ตอนที่ 50 ฝูงมอนสเตอร์ที่เพิ่มมา
หยี่ เยว่หยู่ หยี่เสิ่น และพวกที่เหลืออยู่ก็ดูจะมีสีหน้าที่มืดหม่นแสดงให้เห็นบนหน้าของพวกเขา
หลังจากที่ผ่อนคลายมาในช่วงบ่าย พวกเขาไม่คิดว่าจะได้รับข่าวร้ายเช่นนั้นในตอนนี้
ตอนนี้การสังหารหมู่มนุษย์ในเมืองขนาดเล็กทั้งสามได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นหมายความว่าเมืองภูเขาหิมะจะต้องถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์ทั้งหมดที่โจมตีเมืองขนาดเล็กทั้งสาม เป็นไปได้ว่ามอนสเตอร์จะมีมากกว่าเดิมถึงสี่เท่า!
คนอื่นๆก็รับรู้ได้เช่นกัน ทำให้บรรยากาศในสนามรบตอนนี้เย็นอย่างกับน้ำแข็ง
‘’หลิน ฮวงนายมีแผนการอะไรหรือไม่?”” โจว เล่อกล่าวด้วยเสียงอ่อนๆและสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ลง ขณะที่คาดหวังว่าหลิน ฮวงจะมีแผนการอะไร
หลิน ฮวงส่ายหัว ‘’ ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้นอกจากการต่อสู้ มาช่วยกันภาวนาให้จ้าวแห่งนักล่ามาถึงที่นี่ให้เร็วที่สุด’’
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนอีกครั้ง แม้ว่าทุกคนจะมีความกระตือรือร้นน้อยลง จากข่าวร้ายนี้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
ไม่มีนักล่าคนใดใน1000คนที่ประมาท พวกเขาล้วนป้องกันในแนวป้องกันของตน
เมื่อมันเป็นเวลา3ทุ่ม หยี่ เสิ่น ก็ได้ยินเสียงอึกทึกจากที่ไกล
มันกำลังเข้ามาใกล้หุบเขาด้วยความเร็วแสง
เขามองไกลในทิศทางนั้น แต่วิสัยทัศน์ของเขายังชัดเจนแม้กระทั่งในเวลากลางคืน
เขามองเห็นกลุ่มขนาดใหญ่ของมอนสเตอร์ที่กำลังใกล้เข้ามา
เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นมอนสเตอร์ประเภทใดเพรามีฝุ่นล้อมรอบพวกมัน แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือนใต้ฝ่าเท้าเขา
นักล่าจำนานมากล้วนสัมผัสได้เช่นกัน
หลิน ฮวง รู้ว่ามอนสเตอ์ที่ทำให้เกิดเช่นนี้จะต้องตัวใหญ่มากและมีจำนวนมาก
โดยปราศจากการยืนยันประเภทของมอนสเตอร์ หยี่ เสิ่น ได้ตะโกนร้องบอกผู้คนจากด้านบนของหินยักษ์
ในเวลานั้น เขาควรจะร้องกระตุ้นผู้คนหรือมิฉะนั้นแนวป้องกันจะพังทลายโดยง่ายหากขวัญกำลังใจเป็นเช่นนี้
“ทุกคน มอนสเตอร์จากหลายๆพื้นที่ได้อยู่ที่นี่ ฉันเชื่อว่าทุกคนจะสามารถสัมผัสได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือนและคุณควรจะรู้ดีว่ามอนสเตอร์มากมายกำลังมาทางเรา นี่คือเมืองสุดท้ายในเขตนี้ จ้าวแห่งมอนสเตอร์จะไม่ยอมแพ้จนกว่ามันจะทำลายเมืองนี้ ทางเลือกเดียวของเราคือการต่อสู้ให้ถึงที่สุด!นอกจากนั้น มันไม่มีทางออกอื่นใด”
“ตอนนี้ มันเป็นเวลา3ทุ่ม23นาที สมาคมนักล่าบอกว่าจ้าวแห่งนักล่าจะมาถึงที่นี่ภายใน48ชั่วโมง มันเหลือกว่าอีก9ชั่วโมงกว่าจะครบ48ชั่วโมง นั่นหมายความว่า เราต้องถ่วงเวลาไว้ให้ได้อีก9ชั่วโมง”
“ฉันเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับจ้าวแห่งนักล่าที่ทางสมาคมได้ส่งมา เขาคือหยู่ ฉางลี่ เขาคือนักล่าลำดับที่4ของเขต7 เขาคือผู้ควบคุมที่แข็งแกร่งเช่นกัน ตอนนี้ จ้าวแห่งมอนสเตอร์กำลังบาดเจ็บ ทันทีที่หยู่ ฉางลี่ มาถึงที่นี่ มันจะถูกฆ่าตายในทันที ฝูงมอนสเตอร์เองก็จะถอยไปเช่นกัน”เขากล่าวอย่างมั่นใจ
“ตอนนี้ เมืองอื่นๆได้ถูกทำลายจนสิ้น แต่ตอนนี้ เราจำต้องทิ้งเรื่องนี้ไว้ข้างหลังเรา มาร่วมแรงช่วยกัน!นับจากนี้ไป เป้าหมายของเราก็คือการปกป้องเมืองนี้ให้ได้9ชั่วโมง!พวกเราจะสู้เพื่อสิ่งนี้และเป็นเป้าหมายเดียวของเรา!เพราะตราบเท่าที่เราบรรลุเป้าหมายนี้ พวกเราทุกคนรวมถึงชาวเมืองกว่า2แสนคนในเมืองภูเขาหิมะจะรอด!”
คำพูดที่หยี่ เสิ่น ได้กล่าวมันมีประสิทธิภาพมาก มันไม่ชัดเจนว่ามันเป็นเพราะชื่อของหยู่ ฉางลี่หรือข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาต้องสู้อีกเพียง9ชัวโมง พวกเขาทุกคนล้วนรู้สึกฮึกเหิมขึ้น
แม้กระทั่งหลิน ฮวง ก็ยังเอ่ยซ้ำกับตัวเอง“อีกเพียง9ชั่วโมง พวกเราต้องทำได้!”
พวกมันคือช้างยักษ์หุ้มเกราะ แม้ว่าพวกมันจะเป็นมอนสเตอร์กลายพันธ์ พวกมันก็ไม่เหมือนใครอื่น เพราะพวกมันตัวใหญ่มาก!
พวกมันทั้งหมดล้วนสูงอย่างน้อย10เมตร พวกมันถูกพิจารณาให้เป็นยักษ์ท่ามกลางมอนสเตอร์ แม้กระทั่งไทแรนด์ที่อยู่ในระดับเหล็กขั้น3ยังถูกพิจารณาให้เป็นเด็กน้อยเมื่อยืนท่ามกลางพวกมัน
จากลำตัวของมัน ช้างยักษ์หุ้มเกราะมีเกราะเหล็กยาวตลอดจนถึงสะโพกมัน
ชิ้นส่วนเหล็กมันไม่ได้ถูกติดลงบนมัน พวกมันล้วนเกิดมาพร้อมกับมัน
มอนสเตอร์ดั่งกล่าวมีกระดูกที่ทำจากโลหะ นี่ทำให้พวกมันมีการป้องกันที่น่ากลัวซึ่งไม่มีมอนสเตอร์ใดครอบครอง
หยี่ เสิ่น ขมวดคิ้วเมื่อเขามองไปยังกลุ่มของช้างยักษ์หุ้มเกราะ
การดำรงอยู่ของพวกมันถือเป็นอันตรายอย่างแท้จริงต่อแนวป้องกันด้วยน้ำหนักของพวกมันและผลกระทบที่สามารถบดขยี้กำแพงหินยักษ์ได้
เมื่อกำแพงถูกทำลาย มอนสเตอร์ส่วนที่เหลือจะพุ่งเข้ามา
“เยว่หยู่ เธออยู่ที่นี่ พี่จะไปจัดการกับไอช้างนั่น!”หยี่ เสิ่น บอกกับหยี่ เยว่หยู่ขณะที่กุมดาบชั้นดีไว้ในมือ
เสื้อคลุมสีขาวของเขากระพือตามแรงลม จากนั้น เขาก็กระโดดไปยังก้อนหินยักษ์ที่ต่ำกว่า
เขาเดินไปบนหลังและหัวของมอนเสตอร์และวิ่งไปทางช้างยักษ์หุ้มเกราะ
เมื่อมองไปยังพี่ชายของเธอ หยี่ เยว่หยู่ ไม่ได้ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา ด้วยความสามารถของเขา ตราบเท่าที่จ้าวแห่งมอนสเตอร์ไม่ได้มาเอง เขาจะไม่มีทางเป็นอะไร
แม้ว่าช้างยักษ์หุ้มเกราะจะมีขนาดใหญ่ พวกมันส่วนมากก็อยู่ในระดับเหล็กหรือทองแดงเท่านั้น มีบางตัวที่อยู่ในระดับเงิน พวกมันไม่อาจคุกคามหยี่ เสิ่น ได้เลย
ไม่นานนัก หยี่ เสิ่น ก็ไปถึงตัวช้างยักษ์หุ้มเกราะ เขาเหวี่ยงดาบชั้นดีในมือเขา เผยให้เห็นแสงสีทอง เขาได้เจาะทะลวงผ่านหัวของช้างยักษ์หุ้มเกราะ
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้ฆ่าช้างยักษ์หุ้มเกราะไปนับร้อย
หยี่ เสิ่น กลับมาทันทีหลังจากที่เขาฆ่าช้างยักษ์หุ้มเกราะทั้งหมดลง เขาไม่ได้ละเลยการกระทำของเขาขณะที่เขารู้ว่าช้างยักษ์หุ้มเกราะเป็ฯเพียงฝูงมอนสเตอร์กลุ่มแรกเท่านั้น มันจะมีมากกว่านี้
เขากลับมาที่หินยักษ์และยืนบนนั้นด้วยมือที่ว่างเปล่าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หยี่ เยว่หยู่ ที่ยืนอยู่ตรงข้ามได้ยกนิ้วโป้งให้เขา เขามองไปทางอื่น เขาต้องการจะทำตัวเย็นชาแต่ก็อดที่จะยิ้มให้น้องสาวเขาไม่ได้
ในไม่ช้า มันก็มีฝูงมอนสเตอร์กลุ่มใหม่วิ่งทะยานมา อย่างไรก็ตาม หยี่ เยว่หยู่และหยี่ เสิ่น ก็ได้ยืนอยู่บนกำแพงหินยักษ์นั่นทำให้พวกมันไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำลายกำแพง
ทั้งคู่ยอมให้พวกมันรุดหน้าเข้ามา ดังนั้น มันจึงมีมอนสเตอร์อื่นที่กำลังเข้ามาใกล้อีก จากนั้น ฝูงมอนสเตอร์กลุ่มใหม่ก็มาเพิ่มเรื่อยๆ มอนสเตอร์ได้ปกคลุมไปทั่วทุ่งหญ้าด้านนอกหุบเขา
เมื่อ หยี่ เสิ่น พร้อมที่จะฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดภายใต้หินยักษ์ เขาก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนจากด้านหลังเขา
เขาหันไปมองและเห็นจุดสีดำด้านบนของเทือกเขาด้านหลังเมืองภูเขาหิมะ จุดสีดำมันตัดกับเทือกเขาสีขาวขณะที่พวกเขาพุ่งทะยานลงมา
เมื่อเธอสังเกตเห็นที่ที่หยี่ เสิ่น กำลังมอง หยี่ เยว่หยู่ก็ได้หันไปมองตาม
เธอกรีดร้อง“แมงมุมทราย?ฉันเกลียดแมงมุม!”เธอร้องเสียงแหลม
ริมฝีปากของหยี่ เสิ่น กระตุกเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หยี่ เยว่หยู่ร้องออกมา“ดึงสติเข้าไว้ นี่ไม่ใช่เรื่องของความเกลียด แมงมุมัน้นอยู่ไกลจากเรา พวกเราจะโจมตีมันได้ยังไง?”