ตอนที่ 275: เมืองหมอกขาว (2)
"สติกม่า!" ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ตะโกนในขณะที่ทั้งเดินเข้าไปในประตู
"อะไร" พ่อมดทั้งสามหันมาพร้อมกัน
แองเจเล่ถือกล่องดำในมือขวา
"เจ้าเชื่อข้าหรือไม่ว่ากล่องนี้ไม่ใช่ของข้าแต่มีใครบางคนวางไว้ในมือของข้า ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คิดให้ดีก่อนที่จะทำ" แองเจเล่หยุดชั่วครู่แล้วก็พูดต่อ "ข้าเชื่อว่าถ้าวิญญาณสามารถใส่กล่องไว้ในมือของข้าได้โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นมันก็สามารถแทงมีดเข้าไปในหัวใจของข้าได้ก่อนที่ข้าจะสู้กลับ"
ทั้งสามลังเลชั่วครู่แต่เรย์ไลน์ก็ส่ายหัว
"กรีน ข้าไม่ใช่พ่อมดคนเดียวกันกับที่แพ้ให้เจ้า ความกลัวจะหยุดเจ้าจากความก้าวหน้า"
"มันไม่ใช่ความกลัว" แองเจเล่ตอบด้วยความสงบ "เจ้าไม่จำเป็นต้องเสี่ยง เราได้รอดจากอุปสรรคทั้งหมดและโอแมนดิสก็อยู่ตรงหน้าเรา เจ้าไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้"
"ยอมรับซะเถอะว่าเจ้ากลัวสิ่งนี้" เรย์ไลน์ขดริมฝีปากในขณะที่สายตาของเขามองไปที่กล่องบนฝ่ามือขวาของแองเจเล่ "ทำไมวิญญาณถึงไม่มอบกล่องนั้นให้ข้าแทนที่จะเป็นเจ้า"
แองเจเล่ยังคงเงียบเนื่องจากเขาไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้
"ไม่เอาน่า ตอนนี้เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องโต้เถียงกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรายังเป็นทีมอยู่" สติกม่าพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น
"ไปกันเถอะ" เรย์ไลน์ส่ายหัวและหันกลับไปหายไปในเมฆสีขาวของเมือง สติกม่ายิ้มขอโทษ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเข้าเมืองไปพร้อมกับฮิคาริอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่และมอร์ริสซ่ารออยู่ข้างนอกเมืองเงียบๆและเฝ้าดูพ่อมดทั้งสามคนหายไปในหมอก
มันเริ่มมืด เมฆได้หนาขึ้นและลมก็เริ่มแรงขึ้น
"ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าไปกับพวกเขา" แองเจเล่สงสัย
มอร์ริสซ่าลังเลชั่วครู่และตอบ
"ฉากที่ข้าเห็นในห้องนอนมัน......น่ากลัว ข้าเพียงดัดแปลงรูปแบบคาถารักษาในหอคอยหกวงแหวน ข้าไม่เก่งเรื่องต่อสู้และข้าเกลียดมัน อย่างไรก็ตามข้าก็ยังรู้สึกไวกับพวกผีและข้ามองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น...."
"หา แม้แต่ตอนที่พวกเขาไม่ต้องการให้เจ้าเห็นงั้นหรือ" แองเจเล่หรี่ตา
"ใช่ ข้ารู้ว่ากล่องไม่ใช่ของเจ้า มันมีความรู้สึกเดียวกับผู้หญิงที่ข้าเห็นในห้องนอน ทำไมเจ้าถึงไม่ลองโยนมันทิ้งไป" มอร์ริสซ่าตอบเสียงเบา
แองเจเล่นึกถึงอุปสรรคที่เขาเจอระหว่างการเดินทาง เขามีปัญหากับผึ้งเมฆาและจิตวิญญาณพายุแต่พวกเขาก็หลบส่วนอื่นมาได้อย่างง่ายดายด้วยคำแนะนำของสติกม่า มอร์ริสซ่าเป็นพ่อมดแสงที่อ่อนแอแต่เธอช่วยได้อย่างมากเมื่อสติกม่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
แองเจเล่สงสัยว่าทุกสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยองค์กรพ่อมดมืด องค์กรอาจจะต้องการเห็นว่าเขาสามารถอยู่รอดจากอุปสรรคทั้งหมดและไปถึงโอแมนดิสแบบเป็นๆได้หรือไม่
แองเจเล่ส่ายหัวและถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย "ลองหาสถานที่ที่อยู่ใกล้ๆและรอพวกเขากำจัดผีกันเถอะ"
"ตกลง"
พวกเขาเดินเข้าไปในป่าและพบพื้นที่ว่างเล็กๆ
แองเจเล่ใช้เชี่ยวชาญโลหะเพื่อล้มต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นและตัดมันเป็นแผ่น แผ่นไม้ถูกมัดด้วยสายโลหะและแทงเข้าไปในโคลน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีที่พักไม้ขนาดเล็กถูกสร้างขึ้น ผนังและหลังคาปกคลุมไปด้วยชั้นโลหะเงินบางๆ เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าที่พักดีพอที่จะรับมือกับพายุได้
ที่พักมีขนาดค่อนข้างเล็กแต่มันก็ดีพอสำหรับคนสองคนที่จะอยู่ข้างใน
ด้วยการวัดที่แม่นยำโดยซีโร่แองเจเล่จึงไม่เสียไม้อย่างสูญเปล่า เขาสร้างอาคารเสร็จก่อนที่มันจะถึงเวลากลางคืน
การตัดต้นไม้และเชื่อมต่อแผ่นไม้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา
แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหน้าของทางเข้าที่พักจ้องไปที่เมืองหมอกขาวอย่างเงียบๆผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้
มอร์ริสซ่าพบกิ่งไม้แห้ง เธออยากจะทำกองไฟขนาดเล็กเพื่อทำอาหาร
แองเจเล่เล่นกับกล่องดำในมือในขณะที่จุดแสงสีน้ำเงินกะพริบข้างหน้าดวงตาของเขา
ทันใดนั้นเขาก็โยนกล่องดำขึ้นไปในอากาศ
กล่องดำพุ่งผ่านอากาศและหายไป
เขาใช้แรงกับกล่องดำอย่างมากในการโยนมันกลับเข้าไปในเมืองหมอกขาว
"เจ้า...กำลังทำอะไร" มีเสียงผู้หญิงมาจากข้างหลัง
แองเจเล่รีบหันกลับไปและเห็นมอร์ริสว่ากำลังมองเขาพร้อมกับถือกิ่งไม้ในแขนของเธอ เธอเปิดปากแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา
มันรู้สึกเหมือนมีใครบางคนปิดหูของเขาด้วยผ้าหนา
หลายวินาทีต่อมาแองเจเล่ก็ได้ยินเสียงของมอร์ริสซ่าอีกครั้ง
"กรีน เจ้าเป็นไรไหม" มอร์ริสซ่าสับสนในขณะที่เธอชี้ไปที่เท้าของแองเจเล่ "กล่องของเจ้าอยู่บนพื้น"
แองเจเล่ตกใจ เขามองลงไป
กล่องดำอยู่บนพื้นหญ้าข้างเท้าของเขาราวกับว่ากล่องถูกแองเจเล่ทำตกโดยบังเอิญ
ฉากนี้ทำให้หัวใจของแองเจเล่รู้สึกเย็นยะเยือก เขาแน่ใจว่ากล่องถูกโยนไปแล้ว
นอกจากนี้เสียงที่เขาได้ยินตอนแรกก็ไม่ได้มาจากมอร์ริสซ่า มันเป็นเสียงแหบแห้งของผู้หญิงที่พูดเสียงสั่น
"ไม่มีอะไร ข้าทำตกโดยบังเอิญ" แองเจเล่หยิบกล่องขึ้นมา
"เอาล่ะ ข้าจะเตรียมอาหารและซุป" มอร์ริสซ่าพยักหน้าแล้วเธอก็หันกลับไปและเข้าไปในที่พัก
'ซีโร่ แสดงบันทึกให้ข้าดู ข้าต้องการเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่' แองเจเล่หายใจเข้าไปลึกๆและสั่ง
[กำลังโหลดบันทึก...]
หลายวินาทีต่อมาสายตาของแองเจเล่ก็เบลอชั่วครู่และเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก็มีอยู่ในสายตาของเขา ฉากเริ่มจากตอนที่เขากำลังเล่นกล่อง
แองเจเล่มองไปที่ภาพอย่างเงียบๆ
เขาลุกขึ้นยืนข้างหน้าที่พักไม้และทำกล่องดำตกโดยบังเอิญ มันดูเหมือนร่างกายของเขาเป็นอัมพาตชั่วครู่และมอร์ริสซ่าก็พูดกับเขาหลังจากที่หยิบกิ่งไม้แห้งใกล้ๆมา พวกเขาคุยกันสั้นๆและไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขาไม่อยากจะเชื่อว่าบันทึกไม่ได้แสดงให้เขาเห็นตอนที่โยนกล่องดำไป
ซีโร่มักจะใช้การสะท้อนของคลื่นพลังงานที่แองเจเล่ปลดปล่อยเพื่อบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบันทึกผิดพลาด ถ้าความจำของแองเจเล่แตกต่างจากบันทึกของชิปก็มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น
มีบางอย่างเปลี่ยนความทรงจำของเขาและทำให้เขาคิดว่าเขาโยนกล่องไปแต่กล่องเพิ่งตกลงไปที่พื้น
"อะไรวะเนี่ย....นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงเกลียดผี.....บ้าเอ้ย" แองเจเล่ถอนหายใจ เขาพยายามเปิดกล่องแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ มันถูกผนึกอย่างสมบูรณ์และฝาก็เป็นของปลอม
เขาด่าผีหลายครั้งและรู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดพวกมันอย่างสมบูรณ์ แองเจเล่เป็นพ่อมดทางการที่มีค่าสถานะสูงและมั่นใจว่าเขาสามารถหลบการสาปครั้งนี้ได้
เขากลับไปที่พักไม้และมีซุปเห็ดที่มอร์ริสซ่าทำไว้อยู่
กลางคืนได้มาถึง
สายลมได้พัดโดนประตูอย่างแรง เสียงมันเหมือนมีคนกำลังร้องไห้ด้วยเสียงแหลมสูง
แองเจเล่นั่งอยู่ข้างกองไฟพยายามติดต่อสติกม่าด้วยรูนสื่อสาร
มีรูนสีดำรูปดอกทานตะวันกะพริบบนเล็บของเขา มันเป็นรูนสื่อสารของสติกม่า
"สถานการณ์เป็นอย่างไร" แองเจเล่ถาม
"เราทำได้ดี เรย์ไลน์ได้ตรวจสอบทั้งอาคารและไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรากำลังกินอาหารอยู่ตอนนี้" สติกม่าตอบ
"ระวังตัวไว้ ข้าแน่ใจว่าผียังอยู่ จำกล่องดำที่เราพูดถึงในตอนบ่ายได้ไหม"
"ใช่ ทำไม"
"ข้าโยนมันไปแต่วินาทีต่อมากล่องดำก็ปรากฏข้างเท้าของข้า" แองเจเล่พูดเสียงเข้ม
"มันกลับไปที่เท้าของเจ้า" สติกม่าฟังดูตกใจ "ไม่เอาน่า อย่าพยายามทำให้ข้ากลัวสิ มันไม่ใช่เรื่องตลก"
"ข้าไม่ได้ล้อเล่น...."
แองเจเล่ยืนขึ้นและมองไปที่มอร์ริสซ่า ผู้หญิงคนนี้เหนื่อยเกินไปและตัดสินใจที่จะงีบหลับ
แองเจเล่ก้าวออกไปจากประตูและคุยต่อไป
"ข้าแน่ใจว่าข้าโยนมันไปแต่...."
ทันใดนั้นก็มีชายที่คุ้นเคยปรากฏในสายตาของเขา
ผมสั้นสีดำ ใบหน้าซีด ชุดคลุมดำและมีดดำที่อยู่ที่เอว
มันเป็นสติกม่า
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาวิ่งไปที่พักไม้ด้วยความเร็วเต็มที่
"วิ่ง! กรีน! วิ่ง! มันกำลังมา! โอ้พระเจ้า!" สติกม่าตะโกน
"เฮ้ กรีน เกิดอะไรขึ้น" เสียงของสติกม่ายังถูกส่งมาจากรูนสื่อสาร "เอาล่ะ ซุปเห็ดของเราเกือบจะเสร็จแล้วแต่มันก็ไม่ค่อยมีรสชาติ เราต้องการเครื่องเทศของเจ้า...."
แองเจเล่มองไปที่ชายคนนั้นที่ยังวิ่งมาทางเขาและฟังคนที่พูดผ่านรูน กะโหลกของเขาชา
"อะไรวะเนี่ย เจ้าเป็นภาพลวงตางั้นหรือ"
"กรีน! ฟัง! เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!" สติกม่ากำลังกระวนกระวายและเขาเกือบจะล้มลงไปที่พื้น
แองเจเล่ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย เขายังพยายามคิดให้ออกว่าคนไหนเป็นสติกม่าตัวจริง
ข้อความจากรูนสื่อสารแสดงให้เห็นว่าสติกม่ากำลังกินซุปเห็ดกับเรย์ไลน์ในอาคารแต่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาปกคลุมไปด้วยเลือดสดๆ
"เจ้าเป็นสติกม่าตัวหรือเปล่า แสดงหลักฐานให้ข้าดู!" แองเจเล่ถามเสียงเข้มและถอยหลังไปหนึ่งก้าว
"บัดซบ! เจ้าสารเลวนั่นหลอกข้าและเรย์ไลน์ด้วยวิธีเดียวกันนี้" สติกม่ากำลังมีปัญหาในการหายใจ เขารีบเปิดใช้งานรูนสื่อสารบนเล็บของเขา
ชี่
มีรูนงูสีดำกะพริบบนเล็บของเขา มันเป็นรูนสื่อสารของแองเจเล่
ในขณะเดียวกันเสียงจากรูนสื่อสารของสติกม่าก็เปลี่ยนไป
"กรีน เจ้ายังอยู่ไหม เกิดอะไรขึ้น" มันมีเสียงแหบแห้ง มันฟังเหมือนหญิงชราคนหนึ่งที่พูดเสียงสั่น
มันเป็นผู้หญิงที่เลียนเสียงของสติกม่า
"บัดซบ! คนไหนเป็นตัวจริง" แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขาก้าวถอยหลังอีกครั้งอย่างช้าๆ มีจุดแสงสีน้ำเงินกะพริบข้างหน้าสายตาของเขา