ตอนที่ 279: ทวีปกลาง (2)
"เราคุยเรื่องนี้ระหว่างทางไปที่นั่นได้" สติกม่าเฝ้าดูรถม้าสีขาวผ่านไป "เราจะลองหารถม้าหลังจากที่พวกเจ้าเรียนรู้ภาษาเสร็จ นอกจากนี้พ่อมดในทวีปกลางจะไม่ถูกจำกัดในการสวมชุดคลุมดำหรือขาว พวกเขาสามารถสวมชุดอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ กฎการแต่งกายที่นี่นั้นเรียบง่าย แม้แต่ปุถุชนก็ได้รับอนุญาตให้สวมชุดคลุมยาว"
ฮิคาริสับสนหลังจากที่ได้ยินคำอธิบาย "แล้วเจ้าจะให้คนอื่นรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเป็นพ่อมด"
"ตราหรือเครื่องประดับพิเศษ สมาชิกทุกคนที่เป็นคนสมาคมพ่อมด องค์กร ตระกูลและสภาสูงแอนฟาเรียจะได้รับตราเฉพาะเพื่อสวมใส่ สภาสูงแอนฟาเรียเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในทวีปกลางแต่สมาชิกของสภาจะถูกเลือกจากตระกูลหรือองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาจะโต้เถียงกันเพื่อประโยชน์ของตนเอง" สติกม่าอธิบายต่อ "ทวีปกลางแบ่งออกเป็นสามส่วนได้แก่ ทาร์รี่ไรว์ มัลเท็นไรว์และพันธมิตรแอนฟาเรีย เรากำลังเข้าใกล้ทาร์รี่ไรว์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้า เราสามารถไปเยี่ยมจุดยามของตระกูลของข้าพร้อมกันได้ถ้าพวกเจ้าต้องการไปแล้วข้าจะพาไปดูพื้นที่รอบๆ"
"ข้าขอผ่าน" เรย์ไลน์ส่ายหัว "เราสามารถติดต่อกันผ่านรูนสื่อสาร กรณีที่แย่ที่สุดเราก็ยังสามารถใช้เสาสัญญาณโอเบลิสก์ได้ มันมีโอเบลิสก์ที่นี่ด้วยใช่ไหม"
"ใช่ เทคนิคอาคารของเสาสัญญาณโอเบลิสก์ได้มีการพัฒนาที่นี่" สติกม่าพยักหน้า
"ข้าขอผ่านด้วยเช่นกัน ข้ามีแผนของตัวเองเนื่องจากทวีปกลางเป็นดินแดนในฝันของข้า.....มีหลายสถานที่ที่ข้าต้องการไปก่อน" ฮิคาริไม่ได้พูดให้ชัดเจนแต่เธอมีบางอย่างอยู่ในใจ
"ข้าขอผ่านด้วยเช่นกัน ขอโทษด้วย" มอร์ริสซ่าส่ายหัว มันทำให้สติกม่าตกใจเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็จ้องไปที่แองเจเล่
"ข้ามีแผนของข้าเช่นกัน" แองเจเล่ยักไหล่ "ขอโทษด้วย ข้าจะไปเยี่ยมเจ้าเมื่อข้ามีเวลา"
"ไม่ต้องห่วง มาได้ทุกเวลา" สติกม่าขดริมฝีปาก
แองเจเล่สังเกตเห็นว่าคลื่นพลังจิตที่สติกม่าปลดปล่อยออกมานั้นอ่อนแอ มันดูเหมือนว่าเขาได้เรียนรู้วิธีซ่อนพลังที่แท้จริงแล้ว ผู้คนจะคิดว่าเขาเป็นพ่อมดฝึกหัดถ้าพวกเขาไม่รู้พื้นหลังของเขา
"เจ้ากำลังจะกลับไปที่ตระกูลของเจ้าแบบนี้หรือ" แองเจเล่ส่งข้อความโดยใช้อนุภาคพลังงาน
"แน่นอน ข้าจะต้องถูกทำให้พ่ายแพ้ก่อนที่เป้าหมายของข้าจะสำเร็จ" สติกม่าตอบทันที
เรย์ไลน์กำลังคิดอยู่อีกด้านในขณะที่ฮิคาริและมอร์ริสซ่ายังสื่อสารกันด้วยอนุภาคพลังงาน
"มันเป็นคำแนะนำของเธอถ้าเจ้ารู้ว่าข้าหมายถึงอะไร" สติกม่าพยักหน้าเล็กน้อย
พ่อมดทั้งห้าอยู่ทีมเดียวกันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังแตกต่างกันไป ฮิคาริใช้เวลาส่วนใหญ่กับมอร์ริสซ่าและแองเจเล่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับสติกม่า เรย์ไลน์เข้าร่วมการสนทนาที่สำคัญเท่านั้นแต่เขาก็เป็นพ่อมดที่มีพรสวรรค์และมอร์ริสซ่าก็พูดกับเขามากที่สุด
อย่างไรก็ตามเรย์ไลน์ไม่ได้สนใจมอร์ริสซ่า เขาแสดงความเคารพต่อแองเจเล่มากขึ้นหลังจากที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้
"เพียงแค่บอกข้าถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือใดๆ" แองเจเล่ตอบ
"ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ข้าต่างออกไปแล้ว..." สติกม่าหัวเราะเบาๆ "ข้าสามารถปกป้องแม่ของข้า น้องของข้าและข้า..." เขาดูมีความสุข
ทั้งสองยังเงียบหลังจากที่พูด
แล้วสติกม่าก็เอาลูกแก้วคริสตัลขนาดเท่ากำปั้นออกมาและเริ่มโอนความรู้เรื่องภาษาเข้าไปในนั้น
พ่อมดทั้งสี่ได้รับความรู้อย่างรวดเร็วและเริ่มฝึกออกเสียง
พ่อมดมักจะเรียนรู้ได้เร็วและการเรียนรู้ภาษาสากาลก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา
มันทำให้พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานและบทสนทนาในชีวิตประจำวัน
สติกม่าหยุดรถม้าคันหนึ่งและให้เหรียญโลหะดำพ่อค้าหลายเหรียญ พ่อค้าตกลงที่จะส่งพวกเขาที่เมืองทันที
แองเจเล่อยู่ในรถม้าและเริ่มตรวจสอบเวลากับพ่อค้า
ฟังก์ชั่นเวลาของชิปต้องการปรับเปลี่ยนเมื่อแองเจเล่มาถึงเขตเวลาอื่น เขาใช้นาฬิกาคริสตัลของเขาแต่มันก็มีปัญหามากเกินไป
ตอนบ่ายสามถนนก็เริ่มแออัด พวกเขาเริ่มเห็นคนเดินเท้าระหว่างทาง
มีเรือเหาะหลายลำบินผ่านพวกเขาในขณะที่พวกเขาเดินทาง มันดูเหมือนว่าเรือเหาะค่อนข้างวุ่นวาย
รถม้าได้ผ่านพื้นที่จอดเรือเหาะพื้นที่หนึ่งและถนนก็เริ่มกว้างขึ้น มีขบวนพ่อค้าหลายขบวนออกมาจากพื้นที่จอดพร้อมกับรถม้าขนาดใหญ่ของพวกเขา
มีรถม้าที่มีของเต็มและรถม้าที่ว่างเข้าออกพื้นที่จอดตลอดเวลา
ถนนเริ่มแออัดมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายวันต่อมารถม้าก็มาถึงขอบของทวีปกลางที่เมืองขนส่งทางอากาศในพื้นที่ทาร์รี่ไรว์
****************************
ดวงอาทิตย์เริ่มตกและแสงสีส้มก็ส่องลงบนพื้นดิน
พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองปกคลุมไปด้วยอาคารสีเทาและสีขาวที่จัดไว้อย่างดี มีแม่น้ำสีน้ำเงินไหลผ่านตรงกลางของตัวเมือง
มันดูเหมือนเศษกระดาษสีเทาที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วนด้วยสายสีน้ำเงินยาว
มีหอคอยโลหะสีดำสูงและสังเวียนขนาดมหึมาถูกสร้างคนละด้านของแม่น้ำ
บ้านสีเทาและสีขาว คฤหาสน์ โรงแรมและร้านค้าประเภทต่างๆถูกสร้างอยู่ข้างถนน มีพวกมันอยู่มากมายดังนั้นช่องว่างระหว่างอาคารแต่ละอาคารจึงมีขนาดเล็ก
ภายใต้แสงสลัวคนเดินเท้าหลายคนเดินอยู่บนถนนอย่างเงียบๆข้างบ้านเรือนที่เรียงกันเป็นแถว
มีชายสวมชายเสื้อยาวหนังสีแดงและมีผู้หญิงที่วาดรูปตาแปลกๆบนหน้าผากของพวกเธอ
มีชายร่างสูงสวมชุดคลุมขาวยาวยืนอยู่หน้าประตูสีเหลืองข้างพื้นที่สี่เหลี่ยมสีขาวขนาดใหญ่ เขามองไปรอบๆและสายตาของเขาก็ตกลงไปที่ชายล่ำสันในชุดชายเสื้อยาวหนังสีแดง
ชายคนนี้ส่ายหัวและเคาะประตูอย่างระมัดระวัง มีโลหะเงินแวววาวอยู่บนผิวหนังของเขา
ก๊อก ก๊อก
ไม่มีใครตอบ
ชายคนนี้ขมวดคิ้วและเคาะประตูอีกหลายครั้ง
แต่มันก็ยังไม่มีใครตอบ
เขาเอาตราขนาดเล็กออกมาจากถุงกระเป๋า
มันเป็นตราสี่เหลี่ยมสีทองที่ตกแต่งด้วยสีแดงอย่างหรูหราบนผิวของมัน
มีสายสีแดงที่ซับซ้อนถูกสลักอยู่ข้างหน้าของตราและมีรูเล็กๆตรงกลาง
ชายคนนี้โยนตราขึ้นไปในอากาศและจับมันแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเขาก็เคาะเบาๆหลายครั้ง
ในที่สุดก็มีกะโหลกสีดำขนาดเล็กค่อยๆปรากฏจากรูตรงกลาง
แคร๊ก
ประตูของบ้านเปิดด้วยตัวมันเองหลังจากที่มีเสียง
มีชายผมแดงที่มีหนวดเครายาวยื่นหัวออกมาจากประตูจ้องไปที่ชายในชุดคลุมขาว
"เจ้าคือ..." เขาหรี่ตาและมองไปที่ตราสีทองในมือของชายคนนั้น มันดูเหมือนว่าตราทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่าง
"อา! เจ้าจะต้องเป็นกรีน! พระเจ้า เข้ามาก่อนสิ" เขาเปิดอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่บอกลาทีมของเขาและไปตามทิศทางที่ตราชี้ ตราถูกส่งให้เขาโดยสมาชิกของหอคอยพ่อมดมืดซึ่งช่วยให้เขาหาสถานที่ที่ถูกต้องได้ง่าย
เขาตามชายคนนี้เข้าไปในห้องและปิดประตู ห้องนั่งเล่นมันมืดและมันก็รก
โซฟาเต็มไปด้วยเสื้อผ้าสกปรกและขวดไวน์ที่เรียงอยู่บนพื้น มีกลิ่นแปลกๆลอยอยู่ในอากาศ
"ขอโทษ ข้าไม่มีเวลาทำความสะอาดห้อง" ชายคนนั้นถูจมูกของเขา "ข้าคิดว่าเจ้า..."
"เจาคิดว่าข้าตายแล้วใช่ไหม" แองเจเล่ตอบด้วยความสงบ "อุปสรรคถูกเตรียมไว้โดยพวกอาวุโสใช่ไหม"
"ใช่....เจ้าพูดถูกแต่เราไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าแห่งธาตุพายุจะโกรธมาก มันควรจะเป็นอุปสรรคที่ง่าย...." ชายคนนั้นขดริมฝีปากและส่ายหัว
"จิตวิญญาณพายุนั้นมีปัญหาแต่การเดินทางก็อันตรายเกินไป ข้าเข้าร่วมองค์กรในฐานะผู้เชี่ยวชาญยาและข้าก็ได้ทดสอบหลายครั้ง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าต้องการเข้าร่วมองค์กรในฐานะนักสู้ อุปสรรคอะไรที่ข้าต้องเผชิญ" แองเจเล่พูดด้วยความผิดหวัง "เจ้ารู้อยู่แล้วว่าการเดินทางนี้เป็นกับดักสำหรับเรย์ไลน์ใช่ไหม"
"เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องเรย์ไลน์ เนื่องจากเจ้าได้เข้าเมืองสมาชิกของเราจะติดต่อไปหาเจ้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าได้จัดการพ่อมดที่พยายามซุ่มโจมตีเรย์ไลน์แล้ว ข้าสามารถรับรองได้ว่าเจ้าจะปลอดภัย ตราเป็นอุปกรณ์เวทมนต์พิเศษซึ่งสามารถปกป้องเจ้าจากความเสียหายร้ายแรงโดยการส่งเจ้าไปในมิติอื่นซึ่งจะทำให้เจ้าอยู่รอดได้ในพื้นที่นั้น 30 วัน เจ้าควรเชื่อใจเรามากขึ้น" ชายคนนั้นอธิบาย
"อย่างงั้นหรือ" แองเจเล่หรี่ตา
"มันเป็นอุบัติเหตุ เราไม่ได้รู้ว่าจิตวิญญาณพายุโกรธได้อย่างไรและข้าไม่ได้เป็นสมาชิกทางการขององค์กร ข้ามาที่นี่เพื่อติดต่อเจ้าดังนั้นข้าจึงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามของเจ้า ข้าจะบอกคนที่รับผิดชอบว่าเจ้าได้เดินทางมาถึงเมืองโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ โปรดรอที่นี่ จะมีคนมารับเจ้าหลังจากที่พวกเขาได้รับข้อความ"
"ฟังดูดี" แองเจเล่พยักหน้า
'หา! เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญยาที่เก่งงั้นหรือ ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้าเรื่องนี้' ทันใดนั้นก็มีเสียงแหบแห้งของผู้หญิงดังก้องอยู่ในหูของเขา
'ท่านตกใจหรือ' แองเจเล่ยังใจเย็นและตอบหลังจากที่ปรับความถี่ของคลื่นพลังจิตของเขา
'ใช่ เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญยาและเจ้ายังเป็นส่วนหนึ่งของหอคอยพ่อมดมืด ดูเหมือนว่าการได้รับเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเจ้า'
'ท่านพูดถูกแล้ว' แองเจเล่ขดริมฝีปาก
'แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าพวกเขาจะมอบเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่ดีให้กับเจ้า' เฮนน์เยาะเย้ยแองเจเล่
'ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น พวกเขาต้องการยาคุณภาพสูงที่ข้าสามารถทำได้ พวกเขาจะตอบสนองต่อความต้องการของข้าให้ดีที่สุดแต่มันจะมีทรัพยาการต่ำ' แองเจเล่ตอบ 'ท่านจะมอบเทคนิคดีๆให้ข้าใช่ไหม'
'ข้าจำไม่ได้ว่าสัญญากับเจ้าไว้' เฮนน์หัวเราะเบาๆ 'หอคอยพ่อมดมืดเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ข้าไม่รู้เรื่องพวกเขามากนัก เพียงแค่ทำให้แน่ใจว่า.....ช่างมันเถอะ ข้าไม่กลัวพวกเขา มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าต้องรู้คือเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงของพวกเขามันพิเศษมากๆ.....'
'เราอยู่บนเรือลำเดียวกัน ท่านช่วยข้าและข้าจะช่วยท่าน ข้าคิดว่าเราได้ตกลงกันเรื่องนี้แล้ว'
'เอาล่ะ เจ้าพูดถูก แต่เจ้าต้องทำอะไรบางอย่างให้ข้าก่อนที่ข้าจะมอบเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่ดีให้เจ้า' เฮนน์พูดเข้าประเด็น 'เราจะพูดเรื่องนี้ในภายหลัง'