู้ดีว่าคนคนนั้นมีผลต่ออนาคตของเขามาก แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะตามหาคนโดยรู้เพียงแค่ไอดีอย่างเดียว
เมื่อหลี่ยู่เฟิงหายจากอาการช็อค เขาต้องการชวนคู่ต่อสู้เล่นอีกครั้ง แต่เขาพบว่าคู่ต่อสู้ออฟไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว พอแพ้เขาก็ช็อคไปนานจนไม่รู้เลย
ในค่ำคืนนั้นทั่วทั้งเหยี่ยวดำต่างก็พูดถึงการต่อสู้ในครั้งนี้
"ความเร็วนั่นมันสุดยอดมาก"
"ฮาฮา พอมาดูเกมนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าที่ฉันเล่นมาเป็นปีๆไร้ความหมายไปเลย"
"แม้แต่หลี่ยู่เฟิงก็ยังถูกจัดการ แฟนของจีเหยียนหรันสุดยอดจริงๆ เขาเป็นใครกันแน่?"
"ต้องไปถามจีเหยียนหรันถึงจะรู้"
"20 คะแนน ดูเหมือนว่าหลี่ยู่เฟิงจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเขา"
"เหยียนหรันของฉันเป็นแฟนเขาจริงๆอย่างงั้นหรอ?"
.....
ตอนนี้แม้แต่จีเหยียนหรันเองก็ต้องการรู้ว่าแฟนของเธอเป็นใคร
หลังจากล็อคเอ้าออกมาจากเกม เธอรีบติดต่อเพื่อนๆของเธอทันที เธอต้องการหาให้ได้ว่าคนคนนั้นคือใคร แต่อย่างไรก็ตามเกือบทุกคนที่เธอโทรไปถามต่างบอกกลับมาว่า
"เธอน่าจะถามตัวเธอเองมากกว่านะว่าแฟนของเธอเป็นใคร"
"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าแฟนของฉันคือใคร!" จีเหยียนหรันหัวเสียเมื่อเธอได้ยินแบบนั้นหลายๆครั้ง
ตอนนี้ในห้อง 304 หานเซิ่นถูกล้อมรอบโดยรูทเมททั้ง 3 คน
"เซิ่น 4 จานบวกกับซุบ ดูเหมือนถ้าเลี้ยงนายแค่ 1 จานมันคงจะน้อยไป" ลู่เหมินพูดพร้อมกับยิ้ม
"4 จาน นั้นจะต้องเป็นเมนูเนื้อทั้งหมด วันนี้มันต้องฉลอง" ซื่อจื้อคังพูดเสริมขึ้นมา
"เซิ่น นายคู่ควรจะเป็นคู่แข่งของฉันจริงๆ" จางหยางตาเป็นประกายขึ้นมา
"ออกไปกินกันสักที ฉันรู้สึกหิวแล้ว" หานเซิ่นยิ้ม
พวกเขาทั้ง 4 เดินไปร้านอาหาร โรงเรียนเหยี่ยวดำมีขนาดใหญ่พอๆกับเมืองขนาดย่อมๆเลย และร้านอาหารก็เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินเลย
แต่หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากห้อง พวกเขาก็ได้ยินคนพูดเกี่ยวกับการแข่งตลอดทาง
"เซิ่น นายต้องพยายามต่อไป ฝีมือของนายเหมาะกับเกมนี้มากจริงๆ บางทีจีเหยียนหรันอาจจะตกหลุมรักนายก็ได้ และบางทีเธออาจจะแนะนำพวกเพื่อนสาวของเธอให้พวกเรารู้จักมั้งก็ได้" ซื่อจื้อคังกระซิบข้างหูหานเซิ่น
เเต่ดูเหมือนจีเหยียนหรันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะตกหลุมรักคนที่เล่นเกมเก่ง ไม่อย่างงั้นเธอคงตกหลุมรักหลี่ยู่เฟิงที่ไล่ตามตื้อเธอแล้ว
พวกเขาทั้ง 4 เดินไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่สุด และสั่งอาหารกับเครื่องดื่มมา
ขณะกำลังกินและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่อยู่ๆซื่อจื้อคังก็ลดเสียงลง เขาหันไปมองที่นั่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูด
"มีสาวนั่งอยู่ตรงนั้น เธอดูน่ารักและใสซื่อมาก! เพื่อนของเธออีก 2 คนก็ไม่เลวเลย"
"จื้อคัง พวกเราไม่ไว้ใจรสนิยมนาย" ลู่เหมินหัวเราะออกมา
หานเซิ่นกับจางหยางเองก็หัวเราะเช่นเดียวกัน พวกเขาเคยเห็นผู้หญิงที่ซื่อจื้อคังเคยบอกว่าเป็นสเปคของเขามากับตา ซึ่งเป็นหญิงรูปร่างกำยำสูงถึง 6 ฟุต แต่ก็ตำหนิเขาไม่ได้ เพราะเขาเองก็สูงเช่นเดียวกัน
"จริงๆนะเว้ย...โอ้.. พวกสาวๆกำลังมองมาที่ฉัน และยิ้มให้ฉันด้วย นี่นี่เธอกำลังเดินมา..." ซื่อจื้อคังหน้าแดง
พวกหนุ่มๆประหลาดใจเล็กน้อย มีสาวกำลังเดินตรงมาที่พวกเขาจริงๆ แถมยังเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักอย่างที่ซื่อจื้อคังบอกไว้ไม่มีผิด ดูแล้วพวกเธอน่าจะเป็นเด็กใหม่เหมือนกับพวกเขา
"พี่หาน" ขณะที่ซื่อจื้อคังกำลังตื่นเต้นอยู่นั้น เธอก็เดินเข้าไปหาหานเซิ่น และเรียกเขาด้วยเสียงหวานๆ ซึ่งทำให้ซื่อจื้อคังอยากจะฆ่าหานเซิ่น
"เหมียนเหมียน ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้?" หานเซิ่นจำเธอได้ดี เธอคือหวังเเหมียนเหมียน
"ฉันมาทานอาหารกับรูมเมท และไม่คิดว่าจะมาเจอพี่ที่นี่ ให้ฉันแนะนำพวกเธอให้พวกพี่รู้จัก นี่คือเพื่อนร่วมชั้น และก็เป็นรูทเมทของฉันเอง หลี่เจินเจินและหวังชุน"
หวังเหมียนเหมียนแนะนำเพื่อนสาวอีก 2 คนที่เดินตามเธอมา
"สวัสดีครับ" หานเซิ่นจับมือทักทายพวกเธอ 2 คน แล้วก็แนะนำรูทเมททั้ง 3 ของเขาเช่นเดียวกัน
"เนื่องจากตอนนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ทำไมพวกเราไม่มานั่งด้วยกันเลย?"
ซื่อจื้อคังดึงก้าวอี้ที่ว่างออกมา และเชิญพวกสาวๆนั่ง
"ดีเลย พวกเรามีเรื่องอยากจะขอให้พวกคุณช่วยพอดี" หวังเหมียนเหมียนพูด
"จะให้ช่วยอะไร? พวกเราพร้อมช่วยทุกอย่าง" ซื่อจื้อคังพูด
หวังชุนมองซื่อจื้อคังและยิ้ม "มันจะดีมาก ถ้าพวกคุณช่วยเราได้ พวกเรากำลังหาคนเข้าร่วมชมรม ตอนนี้พวกคุณสมัครเข้าชมรมไหนรึยัง? ถ้ายังไม่ได้เข้ามาเข้าชมรมของพวกเราไหม?"
"ยัง พวกเรายังไม่ได้เข้าชมรมไหนเลย พวกเธอมาหาถูกคนแล้ว ถ้ามีพวกเราชมรมของพวกเธอต้องทำผลงานได้ดีแน่นอน แล้วตกลงชมรมของพวกเธอเป็นชมรมแบบไหน?"
ซื่อจื้อคังรีบพูดทันที ถ้าดูจากสาวๆทั้ง 3 คนแล้ว ในชมรมคงจะมีแต่เด็กผู้หญิงแน่นอน
"พวกเราอยู่ชมรมวอเฟรมหนัก" หวังชุนพูด
ซื่อจื้อคังเกือบจะสำลักน้ำที่เขาดื่มเข้าไป
ชมรมวอเฟรมก็เหมือนกับวัดที่มีแต่สมาชิกชาย แล้วยิ่งเป็นชมรมวอเฟรมหนักด้วยแล้ว ก็เหมือนกับวัดเส้าหลินเลยทีเดียว ที่แทบจะไม่มีผู้หญิงอยู่เลย คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเข้าชมรมวอเฟรมหนัก
ส่วนเหตุผลที่ชมรมวอเฟรมหนักต้องแยกตัวออกจากชมรมวอเฟรมปรกติ เพราะว่าชุดปฏิบัติการของวอเฟรมหนัก(heavy warframe)นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าชุดปฏิบัติการวอเฟรมแบบปรกติมาก ซึ่งพวกทหารมักจะไม่ค่อยชอบใช้ชุดวอเฟรมหนักเท่าไหร่ และ 99.99% ของทหารที่ออกรบด้วยวอเฟรมหนักจะเป็นผู้ชาย