ตอนที่แล้วTWO Chapter 97 ภัตตาคารสานกู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 99 โหมโรง

TWO Chapter 98 เสมียน


TWO Chapter 98 เสมียน

***(หมายเหตุ : วูดซี่เป็นชื่อเล่นที่ซ่งเจี๋ยตั้งให้กับโอหยางโชวนะครับ)

ในวันรุ่งขึ้น เมื่อโอหยางโชวออกจากเกมส์ ซ่งเจี๋ยก็ได้โทรมาหาเขา

“เฮ้วูดซี่ วิธีการของนายใช้ได้จริงๆ พี่ชายของฉันได้ซื้อหมู่บ้านระดับ 3 ในเขตหลิงหนาน ชื่อว่าหมู่บ้านเทียนซวง(Tianshuang)” ซ่งเจี๋ยมีความสุขอย่างมากเมื่อเธอได้บอกข่าวนี้กับเขา

“ขอแสดงความยินดีด้วย หมู่บ้านระดับ 3 ก็ไม่เลวนัก แล้วเสียเงินไปเท่าไหร่ล่ะ?” ซ่งเหวินรวดเร็วมาก เขาใช้เวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น ในการซื้อดินแดน

ไม่แปลกที่ซ่งเหวินเลือกภูมิภาคหลิงหนาน ผู้เล่นลอร์ดส่วนใหญ่มักจะเลือกสร้างดินแดนในภูมิภาคเดี่ยวกับที่ตนอาศัยอยู่ในโลกจริง มันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง

“ลองเดาซิ?” ซ่งเจี๋ยถามอย่างซุกซน

โอหยางโชวประมาณราคาคร่าวๆของหมู่บ้านระดับ 3 เป็นเหรียญทอง แล้วกล่าวว่า “10 ล้าน?”

ซ่งเจี๋ยส่ายหัว แล้วยิ้มให้เขา เธอกล่าวว่า “เติม 0 ด้านหลังอีกตัว”

“จริงหรือ?” โอหยางโชวไม่อยากจะเชื่อ

“มันเป็นอย่างนี้เพราะพี่ชายของฉันต้องการซื้อมันในทันที ลอร์ดคนนั้นจึงได้ตั้งราคาไว้สูงมากๆ เขากับไม่สนใจจะต่อรอง และซื้อมันในทันที แล้วเขายังคิดว่าตัวเองได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้อีก” ซ่งเจี๋ยบ่นอย่างฉุนเฉียวกับโอหยางโชว กับการกระทำของพี่ชายของเธอ

‘นั่นจะไม่ใช่ประโยชน์เล็กๆน้อยๆที่เขาจะได้รับ’ โอหยางโชวกล่าวเงียบๆในใจของเขา ใช้เครดิตที่ใกล้จะหมดค่าในอนาคต เพื่อแลกกับหมู่บ้านระดับ 3 นี่เป็นข้อตกลงที่ดีมาก ไม่แปลกใจเลยที่ผู้เล่นลอร์ดในชีวิตที่แล้วของเขา ขายดินแดนของพวกเขาออกไป พวกคนชั้นสูงเหล่านี้ทำเป็นใจกว้าง เสนอราคาร้อยร้านสำหรับดินแดน ถ้าโอหยางโชวต้องการขายดินแดนของเขา มันคงจะมีมูลค่าสูงถึงหมื่นล้านเครดิต แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขายมัน

“ยังไงเขาก็ประสบความสำเร็จในการมีดินแดนเป็นของตัวเอง ครอบครัวของเธอออกจะร่ำรวย แค่นี้คงไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง” โอหยางโชวยิ้มขณะตอบ

“ถึงพวกเราจะร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะสามารถใช้จ่ายโดยประมาทได้!” ดูเหมือนสมาชิกภายในตระกูลซ่ง ไม่ได้บอกสมาชิกทุกคนในกลุ่มของผู้หญิง ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ Earth Online จนถึงตอนนี้ ซ่งเจี๋ยก็ยังคงคิดว่า มันเป็นเพียงแค่เกมส์ เธอเป็นเพียงเด็กสาวที่ไร้เดียงสาเท่านั้น

โอหยางโชวไม่ได้หัวเราะกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ เชากลับมาถามเธอว่า “เธอจะไปอยู่กับพี่ชายของเธอที่หมู่บ้านเทียนซวงมั้ย?”

“ไปซิ ฉันจะได้ผ่อนคลายซักที ทุกครั้งที่ฉันสวมอุปกรณ์ที่นายมอบให้ ฉันรู้สึกกดดันมากๆ ต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดว่าจะเจอคนที่มีเจตนาไม่ดีเข้า”

“อ้อ แล้วเกี่ยวกับวิชาดาบเยว่นู่ ฉันแนะนำให้เธอฝึกซ้อมในโหมดอิสระ” โอหยางโชวจำได้ว่า ซ่งเจี๋ยยังไม่เข้าใจความลับของวิชาดาบนี้ เขากลัวว่าเธอจะพลาดโอกาสทอง จึงกล่าวย้ำเตือน

“ตกลง ฉันคิดว่าวิชาดาบนี้สนุกมากทีเดียว”

“ดีแล้ว!”

“อ้อ พี่ชายของฉันบอกว่า เขาอยากแสดงความขอบคุณนาย และให้ของขวัญนายซัก 1 ล้านเครดิต แต่ฉันหยุดเขาไว้ จากนั้นเขาก็บอกว่า เขาต้องการจะเลี้ยงอาหารนาย นายต้องการมั้ย?”

โอหยางโชวส่ายหัว เขาไม่อยากใกล้ชิดบริษัทซ่งมากนักในชีวิตจริง ดังนั้น เขาจึงปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างอ่อนโยน “ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ให้คำแนะนำเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“ฉันรู้ว่านายจะต้องปฏิเสธ แล้วถ้าฉันเป็นคนเลี้ยงอาหารนายละ นายจะปฏิเสธมั้ย?”

“ถ้าได้ทานอาหารกับสาวงาม ฉันพร้อมเสมอ!”

“แล้วฉันจะบอกนายอีกที ฉันยังไม่ทันได้ล้างหน้าเลย ค่อยคุยกันนะ!”

“บ๊ายบาย” โอหยางโชววางสาย แล้วเดินออกจากห้องของเขา

วันนี้เป็นวันเสาร์ เด็กน้อยปิงเอ๋อยังไม่อยากตื่นขึ้นมา ส่วนเสี่ยวเยว่ก็เพิ่งออกจากเกมส์ เธอออกมาแปลงฟันในชุดนอนของเธอ เธอบังเอิญได้พบโอหยางโชวที่หน้าประตูห้องน้ำ

“เป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างโอเคมั้ย?” โอหยางโชวถาม

“อื้อ มันสนุกจริงๆ คำสอนของวิทยาลัยหลวงยอดมากเลย มันเป็นเรื่องโครงสร้างสถาปัตยกรรมของจีนโบราณ ฉันรู้สึกว่ามันลึกซึ่งมากกว่ารายละเอียดในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยซะอีก ไกอาช่างน่าประทับใจจริงๆ ตอนแรกฉันก็แค่หวังว่าจะสนุก แต่หลังจากเข้าเรียนไม่กี่ครั้ง ฉันก็ดื่มด่ำกับมัน” เสี่ยวเยว่กล่าวชื่นชมมันอย่างมาก

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ดีแล้ว เรียนรู้ให้ถูกต้อง สุดท้ายในอนาคต เธอก็จะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างโบราณเหล่านั้นในดินแดนได้”

“จริงเหรอ?” เสี่ยวเยว่โห่ร้องอย่างยินดี

“แน่นอน ฉันสัญญา ตราบที่เธอนำเสนอแบบแปลน ฉันจะทำให้มันกลายเป็นจริงเอง”

“เฮะ!เฮะ! พี่สัญญาแล้วนะ!”

“สัญญา!”

หลังจากเสี่ยวเยว่เข้าไปในห้องน้ำ โอหยางโชวก็ไปที่ห้องปิงเอ๋อ ความจริงเมื่อคืนเธอหลับตั้งแต่ 21.30 น. แล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมตื่น ช่างเป็นหมูน้อยจอมขี้เกียจจริงๆ

เด็กน้อยนอนหลับอย่างสบาย กอดเซว่เอ๋อไว้ในอ้อมกอดเล็กๆของเธอ ฉากนี้เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ในฐานะAIชั้นสูง เธอมีความฉลาดมากกว่าปิงเอ๋อเสียอีก เธอได้รับการแจ้งเตือนเมื่อโอหยางโชวเดินเข้ามาใกล้

จากนั้นเซว่เอ๋อก็บินรอบๆโอหยางโชว แล้วเต้นอย่างสง่างามเหมือนภูตินางฟ้า ก่อนจะลงไปยืนบนฝ่ามือของโอหยางโชว เขาใช้นิ้มหัวแม่มือเพื่อแตะใบหน้าเล็กๆของเธอ เขายิ้มแล้วถามว่า “เซว่เอ๋อ เธอคิดว่าเจ้านายตัวน้อยของเธอเหมือนหมูขี้เกียจรึเปล่า?”

เซว่เอ๋อพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “อื้อ หมู หมู หมู!”

ในขณะนั้นปิงเอ๋อก็ลืมตาหลังได้ยินเสียง เธอพึมพำเมื่อได้ยินเซว่เอ๋อกล่าว “เซว่เอ๋อนิสัยไม่ดี เธอทรยศ”

โอหยางโชวบีบจมูกของเธอแล้วกล่าวว่า “ตื่นได้แล้วสาวน้อย น้องต้องมากับพี่ในวันนี้ เราจะไปออกกำลังกายและไปสูดอากาสบริสุทธิ์ข้างล่างกัน”

“พี่ด้วย พี่ใหญ่นิสัยไม่ดี มารบกวนการนอนของหนูตั้งแต่เช้าเลย” เธอยังไม่ตื่นอย่างเต็มที่ ขณะที่เธอกำลังบ่นทุกคน เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ตื่นเต็มที่ โอหยางโชวจึงดึงผ้าห่มออก เพื่อบังคับให้เธอลุกออกจากเตียง

ภายใต้ความเข้มงวดของโอหยางโชว เด็กน้อยจึงเดินไปห้องน้ำ เซว่เอ๋อก็บินตามที่เธอไปที่ห้องน้ำเช่นกัน เธอเพิ่งกลั่นแกล้งเจ้านายตัวน้อยของเธอ ตอนนี้ เธอจึงต้องเกลี้ยกล่อม และปรอบโยนเจ้านายตัวน้อยของเธอ

เมื่อได้ยินว่าโอหยางโชวจะพาปิงเอ๋อไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เสี่ยวเยว่ก็สนใจตามไปด้วย ดังนั้น ทั้ง 3 คน จึงออกไปพร้อมกัน เมื่อพวกเขากำลังวิ่งอยู่ ชายหนุ่มหญิงสาวพร้อมเด็กน้อย ไม่รู้เลยว่าพวกเขานั้น ดูเหมือนครอบครัวเล็กๆเป็นอย่างมาก อ้อ แล้วยังมีนางฟ้าเอไออีกตัว ที่กำลังบินอยู่รอบๆทั้ง 3 คน มันเป็นฉากที่ดูอบอุ่นมาก

ปิงเอ๋อวิ่งตามหลังพี่ชายของเธอ ในขณะที่วิ่ง เธอมองเซว่เอ๋อที่บินไปรอบๆด้วยควาทอิจฉา เธอกล่าวว่า “มันคงจะดีถ้าหนูสามารถบินไปรอบๆได้เหมือนเซว่เอ๋อ”

โอหยางโชวส่ายหัวและยิ้ม เขาไม่ได้เอาความคิดของเธอมาคิดจริงจังมากนัก

เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ โอหยางโชวจึงปฏิเสธนัดของซ่งเจี๋ย แล้วเลื่อนมันไปวันจันทร์แทน สำหรัววันนี้ เขาได้ใช้เวลาช่วงเช้าดูทีวีกับปิงเอ๋อ และช่วยเธอทำการบ้าน นานแล้วที่เขาไม่ได้อยู่กับเธอเวลาที่เธอทำการบ้าน ดังนั้น เขาจึงมีความรู้สึกผิดเล็กน้อยภายในหัวใจของเขา

…………………………………………………………………………………………………

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 3 วันที่ 26

โอหยางโชวออนไลน์ตามปกติ เขาใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในการฝึกหอก และปาจีฉวน เมื่อเสร็จแล้วเขาก็พักผ่อนซักพัก ก่อนจะเข้าไปที่สำนักงานของเขา

บนโต๊ะของเขาเป็นจดหมายจากเมืองฉิวซุ่ยที่เพิ่งมาถึงเมื่อเช้า

เขาเปิดมันแล้วอ่าน มันถูกเขียนโดยผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์เมืองฉิวซุ่ย จางต้าหนิว กล่าวถึงเรื่องการขยายกองทัพของเมืองฉิวซุ่ย

จางต้าหนิวเขีนยในจดหมายว่า เนื่องจากเมืองฉิวซุ่ยได้อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 เขาจึงขอให้ขยายกองทหารรักษาการณ์เพิ่มเป็น 200 นาย  เพื่อรับมือกับระบบการป้องกันที่ซับซ้อนมากขึ้นของเมือง

โอหยางโชวพยักหน้า คำขอนี้สมเหตุสมผล เขาจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ดังนั้น เขาจึงได้อนุมัติคำขอ และเขียนจดหมายตอบกลับไป

‘อนุญาติให้เมืองฉิวซุ่ยสามารถตั้งกองทหารม้า โดยให้กรมกิจการทหารเป็นผู้เสนอชื่อผู้บัญชาการ เพื่อขออนุมัติ อย่างไรก็ตาม เมืองฉิวซุ่ยจะต้องจัดหาเงินทุนด้วยตัวเอง’

หลังจากเขียนเสร็จ เขาก็เรียกคนเฝ้าประตู แล้วสั่งให้เขานำจดหมายนี้ไปส่งให้กับกรมกิจการทหาร ในระหว่างกระบวนการ การจัดการของรัฐบาล จำนวนเอกสารในแต่ละวันค่อยไเพิ่มขึ้นเรื่อยๆบนโต๊ะทำงานของเขา เขารู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องรับสมัครเสมียน เพื่อช่วยเขาในการแบ่งเบาภาระของเขาในเรื่องนี้

โอหยางโชวเรียกหัวหน้าฝ่ายทะเบียน ตู่ฉวน เข้ามาพบเขา เขาต้องการให้ตู่ฉวนแนะนำเสมียนให้เขา

ไม่เพียงแต่เลือกเสมียนเท่านั้น แต่มันยังเป็นการทดสอบความเข้าใจ และการรับรู้ของตู่ฉวนอีกด้วย เขารับรู้ได้ถึงการทดสอบนี้ และได้สัญญาว่าจะนำเสนอเสมียนที่ดีที่สุดให้กับโอหยางโชว

งานของเสมียน คือ การทำงานในสำนักงาน การทำบันทึก บัญชี และหน้าที่อื่นๆในงานบริหาร หน้าที่ของเขาอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยมีนัยสำคัญ แม้แต่บางครั้งก็ดูไม่ค่อยจำเป็นนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันนับเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่ง ธรรมชาติของเสมียนชัดเจนว่า เขาจะจัดการงานธุรการของดินแดนเป็นหลัก ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ดีในการหาประสบการณ์ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาควรจะมีทักษะ 4 อย่างที่ดี ทักษะการบริหารการจัดการที่ยอดเยี่ยม ความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ระดับหนึ่ง เพื่อจะช่วยให้ข้อเสนอแนะ และคำแนะนำกับเป้าหมายเฉพาะ ในขณะที่พวกเขาดำเนินการด้านการบริหารของพวกเขา ดังนั้น ลอร์ดจึงต้องพิจารณาให้ดี

ขุนนาง จนถึงเสนาบดีที่มีชื่อเสียงในอดีต ต่างก็เริ่มงานในฐานะเสมียน ตัวอย่างเช่น เสนาบดีคนสำคัญในสมัยราชวงศ์ถัง ฟางซวนหลิง(Fang Xuanling) เดิมเขาเป็นเพียงเสมียนในตำหนักของราชาฉินเท่านั้น

เสมียนคนแรกของซานไห่ กู่ซิวเหวิน ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม  แม้ว่าเขาจะถูกย้ายไปอยู่สำนักทะเบียน เขาก็ยังคงทำงานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โอหยางโชวพอใจกับผลงานของเขาเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่กู่ซิวเหวินถูกส่งไปดูแลเมืองเป่ยไห่ โอหยางโชวก็รู้สึกเหมือนเขาสูญเสียมือขวาของเขาไป

ในวันรุ่งขึ้นตู่ฉวนก็มาพร้อมกับคนที่เขาแนะนำ ทั้ง 2 เดินเข้ามาในสำนักงานของโอหยางโชว

ตู่ฉวนคำนับทักทายโอหยางโชว แล้วกล่าวติดตลกว่า “นายท่าน จากผู้อพยพในวันนี้ ข้าได้พบชายหนุ่มที่ผ่านการสอบจูเหริน ข้าได้ตรวจสอบเขาแล้ว และข้าเชื่อว่าเข้าจะทำงานได้ดีในฐานะเสมียน ด้วยเหตุนี้ข้าจึงพาเขามาพบกับนายท่านที่นี่ เชิญนายท่านประเมินเขา”

เมื่อตู่ฉวนกล่าวจบประโยค นักวิชาการคนนั้นก็คำนับและทักทายโอหยางโชวด้วยความสุภาพ “ไป๋หนานผู(Bai Nanpu)คำนับนายท่าน!”

เขาเป็นชายหนุ่มอายุ 24-25 ปี แต่งตัวคล้ายนักวิชาการสีขาว ผมของเขาเป็นสีดำ และเป็นระเบียบเรียบร้อย ดวงตาของเขาสดใสและคม ชายหนุ่มมีรูปลักษณ์เป็นเหมือนต้นแบบของนักวิชาการที่ดี

โอหยางโชวพยักหน้า เขาประทับใจในการเจอกับไป๋หนานผูในครั้งแรก จากนั้น เขาก็ตรวจสอบสถานะของไป๋หนานผู

ชื่อ : ไป๋หนานผู(ระดับทอง)

อัตลักษณ์ : เสมียนเมืองซานไห่

อาชีพ : ข้าราชการพบเรือน(จูเหริน)

ความจงรักภักดี : 75

ความเป็นผู้นำ : 25

กำลัง : 15

สติปัญญา : 55

การเมือง : 50

ความเชี่ยวชาญพิเศษ : อ่านอย่างลึกซึ้งและมีความรู้(ประสิทธิภาพการบริหารดินแดน เพิ่มขึ้น 5%), การอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน(ความเร็วในการจัดการเอกสารเพิ่มขึ้น 15%)

ประเมิน : นักวิชาการจากครอบครัวที่ยากจน ชอบอ่านหนังสืออย่างลึกซึ้ง มีความรู้ความสามรถ รวมถึง ด้านยุทธศาสตร์และการวางกลยุทธ์ เป็นสุภาพบุรุษที่บริสุทธิ์

เขาเป็นคนที่มีความสามารถเหมาะกับเสมียนคนนึงเลย โอหยางโชวพยักหน้าด้วยความพอใจ แล้วกล่าวว่า “ดีมาก ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นเสมียนแห่งเมืองซานไห่ เจ้าจะช่วยข้าในการดูแลรัฐบาล”

“ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง!”

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด