ตอนที่แล้วEG บทที่ 5 ขายหมี (รีไรท์อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 7  การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (รีไรท์อ่านฟรี)

EG บทที่ 6 พี่เขยในอนาคต (รีไรท์อ่านฟรี)


 

เฝิงหยู่ร่างสัญญาขึ้นสองฉบับทั้งภาษาจีนและรัสเซียอย่างมีเชี่ยวชาญ  ไม่มีคอมพิวเตอร์ในการพิมพ์สัญญาออกมาจึงทำให้เขาไม่เคยชิน  ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นสัญญาอย่างเต็มใจ  จากการเจรจา เฝิงหยู่ทำให้หมีดำ มูลค่าหนึ่งหมื่นหยวนแลกเปลี่ยนมันเป็นเงินสองหมื่นรูเบิ้ล  กับอีกเจ็ดพันหยวน  และโรงแรงนานาชาตินี้ยังจัดการเรื่องการถลกหนังและการจัดการกับเครื่องในรวมอยู่ในราคานี้ด้วย

 

 

หยูชุนหยวนอยากให้เฝิงหยู่แลกเงินรูเบิ้ลโดยตรง แต่เฝิงหยู่ปฏิเสธ   ช่วงปลายปี 2523 อัตราแลกเงินเงินตราต่างประเทศในจีนยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ  เขาจำได้ขึ้นใจว่าพี่เขยในอนาคตของเขานั้น มีวิธีการเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศให้เป็นเงินหยวนได้

 

 

หลังจากเฝิงหยู่จากไปแล้ว  ล่ามของจีหลี่เหลียนเคอมาถึงพอดี หลังจากที่ล่ามรู้ว่าจีหลี่เหลียนเคอซื้อหนังหมีดำด้วยเงินถึงสองหมื่นรูเบิ้ล  ล่ามจึงบอกไปว่าเขาถูกหลอกเสียแล้ว  และยังบอกจีหลี่เหลียนเคออีกว่า ถ้าหากจีหลี่เหลียนเคอต้องการละก็  เขาสามารถซื้อหนังของหมีดำได้ด้วยเงินเพียงห้าพันหยวนเท่านั้น

 

 

จีหลี่เหลียนเคอโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง  เขาถูกเด็กหนุ่มชาวจีนคนนั้นต้มตุ๋นเสียได้  แต่ก็ช่างมันเถอะ  เพราะหนังของหมีดำที่เขาได้มายังใหม่สดพอที่จะให้เขาคุยโวโอ้อวดได้สบายๆ   ถ้าเขาซื้อหนังของหมีดำที่มีอายุสองสามปี  กลับไปซื้อที่รัสเซียไม่ดีกว่าหรือ?  แต่กระนั้น ถ้าเขาพบเด็กหนุ่มคนนี้อีก  เขาจะให้บทเรียนเจ้าหนุ่มนั่นอย่างสาสม

 

 

“ลูกกำลังจะพบกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนใช่ไหม?  เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”  เฝิงซิ่งไท่มองดูลูกสาว  และถามขึ้นอย่างสงสัย

 

 

“พ่อ เด็กผู้หญิงคนไหนจะมาพบกับผู้หญิงด้วยกันในช่วงเวลานี้ของปี?  ผมเดาว่านั่นเป็นแฟนของพี่สาว  ดีนะที่พ่ออยู่ด้วย  จะได้มาช่วยๆเจ้าหนุ่มคนนั้นว่ามีนิสัยใจคออย่างไร  จากประสบการณ์หลายปีของพ่อลองดูซิว่าจะจับโกหกอะไรเขาได้ไหม”  เฝิงหยู่กล่าว  ทำให้พ่อภูมิใจสุด ๆ

 

 

“ดี ลูกก็พูดถูก  มันเป็นปกติที่พี่สาวของลูกจะมีแฟน ในช่วงอายุเท่านี้  แต่นิสัยใจคอของเขาต้องดีด้วยนะ!  เสี่ยวหยู่ ดูไม่ออกเลยว่าลูกก็ตั้งใจเรียนที่โรงเรียนกับเขาด้วย  ลูกพูดกับคนรัสเซียได้อย่างคล่องแคล่ว  แถมยังร่างสัญญาเป็นภาษารัสเซียด้วยอีก   ท่าทางอ้ำอึ้งพูดไม่ออกของผู้จัดการหยูนั้นยอดเยี่ยมไปเลย”

 

 

“แน่ล่ะ ก็ผมเป็นลูกของพ่อนี่ครับ”  เฝิงหยู่ตอบ ทำให้ดฝิงซิ่งไท่มีความสุขมากยิ่งขึ้น

 

 

ก่อนหน้านี้ ลูกชายของเขาได้เจรจาซื้อขายราคาหมีกับชายชาวรัสเซียสองคนและผู้จัดการหยู่ของโรงแรมนานาชาติ   ส่งผลให้ขายหมีได้สูงกว่าราคาที่คาดไว้   ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ สายตาที่คนในโรงแรมมองดูพวกเขา..  อย่างไรเสีย ครอบครัวตระกูลเฝิงในที่สุดก็มีอัจฉริยะคนหนึ่ง

 

 

เฝิงซิ่งไท่ดึงเชือกเพื่อสตาร์ทรถแทร็คเตอร์  เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น  เฝิงหยู่ส่ายหัวอย่างเงียบ ๆ รถแทร็คเตอร์ยังคงใช้เชือกเก่าๆ ดึงเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์  คงมีใครที่ต้องไหล่หลุดเมื่อดึงเชือกเส้นนั้น

 

 

จำนวนเงินที่มีตอนนี้  เขาสามารถรับประกันได้ แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ทำไร่ทำสวน  พวกเขาจะยังคงเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านนั้น ในปีหน้า

 

 

เฝิงซิ่งไท่ขับรถแทร็คเตอร์ออกไป จากการบอกเส้นทางโดยเฟิงตันตอิงเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง  พวกเขาก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างทาง  สวมแจ็คเก็ตหนาทำด้วยฝ้าย  ในมือนั้นเขาแบกเสื้อโคททหารไว้ด้วย

 

“พ่อ หยุดรถ หลี่ซื่อเฉียงอยู่ตรงนั้น”  เฝิงตันอิงตีแขนของพ่อ  เมื่อวานหลังจากที่เฝิงหยู่โทรศัพท์ไปที่โรงแรมแล้ว  ตันอิงก็โทรไปหาหลี่ซื่อเฉียงด้วยเช่น  เพราะเธอคิดถึงเขา   ตันอิงเลยตามมาในเมืองปิงด้วยก็เพื่อที่จะได้พบกับเขานั่นเอง

 

 

“ตันอิง  มันหนาวนะ ใส่เสื้อนี้สิ”  เมื่อเห็นเฝิงตันอิงออกมาจากรถแทร็คเตอร์  หลี่ซื่อเฉียงวิ่งปรี่เข้ามาและใช้เสื้อโคททหารคลุมทับร่างของเธอ

 

 

“แค่ก” เฝิงซิ่งไท่กระแอมออกมาเสียงดัง  เขามีความสุขที่ชายหนุ่มรู้จักนำเสื้อโคทมาคลุมให้ลูกสาว แต่เขาไม่ชอบใจที่จะต้องมาเห็นชายอื่นเอาเสื้อโคทมาคลุมให้ลูกสาวต่อหน้าต่อตาเขา

 

 

“สวัสดีครับ คุณอา  ผมชื่อหลี่ซื่อเฉียง ผมอยู่ที่เมืองปิง หลังจากปลดประจำการทหารเมื่อปีที่แล้วผมก็กลับมาทำงานที่นี่  ผมทำงานในที่ว่าการไปรษณีย์ใกล้ๆนี่เอง  ส่วนเธอก็เสี่ยวหยู่สินะ พี่สาวของเธอมักเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟังอยู่เสมอ”

 

 

“สวัสดีครับ พี่หลี่”

 

 

เฝิงหยู่ยิ้มและแอบส่ายหัวในเวลาเดียวกัน  ตอนที่ได้ยินคำพูดของหลี่ซื่อเฉียงพ่อเขาคงต้องโกรธแน่  ที่บอกว่าเขาได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเฝิงหยู่จากพี่สาว  นั่นเป็นการบอกเป็นนัยว่าพวกเขารู้จักมักมักจี่กันมาเป็นเวลานาน  ถ้าเฝิงซิ่งไท่ไม่ได้มาขายหมีที่เมืองปิง  เขายังคงไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้

 

 

และมันก็แน่นอน  หน้าของเฝิงซิ่งไท่ถอดสีกลายเป็นเคร่งขรึม  เขามองหลี่ซื่อเฉียงตั้งแต่หัวจรดเท้า  หลี่ซื่อเฉียงไม่ได้สูงมากนัก ประมาณ1.75 เมตรเท่านั้น  แต่ดูมีจิตใจที่ดีและมุ่งมั่น  การทำงานเป็นข้าราชการในทีทำการไปรษณีย์ก็ไม่เลวนัก   แต่การที่เห็นลูกสาวของเขาอยู่ข้างหลังชายผู้นี้   ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก

 

 

“คุณอา  ใกล้เที่ยงแล้ว  เชิญมาทานอาหารกลางวันที่บ้านของผมกันเถอะครับ”

 

 

เฝิงซิ่งไท่ลังเล การจะไปทานอาหารที่บ้านของเขา ก็หมายความว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต้องพบกันนะซี

 

 

เฝิงหยู่เห็นบิดาลังเล เลยให้กำลังใจ “พ่อ ไปกันเถอะ ผมมีบางอย่างจำเป็นต้องถามพี่หลี่”

 

 

เฝิงหยู่คิดถึงเรื่องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้  ซึ่งจะเพิ่มพูนเงินของเขาอีกเป็นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

 

 

แต่เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เขาต้องหาคนที่เชื่อใจ และคนๆนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้า

 

 

“ตกลง แต่ไม่จำเป็นต้องทานอาหารกลางวันหรอก  เราจะดื่มอะไรก้นนิดหน่อย แล้วก็จะกลับแล้ว”

 

 

เมื่อเห็นพ่อแม่ของหลี่ซื่อเฉียงรอคอยอยู่ที่บันได เฝิงซิ่งไท่รู้สึกปลาบปลื้มใจ  เขารู้สึกว่าครอบครัวตระกูลหลี่นี้ไม่เลวเลย

 

 

“มิสเตอร์เฝิง เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ  นี่ต้องเป็ตันอิงแล้วก็เสี่ยวหยู่สินะ  ทั้งสองคนได้เค้าหน้าหล่อเหลาจากคุณเฝิงเลยนะครับ”  คุณหลี่กล่าวชื่นชมบุคคลทั้งสามด้วยคำพูดประโยคเดียว

 

 

ตอนผู้จัดการหยู่เรียกเขาว่ามิสเตอร์เฝิง เฝิงซิ่งไท่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่  คุณหลี่เรียกเขาว่ามิสเตร์เฝิง  ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รับการเคารพอย่างมาก  ใบหน้าของเขาจึงยิ้มหน้าบาน

 

 

ขณะขึ้นบันได  เฝิงซิ่งไท่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย  ที่ไร่และในหมู่บ้านของพวกเขาไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรจำพวกนี่มากมาย  โชคดีที่ยังมีร้านเล็กๆอยู่ชั้นล่างบันได้ เฝิงซิ่งไท่จึงซื้ออาหารกระป๋องและเครื่องดื่มมอลท์มาเป็นของขวัญ  มันคงไม่ดีที่จะไปเยี่ยมบ้านคนอื่นด้วยมือเปล่า

 

 

เมื่อเข้าไปในบ้าน  เฝิงหยู่มองไปรอบ ๆ  ตัวบ้านไม่ใหญ่โตนัก  มีพื้นที่มากกว่า 50 ปิง  เล็กกว่าบ้านไร่ของพวกเขาเสียอีก  แต่อย่างน้อยๆ บ้านไร่ของพวกเขาก็ยังมีลานหน้าบ้านและสวนเล็ก ๆอีกด้วย

 

 

เฝิงซิ่งไท่พูดคุยกับคุณหลี่ผู้เป็นบิดาอย่างมีสนุก  คุณหลี่ผู้เป็นมารดาจัดเตรียมน้ำชา และเสริฟเมล็ดแตงโมและของหวานให้พวกเขา ก่อนจะกลับเข้าไปในครัวเพื่อเริ่มทำอาหาร  ลูกชายของนางได้พาแฟนสาวและพ่อแม่ของเธอมาที่บ้านเป็นครั้งแรก  ไม่ว่าอย่างไร เธอต้องเตรียมอาหารกลางวันให้แขก ยิ่งกว่านั้น ช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงเวลาปีใหม่เสียด้วย

 

 

บิดาทั้งสองมีความสุขที่ได้พูดคุยกัน  เฝิงหยู่ดึงหลี่ซื่อเฉียงไปทางด้านหนึ่ง

 

 

“พี่หลี่ พี่ทำงานที่ว่าการไปรษณีย์ใช่ไหม?”

 

“ใช่  พี่สาวเธอไม่ได้บอกหรือ?  เธออยากจะซื้อแสตมป์รูปลิงไหม?  ผมจะบอกเธอให้ ตอนนี้สแตมป์รูปลิงมีค่าเกือบ 50 หยวนต่อดวง  แต่มันยังไม่คุ้มเท่าไหร่  ถ้าเธอต้องการแสตมป์แบบอื่นๆ  ผมสามารถจะช่วยเธอได้นะ”

 

 

มีคนมากมายที่เข้ามาสนิทสนมหลี่ซื่อเฉียงเพื่อให้ช่วยซื้อแสตมป์รูปลิงให้  แต่ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ ก็ในเมื่อเมื่อไม่ได้มีการจัดพิมพ์แสตมป์อีกแล้ว

 

 

“เปล่า ผมต้องการจะถามถึงพันธบัตรคลัง  พี่จะสามารถช่วยผมซื้อพันธบัตรคลังได้ไหม?”

 

 

เฝิงหยู่เพิ่งจะนึกแสตมป์รูปลิงออก โชคไม่ดีที่มันสายเกินไปเสียแล้ว  ยุคทองของการลงทุนกับแสตมป์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว  แม้นเขาจะลงทุนตอนนี้  ผลตอบแทนก็ไม่ได้มากมายนัก

 

 

ชีวิตในอดีต มีบางคนทีได้ถังทองอันแรกจากพันธบัตรคลัง เขากลายเป็นเศรษฐีภายในหนึ่งปี  โดยใช้เงินเพียง 2000  หยวนเป็นเงินลงทุนในงวดแรก

 

“พันธบัตรของคลังหรือ? เธอต้องการนั่นไปเพื่ออะไร  เวลาการจ่ายคืนนั้นยาวนาน  และไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้  พี่ทำงานที่ว่าการไปรษณีย์ และถูกบังคับให้ซื้อพันธบัตรคลังดอลล่าร์เป็นโหล ถ้าเธออยากได้   ฉันจะให้พันธบัตรคลัง  จำนวนสิบเหรียญกับคุณ  เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ได้นะ”

 

 

สำหรับบางคนที่ได้รับแปดสิบหยวนต่อเดือน  สิบดอลล่าร์จึงถือเป็นจำนวนเงินที่มากอยู่  แต่เพื่อแฟนของเขา  หลี่ซื่อเฉียงจึง “เต็มใจ” ให้สิบหยวนเฝิงหยู่

 

เฝิงหยู่มองหลี่ซื่อเฉียง แล้วยิ้มเจื่อน ๆ

 

 

“พี่หลี่ ผมไม่ต้องการพันธบัตรคลังของพี่  ผมเพียงแต่ต้องการซื้อธนบัตร  พี่ช่วยผมได้ไหม  ผมต้องการจะซื้อพันธบัตรจากเพื่อนในที่ทำงานและเพื่อน ๆ ของพี่อีกด้วย  ผมสามารถซื้อทั้งหมดเท่าที่พี่จะสามารถหามาได้”

 

 

หลี่ซื่อเฉียงรู้สึกประหลาดใจ  น้องชายของเฝิงตันอิงโง่หรือเปล่า?  ผมบอกเขาไปแล้วว่าพันธบัตรนั้นไม่มีค่าอะไร กระนั้น เขายังต้องการที่จะซื้ออยู่อีก!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด