ตอนที่ 277: ชะตาที่บิดเบือน (2)
มอร์ริสซ่าลุกขึ้นยืนทันทีหลังจากที่เธอเห็นแองเจเล่ก้าวเข้าไปในที่พัก ฮิคาริ สติกม่าและเรย์ไลน์ถูกยกด้วยสายโลหะ พวกเขายังไม่รู้สึกตัว
"กรีน เจ้าเป็นไรไหม" มอร์ริสซ่าคิดอยู่ชั่วครู่แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มตรงไหน
"ข้าไม่เป็นไรแต่เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!" แองเจเล่ตอบอย่างเร่งรีบขณะที่เขาวางพ่อมดที่หมดสติทั้งสามลง "พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เจ้าสามารถปลุกพวกเขาได้ไหม"
พ่อมดแข็งแกร่งพอที่จะอยู่รอดได้เป็นเวลานานในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนต่ำ อนุภาคพลังงานที่ถูกเก็บไว้ในร่างกายของพวกเขาจะช่วยพวกเขา
"เข้าใจแล้ว" มอร์ริสซ่าพยักหน้าทันที
พ่อมดทั้งสามตื่นอย่างรวดเร็วด้วยคาถาของมอร์ริสซ่า
ท้องฟ้าร้องอีกครั้งและเมฆหนาก็มาพร้อมกับฝนที่ตกหนัก วิสัยทัศน์ภายนอกที่พักนั้นไม่ดีและฝนก็ตกลงมาโดนหลังคาอย่างแรง เสียงของมันเหมือนก้อนหินเล็กๆโดนกระดานโลหะขนาดใหญ่
แองเจเล่ยืนข้างประตูอย่างเงียบๆ เขากำลังคิดในขณะที่จ้องไปที่เมืองหมอกขาว
"ขอบคุณที่ช่วยข้า" เสียงของฮิคาริดังมาจากข้างหลัง
"ไม่เป็นไร ข้าสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวผ่านรูนสื่อสารของเรย์ไลน์ นั่นเป็นวิธีที่ข้าพบเจ้า" แองเจเล่ตอบเสียงเบา "ข้าได้ปะทะกับผีหลายครั้ง เจ้าควรฟังคำพูดของข้า"
"เรย์ไลน์หรือ" ฮิคาริลังเลชั่วครู่และเดินไปหาแองเจเล่
"ไม่ มันไม่ใช่ข้า รูนสื่อสารของข้าไม่ได้เปิดใช้งาน" เรย์ไลน์ก้าวออกจากที่พักและเดินไปหาแองเจเล่ด้วย เขาดูสับสน
"เรากินอาหารและข้าก็ไปนอนหลังจากที่อาบน้ำในอาคารนั้น เมื่อข้าตื่นข้าก็อยู่ในที่พักไม้แล้ว" เรย์ไลน์ส่ายหัวเล็กน้อย "ข้าเชื่อว่าข้าหลับทั้งวัน" เขามองไปที่พื้นในขณะที่เขาขมวดคิ้ว
"ฮิคาริบอกข้าว่าเจ้าพบเราในหลุมฝังศพเดียวกัน กรีน เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้พูดเล่น ข้าเชื่อว่าข้าหลับในอาคารนั้น.."
"มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น" ฮิคาริขัด มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอย้ายไปในหลุมฝังศพตอนไหน
เรย์ไลน์เงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ "ข้าเป็นหนี้เจ้า กรีน"
แองเจเล่มองไปที่เรย์ไลน์ เขาตกใจที่ชายคนนี้กลืนความภาคภูมิใจของเขาและขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
"ข้ามีคำถาม เจ้าเคยได้ยินเรื่องแม่มดแห่งโชคชะตาไหม มันควรเป็นแม่มดที่ชื่ออริสม่า" แองเจเล่ถาม
เรย์ไลน์และฮิคาริสบตากันด้วยความสับสน
"แม่มดแห่งโชคชะตา" เสียงของสติกม่าดังมาจากที่พัก เขาก้าวออกมาจากประตูและเดินไปที่กลุ่ม "มีเพียงพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปกลางเท่านั้นที่จะได้รับฉายาเช่นนั้น กรีน เจ้าพบชื่อนี้ที่ไหน"
ชายคนนี้มีสีหน้าที่แปลก
แองเจเล่หันกลับไปและจ้องไปที่สติกม่า
"จากป้ายหลุมฝังศพ สติกม่า มีคำถามมากมายที่ข้าต้องการถาม"
"ข้าไม่รู้..." สติกม่าส่ายหัว "ข้าเป็นลมเมื่อข้าหนีออกจากเมือง มันรู้สึกเหมือนมีคนตามข้า ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าของมันแต่ข้าก็มองไม่เห็นมัน ข้าร่ายคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าแต่มันก็ไม่ได้ผล บาดแผลมาจากคาถาของข้าเอง"
แองเจเล่หรี่ตาและยังจ้องไปที่สติกม่า เขาสังเกตเห็นบางอย่างที่ต่างออกไปแต่คนอื่นๆยังสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด
"ไม่เป็นไร สติกม่าพาเราออกจากที่นี่เถอะ"
สติกม่าพยายามที่จะเข้าใจว่าทำไมแองเจเล่ถึงกดดันเขา พวกเขาสบตากันและตัดสินใจที่จะไม่พูดความจริงในตอนนี้
"ตกลง" สติกม่าพยักหน้า "อย่าเสียเวลากันอีกเลย"
"เจ้ากำลังพยายามซ่อนอะไรจากเรา" ฮิคาริขดริมฝีปากหลังจากที่ฟังบทสนทนา
"ขอโทษด้วยแต่ข้าไม่สามารถบอกความจริงเจ้าได้ในตอนนี้" สติกม่ายักไหล่
ฮิคาริยักไหล่เช่นกัน "ไม่เป็นไร ขนของของพวกเราและออกไปจากที่นี่กันเถอะ"
เรย์ไลน์ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินตรงกลับไปยังที่พักไม้
พ่อมดทั้งห้าคนแบกของของพวกเขาและออกจากเมืองหมอกขาวในสายฝน พวกเขาเดินทางข้ามหุบเขาอเวจีและมุ่งหน้าไปที่ราบ
เมืองหมอกขาวค่อยๆหายไปจากขอบฟ้าในช่วงที่ฝนตกหนัก
สติกม่ายังเหลือบมองไปที่เมืองและเขาก็ดูหดหู่
เรย์ไลน์กำลังเดินอยู่ด้านหน้า ฮิคาริและมอร์ริสซ่าอยู่ตรงกลางในขณะที่แองเจเล่และสติกม่าอยู่ข้างหลัง
"ทำไมเจ้าถึงมองไปที่เมือง เจ้าพลาดอะไรไปหรือเปล่า" แองเจเล่ส่งคำพูดของเขาโดยใช้อนุภาคพลังงาน
สติกม่ามองไปที่แองเจเล่และส่ายหัว "เจ้ารู้มากแค่ไหน"
"ข้าคิดว่าข้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้ารู้" แองเจเล่ตอบเสียงเบา
บทสนทนาจบลงแค่นี้
วิสัยทัศน์บนถนนนั้นแย่ แองเจเล่แทบจะมองไม่เห็นอะไร พวกเขามุ่งหน้าไปตามทิศทางที่สติกม่าชี้
พ่อมดทุกคนตรวจสอบให้แน่ใจว่าโล่พลังงานของพวกเขาทำงาน
สายฝนตกลงมาเรื่อยๆ
พวกเขาพบพื้นที่ปลอดภัยในป่าขนาดเล็กและสร้างโรงเก็บไม้ มอร์ริสซ่าตั้งกองไฟขนาดเล็กและพ่อมดก็เริ่มทำให้เสื้อผ้าของพวกเขาแห้งด้วยอนุภาคพลังงานไฟ
แองเจเล่และสติกม่านั่งอยู่ข้างกองไฟชั่วครู่แล้วก็ออกมาโดยใช้ข้อแก้ตัวบางอย่าง
พวกเขาสบตากันและพยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขาเดินไปในทิศทางที่แตกต่างกันและเข้าไปในป่าลึก
แองเจเล่เดินไปชั่วครู่และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเขา
จากนั้นเขาก็หยุดและเอากล่องดำออกมาจากถุงกระเป๋า
ลวดลายบนผิวของกล่องหายไปแต่มันแทนที่ด้วยรูปสีดำ
มันดูเหมือนมือคู่หนึ่งที่ยกคริสตัลรูปเพชรขึ้น รูปดูเรียบง่ายแต่มันถูกวาดด้วยเส้นสีทองแข็ง
แองเจเล่จับกล่องในมือขวาและใช้มือซ้ายจับฝามัน
กล่องดำสามารถเปิดได้อย่างง่ายดาย
ภายในมันมีลูกบอลที่มีแก๊สสีดำกำลังหมุน
'เจ้าต้องการอะไรจากข้าอีก' มีเสียงแหบแห้งของผู้หญิงดังก้องในหูของแองเจเล่
เขาไม่ได้ตกใจเรื่องเสียง มันดูเหมือนว่าเขาได้ศึกษากล่องแล้ว
'ท่านแน่ใจเรื่องนี้หรือไม่ ข้าเป็นเพียงพ่อมดมืดระดับหนึ่งและท่านเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ ข้ายังไม่ได้มีพรสวรรค์ ข้าไม่คิดว่าข้าสามารถ....' แองเจเล่ตอบอย่างสงบ
'ข้าจะไม่เข้าใกล้เจ้าถ้าเจ้าไม่มีกุญแจแห่งเงา...' เสียงผู้หญิงฟังดูหมดความอดทน 'การต่อสู้ระหว่างข้าและอริสม่ามีมาหลายสิบปีและมันก็ไม่จบลงเพียงเพราะพวกเราตาย อริสม่าพบผู้ชายที่ดีที่จะสืบทอดมรดกของเธอ ข้าต้องออกจากอาณาเขตของข้าทันทีมิฉะนั้นเธอจะบอกให้นักเรียนของเธอฆ่าข้าในภายหลัง ยังไงก็ตามเจ้าและข้าก็เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว มันไม่มีเหตุผลที่ต้องพูดเรื่องนี้อีก'
'อย่างน้อยก็ควรบอกชื่อของท่าน....หรือฉายาของท่าน' แองเจเล่ขดริมฝีปาก
'ฉายาหรือ ข้าไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย คนจะตั้งฉายาขึ้นมาเองเมื่อเจ้ามาถึงระดับหนึ่ง เจ้าต้องการทำวิจัยเกี่ยวกับข้าและข้าเข้าใจแต่ข้าจะไม่บอกเจ้าทุกเรื่อง'
'ข้าขอโทษแต่ถ้ามีทางเลือกข้าก็ไม่ต้องการให้คนมาอาศัยอยู่ในร่างกายของข้า' แองเจเล่หัวเราะเบาๆ
'เด็กน้อย เจ้าโชคดี อริสม่าเลือกชายที่ชื่อสติกม่าและข้าเลือกเจ้า มีเพียงสิ่งที่ดีเท่านั้นที่เกิดขึ้น ตอนนี้ข้าจะไปพักก่อน อย่ารบกวนข้าเว้นแต่ว่ามันจะสำคัญจริงๆ'
เสียงผู้หญิงหายไป
แองเจเล่ส่ายหัว เขาพยายามหาว่าส่วนใดของร่างกายเขาที่'ตำนาน'นี้อาศัยอยู่โดยใช้วิธีต่างๆแต่มันก็ไม่ได้ผล กล่องดำเพียงช่วยพวกเขาในเรื่องการสนทนา
"อริสม่า แม่มดแห่งโชคชะตา..." แองเจเล่หรี่ตาและตัดสินใจที่จะทำวิจัยเกี่ยวกับชื่อนี้ก่อน
เขามีความลับมากมายที่ต้องว่อนแต่มันดูเหมือนว่า'ตำนาน'ในร่างกายของเขาจะตรวจไม่พบชิป แองเจเล่ไม่ได้เชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้อย่างเต็มที่
เขาได้ทดสอบหลายครั้งและยืนยันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สังเกตเห็นว่าเขาคุยกับซีโร่
แองเจเล่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมอีกครั้งและเริ่มมุ่งหน้ากลับ
เขาต้องพิจารณาสถานการณ์ใหม่
ดวงวิญญาณของสติกม่าถูกครอบครองโดยอริสม่า ถ้าเสียงไม่ได้โกหกเขาสติกม่าก็ไม่ต้องพึ่งตระกูลของเขาอีกต่อไป เขาเดินไปเส้นทางเดียวกับพ่อมดโบราณและเขาจะกลายเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์
หลังจากเดินไปประมาณสิบห้านาทีแองเจเล่ก็เห็นสติกม่ากำลังมุ่งหน้ากลับไปที่ค่ายเช่นกัน
เขาสังเกตเห็นว่าพลังจิตของสติกม่าได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและคลื่นพลังจิตของเขาได้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้
แองเจเล่ไม่ได้ตกใจ สติกม่าโบกมือให้แองเจเล่แต่เขาไม่ได้หยุด
"กรีน ไม่ต้องแปลกใจ ข้ารู้ว่าตอนนี้ข้าแตกต่างออกไป" สติกม่าพูดอย่างสงบแต่แองเจเล่มองเห็นความสุขบนใบหน้าของเขา
"เจ้ายังเป็นสติกม่าที่ข้ารู้จักหรือไม่" แองเจเล่หรี่ตาและถามเสียงเบา
"คนเราต้องเปลี่ยน กรีน เช่นเดียวกับข้าและเจ้าแต่ข้ายังเป็นคนที่รอดจากอุปสรรคทั้งหมดกับทีมของเรา"
"ตอนนี้แผนของเจ้าคืออะไร มุ่งหน้ากลับไปยังตระกูลของเจ้าหรือ"
"ไม่ ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ มีพ่อมดระดับสองสามคนในตระกูลของข้า พ่อของข้าและผู้อาวุโสสองคน ข้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในการประชมของตระกูลกับสิ่งที่ข้ามีอยู่ตอนนี้" สติกม่าส่ายหัว
"เพียงแค่บอกข้าถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ" แองเจเล่ลดเสียงลง สติกม่ารับการโจมตีให้เขาหลายครั้งบนเรือเหาะและแองเจเล่คิดว่าชายคนนี้เป็นเพื่อน
"ข้าจะบอก ขอบคุณ"
แองเจเล่เฝ้าดูสติกม่าเดินไปที่กองไฟและเขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่สติกม่ากลับไปที่ตระกูล
"จุดหมายต่อไปของข้าคือเมืองที่มีการขนส่งทางอากาศในทวีปกลาง" แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆ
"ดี ข้าไม่ได้เจอเมืองที่มีมนุษย์มาหลายปีแล้ว" ทันใดนั้นก็มีเสียงแหบแห้งของผู้หญิงมาขัด