Chapter 84 - เขาคือลั่วเทียน!
Chapter 84 - เขาคือลั่วเทียน!
อมตะเมามาย ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเมืองภูเขาหยก.
อาหารอร่อยและสุรามากมายที่บ่มมาหลายสิบปี เมื่ออาหารได้ถูกเสริฟ์มาแล้วกลิ่นหอมของมันก็กระจายออกไปหลายไมล์ แม้ว่ามันจะวางอยู่ที่อมตะเมามาย.
นี่คือร้านอาหารที่เก่าแก่มานานนับศตวรรษ และเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว.
แต่คืนนี้ที่ห้องทานอาหารในร้านอมตะเมามายดูเหมือนจะหนาวเย็นและโดดเดี่ยว ไม่มีลูกค้าสักราย สิ่งที่แปลกคือห้องที่ชั้นสามกลับสว่างไสว.
นอกจากนี้ยังเป็นห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดของ ร้านอมตะเมามาย.
ภายในห้องส่วนตัว ซูเม่ย แต่งตัวที่เผยให้เห็นแตงโมสีขาวที่มีเสน่ห์ทั้งสองลูก เธอกำลังนั่งอยู่ในอ้อมกอดของชายคนหนึ่งและเธอก็พูดด้วยเสียงกระเส่า: “พี่ใหญ่เฉินหวู่ พี่เป็นชายที่ดีของข้า ท่านต้องพาข้าไปที่นิกายเมฆคราม.”
ขณะที่เธอพูด กลิ่นหอมของและลมหายใจของเธอก็พัดไปยังชายคนนั้น.
ทำให้ชายคนนั้นรู้สึกคันและน้องชายของเขาก็ชี้ไปยังท้องฟ้า.
ตั้งแต่ที่ซูเม่ยได้นั่งบนตักเขา เธอก็รู้สึกว่ามันมากระทบกับเธอ เธอเลื่อมมือลงไปและหัวเราะคิกคัก: “พี่ใหญ่เฉินหวู่ ท่านซนมาก.”
“มาเถอะ แม่ปีศาจน้อย!”
เฉินหวู่กำลังถูกล้อเล่นโดยซูเม่ยจนถึงขั้นหักห้ามใจไม่ได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่อยู่ในใจตอนนี้คือการกดทับเธอและต่อสู้อย่างดุเดือด!
แล้วคนที่ชื่อซูเม่ย?
หลายคนในเมืองภูเขาหยก ถูกเธอทำให้สบยแทบเท้า.
ความสามารถในการล้อเล่นของเธอสูงมากจนหลายคนไม่อาจต้านทาน เฉินหวู่เป็นแค่วัยรุ่นอาวยุ 19 ที่กำลังร้อนแรง เลือดของเขาไม่ต่างจากหมาป่าที่หิวกระหาย เพียงแค่ท่าทางไม่กี่ท่าของซูเม่ย เขาก็ถูกทำให้หลงเสน่ห์จนไม่อาจควบคุม ทำให้เขาต้องการถึงหอกและแทงไปที่ซูเม่ย.
ยกเว้น...
ขณะที่เขากำลังดึงหอกซูเม่ยก็ได้กระโดดออกและหัวเราะคิกคัก: “พี่ใหญ่เฉินหวู่ ท่านยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้.”
“ข้าตกลง.”
“ตั้งแต่ที่ข้าตกลง มันจะเป็นสัญญาที่ทำให้เป็นความจริง ไม่กี่วันที่เจ้ากลับไปที่นิกายเมฆคราม บิดาของข้าที่เป็นอาวุโสของของศาลานอก ดังนั้นเขาจึงมีวิธีหลีกเลี่ยงกฏที่จะทำให้เจ้าเป็นศิษย์.” เฉินหวู่พูดว่าเขาไม่สามารถรอได้อีก.
บริเวณเป้ากางเกงของเขาได้รับการกระแทกให้สูงขึ้น.
น้องชายคนเล็กของเขารู้สึกเจ็บปวดบ้างเพราะไม่อาจที่จะระบายได้.
เมื่อเห็นเฉินหวู่กระโดดมาท่างเธอ ซูเม่ยถอยหนีและยิ้มอย่างอ่อนโยน: “พี่ใหญ่เฉินหวู่ ได้โปรดอย่าใจร้อน ข้ายังต้องการกล่าวอะไรเพิ่มเติม.”
เฉินเว่นที่รู้สึกตื่นเต้นและเริ่มรู้สึกไม่อาจทนได้. “แค่บอกข้ามาเร็วๆ พี่ใหญ่คนนี้ช่วยเจ้าได้”
ซูเม่ยปิดรอยยิ้มอายๆของเธอด้วยแขนเสื้อ...
ท่าทางตอนนี้ของซูเม่ยราวกับถูกวาดออกมจากภาพวาดของหญิงที่ยังเป็นพรมจารี ถ้าลั่วเทียนมาเห็นตอนนี้เขาจะตะโกนด่าออกไปว่า: “นี่แม่คุณ ตอแหลให้น้อยลงได้หรือไม่?”
เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนที่เห็นซูเม่ยก็อดไม่ได้ที่จะด่าเธอ.
และแม้ว่าจะมีใครก็ตามี่อยู่ในเมืองภูเขาหยกจะกล้าสาปแช่งเธอได้งั้นรึ? เธอเป็นน้องสาวของซูซางเฟย ใครจะกล้าด่าเธอ?
เสียงของซูเม่ยแจ่มชัด: “ถ้าลั่วเทียนกลับมาอย่างมีชีวิต ข้าต้องการให้ท่านทำให้เขาเป็นคนพิการ แล้วข้าต้องการให้ท่านพาเขามาหาข้าเพื่อที่ข้าจะได้สามารถฆ่าเขาได้.”
“ลั่วเทียน?”
เฉินหวู่รู้สึกขุ่นเคือง: “ได้ ข้าสัญญากับเจ้า ถ้าเขากล้าที่จะเสนอหน้าของเขาต่อหน้าข้า แน่นอน ว่าข้าจะทำให้เขาสูญเสียการบ่มเพาะ สมบัติตัวน้อยของข้า มาเร็ว ฮี่ๆ…”
หลังจากที่พูดอย่างนั้นเฉินหวู่ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะไปด้านหน้า.
เวลานั้นซูเม่ยไม่ได้หลบหนี.
เธอเข้าใจอย่างชัดเจนถึงข้อจำกัดของเฉินหวู่ ถ้าเธอหลบมัน มันจะทำให้เขารำคาญและแผนของเธอจะติดขัด.
เธอค้นพบภูมืหลังของเฉินหวู่จากพี่ใหญ่ของเธอ ผู้อาวุโสนิกายเมฆครามในศาลานอกที่รับผิดชอบกับการหาสาวกใหม่ๆ ตราบเท่าที่เธอทำหน้าที่ได้ดีต่อเฉินหวู่ เธอจะเป็นสาวกของนิกายเมฆคราม อย่างง่ายดาย.
ตราบเท่าที่เธอได้รับอย่างก้าวกระโดด ซูเม่ยเชื่อมั่นในพลังและความงามของเธอ เธอคงจะสามารถยืนหยัดกในนิกายเมฆครามและเป็นสาวกภายในของนิกายเมฆคราม.
ผู้หญิงเช่นซูเม่ย-เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเธอ เธอจะใช้ทุกวิธีแม้กระทั่งร่างกายของเธอเอง.
แน่นอน...
เยื่อพรหมจารีของเธอได้ขาดไปแล้ว.
เฉินหวู่ทำท่าทางของเขาอย่างบ้าคลั่ง ซูเม่ยรู้สึกอึดอัด เธอแอบตะโกนในใจของเธอ: “มือใหม่ นี่เป็นมือใหม่จริงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการทำรักทำแบบไหน เขาไม่ได้พรหมจรรย์ใช้มั๊ย? 555… คืนนี้เราจะมีช่วงเวลาี่ดีเพื่อไม่ให้เขาทนไม่ไหวที่จะจากข้าไป.”
“เมื่อข้าควบคุมเส้นทางของเขาในอนาคต มันจะง่ายกว่าการสืบหา.”
“เมืองภูเขาหยกที่เล็กน้อยนี่จะเป็นเวทีแห่งชีวิตของข้าได้อย่างไร? 555…”
ซูเม่ยมีความสุข เธอมีความสุขมาก.
ทุกอย่างกำลังเข้าแผนของเธอ.
“พี่ใหญ่เฉินหวู่, เรา… เราควรจะกลับบ้านและทำ...ทำมันในห้องของข้า.” ซูเม่ยหน้าแดงขณะที่พูดอย่างน่ารัก.
หัวของเฉินหวู่พยักหน้าเหมือนไก่ที่กำลังจิกข้าว จากนั้นก็คว้าตัวซูเม่ยและเริ่มทำงานอย่างบ้าคลั่ง.
ทั้งสองเดินลงบันได.
เสี่ยวเอ้อร์วิ่งเข้าไปหาเขาและยิ้ม: “นายท่านทั้งสองทานเสร็จแล้ว? ทั้งหมด 370 เม็ดเงิน”
ใบหน้าของเฉินหวู่เปลี่ยนไปและเขาก็ตระโกนออกมา: “บิดาของเจ้าให้มากินร้านของเจ้าที่นี่ เจ้ากล้าที่จะเก็บเงินบิดา? ดูท่าจะอยากตาย?”
เสี่ยวเอ้อร์ถูกตบลอยออกไปถึง 3-4 เมตร ฟันหน้าของเขาหักออกมา 2 ซี่แก้มของเขาบวมและร่างกายของเขาสั่นไหว เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดสักคำเดียว.
ซูเม่ยหัวเราะคิกคักและตบมือชื่นชม. “พี่ใหญ่เฉินหวู่ทรงพลังมาก.”
ผู้จัดการร้านได้วิ่งเข้ามาและคำนับขอโทษ.
เฉินหวู่ไม่ได้มองเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเดินออกจากร้านอาหารและคนกว่าโหลก็อยู่ด้านหน้าของเขา.
คนเหล่านี้ล้วนมีเสื้อผ้าที่หยาบกร้านและทรงผมหยาบ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยสิ่งของสกปรกและกลิ่นเหม็นของเหงื่อโชยออกมา พวกเขาดูเหมือนพวกลี้ภัยมากกว่าขอทาน.
ยังคงมีลอยเลือดคล้ำๆในร่างกายของพวกเขา.
“ข้าจะกินข้าวอย่างน้อยแปดชาม ข้ากำลังจะอดตายเพราะไม่ได้กินข้าวในเดือนที่แล้ว.”
“ข้าอยากจะกินวัวสักสิบตัว ข้าฝันถึงเนื้อย่างที่อมตะเมามายทุกคืน ดังนั้นตอนนี้ข้าจะทำตามฝัน.”
“ทุกคนอยากทำก็คือกิน! อมตะเมามายเป็นที่รู้จึกในด้านสุรา เครื่องดื่มเพียงอย่างเดียวที่จะลืมช่วงเวลาที่เราสนิทสนมตัวสาวๆตัวน้อยที่กำลังบานสะพรั่ง, 555…”
“555…”
กลุ่มคนเหล่านี้คุยกันและหัวเราะเมื่อพวกเขาปรากฏตัว คนกว่า 12 คนหรือมากกว่านั้นได้รวมตัวกันปิดเส้นทางเฉินหวู่.
“ไอ้พวกขอทานเหล่านี้ ไม่อาจกลัวบิดา!”
ก่อนที่เสียงของเขาจะจางหาย เฉินหวู่ก็ได้เตะออกไป.
เขาใช้ความแข็งแรงของพวกเขาทั้งหมด เพราะเขาวางแผนที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ต่อหน้าซูเม่ย.
เว้นแต่...
ขาของเขาเตะไม่โดนอะไร มันมีแต่อากาศเพราะว่าพวกเขาหลบ.
“ทำไมเจ้าถึงต้องเตะผู้คน?”
“เจ้าเรียกใครว่าขอทาน?”
“บัดซบ กล้ามายะโสในเมืองภูเขาหยก? ทำไมเจ้าไม่แหกตาว่าพวกเราเป็นใคร?”
ทุกคนรู้สึกเดือดอย่างมาก คนอื่นๆยิ่งบ้ายิ่งกว่า.
ตั้งแต่ที่ขาของเขาได้สัมผัสอากาศ เขาก็เสียหน้าแล้วโดยเพราะต่อหน้าซูเม่ย ความโกรธของเฉินหวู่กำลังเผาไหม้ขณะที่เขาจ้องมองก่อนที่จะปรากฏตัวอยู่ด้านข้างทันที.
“วูซซซ~!”
เสียงที่ราวกับมิติที่ฉีกขาด ร่างกายของเฉินหวู่ได้เคลื่อนไหวมายังคนที่หัวเราะและฝ่ามือของเขาก็เหวี่ยงลงไปเพื่อตล.
เวลาเดียวกัน...
ดวงตาของชายหนุ่มก็หกเกร็ง ช่วงเวลาที่เฉินหวู่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของเขาก็ไวกว่าเฉินหวู่.
สาวกที่กำลังถูกตบไม่โดนในตอนนี้กำลังมีรอยยิ้มเย็นอยู่บนใบหน้า.
ท่าทางของเฉินหวู่ที่คบออกมาทำให้เขาก่นด่า“สุนัขสารเลว มาตายข้างๆข้า!”
คนนั้นรีบวิ่งไปป้องกันเฉินหวู่และตอยโต้ด้วยการตบออกไป เขากล่าวว่า: “พี่น้อง มันไม่ดีที่จะทุบตีคน”
เฉินหวู่รู้สึกเจ็บปวดที่ไหล่ผ่านฝ่ามือเพราะร่างกายของเขาไม่เสถียร เขารู้สึกท้อแท้ แต่ก็ยังก่นด่าออกมา “เจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้าที่จะข้องเกี่ยวกับบิดา? รู้ไหมว่าบิดาเป็นใคร?”
คนนั้นเงยหน้าและมีรอยยิ้มเย็น.
ซูเม่ยจ้องมองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคยและมีท่าทีน่าเกลียดบนใบหน้า ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย, “เขา เขา เขาคือลัวเทียน!”