TXV – 117 ร่องรอยบนแก้วกาแฟ !
TXV – 117 ร่องรอยบนแก้วกาแฟ !
ขณะที่เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปมีหญิงสาวผมบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้าเดินมาตัดหน้าเขาทำให้เซี่ยเหล่ยเดินชนกับหญิงสาวคนนั้นอย่างแรง….....
“อะไรว่ะเนี๊ย ?” สาวผมบลอนด์ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เธอบ่นพึมพัมออกมาเป็นภาษารัสเซีย
“ขอโทษครับ” เซี่ยเหล่ยกล่าวขอโทษเธออย่างรวดเร็วด้วยภาษารัสเซียเช่นกันและเขาก็รีบเดินตรงไปข้างในโดยทันที
สาวผมบลอนด์คนนั้นดึงตัวเซี่ยเหล่ยไว้แล้วพูดว่า “คุณทำของฉันเสียหายแล้วคุณจะเดินหนีไปเนี่ยน๊ะ ?”
เซี่ยเหล่ยรู้ได้ทันทีเลยว่ามีเศษบางอย่างกระเด็นมาติดที่เสื้อของเขา มันเป็นเปลือกหอยราคาแพงที่แตกออกมาอาจเป็นเพราะว่าเขาได้ชนกับเธอจนทำให้ของเปลือกหอยอันเป็นที่รักของเธอเสียหาย
“แค่คำขอโทษ ?” สาวสาวผมบลอนด์กล่าว เธอจับแขนเซี่ยเหล่ยไว้แน่นและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยให้เขาไปง่ายๆ
เซี่ยเหล่ยรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากและไม่อยากที่จะโต้เถียงกับเธอต่อ เขาจึงหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาจากนั้นหยิบเงินให้เธอไปจำนวน 300 หยวน…..
สาวรัสเซียคนนั้นก็ปล่อยมือจากแขนของเซี่ยเหล่ยทันทีแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้องจ่ายให้ฉันมากขนาดนี้ก็ได้ มันไม่ได้มีราคาแพงขนาดนั้น”
ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยรีบร้อนมาก เขาก้าวเดินเข้าไปในร้านกาแฟอย่างรวดเร็วแต่ผู้ชายคนนั้นออกไปจากร้านนี้ซะแล้วแต่สือจิงชิวกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมเธอกำลังล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบเอกสารบางอย่างออกมา….
เซี่ยเหล่ยรีบกวาดสายตาไปมองรอบๆ ร้านกาแฟแห่งนี้มีลูกค้าจำนวนมากและผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในร้านนี้แล้วเขาค่อยๆเดินหาจนทั่วร้านและเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า ‘เราควรออกไปหาจากประตูหลังร้านบางทีเขาอาจจะเดินออกไปจากประตูร้านแห่งนี้แล้ว’
“ลูกค้าคุณไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้มันเป็นที่สงวนของพนักงานเท่านั้น” พนักงานเสิร์ฟออกมาขวางทางเซี่ยเหล่ยไว้
“ขอโทษนะครับ ผมกำลังหาใครบางคนอยู่” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“คุณไม่สามารถเข้าไปข้างในได้” พนักงานเสิร์ฟพูดอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยผลักพนักงานคนนั้นออกไปแล้วรีบเดินไปที่ประตู......
ภายในนั้นมันเป็นสถานที่ทำงานของเหล่าพนักงานในร้านกาแฟแห่งนี้ พนักงานแต่ละคนกำลังชงกาแฟกำลัง ทำขนมเค้กและทำไอศครีมอยู่ ที่แห่งนี้มีความคึกคักของพนักงานแต่ละคนที่ขยันทำงานกันอย่างขยันขันแข็งและเมื่อเซี่ยเหล่ยเดินเข้ามาบริเวณแห่งนี้เขาก็สังเกตเห็นประตูข้างหลังร้านยังคงกวัดแกว่งไปมาเหมือนมีใครบางคนรีบออกไปจนลืมปิดประตู……
เซี่ยเหล่ยวิ่งออกไปทางประตูด้านหลังแต่ก็มีพนักงานเสิร์ฟคนก่อนหน้านี้พยายามที่จะหยุดเขาแต่ก็ช้าไปซะแล้วเซี่ยเหล่ยรีบวิ่งออกไปจากประตูก่อนที่พนักงานคนนั้นจะพูดอะไรซะอีก !
มีซอยเปลี่ยวเล็กๆอยู่ด้านหลังประตู ที่แห่งนั้นมืดมากแต่ปลายด้านหนึ่งของซอยมีแสงเล็กๆน้อยๆนั่นก็คือแสงไฟสัญญาณจราจรที่สาดส่องเข้ามาสลัวๆทำให้ซอยแห่งนี้มองเห็นอะไรขึ้นมาบ้าง เซี่ยเหล่ยไม่รอช้าเขารีบวิ่งเข้าไปในซอยนั้นทันทีโดยไม่ลังเล…..
ตาข้างซ้ายของเซี่ยเหล่ยเริ่มมีปฎิกริยา เขาใช้ตาซ้ายมองลงไปยังพื้นเพื่อหารอยเท้าของชายคนนั้น พื้นแห่งนี้มีรอยเท้ามากมายไม่รู้ว่ารอยเท้าไหนเป็นของใครแต่เซี่ยเหล่ยคิดว่ารอยเท้าที่ใหม่ที่สุดคงจะเป็นรอยเท้าของชายคนนั้นอย่างแน่นอน
หลังจากที่เซี่ยเหล่ยสามารถแยกแยะรอยเท้าของชายคนนั้นได้ เขาได้สะกดรอยตามไปจนถึงสุดซอยเมื่อออกมาบนถนน ที่แห่งนี้มีผู้คนเดินไปเดินมามากมายและจราจรค่อนข้างคับคั่งรอยเท้าของชายคนนั้นถูกลบหายไปจากรอยเท้าของบุคคลอื่นจนไม่สามารถแยะยะรอยเท้าของชายคนนั้นได้อีก…….
‘มันเป็นไปได้ยังไง ? เขาเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้เลย ? หรือว่าเขารู้ว่าเรากำลังสะกดรอยตามเขาอยู่ ? ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใครกันแน่ ?’ เซี่ยเหล่ยกำลังครุ่นคิดกับตัวเองแต่ก็มีเหตุอะไรบางอย่างทำให้เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงหันหลังกลับวิ่งไปที่ร้านกาแฟแห่งนั้น
เมื่อเซี่ยเหล่ยคิดถึงเรื่องสาวรัสเซียผมบลอนด์คนนั้น ‘มันก็มีบางอย่างผิดปกติ เธอไม่เคยเดินมาทางนี้มาก่อนหรือว่าเธอตั้งใจที่จะเดินชนเราดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญแต่เราคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ รู้สึกว่าหญิงสาวรัสเซียคนนั้นจะต้องเป็นคนรู้จักของชายที่เรากำลังตามหาอยู่อย่างแน่นอนและเธอไม่ต้องการให้เราไปพบกับชายลึกลับคนนั้นน่ะสิ !’
“มันต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ แล้วทำไมเราถึงไม่ไปหาสือจิงชิวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเลยล่ะ ?”
หลังจากที่เซี่ยเหล่ยกลับมาที่ร้านกาแฟ สือจิงชิวตกใจมากเมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เมื่อเธอกำลังจะเอ่ยทักทายเซี่ยเหล่ยแต่เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งผ่านไปยังหน้าร้านกาแฟและทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ว่าเธอมีตัวตนอยู่……
เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งไปหน้าร้านกาแฟแต่ก็ไม่เห็นร่องรอยของสาวรัสเซียคนนั้นแล้ว
สาวรัสเซียคนนั้นจะต้องเป็นคนรู้จักของชายลึกลับอย่างแน่นอนและเธอถูกส่งมายืนรักษาการณ์อยู่หน้าประตูเพื่อสังเกตการณ์หากมีเหตุการณ์ผิดปกติเธอจะทำการขัดขวางทันที หลังจากที่เธอได้ทำภารกิจสำเร็จแล้ว ทำไมจะต้องอยู่ที่นี่อีกล่ะ ? เธอเป็นใครกันแน่ ?
เซี่ยเหล่ยเดินกลับไปที่ร้านกาแฟและเดินไปโต๊ะที่สือจิงชิวนั่งกับชายลึกลับก่อนหน้านี้
“เหอะ ! คุณสะกดรอยตามฉัน !” สือจิงชิวพูดต่อว่า “คุณจะใช้วิธีนี้เพื่อมาแอบเจอกับลูกค้าของฉันและคุณพยายามที่จะแย่งลูกค้าของฉันไปอีกครั้งใช่ไหม ?”
เซี่ยเหล่ยสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะพูดกับเธอว่า “จิงชิว ผมไม่เคยคิดที่จะแย่งลูกค้าของคุณเลย ผมแค่อยากรู้ว่าลูกค้าที่กำลังติดต่ออยู่คือใคร ผมแค่อยากรู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร ได้โปรดบอกผมเถอะว่าชายคนนั้นเป็นใคร ?”
สือจิงชิวหัวเราะออกมา “คุณสะกดรอยตามฉันมา ฉันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับคุณเลยนะ แถมคุณยังกล้าถามฉันเกี่ยวกับข้อมูลการเจรจากับลูกค้าของฉันอีกหรอ ?คุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ห๊ะ ? แล้วทำไมฉันต้องทำตามคำขอร้องของคุณด้วย ?”
“จิงชิว ผมขอร้องละบอกผมหน่อย” เซี่ยเหล่ยกำลังอ้อนวอน.......
สือจิงชิวหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่คาดคิดเลยนะ ว่าคนอย่างคุณจะมาขอร้องฉัน ?”
“บอกผมมาเถอะ” เซี่ยเหล่ยพยายามเก็บความรู้สึกของเขาเอาไว้แม้ว่าเขากำลังถูกหัวเราะเยาะเย้ยแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากขอร้องอ้อนวอนให้สือจิงชิวพูดความจริงออกมา……
สือจิงชิวเงียบและมองไปที่เซี่ยเหล่ยดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่จากนั้นไม่นานมีรอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอและพูดขึ้นมาว่า “คุณขอร้องฉัน ? คุณจะขอร้องยังไงล่ะ ?”
“จิงชิว ! ผู้ชายคนนั้น…….” เซี่ยเหล่ยกำลังจะบอกว่าชายคนนั้นรูปร่างหน้าตาเหมือนกับพ่อของเขาที่หายตัวไปแต่เขาก็กลืนคำพูดตัวเองก่อนที่จะพูดออกมาเพราะว่าสือจิงชิวเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาแต่พ่อของเขาไม่เคยไปโรงเรียนเลยเพราะฉะนั้นแล้วเธอจึงไม่เคยเห็นหน้าพ่อของเขามาก่อนในชีวิต เขาไม่ต้องการให้สือจิงชิวรับรู้เรื่องนี้เขาจึงเปลี่ยนคำพูดของเขาไปว่า “บอกผมมาสิว่าคุณต้องการอะไร ?”
“ฉันต้องการอะไรงั้นหรอ ? …….อืม…..ขอคิดแปปนะ” สือจิงชิวมองไปที่เซี่ยเหล่ยใต้โต๊ะตัวนั้นเธอกำลังถอดรองเท้าส้นสูงของเธอจากนั้นเธอใช้ขาที่เรียวยาวของเธอค่อยๆเคลื่อนไปที่เท้าของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยแข็งทื่อชั่วครู่หนุ่งในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่า สือจิงชิวต้องการอะไร…..
“ฉันจะบอกว่า...สือจิงชิว...ต้องการ...” เธอหัวเราะออกมาแล้วพูดต่อว่า “มีโรงแรมอยู่ใกล้ๆบริเวณนี้เราไปคุยกันที่นั่นเถอะ”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกเบื่อกับการกระทำของเธอมากแต่ตอนนี้เขาต้องควบคุมยับยั้งอารมณ์โกรธของเขาเอาไว้ “จิงชิว ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้ บอกผมมาเถอะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ? แล้วคุณรู้จักกับเขาได้อย่างไร ?”
“ไหนล่ะที่คุณขอร้องฉัน ? คุณก็รู้หนิว่าฉันต้องการอะไร ?” เท้าของสือจิงชิวใต้โต๊ะในตอนนี้เหมือนกับพุดดิ้งหน้าร้อนที่นุ่มนิ่มและอ่อนโยนขาของเธอค่อยๆเคลื่อนไปโดนจุดอ่อนไหวของเซี่ยเหล่ย ในตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากและดูเหมือนว่าเธอพร้อมที่จะกลืนกินเซี่ยเหล่ยทั้งตัวเลยทีเดียว……
คำตอบนะหรอ มาหลับนอนกับฉันสิ !
นี่เป็นคำตอบของสือจิงชิวโดยที่เธอไม่ต้องพูดออกมา............
เราควรจะทำตามคำขอของเธอหรอ ? เซี่ยเหล่ยรู้สึกลังเลใจ
การมีอะไรครั้งแรกกับผู้หญิงแบบสือจิงชิวเนี่ยนะ ? ไม่มีทาง ! ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีลักษณะเหมือนพ่อของเขามากแต่ถ้าแลกมากับข้อเสนอแบบนี้ มันก็ไม่ยุติธรรมกับเขาเลย …….
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันนั้นตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยเหลือบไปเห็นถ้วยกาแฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ถ้าสักเกตดีๆถ้วยกาแฟแก้วนั้นไม่มีร่องรอยการการถูกสัมผัสเลย แก้วกาแฟใสสะอาดเหมือนแก้วใหม่ที่เพิ่งยกออกมาเสริร์ฟไม่มีผิด !
เมื่อเซี่ยเหล่ยมองไปยังแก้วกาแฟใบนั้นพบตัวอักษรปริศนาอยู่ข้างๆ ว่า ‘осторожно’ หมายถึง ‘ระวังตัว’
‘เขากำลังบอกให้ใครระวัง ?’ ความรู้สึกของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้เหมือนค้นพบความจริงอะไรบางอย่าง ‘เป็นพ่อของเราจริงๆงั้นหรอ ?’
ขาของสือจิงชิวยังคงขยับไปขยับมาบริเวณท่อนล่างของเซี่ยเหล่ย “เหล่ย ฉันรู้นะว่าคุณยังชอบฉันอยู่ไปนอนโรงแรมด้วยกันเถอะ ฉันจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้ คุณยังรักฉันอยู่ไม่ใช่หรอ ? ฉันจะให้ทุกอย่าง ฉันจะให้คุณสัมผัสในส่วนที่สามีของฉันอยากสัมผัสมาตลอดชีวิต !”
สือจิงชิวพยายามจะเย้ายวนเซี่ยเหล่ยด้วยการแกว่งขาของเธอไปมาบริเวณจุดอ่อนไหวของเซี่ยเหล่ย……….
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยคว้าขาของสือจิงชิวไว้แล้วหยิกไปที่ขาของเธอ....
“โอ๊ย….” สือจิงชิวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและรีบดึงขาของเธอกลับไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอหันไปมองที่เซี่ยเหล่ยอย่างหงุดหงิด “ทำอะไรของคุณหน่ะ ?”
เซี่ยเหล่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า “คุณไม่ทราบข้อมูลของลูกค้าคนนี้จริงๆใช่มั้ย ?”
สือจิงชิวอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อย่าบอกนะว่าคุณรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ?”
“ช่างมันเถอะ เชิญไปโรงแรมคนเดียวเลย ผมไม่สนใจล่ะ” เซี่ยเหล่ยลึกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ
สือจิงชิวจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วบ่นพึมพัมว่า ‘เขารู้ได้ยังไงว่าเราไม่รู้จัก ? จะหยามกันเกินไปแล้วนะ เวรเอ๊ยยยยย !’
หลังจากนั้นไม่นานสือจิงชิวก็หุบขาของเธอลงแต่เธอยังคงอารมณ์ดีและมีความสุขหลังจากที่ได้สัมผัสตัวเซี่ยเหล่ยเมื่อครู่นี้
เหตุผลง่ายๆเลยที่เซี่ยเหล่ยเปลี่ยนใจ ตัวอักษรรัสเซียที่ชายลึกลับทิ้งไว้มันเป็นวิธีการของพวกมืออาชีพที่จะอำพรางตัวไม่ให้ผู้อื่นรู้ถึงตัวตนของตัวพวกเขาเอง ! สิ่งนี้แหละทำให้เซี่ยเหล่ยรู้เลยว่าชายคนนั้นไม่มีทางเปิดเผยตัวให้สือจิงชิวรู้แน่นอน
เซี่ยเหล่ยข้ามถนนและเดินไปหาฉิงเสวียงที่รออยู่อีกฟากหนึ่ง
“เป็นไง ? ผมเห็นคุณไล่ตามชายลึกลับคนนั้น จับตัวเขาได้รึปล่าว ?” ฉิงเสวียงถามอย่างเป็นกังวล
เซี่ยเหล่ยส่ายหัว “เขาดูเหมือนรู้ว่าผมกำลังมุ่งหน้าไปหาเขา เขาจึงซ้อนแผนกลับตลบหลังผม”
“เขา….เขาเป็นพ่อคุณจริงๆหรอ ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแบบเซ็งๆ “ผมไม่สามารถบอกคุณได้ในตอนนี้ แต่ผมคิดว่าจะเจอคนนั้นอีกในเร็วๆนี้”
เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ฉิงเสวียง คุณอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครนะ”
“ผมรู้ว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร อย่ากังวลไปเลยผมไม่บอกใครหรอก” ฉิงเสวียงกล่าว
“กลับกันเถอะ” เซี่ยเหล่ยถอนหายใจออกมา เขารู้สึกว่าวันนี้เหนื่อยมากเพราะมีเรื่องมากมายถาโถมมาใส่เขาพร้อมๆกัน
“อือ อย่าคิดมากไปเลย” ฉิงเสวียงสตาทรถมอเตอไซค์ยามาฮ่าของเขาและขี่ลับสายตาไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เซี่ยเหล่ยเดินกลับไปที่รถยนต์คู่ใจของเขาแม้ว่าเวลาจะผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้วเขายังจำรูปร่างลักษณะของชายลึกลับคนนั้นได้อย่างแม่นยำ
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด …….. ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของเซี่ยเหล่ย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดรับสาย “สวัสดี ฉันเอง” นั่นเป็นเสียงของหลงบิง “ฉันได้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันจะรอคุณอยู่ที่สนามบินอีก 2 ชั่วโมงเจอกัน”
“กะทันหันขนาดนี้เลย ?” เซี่ยเหล่ยพูดด้วยความตกใจ
แต่หลงบิงวางสายไปแล้ว…….
เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมาเก้ๆกังๆและขับรถไปที่บ้านของหลางเฉิงชุน มีเวลาตั้ง 2 ชั่วโมงคงจะมากพอที่ให้เราได้กล่าวอำลาหลางเฉิงชุนและหลางซือเหยาก่อนออกเดินทาง
ติดตามตอนต่อไป……..