ตอนที่ 130 ฆ่าอย่างสนุก
หวังเหมียนเหมียนมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตาที่เบิกกว้าง เธอรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่ในสวนสนุก แต่มันให้รู้สึกน่ากลัวและก็ระทึกใจมากกว่า
เธออยู่บนหลังของหานเซิ่น และได้เห็นภาพในมุมเดียวกับเขา เธอเห็นทุกการเคลื่อนไหว การหลบ การกวัดแกว่งอาวุธและการเข้าโจมตี
เมื่อเห็นหมาจิ้งจอกจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งตรงเข้ามา และพวกมันก็ตายหมดไม่มีเหลือ เธอรู้สึกว่าหานเซิ่นเหมือนกับเครื่องจักรสังหาร การเคลื่อนไหวของเขามันไร้ที่ติ
ทั้งหมาจิ้งจอกระดับกลายพันธ์และระดับโบราณต่างก็ถูกหานเซิ่นฆ่าด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว โดยไม่มีข้อยกเว้น
ตอนนี้หวังเหมียนเหมียนและหานเซิ่นชุ่มไปด้วยเลือด เสื้อผ้าและชุดเกราะของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงหมดแล้ว แม้แต่ผมสีบลอนด์ของหานเซิ่นในร่างแฟรี่ควีนก็มีเลือดไหลหยดลงมา
หวังเหมียนเหมียนรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช้จริง มันราวกับเธอกำลังดูหนังแอ็คชั่นที่ฆ่ากันเลือดท่วมจอ
หานเซิ่นเหมือนเครื่องจักรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตอนนี้ความกลัวของเธอเริ่มจางหายไป เธอรู้ว่าหานเซิ่นจะฆ่าพวกมันทั้งหมด ไม่ว่าพวกมันจะเข้ามากี่ตัวก็ตาม
ตอนนี้สัมผัสด้านการมองเห็นของหานเซิ่นนั้นเหนือมนุษย์ สายตาของแฟรี่ควีนนั้นเหนือกว่ามนุษย์หลายเท่า ทุกการเคลื่อนไหวของหมาจิ้งจอกอยู่ในการมองเห็นของเขาหมด แม้แต่ระดับกลายพันธ์ก็ยังเคลื่อนที่ช้าราวกับคนสูงอายุในสายตาของเขา
ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจจุดแข็งของแฟรี่ควีน แม้ว่ามันจะไม่ทรงพลังเหมือนกับวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างระดับเลือดศักดิ์สิทธิดวงอื่นๆ แต่สัมผัสทั้ง 5 ของแฟรี่ควีนนั้นเหนือชั้นมาก ตอนนี้เขาสามารถอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูได้หมด ทำให้เขาสามารถโจมตีได้อย่างแม่นยำ
"ช้าไป" หานเซิ่นเริ่มไม่สบอารมณ์กับความเร็วของหมาจิ้งจอก เพราะมันช้าจนทำให้ความเร็วในการฆ่าต่อเนื่องของเขาลดลง
'หวังว่ามันจะมีมากกว่านี้' หานเซิ่นเริ่มคิดถึงขั้นนี้
แต่หานเซิ่นก็ต้องระวัง เพราะระยะเวลาในการเปลี่ยนร่างของเขานั้นมีจำกัด เขาไม่สามารถเปลี่ยนร่างได้ตลอด เมื่อร่างกายของเขาไม่สามารถทนการเปลี่ยนร่างได้อีกต่อไป เขาก็ต้องกลับไปร่างเดิม ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆเขาตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ปีกเลือดศักดิ์สิทธิหนีไปพร้อมกับหวังเหมียนเหมียนทันที ซึ่งคนที่เหลืออาจจะต้องตายอยู่ที่นี่
'ต้องออกจากที่นี่ก่อนที่เวลาเปลี่ยนร่างจะหมดให้ได้' หานเซิ่นคิด เขาเริ่มกวัดแกว่งมีดเร็วขึ้นกว่าเดิม
คนอื่นๆที่เหลือตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นหานเซิ่นต่อสู้ในระยะประชิดมาก่อน พวกเขาเชื่อเสมอว่าหานเซิ่นเป็นนักธนูที่ดี และเขาจะไม่ยอมเข้าไปเสี่ยงชีวิตกับการต่อสู้ระยะใกล้
แต่เมื่อหานเซิ่นวางธนู และเข้าไปต่อสู้ ทำให้พวกเขารู้ถึงความน่ากลัวของหานเซิ่นในการต่อสู้ระยะใกล้
หมาจิ้งจอกระดับกลายพันธ์ถูกฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว พวกเขายังไม่เห็นหานเซิ่นพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
"สุดยอด!" ถึงพวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหานเซิ่นได้ แต่พวกเขาก็ได้เห็นการต่อสู้ที่สุดยอด ทำให้ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะส่งเสียงออกมา
มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิหอนอีกครั้ง และมอนสเตอร์กลายพันธ์เริ่มถอยหนีออกไป ขณะที่มอนสเตอร์โบราณวิ่งตรงเข้าไปหาพวกเขาเร็วขึ้นอีก
หานเซิ่นเริ่มเข้าใจว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิต้องการทำอะไร มันพยายามใช้จิ้งจอกระดับโบราณเข้ามาถ่วงเวลา ราวกับมันรู้ว่าหานเซิ่นจะเปลี่ยนร่างได้ไม่นาน และมันต้องการใช้จิ้งจอกระดับกลายพันธ์เข้าโจมตีอีกครั้ง ตอนที่เขากลับร่างเดิมแล้ว
"มันฉลาดเป็นบ้าเลย ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์นี่" แกมเบิลสบถออกมา มีดของเขาแทงไปที่คอของหมาจิ้งจอกโบราณอีกตัว ทำให้มันล้มลงไปบนพื้น และดิ้นด้วยความเจ็บปวด
หานเซิ่นมองจิ้งจอกเลือดศักดิ์สิทธิด้วยแววตาที่มืดมน มีดในมือของเขาหายไป และธนูอสูรพิษเขาดำก็ปรากฏในมือของเขาแทน
ลูกธนูวิญญาณอสูรแบล็คสจริงเกอร์กลายพันธ์ถูกบรรจุเข้าไป และเล็งไปที่จิ้งจอกเลือดศักดิ์สิทธิที่ยืนอยู่บนเนินทราย
"มันอยู่ไกลเกินไป นายจะยิงมันถึงหรอ?" ซูเสี่ยวเฉียวเช็คระยะห่างของพวกเขาและราชาหมาจิ้งจอกแล้ว มันไกลเกินไปจริงๆ ซึ่งมันอยู่ห่างออกไปประมาน 1.5 ไมล์
ด้วยระยะขนาดนี้ แม้แต่หานเซิ่นก็ไม่น่าจะยิงถึง แล้วเขาจะฆ่ามันได้ยังไง? ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าธนูของหานเซิ่นเป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิ
ราชาหมาจิ้งจอกเองก็คิดแบบเดียวกับซูเสี่ยวเฉียว มันจ้องไปที่หานเซิ่นราวกับกำลังเย้ยหยัน
"บ้าเอ้ย เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์มาก" แกมเบิลร้องออกมา เมื่อเห็นท่าทางของราชาจิ้งจอก
มือของหานเซิ่นยังคงตั้งอย่างมั่นคง ลูกธนูเปลี่ยนเป็นเงาสีดำ และพุ่งผ่านอากาศตรงไปที่ราชาหมาจิ้งจอก
ราชาหมาจิ้งจอกระดับเลือดศักดิ์สิทธินั้นฉลาดมาก มันไม่แม้แต่จะหลบลูกธนูที่ยิงเข้ามา
มันคิดว่าถ้าธนูของเขาทรงพลังจริง เขาน่าจะใช้มันก่อนที่หวังเหมียนเหมียนจะถูกล่อมาที่นี่แล้ว
แต่ไม่นานมันก็ต้องตื่นตระหนัก เพราะลูกธนูพุ่งมาเร็วกว่าที่มันคิดไว้
สวบ!
ในที่สุดมันก็เปลี่ยนใจจะวิ่งหลบ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ลูกธนูปักทะลุเข้าไปที่ขาคู่ข้างของมัน มีเลือดไหลออกมา พร้อมๆกับเสียงร้องครวญคราง
ราชาหมาจิ้งจอกที่ท่าทางหยิ่งยโส ถูกยิงล้มลงไปดิ้นอยู่บนเนิน
เมื่อได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานของราชา พวกหมาจิ้งจอกทะเลทรายก็หยุดการโจมตีของพวกมัน และหันไปมองราชาหมาจิ้งจอกที่อยู่บนเนิ่น
แต่แน่นอนว่าพวกมันต้องไม่เห็นราชาหมาจิ้งจอก เพราะมันเพิ่งถูกยิงล้มลงไป ทำให้พวกจิ้งจอกทะเลทรายตกอยู่ในความกลลาหลทันที พวกมันไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรต่อไป
"เร็วเข้า" หานเซิ่นสั่งการและพุ่งออกไป