บทที่ 13 เพิ่มผู้ช่วย (อ่านฟรี)
หลังจากนั้นสักพัก ครอบครัวเฝิงนั่งจับเข่าคุยกันอีกครั้ง แน่นอนว่านี่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของเฝิงหยู่ ร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆจากรอยตีไม้กวาด
"แม่เคยคิดว่าเสี่ยวหลี่ไม่เลวร้ายอะไร แต่ดูเหมือนว่าเเม่คิดผิด! เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังทำตามแนวคิดของเสี่ยวหยู่ จะใครอีกที่บอกเรื่องเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลให้เสี่ยวหยู่รู้? บอกแม่มาสิว่าเคยมีใครทำเงินจากพันธบัตรรัฐบาลมาก่อนไหม? ถึงแม้จะมีใครที่เคยทำเงินได้จากพันธบัตรเหล่านี้มาก่อน ต่างก็เสี่ยงโชคทั้งนั้น" จางมู่วาดุด่า เธอยังยอมรับไม่ได้ และยังตำหนิลูกชายของเธอและหลี่ซื่อเฉียงต่อไป
"แม่คะ ซื่อเฉียงก็ถูกเสี่ยวหยู่ชักจูง เสี่ยวหยู่ยังบอกด้วยว่านี่เป็นความคิดของพ่อ ซื่อเฉียงจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำตาม " เฝิงตันอิงพยายามอธิบาย
"ไปเดี๋ยวนี้ โทรพวกเขาตอนนี้และเอาเงินกลับมา!" จางมู่วากล่าว
" แม่ครับ แม่เชื่อใจผมเถอะ พวกเราสามารถทำกำไรมหาศาลจากการลงทุนนี้ แม้แต่ครูซุนก็ยังพูดอย่างนั้น อีกอย่าง นี่ไม่ใช่การเสี่ยงโชค อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ พวกเราจะต้องพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจผลิตเป็นสินค้าเพื่อขายที่ถูกวางแผนเอาไว้ และนี่คือเศรษฐกิจผลิตเป็นสินค้าเพื่อขาย* " เฝิงหยู่กล่าว
เฝิงหยู่อธิบายศัพท์แสลงการลงทุนบางอย่างซึ่งแม่ของเขาไม่เข้าใจ หลังจากที่เฝิงหยู่สัญญาว่าจะขอให้หลี่ซื่อเฉียงเหลือเงิน 10,000 หยวน ความโกรธของผู้เป็นมารดาจึงสงบลง
ระหว่างทางที่กำลังเดินไปตู้โทรศัพท์ยังที่ทำการหมู่บ้าน เฝิงตันอิงยังคงตำหนิเฝิงหยู่ "เธอฝากฝังทุกอย่างไว้ที่ซื่อเฉียงได้ยังๆงกัน?"
"พี่เป็นพี่สาวของผมนะ ถึงพี่ยังไม่ได้ภรรยาของเขาก็เถอะ แล้วทำไมพี่ต้องช่วยคนนอกด้วย! พี่ก็เห็น พ่อกับแม่ไม่ได้โกรธมากนัก เพราะพี่หลี่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ เราจะสร้างรายได้จากสิ่งนี้ได้แน่นอน และพ่อก็ต้องการเงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อบ้านในเมืองปิงให้พี่หลังหนึ่ง" เฝิงหยู้ตอบโต้
"สรุปแล้ว เธอนะเจ้าเล่ห์เพทุบาย ส่วนซื่อเฉียงคนซื่อสัตย์ที่ถูกเธอล่อหลอก! "
"ได้ ได้ ผมมันแย่ที่สุด แต่อย่าลืมว่าเป็นเพราะผม พี่และพี่หลี่ถึงได้พากันมาเจอกพ่อแม่" เฝิงหยู่บ่นอุบอิบ
ที่ทำการหมู่บ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะหยิบโทรศัพท์ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่หลี่ซื่อเฉียงโทรมาพอดี
"สวัสดีครับ พี่หลี่? พี่เพิ่งได้พบกับพี่สาวของผมเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง แล้วตอนนี้พี่ก็คิดถึงพี่ผมแล้วหรือ?" เฝิงหยู่หยอกล้ิ
"เสี่ยวหยู่ อันที่จริงพี่จะโทรหาเธอ พี่เพิ่งค้นพบว่าพันธบัตรรัฐบาลมีผลกำไรมากกว่าที่เราคิดเอาไว้! " หลี่ซื่อเฉียงกล่าวอย่างตื่นเต้น
หืม? เขาหมายถึงอะไร? เราสามารถสร้างรายได้จากพันธบัตรรัฐบาลได้แล้วหรือ?
เฝิงหยู่พิจรณาไตร่ตรองเกี่ยวกับการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น และลืมเกี่ยวกับเงินถึงกำหนด* มีคนจำนวนมากถือครองพันธบัตร 5 หยวนและ 10 หยวน บางคนมีพันธบัตรครบกำหนดแล้ว ส่วนใหญ่พันธบัตรส่วนใหญ่ในขณะนั้นเงินจะถึงกำหนดในเวลา 5 ปีและได้ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ซึ่งหมายความว่า เมื่อพันธบัตรรัฐบาล 10 หยวนครบกำหนดไถ่ถอน พันธบัตรจะเป็น12 หยวน
อย่างที่หลี่ซื่อเฉียงกล่าวก่อนหน้านี้ เมื่อตอนพันธบัตรรัฐบาลถูกตีพิมพ์มาจำหน่าย ได้เกิดการต่อต้านเป็นอย่างมาก รัฐบาลบังคับให้คนงานในหน่วยงานรัฐบาลและบริษัทต่างๆซื้อพันธบัตรเหล่านี้
หลายคนจึงลืมไปว่าตนเองเป็นเจ้าของพันธบัตรรัฐบาล เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลี่ซื่อเฉียงกำลังกว้านซื้อพันธบัตรรัฐบาล พวกเขาต่างกลับไปหาพันธบัตรของพวกเขา และด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงตระหนักว่าพันธบัตรรัฐบาลของพวกเขาครบกำหนดแล้ว
สำหรับคนเหล่านี้ การไปที่ธนาคารเพื่อรับเงินคืน 2 หยวนเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่าจ้างเพิ่มอัตราสูงขึ้น ไม่คุ้มค่ากับการเดินทางไปธนาคารเพื่อเงินสองหยวน
หลี่ซื่อเฉียงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการหาซื้อพันธบัตรรัฐบาล เขาเสนอเงิน 9.5 หยวนสำหรับพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 10หยวน แต่คนส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะขายพันธบัตรของพวกเขาให้หลี่ซื่อเฉียง
เฟิ นน
บางครั้ง หลี่ซื่อเฉียงอาจจะพบกับใครบางคนที่มีพันธบัตรครบกำหนดซึ่งสามารถแลกเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารทันที หลี่ซื่อเฉียงจะเสนอมูลค่าราคาเดิมสำหรับพันธบัตรเหล่านี้ เขาจะเสนอเงิน10 หยวนสำหรับพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 10 หยวน เขาจะสามารถทำเงินได้ 2 หยวนเมื่อเขาไปถอนที่ธนาคาร
แต่วิธีนี้ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก ข้อเสนอสำหรับพันธบัตร 10 หยวนควรเป็นมูลค่าอย่างน้อย 11หยวน หลี่ซื่อเฉียงคิดกับตัวเองว่า "ถึงแม้จะใช้เงิน 11หยวน เพื่อซื้อพันธบัตร 10 หยวน ก็ยังคงสามารถไถ่ถอนที่ธนาคารก็ยังได้ 12 หยวน ถ้าฉันใช้เงินจำนวน 110,000 หยวนเพื่อซื้อพันธบัตรเหล่านี้ และนำไปถอนที่ธนาคาร ฉันจะได้รับเงินคืน 120,000 หยวน "
ดังนั้น เขาจึงโทรหาเฝิงหยู่เพื่อถามว่าวิธีนี้ดีหรือเปล่า เขารู้สึกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องรอให้พันธบัตรรัฐบาลถูกประกาศให้ซื้อขายกันได้อย่างเปิดเผย.. เฝิงหยู่ตกใจ เขาไม่คิดว่าหลี่ซื่อเฉียงจะฉลาดและยืดหยุ่น แน่นอนพวกเขาสามารถทำธุรกิจนี้ได้!
ในชีวิตที่ผ่านมา เขาเคยได้ยินว่าบางคนทำเช่นนี้ พวกเขาไปมาหาสู่แต่ละบ้านเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด พันธบัตรรัฐบาล10หยวน พวกเขาจะเสนอราคา 11 หยวน พวกเขาจะได้กำไรจากดอกเบี้ย แต่นี่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก
เฝิงหยู่ไม่คิดว่า จะมีผู้ใดที่ไม่ได้เดินทางไปที่ธนาคารเพื่อขึ้นเงินพันธบัตรตั๋วรัฐบาลที่ครบกำหนด และไม่มีใครรู้ว่าที่จะทำมัน มีบางคนที่รู้ว่าพันธบัตรของพวกเขาครบกำหนด แต่คงไม่ลำบากลำบนไปต่อคิวขึ้นเงินที่ธนาคาร เวลาของพวกเขามีค่ามากกว่าผลตอบแทน 2หยวน
"พี่หลี่ พี่เป็นอัจฉริยะ! เราสามารถเสนอราคาที่สูงขึ้นสำหรับพันธบัตรที่จะครบกำหนดภายในสามเดือน แต่ไม่ใช่สำหรับพันธบัตรที่เกินสามเดือนนะ! เราจะรอให้พันธบัตรรัฐบาลถูกซื้อขายกันได้อย่างเปิดเผย ผมรับประกันได้ว่าเราสามารถทำเงินเป็นพัน ๆ ดอลลาร์ได้ทุกวัน! "
"อะไร? ทำเงินวันละพันทุกวัน? อย่างน้อยๆก็มากกว่า30,000 หยวนต่อเดือนเชียวนะ และมากถึง 300,000 หยวนต่อปี? "มือของหลี่ซื่อเฉียงเริ่มสั่น ถ้ามี300,000หยวน เขาคงเก็บออมเงินเดือนทั้งหมดและ ไม่ใช้จ่ายสักแดงเดียวตลอดชีวิต
ในความเป็นจริง 300,000หยวนเป็นเพียงส่วนแบ่งของหลี่ซื่อเฉียง เฝิงหยู่สามารถมีรายได้อย่างน้อยเป็นล้าน! แต่เขาจะต้องรอให้เมืองเปิดการซื้อขายพันธบัตรก่อน ถ้าเป็นเมืองๆเดียว มันยังไม่มีความแตกต่างของราคาตลาด
"พี่หลี่ วันนี้พี่ได้ซื้อพันธบัตรมากแค่ไหน?" เฝิงหยู่ถาม
"อ่า~ ~ ประมาณ 1000หยวนเท่านั้น"
เฝิงหยู้อ้ำอึ้งหมดคำพูด วันหนึ่งเสาะหาพันธบัตรรัฐบาลได้ 1000 เท่านั้น? ต้องใช้เวลานานเท่าไถึงจะได้ 100,000?
"ทำไมน้อยขนาดนั้น?" เฝิงหยู่ถาม
"ไม่มีทางเลือก. เป็นพันธบัตร50หยวนทั้งหมด พันธบัตรมูลค่าสูงมีจำนวนน้อยมาก อากาศก็หนาวและพี่คนเดียวมีเพียงจักรยานเป็นยานพาหนะเท่านั้น " หลี่ซื่อเฉียงตอบ
หลี่ซื่อเฉียงคืนรถจี๊ปไปแล้ว และเดินทางไปรอบ ๆ ด้วยจักรยาน
"พี่หลี่ นี่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ พี่ทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าพี่ทำคนเดียวพี่จะรวบรวมมาได้สักเท่าไหร่? พี่มีเพื่อนที่เชื่อถือได้หรือเปล่า คนที่มีเวลาและแข็งแรงดี? ขอให้พวกเขาช่วยพี่กว้านซื้อพันธบัตรรัฐบาล เราจ่ายเงิน 100 หยวนต่อเดือน! " เฝิงหยู่กล่าว
หลี่ซื่อเฉียงรู้สึกว่าค่าจ้างสูงเกินไป: "100 หยวน?" ฉันมีรายได้เพียงเล็กน้อยเกือบจะ 80 หยวนต่อเดือนเองนะ! "
"พี่หลี่ พี่ยังต้องทำงาน พี่จะเอาเวลาที่ไหนมาทำเช่นนี้? พี่ลางานทุกวันไม่ได้หรอก จ้างพวกเขาเพื่อช่วยพี่หาซื้อพันธบัตรรัฐบาล กฎก็คือสิ่งที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับพันธบัตรที่จะครบกำหนดภายในช่วงเวลาเวลาสามเดือนนี้ราคาจะสูงขึ้น สำหรับพันธบัตรเหล่านั้นที่มีอายุน้อยกว่าหนึ่งปีราคาจะเท่าราคาเดิม และสำหรับพันธบัตรที่มีอายุมากกว่าหนึ่งปีเราจะเสนอ 95% ในการซื้อ" เฝิงหยู่กล่าว
"ตกลง. มีหอพักหลังบ้านของพี่ ที่นั่นมีวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีอยู่ เด็กเหล่านี้ไม่มีงานทำ ได้แต่เตร็ดเตร่เอ้อระเหยไปรอบ ๆ พี่จะให้พวกเขารวบรวมพันธบัตรเหล่านี้ ถ้าค่าจ้างเป็น 100 หยวนต่อเดือน พวกเขาจะต้องรับงานนี้แน่" หลี่ซื่อเฉียงตอบอย่างตื่นเต้น
หลี่ซื่อเฉียงทำงานได้ไม่ถึงหนึ่งปีและตำแหน่งของเขายังไม่สูง เขาจึงไม่คิดว่าจะได้เป็นหัวหน้าคนตากการทำธุรกิจเล็ก ๆนี้
"ตกลง พี่หลี่ อา, อา อา~ พี่สาวอย่าแย่งโทรศัพท์สิ ผมยังคุยไม่เสร็จ "
* ในยุคนั้น มีครัวเรือนไม่มากนักที่มีโทรศัพท์ หมู่บ้านส่วนใหญ่จะมีโทรศัพท์เพียงแห่งเดียวในที่ทำการหมู่บ้าน ถ้ามีคนโทรเข้ามา จะประกาศใช้ระบบ P.A ของหมู่บ้าน
( เศรษฐกิจผลิตเป็นสินค้าเพื่อขาย (Commodity Economy) เป็นระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ผลิตสินค้าเพื่อขาย ไม่ใช่เพื่อบริโภค ปัจจุบันเรียกว่า เศรษฐกิจการตลาด)
( เงินถึงกำหนด (Maturity Value) คือ เงินหน้าตั๋วบวกดอกเบี้ยตามตั๋วสัญญาใช้เงิน )
(คนจีนเวลาเรียกใครที่อายุน้อยกว่าจะเติม เสี่ยว ไว้ด้านหน้า ถ้าเรียกคนที่อายุมากกว่าจะเติม เหล่า ... แปลตรงตัวเลย ประมานว่า เจ้าหนู กับ ตาเฒ่า หรือ เด็กน้อย กับ ผู้เฒ่า)