ตอนที่69
“นี่เธอกำลังคิดมากอยู่ใช่ไหม” ทำไมพี่เบสถึงรู้ว่าฉันกำลังคิดมากด้วยเนี่ย ทำเป็นไม่รู้หน่อยก็ได้หรอกนะพี่เบส - -
“เปล่านะไม่ได้คิดมากอะไรเลยสบายๆ นายนี่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ”
ก็ต้องทำตัวสบายๆให้พี่เขาเห็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่เขาจะได้ไม่คิดมากกับเรื่องของฉันยังไงล่ะ
“อย่ามาโกหกฉันหน่อยเลยฉันรู้นะจมูกของเธอมันกระตุกขนาดนั้นเธอยังจะโกหกฉันอีกหรอ”
ห้ะฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเวลาฉันโกหกจมูกของฉันมันจะกระตุกด้วยเนี่ย พอรู้แบบนั้นฉันก็รีบปิดจมูกของฉันในทันที
“อย่าคิดมากไปเลยเรื่องแค่นี้ฉันจัดการได้สบายอยู่แล้ว แถมเวลามันก็ไม่ได้น้อยนิดเลยนะมันเยอะมากด้วย กว่าจะถึงหกโมงเย็นงานของเธอจะต้องเสร็จแน่นอน เชื่อใจฉันหรือเปล่าล่ะถ้าฉันบอกว่ามันทำได้มันก็ต้องทำได้”
พี่เบสส่วนมากเขาจะเป็นคนที่ทำตรงต่อเวลา ฉันจะไม่เชื่อใจเขาได้ยังไงล่ะ แต่ว่าฉันหยุดคิดมากไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เพราะฉันเป็นคนขี้คิดมาก
“ยังไงก็ขอบคุณนะที่นายช่วยเหลือฉันในการจัดงาน ฉันแค่ใช้ความคิดของฉันออกแบบธีมที่จะจัดแค่นั้นเอง”
ทุกสิ่งที่อย่างพี่เบสเป็นคนช่วยเหลือฉัน ไว้วันไหนที่พี่เบสช่วยเหลือตัวเองหรือต้องการความช่วยเหลือหนูจะไม่ทิ้งพี่เบสไปแน่นอนค่ะ
“ช่วยด้วยค่ะหมาบ้ามันกัดลูกสาวของฉัน ตอนนี้มันกำลังจะทำร้ายเด็กแล้วช่วยลูกฉันด้วย!!”
เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือได้ดังขึ้น เด็กโดนหมากัดหรอทำยังไงดีล่ะยังไงเราก็ต้องไปช่วยเด็กก่อนนะ ก่อนที่มันจะทำร้ายคนอื่นไปมากกว่านี้
“รีบไปกันเร็ว พนักงานทุกคนเตรียมทุกอย่างให้พร้อมป้องกันตัวเองด้วยนะคะ ยังไงก็ต้องช่วยคนบาดเจ็บก่อนไม่งั้นน้องอาจจะโดนหมาทำร้ายเอาได้”
ทุกคนเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะมันอันตรายมากแล้วพวกเราก็ไม่อยากจะทำร้ายหมาตัวนั้นด้วยเช่นกัน เราเดินออกไปจุดที่ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือก็พบว่าผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กผู้หญิงที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกัน พวกเขาทั้งสองคนกำลังปีนป่ายอยู่บนรถเพื่อที่จะหลบหมาบ้า ที่จะตะเกียกตะกายขึ้นไปบนรถเช่นกัน
“ฉันจะต้องเรียกร้องความสนใจมันก่อน ก่อนที่มันจะไปทำร้ายสองแม่ลูก”
ฉันรีบเดินไปเข้าไปใกล้ๆตรงจุดที่มีหมาบ้าอยู่ จะได้เรียกร้องความสนใจมันได้ง่ายขึ้น
“มานี่สิมาเล่นกับฉันดีกว่าไอ้หมาบ้า มาเร็วหมาบ้าหมาบ้า”
ฉันพยายามเรียกมันอยู่สักพักมันก็หยุดตะกายขึ้นรถไปหาสองแม่ลูกนั่น แล้วมันก็หันมาทางฉันแทน
“มันมาแล้วเตรียมผ้ากับตะข่ายเอาไว้หนาๆเลยนะทุกคน มาสิเจ้าหมาน้อยฉันรอแกอยู่”
มันเริ่มใช้ขาทั้งสี่ของมันวิ่งมาทางฉันเพื่อจะมาทำร้ายฉัน ฉันวิ่งไปหาทุกๆคนที่อยู่ข้างหลังของฉัน ก่อนที่พวกเขาจะใช้กับดักตะข่ายคลุมมันเอาไว้ แล้วใช้ผ้าคลุมมันอีกทีหนึ่ง
“พระเจ้าเกือบไม่รอดแล้วสิเรา ดีนะที่วิ่งหนีทันถ้าอ้วนคงวิ่งหนีไม่ทันแน่เลย”
ฉันหอบด้วยความเหนื่อยจากการวิ่งล่อมัน ฉันมองไปทางพี่เบสแล้วชูมือไปว่าฉันโอเคแล้ว ตอนแรกพี่เบสก็ชูนิ้วโป้งแสดงถึงความยอดเยี่ยมให้กับฉัน รถกู้ภัยมาถึงสถานที่เพื่อที่จะรับหมาไปพอดีตอนแรกคิดว่าเรื่องจะเงียบและจบลงไปแล้ว จู่ๆก็มีเสียงของคนร้องออกมาพร้อมเห็นเจ้าหมาหลุดจะมาทำร้ายฉัน ฉันหลับตาแล้วใช้มือปิดบังหน้าของตัวเองเอาไว้
“แอ๋ง” เสียงหมาได้ร้องออกมา ฉันเอามือออกก่อนจะพบว่าพี่เบสมาบังฉันเอาไว้พร้อมกับถีบหมาออกจากฉัน กู้ภัยจับหมาไปน่ะเป็นตอนที่เขาเอาตะข่ายออกมันดันออกมาได้ แล้วเห็นฉันจึงโกรธเลยพยายามแก้แค้นล่ะมั้ง
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมปอย” พี่เบสพูดขึ้น..ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกตอนนี้นะเพราะพี่ช่วยหนูไว้หนูเลยไม่เป็นอะไรไง แต่พอหันลงไปมงที่แขนของพี่เบสก็พบว่าพี่เบสมีลอยข่วนอยู่ ไม่ลึกมากแต่มีเลือดออก
“นี่นายมีบาดแผลหนิ ฉันว่าเราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะเร็วเข้า”
จริงๆเลยปกป้องฉันแล้วตัวเองเจ็บเนี่ยนะไม่ได้เรื่องเลยจริงๆผู้ชายคนนี้