TWO Chapter 99 โหมโรง
TWO Chapter 99 โหมโรง
ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 3 วันที่ 29 , 3 วันต่อมา ดินแดนเงียบสงบมาก งานประมูลก็ใกล้เข้ามาแล้ว และโอหยางโชวก็เริ่มรวบรวมเงินในดินแดนของเขา วันนี้เป็นวันที่เมืองซานไห่ได้ขายเกลือครั้งที่ 2
นาเกลือเขตเหนือ ได้รับการขยายอีก 2 ครั้ง ตั้งแต่การขยายล่าสุด โดยเฟส 2 ของนาเกลือ ขยายรวมเป็น 2,000 หมู่ เริ่มดำเนินการ วันที่ 26 กุมพาพันธ์ , เฟส 3 ของนาเกลือ ขยายรวมเป็น 5,000 หมู่ เริ่มดำเนินการ วันที่ 3 มีนาคม ผมผลิตนาเกลือทั้งหมดในครั้งนี้มีมากถึง 2.5 ล้านหน่วย
ราคาเกลือในตลาด คือ หน่วยละ 20 เหรียญทองแดง เกลือทั้งหมด 2.5 ล้านหน่วย รวมเป็นราคา 5,000 เหรียญทอง หักภาษี 20% เขาจะได้รับเงิน 4,000 เหรียญทอง นอกจากนี้ยังต้องหักค่าใช้จ่ายในการขนส่งอีก ดังนั้น กำไรทั้งหมดจากนาเกลือ คือ 3,600 เหรียญทอง เมื่อคิดถึงเงินที่ได้รับ หัวใจของโอหยางโชวก็สูบฉีด
……………………………………………………………………………………………………..
ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 3 วันที่ 30 เหมืองแร่หลางซานได้ส่งกำไรกลับมายังเมืองซานไห่
ในขณะนี้ เหมืองแร่หลางซานมีคนงานทั้งสิ้น 1,500 คน โดย 1,000 คน รับผิดชอบด้านการทำเหมือง อีก 500 คน รับผิดชอบด้านการขนส่งและสกัดแร่ ใน 1 วัน พวกเขาสามารถขุดแร่มาได้มากกว่า 100 ตัน ซึ่งมีทองคำมากกว่า 2,000 กรัม มันสามารถนำมาแปรรูปเป็นเหรียญทองได้อย่างน้อย 100 เหรียญทอง
หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเหมืองในครึ่งเดือน มีกำไรมากถึง 1,500 เหรียญทอง
ต้องไม่มองว่าผลกำไรของเหมืองทองนั้นต่ำกล่าวนาเกลือ แล้วคิดว่านาเกลือมีมูลค่ามากกว่า เหมืองเพิ่งจะถูกสร้างขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น และมีคนงานเพียง 1,500 คน ในขณะที่นาเกลือมีคนงานมากถึง 2,500 คน
รายได้โดยเฉลี่ย : คนงานนาเกลือทำรายได้ 2 เหรียญทอง/เดือน ในขณะที่คนงานเหมืองทองทำได้ 3 เหรียญทอง/เดือน นี่ยังไม่รวมความจริงที่ว่า เหมืองแร่หลางซานไม่จำเป็นต้องเสียภาษี 20%ของตลาด ทำให้มันมีกำไรมากกว่านาเกลืออย่างชัดเจน
สำหรับรายได้ของกรมการเงิน นับตั้งแต่โรงผลิตเหล้าเข้ามาสังกัดภายใต้กรมการเงิน สถานการณ์ทางการเงินก็มีสัญญาณในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ถ้าจะกล่าวถึงผลกำไร ในตอนนี้ยังคงไม่เหมาะสมนัก ประการแรก คือ ดินแดนยังอยู่ในสภาพคงตัว และยังต้องการเงินอัดฉีด ประการที่ 2 คือ ฝ่ายธุรกิจต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้พวกเขาต้องเก็บเงินสำรองไว้สำหรับกองทุน ดังนั้น ตราบเท่าที่กรมการเงินยังสามารถรักษาสมดุลงบประมาณได้ โอหยางโชวก็พอใจมากแล้ว
หลังจากที่คำนวณทั้งหมด โอหยางโชวมีเงินอยู่ทั้งสิ้น 7,570 เหรียญทอง ทำให้เขามีความมั่นใจมากจากการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้น ในปัจจุบัน ถึงแม้ชุนเซิ่นจุนจะร่ำรวยที่สุด แต่เขาก็คงมีเงินพร้อมใช้ไม่เกิน 1,000 เหรียญทองแน่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงิน แต่ดินแดนของเขาต้องการเงินอัดฉีดอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ทหารก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เฉพาะเมืองซานไห่เท่านั้น ที่มีห่านทองคำถึง 2 ตัว ทั้งนาเกลือ และเหมืองทอง
……………………………………………………………………………………………………..
ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 3 วันที่ 31
ไกอาได้ประกาศระบบประมูล และระบบแลกเปลี่ยนในชีวิตจริง
“แจ้งเตือนระบบ : เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 เดือน ของการเริ่มเกมส์ ระบบจะจัดงานประมูลครั้งแรก ในวันที่ 1 เดือน 4 จะมีสินค้าที่หายากจำนวนมากในงานประมูลนี้”
“แจ้งเตือนระบบ : ผู้เล่นต้องอัพเกรดตลาดเป็นขั้นกลางก่อน จึงจะเข้าร่วมงานประมูลได้”
ขณะที่มีการประกาศออกไป เหล่าลอร์ดที่ทรงอำนาจก็ต้องการสู้เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุด พวกเขาวิ่งเต้นเรียกร้องให้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของพวกเขา รวบรวมเงินให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองหานตาน ตี่เฉินถามจวู่ไต๋เฟิงฮัวว่า “เรามีเงินที่สามารถใช้ได้เท่าไหร่?”
จวู่ไต่เฟิงฮัวขุ่นเคือง ก่อนจะตอบว่า “หลังจากอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 3 เราใช้เงินจำนวนมากในการซื้อแบบแปลนสิ่งก่อสร้าง และอัพเกรดค่ายทหารเป็นขั้นสูง เราไม่มีเงินมากพอจะขยายกองทัพด้วยซ้ำ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาให้นายใช้อีก”
“แล้วยังไง? ตามข่าวที่ครอบครัวของฉันได้รับมา คู่มือการผลิตอาวุธและอุปกรณ์ที่หายาก จะปรากฎขึ้นในงานประมูลนี้ เราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะออฟไลน์และพยายามรวบรวมเงินให้ได้มากที่สุด ยังมีเวลาเหลืออีก 1 วัน บางที่เราอาจสามารถรวบรวมเงินได้มากพอ” ตี่เฉินส่ายหัวอย่างไม่สบายใจ
“นั่นคงเป็นวิธีเดียว” จวู่ไต่เฟิงฮัวไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองตานหยาง(อาทิตย์กลม) ชุนเซิ่นจุนได้เรียกผู้ดูแลด้านการเงินของดินแดนเข้ามา แล้วถามว่า “เราสามารถรวบรวมเงินที่สามารถใช้ได้ได้เท่าไหร่แล้ว?” ผู้ดูแลหัวเราะแล้วกล่าวว่า “นายท่านไม่ต้องเป็นกังวล หลังจากที่เราได้เตรียมตัวนาน 2 เดือน ตอนนี้ เรามีเงินพร้อมใช้งานมากกว่า 2,000 เหรียญทอง เชื่อว่าคงจะไม่มีใครสามารถเทียบกับเราได้”
ชุนเซิ่นจุนพยักหน้าเห็นด้วยอย่างชัดเจน “ดูเหมือนว่าการไม่เร่งอัพเกรดเป็นเมืองระดับ 3 จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง นับตั้งแต่ครอบครัวได้ข่าวเกี่ยวกับการประมูล เราก็ได้เตรียมตัวกันถึง 2 เดือน ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ลิ้มรสของน้ำผึ้งจากผลงานของเรา ตี่เฉินก็เป็นแค่คนโง่ เขารีบเร่งใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยในการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 3 เขาคงต้องเสียใจมากทีเดียว”
“นายท่านฉลาดยิ่งนนัก” ผู้ดูแลกล่าว
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองนักดาบ เฟิงฉิงหยางมองไปที่น้องสาวของเขา แล้วถามว่า “น้องเล็ก ไม่มีทางเลยเหรอ?”
เฟิงฉิงเยว่กล่าว “พี่ใหญ่ แม้ว่าเราจะได้รับเงินจำนวนมากมาจากนิกายดาบฉิงหยาง แต่เงินเหล่านั้นก็ใช้ซื้อเทคนิคลับไปหมดแล้ว การประมูลในวันพรุ่งนี้ เราทำได้เพียงแค่ล้มเลิกเท่านั้น เราควรจะตำหนิตระกูล ที่ได้รับข่าวมาช้าเกินไป”
เฟิงฉิงหยางรู้สึกเศร้า เดิมทีเขามีเงินนับพันเหรียญทอง แต่เนื่องจากขาดข้อมูล เขาจึงได้ใช้เงินก้อนนั้นไปแล้ว
“ทำไมเราไม่ขายเทคนิคลับ เพื่อเอาเงินมาใช้ในการประมูลล่ะ?”
“เราไม่ควรทำอย่างนั้น การขายกลับคืนตลาด เราต้องเสียภาษีถึง 20% มันไม่คุ้มค่า” เฟิงฉงเยว่ปฏิเสธความคิดของเขา
“โอเค ฉันจะเชื่อเธอ” เฟิงฉิงหยางทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมของเขาเท่านั้น
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองราชา ซีอ๋องป้ากำลังนั้ง และถามอย่างใจร้อน “เป็นยังไง? การเจรจากับเพียวหลิงฮวน(เวทมนต์หลงทาง)เป็นยังไงบ้าง?”
ชายชราที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับซีอ๋องป้าพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “นายท่านไม่ต้องกังวล การเจรจาเป็นไปด้วยดี พวกเขาตกลงที่จะมอบเงินทั้งหมดของพวกเขาให้แก่พวกเรา ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หลังจากที่เราได้คู่มือการสร้างอุปกรณ์มาแล้ว เมืองใบไม้ร่วงจะต้องได้สิทธิ์ในการสั่งซื้อในลำดับแรก”
“ดี เขาเป็นน้องชายที่ดี ฉันสามารถนับเขาในช่วงเวลาที่สำคัญได้ ด้วยวิธีการเช่นนี้ เราไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาไม่ดีได้ บอกพวกเขาว่า เมื่อเราสร้างอุปกรณ์ได้แล้ว เราจะมอบให้พวกเขา 100 ชุด” เขาเป็นดั่งจิ้งจอกเฒ่า ที่สามารถคิดวิธีการระดมทุนด้วยวิธีดังกล่าวได้
“นายท่านอัจฉริยะจริงๆ!” ชายชรากล่าวอย่างสุภาพ
“ฮ่าๆ จะดีที่สุด เราต้องเป็นคนฉลาด” ซีอ๋องป้ากล่าวตอบด้วยความยินดี
……………………………………………………………………………………………………..
ณ เมืองสอดคล้อง ทั้ง 4 บุบผา ได้มารวมตัวกัน
“พี่ใหญ่ การประมูลในวันพรุ่งนี้เราจะใช้กลยุทธ์แบบไหน?” ฉีลั้วหลานถาม แต่ไป๋ฮัวส่ายหน้า “เรามีเงินเพียง 600 เหรียญทองเท่านั้น พวกเราทำได้เพียงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์”
“ถูกต้อง ในวันพรุ่งนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับสินค้า 1 หรือ 2 ชิ้น ที่ไม่มีใครต้องการ สำหรับสินค้าที่สำคัญ ปล่อยให้พวกที่ทรงอำนาจแย่งชิงกันไป”
“ข้อเสนอของน้องเล็กก็ดี เอาตามนั้นแล้วกัน”
……………………………………………………………………………………………………..
กลุ่มอำนาจต่างๅพยายามรวบรวมเงินให้ได้มากที่สุด ทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนในปัจจุบันเปลี่ยนไป จาก 1 เหรียญทองแดง/ 2 เครดิต เป็น 1 เหรียญทองแดง/ 5 เครดิต และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1 เหรียญทองแดง/ 10 เครดิต ซึ่งหมายความว่า 1 เหรียญทอง จะมีค่า 100,000 เครดิต
ถ้าโอหยางโชวขายเงินในเกมส์ตอนนี้ เขาจะได้เงิน 700 ล้านเครดิต เขาอยากจะขายบางส่วนออกไป แล้วค่อยซื้อหลังจากที่อัตราแลกเปลี่ยนลดลง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจไม่ขาย
เหตุผลแรกก็เพราะเขาไม่รู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการประมูลครั้งนี้ เหตุผลที่ 2 มันไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เขาต้องเสียไป
“แจ้งเตือนระบบ : เพื่อควบคุมการซื้อขายเงินในเกมส์กับโลกจริง ระบบจะเปิดเวทีการแลกเปลี่ยน ในวันที่ 1 เดือนที่ 4 เวลา 14.00 น. ผู้เล่นจะสามารถทำการแลกเลี่ยนทั้งเงิน และไอเท็มได้ โดยระบบจะคิดค่าธรรมเนียม 2%”
การเปิดส่วนการแลกเปลี่ยนเงินและไอเท็ม เป็นการขยายธุรกิจการค้าและการติดต่อภายในเกมส์ ผู้เล่นจะสามารถซื้อเงินในเกมส์ได้มากขึ้นจากช่องทางนี้
โอหายงโชวรู้ว่ากลุ่มอำนาจต่างๆต้องการแลกเปลี่ยนเครดิตกับเงินในเกมส์โดยตรง แต่เนื่องจากมีผลต่อความสมดุลของเกมส์ ระบบจึงปฏิเสธ ส่วนการแลกเปลี่ยนจึงเป็นช่องทางที่เป็นทางออกของทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อฟังประกาศจากระบบ หน้าของตี่เฉินและชุนเซิ่นจุนก็เป็นสีเขียว ระบบช่างไรศีลธรรม ก่อนการประมูลจะบบลง ระบบไม่อนุญาติใ้พวกเขากวาดเงินทั้งหมดในเกมส์ไป
แฟนเพจ : TWOแปลไทย