ตอนที่แล้วตอนที่ 121 ปราบเรียบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 123 ดวลหัตถ์พระเจ้า

ตอนที่ 122 บ่ายที่น่าสงสัย


"หัวหน้าวันนี้ผมว่าง ต้องการเล่นหัตถ์พระเจ้าหน่อยไหม?"

เมื่อลู่เหมินกับซื่อจื้อคังออกไป หานเซิ่นชวนจางหยางเล่นหัตถ์พระเจ้า

"แน่นอน" จางหยางเข้าเกมและส่งคำเชิญไปให้หานเซิ่น

หานเซิ่นคลิก 'ตกลง' และเข้าห้องเล่นเกมกับจางหยาง

ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเวลาอาหารเย็น หานเซิ่นกับจางหยางเล่นกันตลอดเวลา ซึ่งตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนจบ จางหยางก็ยังไม่สามารถจิ้มได้แม้แต่จุดเดียว เขาได้ 0 คะแนนตลอด แต่เขาก็ยังเล่นตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น

วิญญาณของหานเซิ่นเหมือนจะหลุดออกจากร่าง เขาเริ่มไม่ไหวแล้ว แต่ในที่สุดจางหยางก็ยอมแพ้ก่อน เหมือนว่าเขาเองก็เล่นต่อไปไม่ไหวแล้ว

"เซิ่น มันจะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วนะ พอแค่นี้ดีกว่า"

คำพูดของจางหยางเกือบทำให้น้ำตาของหานเซิ่นไหลออกมา

"โอเคครับ หัวหน้า" หานเซิ่นรีบปิดคอมทันที

จริงๆหานเซิ่นรู้สึกชื่นชมจางหยางอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นเขาไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับจางหยาง เขาคงยอมแพ้ไปตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกแล้ว ขณะที่จางหยางยังคงเล่นอย่างตื่นเต้นตลอดบ่าย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จางหยางก็ไม่เคยชวนเขาเล่นหัตถ์พระเจ้าอีกเลย ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกโล่งมาก

เรื่องนี่ทำให้ลู่เหมินกับซื่อจื้อคังสงสัยเป็นอย่างมากว่าตอนบ่ายวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมจางหยางที่เปี่ยมไปด้วยพลังถึงยอมแพ้

แต่หานเซิ่นกับจางหยางก็ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไร พวกเขาจึงเรียกบ่ายวันนี้ว่า 'บ่ายลึกลับที่ห้อง 304' และลู่เหมินกับซื่อจื้อคังเองก็ไม่เคยชวนหานเซิ่นเล่นหัตถ์พระเจ้าอีกเลย

หานเซิ่นไม่ค่อยได้เล่นโหมดดวลบ่อยนัก เพราะเขารู้สึกว่าพื้นที่การเล่นมันค่อนข้างจำกัด เขาชอบโหมดเล่นคนเดียวมากกว่า ซึ่งมันจะทำให้แขนของเขาได้ใช้งานอย่างเต็มที่

หานเซิ่นนั้นให้ความสนใจการปฏิบัติการวอเฟรมมาก ซึ่งมันคือชุดเกราะและอาวุธสำหรับต่อสู้ในอวกาศ ซึ่งเป็นกึ่งเครื่องจักรกึ่งชีวภาพ ถ้าเปรียบเทียบกับรถถัง วอเฟรมนั้นคล่องแคล่วกว่ามาก มันสามารถปรับตัวใช้ได้กับทุกสมรภูมิ แต่คนใช้ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก

ตอนที่หานเซิ่นอยู่โรงเรียนรัฐบาล เขาไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ปฏิบัติการวอเฟรม ถึงเขาจะสนใจมัน เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนรู้ แต่หลังจากที่ได้เข้ามาในเหยี่ยวดำ เขามีความสุขมาก เพราะเขาสามารถเรียนวอเฟรมได้สมใจอยาก

ใน 3 เดือนแรก หานเซิ่นได้เรียนรู้วิธีใช้วอเฟรมขั้นพื้นฐาน และได้มีโอกาสลองฝึกใช้มันด้วย

ในสนามรบ วอเฟรมเป็นหน่วยรบพื้นฐานที่สุดของกองทัพ เพราะว่าทหารในยุคนี้จะไม่ออกไปรบโดยใส่ชุดทหารเหมือนสมัยก่อน แม้จะสู้บนถนนพวกเขาก็จะสวมวอเฟรมเสมอ

ดังนั้นหานเซิ่นจึงจำเป็นต้องฝึกปฏิบัติการด้วยวอเฟรมเอาไว้ ในกรณีที่เขาต้องออกไปอยู่แนวหน้า ทักษะนี้จะได้ช่วยชีวิตของเขาได้

ถ้าเขาสามารถทำได้ดีในปฏิบัติการด้วยวอเฟรม การต่อสู้ด้วยยานเหาะจะง่ายสำหรับเขามาก รวมถึงการต่อสู้ด้วยยานอวกาศด้วย เหยี่ยวดำมียานอวกาศเพียงแค่สำหรับโชว์เท่านั้น ซึ่งการฝึกปฏิบัติการบนยานอวกาศจะใช้ระบบภาพเสมือนจริงในการฝึกแทน

ติ๊ง!

ขณะที่หานเซิ่นกำลังฝึกวอเฟรมอยู่ เขาได้ยินเสียงเหมือนมีคนโอนเงินเข้ามา เขารีบเช็คในคอมของเขาทันที เขาเห็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชี ซึ่งมันทำให้เขาช็อค ก่อนที่เขาจะหาเจอว่าใครเป็นคนโอนมาก็มีเสียงสายเรียกเขาดังขึ้นมา

"เซิ่น นายได้เงินแล้วใช่ไหม" เขาคือหลินเป้ยเฟิง

"มากขนาดนี้เลยหรอ?" หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่าวิญญาณอสูรเปลือกหยกจะขายได้กำไรขนาดนี้ เขาคิดว่าอย่างมากคงได้สัก 3-4 ล้าน

"ฉันได้มา 20 ล้าน แบ่งครึ่งก็เหลือคนละ 10 ล้าน เซิ่น ครั้งหน้าถ้านายไปเมืองกลอรี่ พวกเราจะซื้อวิญญาณอสูรบางอย่างที่สตีลอาเมอร์ไปขายที่กลอรี่ด้วย นี่จะทำให้เราได้เงินทั้งขาไป ขากลับ" หลินเป้ยเฟิงพูด

"ผมคงไม่ได้ไปในเร็วๆนี้ ถ้าผมจะไปอีกเดี๋ยวผมโทรไปบอก" หานเซิ่นอยากไปมาก แต่เขาไม่มีเวลาจริงๆ

หลักสูตรที่เขาเรียนนั้นเข้มข้นมาก และในตอนนี้เขาก็ใกล้จะถึงช่วงสอบแล้ว เขาจะไปก็อตแซงชัวรี่ แค่เฉพาะตอนที่มีคนมาชวนไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิหรือกลายพันธ์เท่านั้น มันยังยากสำหรับเขาที่จะล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิคนเดียว

แม้ว่าเขาจะพยายามไปล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์คนเดียว เขาก็ต้องไปที่อย่างหนองน้ำแห่งความมืด ซึ่งมันยากที่จะเดินเข้าไปในหนองน้ำแห่งความมืด เขาต้องบินเข้าและบินออก ทำให้เขาไม่สามารถขนเนื้อของมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆออกมาได้ ดังนั้นถึงเขาไปที่นั่นก็จะไม่ได้อะไรมาก

และในตอนนี้พวกเเบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์ก็ไร้ประโยชน์สำหรับหานเซิ่น เนื่องจากเขากินมันไปเยอะแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ขายมัน ส่วนอสูรแมวเหมียวก็ยังกินพวกแบล็คสตริงเกอร์ที่เหลือจากคราวก่อนไม่หมด

แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้รีบร้อน เพราะคริสตัลสีดำจะทำให้เขามีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทุกๆ 3 เดือน ซึ่งดียิ่งกว่าออกไปล่าเองเสียอีก

หานเซิ่นโอนเงินไปให้แม่ของเขา 1 ล้าน และเขียนอธิบายไว้ด้วยว่าเขาได้มันมาจากในก็อตแซงชัวรี่ เขากลัวว่าแม่ของเขาจะคิดมากเกินไป เขาวางแผนจะทยอยโอนไปเดือนละ 1 ล้าน แม่ของเขาจะได้ไม่ตกใจ มันควรจะเป็นเวลาที่เเม่ของเขาได้มีความสุขกับชีวิตยังจากที่ลำบากมาหลายปี

หานเซิ่นกลับมาที่หอพักตอนกลางดึก และเห็นซื่อจื้อคังอยู่ในห้องคนเดียว เขากำลังสบถขณะเล่นเกม หานเซิ่นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะโมโหมาก

เมื่อเห็นหานเซิ่นกลับมา ซื่อจื้อคังก็พูดอย่างโกรธจัด

"เซิ่น นายมาได้จังหวะพอดีเลย นายช่วยเข้าเกมแล้วมาสั่งสอนไอ้พวกบ้านี่ให้หน่อย"

"พวกมันเป็นใคร?" หานเซิ่นเดินไปข้างๆซื่อจื้อคัง และเห็นซื่อจื้อคังอยู่ในห้องเล่นเกมกับผู้เล่นอีก 2 คน ไอดีหนึ่งชื่อ เบอร์ดี้ และอีกไอดีชื่อ แมนก็อด

ซื่อจื้อคังกำลังถูกเบอร์ดี้และแมนก็อดพิมพ์ด่าอยู่ ซึ่งทำให้เขาหัวเสียมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด