ตอนที่ 89 ความไม่รู้ [อ่านฟรีวันที่ 3 เมษายน 2561]
เสียงของจักจั่นทำให้ซิมโฟนีเป็นที่รู้จักในช่วงฤดูร้อน
เงาของป่าไม้หนาทึบและใบไม้ที่ปลิวลอยไปพร้อมกับสายลมที่บางครั้งกวาดผ่านเหล็กและคอนกรีตในป่าเผยให้เห็นกลิ่นอันลึกลับและเยือกเย็น
มันเป็นผู้คน
ชุดสีขาวรุ่งเรืองเหมือนดอกลิลลี่ในยามเช้า คล้ายกับดอกบานแห่งความรักครั้งแรก ความเงียบและใบหน้าที่นิ่งสงบตลอดเวลากำลังถูกวาดลงปกหนังสือนวนิยาย บางครั้งก็ดีใจ บางเวลาก็ทุกข์
[อิจฉาอย่างมาก..ถ้าผมเป็นเพียงหนังสือเล่มนั้น]
“โย่ เจียงเฉิน มึงกำลังน้ำลายไหลว๊ะ” จ้าวเผิงเข้าหาเจียงเฉินขณะที่เขากระแทกเจียงเฉินด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
“ไปให้พ้น” เจียงเฉินเหลือบมองเขาและขยับตัวเล็กน้อยลงบนโต๊ะเพื่อนอน
ราวกับว่าเขาตั้งใจหันหน้าไปทางนั้น
“อแฮ่ม ถ้ามึงชอบเย้าติงติงแล้วมึงควรชวนเธอไปเดท วู..” เจียงเฉินทันทีกระโดดขึ้นและปิดปากเพื่อนที่ดีของเขา
“มึงต้องการที่จะตายใช่ไหมว๊ะ!” เจียงเฉินจับคอของจ้าวเผิงขณะที่เขาตะโกนไปที่จ้าวเผิงด้วยเสียงเงียบๆแล้วใบหน้าของเขาแดง
ด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง จ้าวเผิงแกล้งตายในขณะที่กลิ้งดวงตาของเขา
สาวๆหันหน้าไปที่ด้านพวกเขาและเป็นพยานกับการเล่นที่อึกทึกและเริ่มหัวเราะคิกคัก ในขณะที่เด็กผู้ชายคนอื่นๆที่อยู่ใกล้กับเจียงเฉินและจ้าวเผิงล้อมรอบพวกในลักษณะเอะอะ
ราวกับว่าถูกดึงดูดโดดยความสับสน เทพธิดาจ้องมองไปในทิศทางของพวกเขา
และทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย
เจียงเฉินรู้สึกว่าหัวใจของเขาแทบหยุดลง
หูของเขาเริ่มอุ่นขึ้น
โอ้ ไม่ ผิวของเขาร้อนๆ
เย้าเย้าติงติงอาจคิดว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอเสียงดังเกินไปดังนั้นเธอจึงปิดหนังสือของเธอและออกจากห้องอย่างเงียบๆ
“อ๊าาา! เหี้ย มึงใช้ฟันของมึงนี่หว่า” เจียงเฉินรู้สึกเจ็บปวดจากจ้าวเผิง
“มึงแม่งเหี้ยเกือบทำให้กูตาย!” จ้าวเผิงหายใจหนักขณะที่เขาจับอกของเขาและมองเจียงเฉินอย่างน่ารังเกียจที่สุด
เมื่อเด็กผู้ชายเห็นว่าความสับสนวุ่นวายหมดลง พวกเขาทั้งหมดแยกย้ายด้วยการหัวเราะ สาวสองคนข้างหน้าเริ่มพูดถึงรายการทีวีเมื่อคืนนี้และห้องเรียนกลับคืนมาสู่ความสงบสุขในอดีต
ยกเว้นผ้าม่านหน้าต่างที่กระพือในสายลม
วันธรรมดาที่รู้สึกถูกเติมเต็ม
มันรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างทำให้รู้สึกถึงความคิดถึง
-
11 มิถุนายน 2171 ฤดูร้อน
ช่วงฤดูร้อนของโรงเรียนใกล้จะจบไปแล้วและจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้น
วันนี้ผมได้เฝ้าดูเธออีกครั้ง
ผมคิดว่าผมได้ตัดสินใจที่จะปราบปรามความรู้สึกของผมสำหรับเธอในด้านล่างของหัวใจของผม
ไม่ นั่นไม่ถูกต้องหรืออาจเหมือนกับที่จ้าวเผิงกล่าวไว้ ผมควรจะชวนเธอออกไปเดท
ไม่ ไม่ ม่ นั่นเป็นไปไม่ได้...เธอสวยมาก ฉลาดมาก ต้องมีคนมากมายที่ชอบเธอ ถ้าผมชวนเธอไปออกเดทและเธอปฏิเสธผมแล้วเราก็ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกต่อไป
เอ๊ะ? บางทีตอนนี้เราอาจจะไม่ใช่แม้แต่เพื่อนหรือปล่าว?
“อ๊าา...” เจียงเฉินกระแทกแผ่นบันทึกบนเตียงหลังเขาขณะที่เขาวางหัวลงบนโต๊ะและเอามือกุมหัว
[ถ้าผมทิ้งไดอารี่นี้ไว้ด้านหลังแล้วความอายของผมจะจมลงไปในประวัติศาสตร์ในอนาคต มันจะฆ่าผม ไม่ เหี้ย! ผมเป็นผู้ชายดังนั้นทำไมผมจึงขัดแย้งอย่างมาก? ถ้าผมชอบเธอ ผมสามารถข่มขืนเธอได้ แล้วเราจะทำได้ยังแม้แต่ชวนเธอออกไปเดทก็ยังไม่กล้า ถ้าผมไม่สามารถครอบครองเธอ ผมจะบังคับเธอ ถ้าไม่ได้ผมก็จะใช้ยาเสพติดกับเธอ ถ้าเราเลิกกันแล้วก็ส่งภาพเปลือยของเธอให้เธอ ถ้าผมไม่สามารถแบกรับผลกระทบของการไปเข้าคุกแล้วผมจะมีความกล้าที่จะบอกว่าผมชอบเธอได้อย่างไร! ไม่มีการใช้ความขัดแย้งกัน หืม? บางสิ่งแปลกๆอาจเข้ามาในตัวเราหรือปล่าว]
…ยังคงรู้สึกขัดแย้ง
เขาจ้องมองเมฆบนโต๊ะของเขาอย่างไม่มีเหตุผลขณะที่ความคิดของเขาเดินออกไป
หลังจากช่วงเวลาที่ดีก่อนที่เขาจะนึกถึงความคิดของเขาจากสถานะที่ผิดธรรมชาติ
“นี่เป็นปัญหาของความรู้สึกของวัยรุ่นหรือไม่?” หลังจากที่คิดชั่วครู่หนึ่งเจียงเฉินถอนหายใจขณะที่เขาขยี้ผมยุ่งๆของเขา
[เอ๊ะ? ผมคิดว่าผมมีผมสั้นไม่ใช่หรอ?] เจียงเฉินงงงัน มือของเขาหยุดชั่วขณะ
[นี่เป็นภาพลวงตาใช่ไหม? ใครจะตัดผมทรงน่าเกลียดเช่นนี้?]
“เมื่อไหร่ที่ผมเริ่มเขียนไดอารี่นี้อีกครั้ง? อะไรคือประเด็นของเรื่องนี้ บันทึกมันแล้วดังนั้นผมจะต้องอายในอนาคต?” เจียงเฉินสแกนนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ด้านข้างแล้วถอนหายใจ
[ตอนนี้ 8 โมงแล้ว ดี ผมจะหยุดคิดเกี่ยวกับเธอและไปออกกำลังกายดีกว่า]
เขาคิดถึงเรื่องนี้ขณะที่เขาลุกขึ้นยืน เขาเหยียดแขนขาที่เมื่อยล้าของเขาและเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
เพราะเขาไปเรียนห่างจากบ้านเกิดของเขาดังนั้นพ่อแม่ของเขาเลยไม่ได้อยู่กับเขา เมื่อไรเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง?
จุดเริ่มต้นของรุ่นพี่ ถูก
ความทรงจำที่มีชีวิตชีวาเข้ามาในหัวของเขาขณะที่มันเติมเต็มหน่วยความทรงจำเล็กน้อยที่แปลกๆ
เขาเดินไปที่ห้องครัวแล้วเปิดประตูตู้เย็นและเอาขวดโค้กก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาทรุดตัวลงบนโซฟานุ่มแล้วคว้าแก้วและเทหนึ่งสำหรับตัวเอง จากนั้นเขาก็กดรีโมททีวีในลักษณะสบายๆ
ไฟกระพริบและเงาสะท้อนบนหน้าจอสีฟ้าอ่อน เหมือนกับหน้าต่างที่อยู่เบื้องหลังมันเป็นฉากหลังฉากละคร
รายการทีวีเริ่มออกอากาศแล้ว...
-
“คิคิ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณไปได้อย่างง่ายดายจนกว่าฉันจะเสร็จการแกล้งคุณ” หญิงสาวเปลี่ยนท่าทางของเธอโดยการไขว้ขา สีขาวทำให้หัวใจของไคลน์สั่นไม่สามารถควบคุมได้ มือที่เรียวงามของเธอค่ำยันใบหน้าที่น่าตกตะลึงของเธอขณะที่เธอกลับไปนั่งเงียบๆบนบัลลังก์ ตำแหน่งที่คล้ายกับขุนนางที่ชั่วร้าย แต่สวยงามและลึกลับ
“คุณอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณตอนนี้?”
ไคลน์รู้สึกรอยยิ้มซนที่เกิดขึ้นบนใบหน้าเลือนแต่งดงาม ลำคอของเขาเคลื่อนไหวขณะที่เขาพยายามทำให้วิสัยทัศน์ของเขาชัดเจนขึ้นแต่มันก็ไร้ประโยชน์ มีความรู้สึกแย่มากราวกับว่าเขาเป็นเหมือนชิ้นเนื้อบนกระดานสับ
“แล้วมองไปใต้คุณ”
ไคลน์ใช้สติเลือนลางของเขามองลง เขาเห็นว่าทั้งสองเท้าของเขาจมอยู่ในน้ำตื้นที่มีกลีบดอกไม้ลอยอยู่ “กลิ่นหอมมาจากใต้ฝ่าเท้าของผม?” เขาสงสัยอย่างมึนงง
ผ่านการสะท้อนจากสระน้ำ เขาเลือนรางเห็นรูปแบบปัจจุบันของเขา ดูเหมือนเขาจะผูกติดกับไม้กางเขน นริมฝีปากของเขาผูกติดกับโซ่บางๆ แต่น่าแปลกที่แขนขาของเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลย
“คุณไม่คิดว่านี่เป็นสิ่งที่สวยงาม…”
-
“ราชอาณาจักรดัช” ดูเหมือนจะเป็นรายการทีวียอดนิยมที่สาวๆนั่งอยู่หน้าเขากำลังพูดถึงละครเรื่องนี้
ความคิดของเจียงเฉินเดินขณะที่เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าที่หน้าจอ
ละครแนวพังก์ที่อิงกับนวนิยายที่เล่าเรื่องราวของสมัยโบราณ น่าแปลกใจที่การแสดงประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก ภายใต้ผลของความเป็นจริงที่เพิ่มขึ้น มันรู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ในที่เกิดเหตุของตัวเอง
เมื่อย้อนหลัง ฉากค่อนข้างรุนแรง การออกอากาศในทีวีสาธารณะเป็นเรื่องปกติหรือไม่? ด้วยเหตุผลบางประการเจียงเฉินไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาแค่ใจลอยและเขาแม้กระทั่งถูกกระตุ้นให้หาว
ชายชื่อไคลน์ควรถูกกัดโดยแวมไพร์ต่อไป เขาอาจจะไม่ตายเพราะ...เดี๋ยวก่อน ทำไมพล็อตจึงดูคุ้นเคย?
[พวกขโมยความคิดอย่างไร้ยางอาย...] เจียงเฉินสาปแช่งในใจของเขาขณะที่เขาดื่มน้ำโค้ก คิ้วของเขาขมวดเริ่มขุ่นเคือง
“ผมชอบดื่มโค้กยังงั้นหรอ?” เขาคว้าขวดจากตู้เย็นอย่างเช่นก่อน
ทันทีที่คำพูดออกจากปากของเขา เขาก็รู้ว่าคำถามนั้นเป็นคำถามที่โง่
พล็อตต่อเนื่องบนหน้าจอ
แน่นอนไคลน์ไม่ตาย แวมไพร์ดูดเลือดออกจากร่างกายของเขาเท่านั้น ไคลน์ถูกเอาตัวไปโดยแม่บ้านของแวมไพร์และละครก็เริ่มแสดงโพสต์เครดิต
ใช่แล้วถ้าตัวละครหลักตายไปแล้วเรื่องราวจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไร?
เจียงเฉินเปลี่ยนช่องทีวีและมองไปที่นาฬิกา
[มันเป็นช่วงปลายเดือนแล้ว เวลาตีกระสอบ] เขาคิดขณะที่เดินเข้าไปในห้องนอน
กับสมุดบันทึกบนเตียงของเขา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจ
“ผมควรจะฉีกมันออก ถ้าคนอื่นเห็นบันทึกที่น่าอายนี้แล้วผมตายซะยังดีกว่า” เจียงเฉินยิ้มหยาบคายและหยิบสมุดไดอารี่
เขาฉีกกระดาษออกแล้วขยี้โยนลงในถังขยะ จากปกของไดอารี่มีหน้าฉีกขาดจำนวนมาก มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาลบประวัติที่น่าอาย
เขาโยนไดอารี่ลงบนโต๊ะขณะที่เขาล้มตัวลงนอนบนเตียง เจียงเฉินขยับหัวของเขาไปที่หมอน เขาขยับหน้าบนหมอนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหายใจออกยาวๆ
[นั่นมันสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้...พรุ่งนี้ ผมจะลองถามเธอ แม้ว่าผมจะถูกปฏิเสธ อย่างน้อยผมก็จะไม่เสียใจกับมัน]
เช่นเดียวกับเรื่องนี้ วัยรุ่นที่วัยกระอักกระอ่วน กังวลและเต็มไปด้วยความหวังลอยขึ้นสู่การนอนหลับ
ตัวอักษรเย็นๆเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆบนนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะ
11:59
12:00
แสงสีเขียวที่ด้านข้างของนาฬิกากระพริบเกือบจะสงบเสงี่ยม
ราวกับคิดไว้ล่วงหน้าแล้วลมขยับสมุดบันทึกที่เปิดอยู่บนโต๊ะ