TWO Chapter 120 คำเชิญ
TWO Chapter 120 คำเชิญ
“***หมายเหตุ : หลังจากนี้ เวลาคุยกันในเกมส์จะใช้คำพูดโบราณนะครับ เช่น เจ้า, ข้า, ท่าน อะไรประมาณนี้”
หลังจากตั้งค่าการเทเลพอร์ตเสร็จสิ้นแล้ว โอหยางโชวก็ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการเทเลพอร์ต
การเดินทางไปแผนที่สมรภูมิ ค่าธรรมเนียม คนละ 1 เหรียญทอง, ระหว่างดินแดนในช่วงสงคราม คนละ 1 เหรียญทอง และช่วงเวลาสงบสุจชข คนละ 10 เหรียญทอง ในขณะที่โหมดพิเศษ คนที่ถูกเพิ่มชื่อจะเสียค่าธรรมเนียม คนละ 20 เหรียญทอง
ราคาที่ระบุไว้ข้างต้นนี้เฉพาการใช้บริหารการเทเลพอร์ตขาเดียว นั่นคือ ถ้าคุณไปเยี่ยมเยือนพันธมิตรในช่วงเวลาสงบสุข คุณจะเสียค่าธรรมเนียมไปกลับ รวม 20 เหรียญทอง
ค่าธรรมเนียมการเทเลพอร์ตนี้จะถูกเก็บโดยตรงจากระบบ ดังนั้น ลอร์ดจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆจากมัน แม้แต่ซักเหรียญทองแดงเดียวก็ตาม แน่นอนพวกเขาไม่สามารถบ่นอะไรกับเรื่องนี้ได้ เนื่องจากระบบการเทเลพอร์ตนี้ ระบบเป็นผู้สร้างให้ฟรีๆ
“แจ้งเตือนระบบ : เลือกวิธีชำระเงินของคุณ!”
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ค่าธรรมเนียมสามารถเรียกเก็บได้ทั้งจากปลายทางของทั้ง 2 ฝ่าย เช่นเดียวกับบริการส่งจดหมายในโลกจริง คุณสามารถเลือกจ่ายในฐานะผู้ส่งหรือผู้รับได้
ค่าธรรมเนียมการเทเลพอร์ตไปแผนที่สมรภูมิจะได้รับการชำระโดยลอร์ดของพวกเขา ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการเทเลพอร์ตระหว่างดินแดน โอหยางโชวตัดสินใจว่า ซานไห่จะจ่ายค่าธรรมเนียมอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาสงคราม ส่วนในเวลาสงบสุข ซานไห่จะจ่ายค่าธรรมเนียมการเทเลพอร์ตให้ผู้เยี่ยมเยือนในขากลับดินแดนของพวกเขา
ส่วนคนที่ถูกเพิ่มชื่อ พวกเขาจะใช้การเทเลพอร์ตขาเดียว ดังนั้น ซานไห่จะจ่ายให้พวกเขา
ด้วยสถานะทางการเงินของเมืองซานไห่ โอหยางโชวสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำพันธมิตร ตำแหน่งของเขาไม่ยอมให้เขาทำเช่นนั้น เขาต้องดูแลความรู้สึกของสมาชิกในพันธมิตร
วิธีการจ่ายค่าธรรมเนียมของเมืองซานไห่ จะเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสมาชิกในพันธมิตร
ถ้าโอหยางโชวตัดสินใจแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทำตัวเหมือนเป็นคนใจดี คนอื่นๆก็จะถูกบังคับให้ปฏิบัติเช่นเขา เพราะถ้าพวกเขาไม่ปฏิบัติตาม พวกเขาก็จะถูกมองโดยแง่ลบโดยเพื่อนของพวกเขา ค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจมีค่าไม่มากนักสำหรับเมืองซานไห่ แต่สำหรับคนอื่นๆ มันนับเป็นภาระทางการเงินขนาดใหญ่ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากเห็น
ในฐานะที่เป็นลอร์ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นผู้นำพันธมิตร เขาจึงต้องเข้าใจศิลปะของความเหมาะสม ดังนั้น เขาจึงต้องรู้ว่าควรหยุดตอนไหน และข้อจำกัดก็ไม่ควรจะมองข้ามไป ไม่เช่นนั้น ความตั้งใจที่ดี อาจจะกลายเป็นการปูทางไปสู่นรกก็ได้
หลังจากที่เขาตั้งค่าวิธีชำระค่าธรรมเนียมเสร็จ ก็มีเสียงจากระบบดังขึ้นที่หูของเขา
“แจ้งเตือนระบบ : โปรดเตรียมกองของคุณให้พร้อมสำหรับการรบครั้งแรก, หมายเหตุ : จำนวนทหารที่สามารถนำไปได้ เชื่อมโยงกับตำแหน่งของลอร์ด”
“วิสเคาท์ขั้น 3 : 100 นาย, วิสเคาท์ขั้น 2 : 200 นาย, วิสเคาท์ขั้น 1 : 300 นาย”
“เอิร์ลขั้น 3 : 500 นาย, เอิร์ลขั้น 2 : 1,000 นาย, เอิร์ลขั้น 1 : 3,000 นาย”
“มาควิสขั้น 3 : 10,000 นาย, มาควิสขั้น 2 : 20,000 นาย, มาควิสขั้น 1 : 50,000 นาย”
“ลอร์ดที่มีตำแหน่งเป็นดยุคไม่มีขีดจำกัดของทหารที่สามารถ พวกเขาสามารถนำทหารม้าเข้าร่วมได้อย่างอิสระ”
ตำแหน่งของโอหยางโชวในตอนนี้ คือ เอิร์ลขั้น 2 ซึ่งหมายความว่า เขาสามารถนำทหารไปได้ 1,000 นาย, ถ้ารวมการกองพันทหารเรือที่กำลังจะขยายขึ้นในเร็วๆนี้ กำลังทหารอย่างเป็นทางการของซานไห่มีทั้งสิ้น 4,000 นาย สำหรับกองทหารที่จะเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ โอหยางโชวจะต้องปรึกษากับเก่อหงเหลียงก่อน
ออกจากการตั้งค่าการเทเลพอร์ต โอหยางโชวส่งข้อความไปถึงพันธมิตรทั้ง 4 ของเขา เชิญพวกเขามาที่เมืองซานไห่ เพื่อประชุมปรึกษาหารือในเช้าวันพรุ่งนี้
การตัดสินใจดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยากสำหรับโอหยางโชว เขาไม่เต็มใจในตอนแรก เพราะการเชิญชวนพันธมิตรเข้ามาในดินแดนของเขา มันหมายความว่า โอหยางโชวจะวางความลึกลับ และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเมืองซานไห่ เผยให้พวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำพันธมิตร โอหยางโชวจำเป็นต้องทำเช่นนี้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้สมาชิกในพันธมิตรสามารถสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ มันจะช่วยทำให้เกิดความเป็นปึกแผ่นในพันธมิตรอย่างช้าๆ
กลับไปที่คฤหาสน์ โอหยางโชวเรียกเจ้ากรมทั้ง 4 สั่งให้พวกเขาเตรียมเมืองสำหรับการมาเยือนของพันธมิตรของเขา ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นการชุมนุม แน่นอนว่าต้องมีการทัวว์ชม
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพันธมิตรของเขา ก็ยังมีข้อจำจัดบางอย่าง ที่พวกเขาสามารถทำได้หรือสามารถมองเห็นได้ ดังนั้น พวกเขาจะได้รับอนุญาติให้ดูเพียงบางส่วนเท่านั้น เรื่องเหล่านี้ โอหยางโชวต้องพิจารณาอย่างจริงจัง
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองสอดคล้อง, ห้องโถงประชุม
“ฉีเยว่หวู่ยี่เชิญเราไปเมืองซานไห่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับสงครามโจวหลู่ ใครจะไปกับข้าบ้าง? ข้าบอกไว้ก่อนนะ ทซิงยี่เจ้าต้องไปด้วย” ไป๋ฮัวกล่าวขณะมองไปรอบๆ
ทซิงยี่พยักหน้าและยืนเงียบๆ
ฉีลั้วหลานหัวเราะ แล้วกล่าวว่า “ไม่คาดคิดจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะเปิดกว้างให้เราไปทัวว์เมืองซานไห่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่ยอมพลาดมันแน่”
“มันจะมีอะไรพิเศษกัน? พวกเราก็มีดินแดนนะ ข้าไม่ไปหรอก” หงหยิงกล่าว
ไป๋ฮัวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ หงหยิงจะอยู่ที่ดินแดน และพวกเรา 3 คน จะไปที่เมืองซานไห่ในวันพรุ่งนี้”
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองมู่หลาน, สำนักงานของมู่หลานเยว่
“พี่สาว ไปซานไห่กับข้าด้วยนะ” มู่หลานเยว่ยิ้ม แล้วกล่าวอย่างขี้เล่น
มู่กุ้ยหยิงมองเธอด้วยความรัก แล้วกล่าวว่า “ทำไม? เจ้าไม่กล้าไปคนเดียวหรือ?”
มู่หลานเยว่พยักหน้า แล้วกล่าวว่า “อื้ม ถ้าฉีเยว่หวู่ยี่เป็นคนนี่ชั่วร้ายมากล่ะ? มันจะจะปลอดภัยกว่า ถ้าพี่สาวมาพร้อมกับข้า ข้าจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลอะไร”
“เอาล่ะ ข้าจะไปกับเจ้า”
……………………………………………………………………………………………………..
การสนทนาที่คล้ายๆกันนี้ เกิดขึ้นที่เมืองซนหลงและเมืองสิงโตทมิฬเช่นกัน
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองซานไห่, ห้องโถงประชุม
“ทุกคนรู้เกี่ยวกับประตูและเทเลพอร์ตที่จตุรัสกลางเมืองแล้วใช่หรือไม่?” โอหยางโชวถาม
“ขอรับนายท่าน ท่านรู้หรือไม่ว่ามันเกี่ยวกับอะไร?” ฟ่านจงหยานถาม
โอหยางโชวพยักหน้า อธิบายการเทเลพอร์ตและแผนที่สมรภูมิให้กับพวกเขา “สงครามโจวหลู่นี้ มีความหมายกับพวกเรามาก ห้ามมิให้มีความผิดพลาดใดๆเด็ดขาด สำหรับกองกำลังที่เราจะใช้ กรมกิจการทหารมีความเห็นเช่นไร?”
เก่อหงเหลียงครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วกล่าวว่า “มันคือสงครามบนบก ดังนั้น การใช้กองพันทหารเรือคงจะไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ชนเผ่าเร่ร่อนได้รับความเสียหายเมื่อเร็วๆนี้ กองพันทหารม้าจึงต้องรับผิดชอบในการป้องกันชนเผ่าเร่ร่อน ดังนั้น เราจึงไม่ควรจะเคลื่อนย้ายพวกเขาทั้งหมด เพราะฉะนั้น ข้าเสนอให้ใช้ทหารราบเป็นหลักและมีทหารม้าคอยสนับสนุน โดยในหมู่ทหารราบ เราควรเน้นไปที่ทหารหน้าไม้เป็นหลัก”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ท่านกล่าวมีเหตุผล ในกรณีนี้ ทหารที่ข้าจะนำไปได้แก่ กองร้อยทหารธนู 2 กอง กองร้อยทหารหน้าไม้ 3 กอง จากกองพันป้องกันเมือง, กองร้อยทหารราบ 2 กอง กองร้อยทหารราบเกราะปูเหริน 1 กอง จากกองพันทหารราบ, กองร้อยทหารม้า 2 กอง จากกองพันทหารม้า นอกจากนี้ จะมีทหารฝ่ายข่าวกรองติดตามไปด้วยบางส่วน เพื่อคอยประสานงานภายในกองทัพ สำหรับรายละเอียดการจัดกระบวนทัพ กรมกิจการทหาร และหน่วยงานต่างๆจะช่วยกันวางแผน”
“เข้าใจแล้วขอรับ” เก่อหงเหลียงตอบ ก่อนจะถามว่า “นายท่าน เกี่ยวกับขุนพลและนายทหาร?”
การเลือกนายทหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ด้วยสถานะของเก่อหงเหลียง เขาไม่กล้าจะตัดสินในด้วยตัวเอง ไม่ต้องกล่าวถึงขุนพลซี หลินยี่กับเผ่ยตงหลายต่างก็มีสถานะใกล้เคียงกับเขา
โอหยางโชวครุ่นคิด ก่อนจะตอบว่า “การเดินทางในครั้งนี้ ข้าจะเป็นผู้นำกองทัพเอง เจ้ากรมเก่อเป็นนักวางกลยุทธ์ สำหรับทหารราบ ขุนพลซีจะเป็นผู้บัญชาการสูงสุด และเจ้าซีฮูเป็นผู้ช่วยของเขา ส่วนทหารม้า จะนำโดยหลินยี่ ทีมข่าวกรองจะนำโดยซ่งสาน” เนื่องจากอัตราการไหลของเวลาในแผนที่สมรภูมิและแผนที่หลักแตกต่างกัน โอหยางโชวจึงไม่ได้ปล่อยให้นายทหารใดๆอยู่คอยรักษาดินแดน
เก่อหงเหลียงพยักหน้า แล้วไม่ได้กล่าวต่อ
“หลังจากการประชุม กรมกิจการทหารจะต้องรวบรวมกองกำลังทหารให้เร็วที่สุด เพื่อดำเนินการฝึกอบรมร่วมกัน นอกจากนี้ ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหาร, ฝ่ายคลังอาวุธ และฝ่ายธนูและหน้าไม้ จะต้องเตรียมความพร้อมในสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่” โอหยางโชวสั่ง
“เข้าใจแล้วขอรับ!” เก่อหงเหลียงตอบ
หลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาเกี่ยวกับการเดินทาง โอหยางโชวก็กล่าวต่อว่า “พรุ่งนี้จะมีแขกมาเยี่ยมเยือนเมืองซานไห่ของเรา โดยที่แขกเหล่านี้เป็นพันธมิตรของพวกเรา”
“พี่ใหญ่วางแผนจะต้อนรับพวกเขาอย่างไร?” ขุ่ยหยิงหยูถาม
“ข้าได้วางแผนสำหรับกำหนดการในวันพรุ่งนี้ ไว้ดังนี้ เราจะทำการต้อนรับพวกเขาเล็กน้อยที่ประตูเทเลพอร์ต ตามมาด้วยงานพิธีการก่อตั้งพันธมิตรอย่างเป็นทางการ จากนั้น เราจะพาพวกเขาทัวว์ชมเมืองซานไห่ โดยจำกัดเฉพาะพื้นที่ในเมืองเท่านั้น สุดท้ายจะมีการประชุมปรึกษาหารือ เกี่ยวกับสงครามโจวหลู่ในห้องโถงประชุม” โอหยางโชวอธิบายแผนของเขา
ใบหน้าของเจ้ากรมทั้ง 4 ซีดลงเล็กน้อย กำหนดการที่โอหยางโชววางแผนไว้นั้นไม่ง่ายเลย
“งานค่อนข้างหนักและมีเวลาจำกัด ดังนั้น ข้าจะแบ่งงานให้กับทุกคน สำหรับการต้อนรับ เราไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ เพียงแค่ทำตามข้าและให้การต้อนรับพวกเขา สถานที่จัดงานพิธีการก่อตั้งพันธมิตร รับผิดชอบโดยเจ้ากรมเทียนและกรมคลังวัสดุ สิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือ บรรยากาศที่จริงจังและเป็นทางการ ในส่วนการทัวว์ชม นอกเหนือจากเขตทหารที่ถูกจำกัดแล้ว สถานที่อื่นๆจะไม่ถูกจำกัดและจะให้พันธมิตรของเราทัวว์ชมได้ตามต้องการ สุดท้าย การประชุมปรึกษาหารือ จะรับผิดชอบโดยกรมกิจการทหาร” โอหยางโชวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เข้าใจแล้วขอรับ!” ทุกคนที่มีชื่อกล่าวตอบ
“ถือโอกาสนี้ กรมกิจการทหารนำทหารที่จะเข้าร่วมสงครามโจวหลู่ทั้ง 1,000 คน ทำการสวนสนามแบบง่ายๆด้วย เราจะแสดงให้พันธมิตรของเราเห็นถึง อาวุธและอุปกรณ์ของเรา ฝ่ายการเงินควรเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเจ้าต้องจัดการเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธและอุปกรณ์กับพันธมิตรของเรา” โอหยางโชวใช้โอกาสนี้ ในการเริ่มต้นการค้าอาวุธของเมืองซานไห่
เก่อหงเหลียงตอบรับในทันที อย่างไรก็ตาม ขุ่ยหยูลังเล ในฐานะลูกหลานตระกูลนักธุรกิจ เธอไม่คุ้นเคยกับราคาของอาวุธและอุปกรณ์ ดังนั้น เธอจึดตัดสินใจถามโอหยางโชวโดยตรง “พี่ใหญ่ได้ตั้งราคาไว้แล้วหรือไม่?”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “สำหรับชุดเกราะ : ชุดเกราะหมิงกวงจะไม่ถูกขาย, ชุดเกราะปูเหริน จะขายในราคาชุดละ 25 เหรียญทอง,สำหรับอาวุธ : ดาบถัง จะขายในราคาเล่มละ 5 เหรียญทอง, ธนูยาวหรือธนูเขาสัตว์ จะขายในราคาคันละ 10 เหรียญทอง ในขณะที่หน้าไม้เซิ่นปี้ จะขายในราคาคันละ 15 เหรียญทอง”
โอหยางโชวตั้งราคาโดยไม่ได้อิงมุมมองของผลกำไร แต่อิงจากอุปสงค์และอุปทานของตลาด
กับตัวเลขของโอหยางโชว ขุ่ยหยิงหยูใช้มันเป็นเกณฑ์มาตรฐาน เธอยิ้ม แล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่สบายใจได้ กรมการเงินจะจัดการมันเอง”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “อีกอย่างหนึ่ง กรมการเงินจะต้องส่งมอบทองคำจากเหมืองแร่หลางซานให้กับข้าด้วย ตอนนี้ข้าไม่เหลือเงินแล้ว”
“ข้าเข้าใจแล้วค่ะ” ขุ่ยหยิงหยูพยักหน้าพร้อมกล่าว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย