ตอนที่แล้วTWO Chapter 106 ซุ่มโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 108 การแก้แค้น ตอนที่ 2

TWO Chapter 107 การแก้แค้น ตอนที่ 1


TWO Chapter 107 การแก้แค้น ตอนที่ 1

ทันทีที่จัดสินใจเดินทัพ โอหยางโชวได้จัดให้มีการจัดการการขนส่ง เพื่อให้กองทัพเดินทางได้อย่างราบรื่น

“เจ้าโหยวฟาง!”

“นายท่าน!”

“มันยากที่จะเดินทางบนภูเขา ดังนั้น ก่อนเดินทาง ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหาร จะต้องส่งมอบหน้าที่การขนส่งให้กับเผ่าซวนเหนียว เราจะใช้ที่นั่นเป็นสถานีขนส่ง”

“ขอรับนายท่าน!”

“นอกจากนี้ ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหาร จะต้องเตรียมอุปรกรณืสำหรับสงครามปิดล้อม การเผชิญหน้ากับกำแพงเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ดังนั้น เราจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด” โอหยางโชวกล่าวต่อ

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอให้นายท่านมั่นใจได้เลยขอรับ!” เจ้าโหยวฟางกล่าวอย่างมั่นใจ

“ยาก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ป่าบนภูเขาเต็มไปด้วยงูและแมลงที่มีพิษ ไปปรึกษากับโรงหมอ แล้วจัดเตรียมยาที่เหมาะสม และเจ้าสามารถขอคำปรึกษาจากยอดหมอผีในเผ่าซวนเหนียวได้ นางเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้” โอหยางโชวจัดเตรียมทุกอย่างโดยละเอียด

หลังจากจัดการการขนส่ง โอหยางโชวก็ดำเนินการสั่งการต่อไป “ซ่งสาน!”

“นายท่าน!”

“ฝ่ายข่าวกรองจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเส้นทางในการเดินทัพ และสภาพแวดล้อมที่เราเดินผ่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ซานไห่ได้เข้าสู่ภูมิประเทศป่าอย่างเต็มรูปแบบ เราจะต้องเคลื่อนไหวอย่างฉลาด”

“นายท่านโปรดมั่นใจ ภายใต้การนำของเล้งเฉียน ทีมข่าวกรองที่ 1 ได้ออกไปสำรวจป่า เพื่อเพิ่มเก็บข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้นแล้ว”

“ดีมาก, เจ้าซีฮู!”

“นายท่าน!”

“กองร้อยหทารทั้ง 5 ของเจ้าได้รับอุปกรณ์ครบครันแล้วหรือไม่?”

“เรียนนายท่าน กองร้อยทหารธนูได้รับอุปกรณ์ที่ยึดได้จากการโจมตีค่ายโจรในครั้งก่อนครบแล้ว แต่กองร้อยทหารหน้าไม้...เนื่องจากหน้าไม้มีจำกัด แม้ว่าเราจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว รวมกับที่ได้รับจากฝ่ายธนูและหน้าไม้ ยังคงเหลือกองร้อยทหารหน้าไม้อีก 1 กอง ที่ยังได้รับอาวุธไม่ครบ” เจ้าซีฮูกล่าวด้วยความอับอาย

โอหยางโชวขมวดคิ้ว เขาส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “เจ้าจะไปทำสงครามได้อย่างไรหากไม่มีอาวุธ?”

เจ้าซีฮูวิตก เขากลัวว่าโอหยางโชวจะปลดเขาจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองพันทหารป้องกันเมือง เขารีบกล่าวอย่างเร่งรีบว่า “นายท่าน ข้าแนะนำว่า กองร้อยทหารหน้าไม้ควรใช้ธนูแทนหน้าไม้ชั่วคราว เพื่อที่เราจะได้มีอาวุธพร้อมสำหรับสงคราม”

โอหยางโชวจ้องมองเขา แล้วกล่าวว่า “ไร้สาระ! เจ้าคิดว่าสงครามนี่เป็นเกมส์หรือ? กองร้อยนี้ไม่ได้ฝึกฝนการยิงธนู แม้ว่าพวกเขาจะได้รับธนู มันก็จะกลายเป็นเพียงอาวุธที่ไร้ประโยชน์ในมือของพวกเขา เราจำเป็นต้องมีกองร้อยทหารหน้าไม้ 2 กอง เพื่อที่จะยิงสวนกับศัตรูได้”

เมื่อเจ้าซีฮูถูกจ้องมองโดยโอหยางโชว ตัวเขาที่เหมือนเสือร้ายกลับกลายเป็นแมวขี่ขลาดไปในทันที เขากล่าวด้วยเสียงอ่อนว่า “แล้วเราควรจะทำอย่างไร?”

โชคดีที่เก่อหงเหลียงยืนขึ้น แล้วช่วยเขา เขากล่าวว่า “นายท่าน ข้ามีข้อเสนอ”

“เชิญกล่าว”

“ตามความเข้าใจของข้า กองร้อยทหารม้าที่ 1 เป็นทหารม้าหน้าไม้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาทุกคนมีหน้าไม้ ดังนั้น คำแนะนำของข้า คือ ให้กองพันป้องกันเมืองยืมหน้าไม้ของกองร้อยทหารม้าที่ 1 มาก่อนชั่วคราว” เก่อหงเหลียงกล่าว

“ดี เราจะทำตามนั้น” เมื่อได้ยินข้อเสนอนี้ โอหยางโชวก็อนุมัติทันที

หลังจากที่โอหยางโชวอนุมัติแล้ว เก่อหงเหลียงก็กล่าวต่อว่า “นายท่าน ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังทำสงคราม กองพันทหารราบและกองพันป้องกันเมือง ไม่ควรยืนกันแบบเป็ด ข้อแนะนำให้ส่งทั้ง 2 กองพัน ไปที่เมืองฉิวซุ่ย และเริ่มต้นการฝึกอบรมสำหรับสงครามในป่า”

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “นี่เป็นข้อเสนอที่ดีมาก แต่อย่าลืมว่า ยังมีกองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซานอีก กองพันทหารราบและกองพันทหารป้องกันเมืองจะถูกย้ายไปที่เหมืองแร่หลางซาน พวกเขาจะถูกฝึกอบรมร่วมกัน”

เมื่อกล่าวถึงกองทหารรักษาการณ์เหมืองหลางซาน เตือนให้โอหยางโชวนึกถึงบางสิ่ง เขาหันไปกล่าวกับเจ้าโหยวฟางว่า “เตรียมอุปรกรณ์สำหรับกองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซานด้วย ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้รับการอัพเกรดแล้ว”

“ขอรับ!”

“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว!” โอหยางโชวจบการประชุมทางทหาร

“เข้าใจแล้วขอรับ!”

………………………………………………………………………………………………………

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 4 วันที่ 20 ณ ประตูหลักของชนเผ่าซวนเหนียว กองพันทหารราบ, กองพันทหารป้องกันเมือง และกองพันทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซาน ได้มารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด

การเดินทัพครั้งนี้นำโดยโอหยางโชว มีเก่อหงเหลียงเป็นนักวางกลยุทธ์

“ทหาร! 5 วันก่อน เผ่าจีเฟิงได้ซุ่มโจมตีเหมืองแร่หลางซาน สร้างความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานให้กับประชาชนของเรา มันคือการประกาศสงคราม! เมืองซานไห่จะไม่อดทนกับการยั่วยุนี้ และเราจะล้างความเจ็บปวดนี้ด้วยเลือดของพวกมัน!” โอหยางโชวตะโกนใส่ทหาร

“ตาต่อตา! พวกมันจะต้องจ่ายด้วยเลือดของพวกมัน!” เหล่าทหารตะโกนพร้อมกัน

“เดินทาง!”

กองกำลังขนาดใหญ่เดินทัพไปยังฐานที่มั่นของเผ่าจีเฟิง กองพันทหารราบเป็นกองหน้า กองพันป้องกันเมืองเป็นกองกลาง และกองพันทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซานเป็นกองหลัง ในด้านหลังของพวกเขายังมีหน่วยขนส่งที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าภูเขา

เมื่อเวลา 16.00 น. กองทัพก็อยู่ห่างจากกำแพงป้องกันของเผ่าจีเฟิงเพียง 3 กิโลเมตร ภายใต้การนำของขุนพลซี พวกเขาหยุดเพื่อตั้งค่ายพัก พวกเขาจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่สำหรับคืนนี้ และในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาก็จะได้เริ่มโจมตีกำแพงป้องกัน

ที่เต็นท์หลัก โอหยางโชวเรียกนายพันทั้ง 3 และฝ่ายข่าวกรองมาประชุม เพื่อเตรียมการก่อนสงคราม

“เล้งเฉียน สถานการณ์เผ่าจีเฟิงเป็นเช่นไรบ้าง? พวกเขาได้รับการแจ้งเตือนสำหรับการมาถึงของพวกเราหรือไม่?” คนแรกที่โอหยางโชวถามก็คือเล้งเฉียนจากฝ่ายข่าวกรอง

“เรียนนายท่าน เผ่าจีเฟิงยังคงอยู่ในสถาวะปกติ พวกเขายังไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ”

“โอ้? พวกเขากล้าโจมตีเหมืองแร่หลางซานของพวกเรา แต่พวกเขากับไม่คิดว่าพวกเราจะแก้แค้นหรือ? ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมเลย หรือนี่จะเป็นกลอุบายหรือไม่?” โอหยางโชวถามด้วยความสงสัย

เล้งเฉียนรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “เรียนนายท่าน มันเป็นเรื่องปกติสำหรับชนเผ่าเหล่านี้ที่จะซุ่มโจมตีคนอื่นเพื่อการล่า ในฐานะที่พวกเขาเป็นเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้ พวกเขาจึงอ้างว่าตนเองเป็นกษัตริย์ พวกเขาไม่พอใจการกระทำของเผ่าซวนเหนียว ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะสอนบทเรียนให้กับเผ่าซวนเหนียว นอกจากนี้ ด้วยความเย่อหยิงของพวกเขา ที่ปฏิเสธคำเชิญของท่านยอดหมอผี ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นกองกำลังที่แข้งแกร่งของเรา พวกเขายังคงตาบอด และนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ”

ผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์เหมืองแร่หลางซาน ซีหลาง ยืนยันคำอธิบายนี้ เขากล่าวว่า “ถูกต้องแล้ว ชนเผ่าที่เล็กกว่าไม่กล้ากล่าวอะไร พวกเขาทำได้เพียงสำลักความโกรธของตัวเองเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เมื่อท่านตัดสินใจจะโจมตีเผ่าจีเฟิง ชนเผ่าอื่นๆจึงได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก”

โอหยางโชวพยักหน้า เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ดีมาก ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะยืนข้างเรา สร้างหน่วยลาดตระเวนสำหรับคืนนี้ด้วย อย่าให้พวกเราหย่อนยานเป็นอันขาด เมื่อถึงพรุ่งนี้ เราจะเอาคืนจากเผ่าจีเฟิงทั้งหมด”

วันรุ่งขึ้น ในขณะที่เหล่าทหารกำลังทานอาหาร โอหยางโชวได้มุ่งหน้ามายังเผ่าจีเฟิงก่อน

เขามาดูกำแพงป้องกันของเผ่าจีเฟิงก่อนด้วยตาของเขาเอง โอหยางโขวครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง กำแพงกว้าง 30 เมตร สูง 6 เมตร ทอดยาวจากปลายภูเขาด้านหนึ่งไปยังปลายภูเขาอีกด้านหนึ่ง โครงสร้างของมันทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ ทำให้มันดูยิ่งใหญ่มาก ตรงกลางมีประตูไม้กว้าง 4 เมตร ในขณะที่ด้านบนกำแพง เชิงเทินถูกออกแบบมาสำหรับให้นักธนูยิงลูกธนูออกมาได้โดยสะดวก

โอหยางโชวหันมาทางเก่อหงเหลียงที่ยืนข้างๆเขา แล้วถามว่า “เจ้ากรมเก่อ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

“ด้วยระบบป้องกันดังกล่าว เราสามารถทะลวงไปได้ด้วยความช่วยเหลือของบันได แต่การบาดเจ็บล้มตายจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ข้าได้ทำการสังเกตกำแพงป้องกันอย่างถี่ถ้วนแล้ว และได้พบสิ่งที่น่าสนใจ ประตูของพวกเขาไม่ได้เป็นสะพานชัก มันเป็นเพียงแค่ประตูไม้ธรรมดาเท่านั้น ตามความเห็นของข้า เราควรพุ่งเป้าไปที่ประตูไม้” เก่อหงเหลียงตอบ

โอหยางโชวพยักหน้าเห็นด้วย แล้วกล่าวว่า “ที่ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจาะทะลวงประตูไม้ ทันทีที่เราปรากฎตัว พวกเราก็จะได้รับการแจ้งเตือน และกำลังเสริมก็จะมาถึงหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขามีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มันถึงเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะไปถึงประตู มันอาจทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก”

เก่อหงเหลียงกล่าวด้วยความมั่นใจ “นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ตามรายงานจากฝ่ายข่าวกรอง นักรบของเผ่าจีเฟิงใชธนูแบบง่ายๆ เช่นเดียวกับเผ่าอื่นๆ ธนูเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการล่สัตว์ มันมีระยะยิงเพียง 120 เมตร เท่านั้น เมื่อเทียบกับธนูประกอบขั้นต้นของเรา ที่สามารถยิงได้ไกลถึง 200 เมตร พวกเราสามารถยิงได้ไกลกว่ามาก นอกจากนี้ หน้าไม้ของพวกเรายังยิงได้ไกลกว่า 300 เมตร”

“ดังนั้น ตราบเท่าที่เรายืนอยู่ในระยะ 150 เมตร จากกำแพง พวกเราก็จะรอดพ้นระยะยิง 120 เมตร ของพวกเขา และเรายังสามารถกำราบนักรบที่หลบอยู่บนหลังกำแพงได้ด้วยหน้าไม้ของเรา หลังจากนั้น กองพันทหารราบก็จะมุ่งหน้าไปที่ประตูไม้ และเจาะทะลวงประตูไม้ด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่(ram)”

“ยอดเยี่ยม เป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม!” โอหยางโชวพอใจกับกลยุทธ์นี้เป็นอย่างมาก

หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจวางแผนกลยุทธ์แล้ว เครื่องมือสงครามก็ถูกเตรียมพร้อมในทันที กลุ่มแรกที่เข้ามาก็คือ กองพันป้องกันเมือง พวกเขายืนห่างจากแนวกำแพง 150 เมตร แถวแรกเป็นกองร้อยทหารโล่ดาบขั้น 4 หน้าที่ของพวกเขา คือ การเป็นกำแพง โดยใช้โล่ของพวกเขาป้องกันทหารธนูที่อยู่ด้านหลัง, แถวที่ 2-3 เป็นกองร้อยทหารธนู พวกเขาเป็นนักรบที่มาจากชนเผ่าคนเถื่อนภูเขา เจ้าซีฮูได้เลือกอาวุธที่ดีที่สุดให้พวกเขา นั่นคือ ธนูประกอบที่อยู่ในมือของพวกเขา

2 แถวสุดท้ายเป็นกองร้อยทหารหน้าไม้แห่งเมืองซานไห่ หน้าไม้เป็นอาวุธที่เรียบง่าย คนธรรมดาสามารถใช้มันได้เพียงแค่ผ่านการฝึกฝน 3-4 วัน เท่านั้น หน้าไม้ยังสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง ให้กับทุกคนที่ต่อต้านมัน

กองพันทหารราบอยู่ทางปีกตะวันตกของกองพันป้องกันเมือง พวกเขามีหน้าที่หลักในการโจมตีประตูไม้ พวกเขาเป็นนักรบที่ดีที่สุดของชนเผ่าคนเถื่อนภูเขาทั้ง 500 นาย แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่มีดาบถังและชุดเกราะปูเหริน แต่พวกเขาก็ยังแข็งแรงและไม่อาจถูกมองข้ามได้ ที่สำคัญพวกเขานำโดยขุนพลซีและนายกองฝีมือดีอีก 5 คน

ในขณะที่ทางปีกตะวันออก เป็นกองทหารรักษาการณ์เหมืองเหลียงซาน ในตอนแรก ซีหลางขอทำหน้าที่ในการโจมตีประตูไม้ แต่โอหยางโชวปฏิเสธคำขอของเขา เนื่องจาก เขากังวลเรื่องที่ กองทหารรักษาการณ์เหมืองหลางซานนั้นไม่เคยผ่านสงครามนองเลือดมาก่อน และตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาทดสอบ

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด