SH – 19 สุสานโบราณ !
SH – 19 สุสานโบราณ !
เหยี่ยซ่าวหยางยกดาบเถ้ามู่ไว้ในมือและเจาะตรงไปที่แผ่นโลงศพไม้ในมือของวิญญาณหญิงสาว เมื่อดาบแทงทะลุเข้ามาในแผ่นไม้ แสงสีคล้ำค่อยๆครอบคลุมดาบและมันจะพยายามทำร้ายเหยี่ยซ่าวหยาง อย่างไรก็ตามเหยี่ยซ่าวหยางไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยและเขาก็รีบใช้หมึกสีฉาดเขียนตัว ‘ฉือ’ บนดาบของเขาขณะเดียวกันเขาก็พึมพำไปด้วย "สวรรค์และโลกอันยิ่งใหญ่ด้วยพลังแห่งหยินหยาง จงทำลายมันให้สิ้นซาก !"
เขาค่อยๆดันดาบออกไปอย่างช้าๆจนแผ่นไม้โลงศพแตกออก เมื่อมันแตกเป็นชิ้น ๆ และมีเลือดไหลออกจากโลงศพ อาวุธต้องสาปของวิญญาณหญิงสาวไม่มีอยู่อีกต่อไป ทำให้เธอสูญเสียพลังของเธอไปบางส่วน วิญญาณหญิงสาวเปิดปากของเธอเพื่อที่จะกรีดร้อง แต่ไม่มีเสียงออกมา จากนั้นนิ้วมือขยับไปข้างหน้าและเล็งไปที่คอของเหยี่ยซ่าวหยาง แต่ตอนนี้เขาก็ไปปรากฏที่ข้างหน้าเธอซะแล้วแล้วเขาเล็งฝ่ามือไปที่จุดกุ่ยเหมิงบนใบหน้าของเธอซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดของวิญญาณ........
ฝ่ามือของเขากดลงตรงจุดที่อ่อนแอนั่น ทันใดนั้นก็มีแสงสีเขียวพุ่งกระหน่ำออกมาตอบสนองต่อการกระทำของเขา รูปร่างของวิญญาณค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ ขณะที่เธอเริ่มพยายามแกว่งมือของเธออีกครั้ง เธอกำลังใช้ความพยายามเฮือกสุดท้ายเพื่อขีดข่วนหน้าเหยี่ยซ่าวหยาง
"หยุดดิ้นไม่งั้นผมจะทำลายจิตวิญญาณคุณซะ !" เหยี่ยซ่าวหยางกล่าวอย่างหยิ่งทะนง ดวงวิญญาณผีดิบมักฉลาดกว่าผีดิบทั่วๆไป ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาเลือกจะพูดประโยคนั้นออกมา พวกเขาจะเชื่อฟังมากขึ้นหากพวกเขาได้ยินเรื่องแบบนี้.....
เป็นเรื่องที่แปลกมากวิญญาณของผู้หญิงไม่หยุดดิ้นรน ในทางกลับกันมันกลับต่อต้านมากขึ้น เหยี่ยซ่าวหยางไม่ได้คาดหวังว่าวิญญาณจะมีปฏิกิริยาดังนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ระมัดระวังตัวมากนักจึงโดนวิญญาณได้ข่วนใบหน้าของเขาจนได้รับบาดเจ็บ
"เ * ย!" เหยี่ยซ่าวหยางทิ้งดาบเถ้ามู่ของเขาลงและใช้ยันต์เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของวิญญาณดวงนั้นไว้อย่างรวดเร็ว
เหยี่ยซ่าวหยางนำกระจกทองแดงจากกระเป๋าของเขา เขาใช้แสงจากเทียนเพื่อตรวจสอบสภาพใบหน้าของเขา มีรอยขีดข่วนเล็กๆบนใบหน้าของเขา เขาจึงรีบนำผงแป้งถั่วไปทาลงบาดแผล
"ผมจะถามคำถามและคุณจะตอบคำถามพวกเขาได้ไหม? หรือมิฉะนั้นเราจะทำลายคุณ " เสี่ยวหม่ากล่าวอย่างมั่นใจเมื่อเขาเห็นว่าวิญญาณหญิงไม่ได้เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป.......
จิตวิญญาณหญิงสาวจ้องมองเขาอย่างไร้ความรู้สึกและไม่ได้พูดอะไรสักคำ
"คุณชื่ออะไร? บอกพวกเรามา !"
วิญญาณดวงนั้นไม่ตอบอะไรออกมา..........
"คุณมาจากยุคไหน?"
วิญญาณหญิงสาวยังคงไม่ตอบ
"อย่าทำให้เสียเวลาเลย" เหยี่ยซ่าวหยางกล่าว "หูและปากของเธอเต็มไปด้วยสารปรอทก่อนที่เธอจะเสียชีวิตดังนั้นเธอจึงไม่สามารถพูดหรือฟังได้หรอก !"
คำอธิบายนี้ทำให้เสี่ยวหม่าตกใจและเขาพูดว่า "จริงเหรอ? คุณรู้ได้อย่างไร?"
จากนั้นเหยี่ยซ่าวหยางชี้ไปที่เครื่องแต่งกายของเธอและอธิบายว่า "ชุดเย็บปักถักร้อยแบบนี้ใช้เพื่อปิดกั้นจิตวิญญาณของเธอในดินแดนนี้ทำให้เธอไม่สามารถไปยังนรกได้ สิ่งเหล่านี้มักจะถูกใช้กับคนรับใช้ที่จะถูกฝังอยู่กับเจ้านายของพวกเขาและวิญญาณของคนรับใช้เหล่านี้ถูกเก็บไว้ในหลุมฝังศพเพื่อปกป้องนายของพวกเขาเอง ปรอทที่เทลงในหูและปากของคนรับใช้เหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนรับใช้ไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้านายของพวกเขาได้ ! "
เสี่ยวหม่าตอบกลับอย่างโกรธเคือง "ทำไมคุณไม่เคยบอกมาก่อนเลยล่ะ? ถ้าเป็นแบบนี้ผมจะได้ไม่ต้องถามให้ตัวเองหน้าแตก "
ประโยคนี้ทำให้เหยี่ยซ่าวหยางหยุดคิดสักครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อย่างน้อยคุณก็คิดว่าคุณหน้าแตกเพราะคำถามเหล่านั้น คุณไม่คิดถึงผมตอนที่ผมโดนมันข่วนหน้าเรอะ ผมบาดเจ็บมันทรมานยิ่งกว่า การหน้าแตกอีกนะ !”
เมื่อมาถึงจุดนี้เสี่ยวหม่าเดินรอบวิญญาณหญิงสาวและพูดว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาฝังศพเธอไว้กับเจ้านายของเธอ ร่างของเธอนั้น........ "
"คุณสามารถหยุดการทำของเธอได้หรือไม่ ? เธอมีชีวิตที่ทุกข์ทนทรมานมามากแล้ว " เหยี่ยซ่าวหยางเขียนคําตัวอีกษรลงบนกระดาษยันต์ และแสดงให้จิตวิญญาณหญิงสาวเห็น จิตวิญญาณของหญิงสาวอ่านและใบหน้าดูขอบคุณสำหรับการกระทำของเขา.......
"เอาเป็นว่า......อย่าทำอะไรไร้ความคิดอีกครั้งละกัน เดี๋ยวผมจะปลดยันต์ออก ตกลงมั๊ย ? " เหยี่ยซ่าวหยางพยายามสื่อสารกันในขณะที่เขากลัวใบหน้าล้ำค่าของเขาจะมีรอยเพิ่ม
เมื่อเหยี่ยซ่าวหยางปลดกระดาษยันต์ออกไปเธอก็เชื่อฟังเขาและมองไปที่เขา
"ขอโทษที่ทำอย่างนี้นะ" เหยี่ยซ่าวหยางพูดขณะที่เขาไปเอาเสื้อผ้าของเธอออก "นั้นคุณจะทำอะไร คุณทำอย่างนี้กับวิญญาณผู้หญิงทุกดวงรึเปล่า! " เสี่ยวหม่าตะโกนด้วยความตกใจ
"คุณคิดอะไรน่ะ? ชุดเย็บปักถักร้อยบนเสื้อผ้าของเธอยังคงกักขังเธอให้อยู่ที่นี่ " เหยี่ยซ่าวหยางกล่าว จากนั้นเขารีบถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เห็นชุดชั้นในจีนที่ปกคลุมหน้าอกและท้องของเธอ นอกเหนือจากผิวซีดอันเป็นสิ่งผิดปกติ เธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นดีมากเลยทีเดียว......
เสี่ยวหม่ากำลังกลืนน้ำลายอยู่ข้างหลัง เหยี่ยซ่าวหยางหันไปมอง เสี่ยวหม่าและพูดว่า "ตื่นได้แล้ว !" จากนั้นเขาก็หันกลับและแอบกลืนน้ำลาย จิตวิญญาณของผู้หญิงกลายเป็นอิสระหลังจากเหยี่ยซ่าวหยางถอดชุดเหล่านั้นออก เธอโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งกับเขาและค่อยๆกลายเป็นควันและผสานกับกระดาษยันต์ไป จากนั้นกระดาษยันต์ก็ค่อยๆบินไปทางออกขณะที่พวกเขาเฝ้าดูมันค่อยๆเดินหนีไป "พี่ใหญ่ ผมคิดว่ามีสุสานอยู่ที่นี่ แต่ผมไม่เคยได้ยินว่ามีหลุมฝังศพในบริเวณนี้เลย "
“อาจจะเป็นไปได้นะ ไม่อย่างนั้นเขาจะนำตัวราชันผีดิบมาจากไหน?” เหยี่ยซ่าวหยางกล่าวว่า "เราไปหาผีดิบที่มีขนสีขาวซีดแล้วเรื่องราวต่างๆจะคลี่คลายลง"
หลังจากที่เขาพูดแบบนี้ เหยี่ยซ่าวหยางเอากระดาษยันต์ออกและพับเป็นนกกระเรียน เมื่อเขาพับเสร็จสิ้นแล้วเขาก็เป่าลมขึ้นไปในอากาศจากนั้นนกกระเรียนกระดาษเริ่มค่อยๆบินออกไป
การกระทำนี้ทำให้เสี่ยวหม่าตะลึงและเขาถามว่า "นั้นมันคืออะไร?"
"นกกระเรียนหยินหยางมันจะตามพลังปราณหยินไปและนำเราไปยังแหล่งกำเนิดพลังปราณหยิน " ดังนั้นทั้งสามจึงเดินตามนกกระเรียนกระดาษ หลังจากเดินไปได้ไม่นาน เขาก็เดินกลับมาที่จุดเดิม
"เวรเอ๊ย ! ผีดิบมันต้องเดินไปทั่วทุกแห่งแถมยังทิ้งปราณหยินไปทุกที่จนสร้างความสับสนไปหมดแม้กระทั่งนกกระเรียนหยินหยางก็หาผีดิบตนนั้นไม่เจอเหมือนกัน " เหยี่ยซ่าวหยางเกาหัวของเขาและกล่าวว่า" พวกเราต้องวางแผนใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ ! "
จากนั้นกัวยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า "ศิษย์น้อง ผมมีความคิด ผีดิบขนขาวชอบกลิ่นคาวเลือด เนื่องจากการระบายอากาศของที่นี้ไม่ดีซักเท่าไหร่ เราอาจจะสามารถล่อให้มันมาได้ถ้าเรามีเลือดมนุษย์เพียงพอ "
เหยี่ยซ่าวหยางเคาะหัวของเขาและพูดว่า "ใช่แล้ว ผมลืมได้ยังไง นอกจากนี้เรายังสามารถติดตั้งกับดักบางอย่างเพื่อเตรียมพร้อมรับมือได้อีกด้วย "
"อืม........แต่ว่าพูดง่ายกว่าทำ พวกเราจะหาเลือดได้จากที่ไหนในที่แบบนี้? " เสี่ยวหม่ามองไปรอบ ๆ และค้นหาเลือด แต่เมื่อเขาหันกลับมาเขาก็เห็นดวงตาเรืองแสงสองคู่ที่จ้องมองเขา "คุณ ... พวกคุณกำลังมองอะไรอยู่? ไม่นะ ! คุณต้องการเลือดของผม !? "
"อืม.....เลือดของผมทำให้พวกมันกลัว เมื่อพวกเขาได้กลิ่นเลือดของผมพวกเขาก็จะไม่เข้ามาใกล้ " เหยี่ยซ่าวหยางให้เหตุผลอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้โดนเอาเลือดของตัวเองไป
"ผมเอ่อ ... ผมกลัวที่จะถูกบาดหน่ะ นอกจากนี้ผมยังอายุมากแล้วด้วย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลม เพราะเหตุนี้ คุณยังหนุ่มและมีสุขภาพดี ดังนั้นคุณจะปรับตัวได้ง่าย แม้ว่าคุณจะสูญเสียเลือด แต่คุณจะไม่เป็นไร "ศิษย์พี่กัวตบไหล่ของเสี่ยวหม่าเบาๆ
เสี่ยวถอนหายใจและพูดว่า "เดี๋ยวก่อนน่ะ คุณรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นพวกคุณจึงให้ผมมาด้วย ใช่มั้ย ?"
"แน่นอนว่าไม่ ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร? แต่ในความเป็นจริงแล้วคนหนุ่มสาวควรตอบแทนสังคมบ้าง ... "
ติดตามตอนต่อไป...............