ตอนที่แล้วEG บทที่ 3 หมี (รีไรท์อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 5 ขายหมี (รีไรท์อ่านฟรี)

EG บทที่ 4 กลับบ้าน (รีไรท์อ่านฟรี)


บทที่ 4 กลับบ้าน

 

ขอบคุณพระเจ้า! หมีเหยียบเข้ากับ ‘กับดักจับหมี’ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวมันและในทีสุดมันก็ล้มลงไปส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด

หลิวซื่อฉวนเป็นอิสระจากกับดักที่งับรอบขาของเขา รีบบรรจุกระสุนปืนอย่างรวดเร็ว

ครืดด!!!!

หมียังพยายามเข้าไปทำร้ายหลิวซื่อฉวนทั้งที่ขายังติดอยู่กับกับดักอยู่ แต่กับดักนั้นถูกยึดไว้กับโซ่โลหะอย่างแน่นหนาและปลายอีกข้างหนึ่งคล้องไว้กับต้นไม้ ความยาวของโซ่ทำให้หมีไม่สามารถขยับเข้าโจมตีหลิวซื่อฉวนได้

ปัง!ปัง!ปัง!

เสียงปืนสามนัดดังขึ้น  ทั้งเฝิงหยู่ ตงจุนและหลิวซื่อฉวน  ต่างก็ยิงปืนขึ้นคนละนัด หมีไม่สามารถหลบวิถีกระสุนได้พ้นเพราะระยะที่อยู่ใกล้มากกระสุนทั้งหมดเจาะเข้ากลางกระโหลกของมันอย่างแม่นยำ

หมีล้มลงไปกองบนพื้นและดิ้นทุรนทุรายอยู่สักพัก เลือดของมันค่อยๆไหลออกมาจนชโลมพื้นดินที่เต็มไปด้วยหิมะจนกลายเป็นสีแดงสด

หลิวซื่อฉวนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  บรรจุกระสุนปืนอีกครั้งและค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ตัวหมี

ปัง!

หมีกระตุกอยู่สองสามครั้ง และหยุดนิ่งไม่ไหวติงอีกต่อไป

หลิวซื่อฉวนเอนหลังพิงกับต้นไม้และบรรจุกระสุนปืนของตัวเองอีกครั้งด้วยมือที่สั่นเทาเขาหยิบกล่องบุหรี่กวางดำออกมาและจุดบุหรี่มวนหนึ่ง

เฝิงหยู่และเหวินตงจุนเดินเข้ามาหาหลิวซื่อฉวนแล้วคว้าซองบุหรี่จากมือของเขาทันทีแต่ละคนก็สูบบุหรี่คนละมวน

“ขอบคุณ”  หลิวซื่อฉวนกล่าวขึ้นหลังจากสูบบุหรี่หมดมวนแล้ว

“ฮ่าฮ่าฮ่า...ไม่ต้องขอบคุณเราหรอกเฮียฉวน..เราล่าหมีมาได้ถ้าเอาไปขายจะต้องขายได้หลายตังอย่างแน่นอน”

ตาของเหวินตงจุนเป็นประกายระยับคล้ายกับกำลังนึกถึงสายตาของชาวบ้านในหมู่บ้านที่มองมาด้วยความอิจฉาเมื่อพวกเขากลับไปถึงหมู่บ้านแล้ว

เฝิงหยู่พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางที่แสดงออกมาของเหวินตงจุน เฝิงหยู่มองไปทางหลิวซื่อฉวนที่ยังคงจับปืนไว้แน่นและไม่ยอมวางมันลง

“เฮียฉวน..ตงจุน..เรามาตกลงกันหน่อย..ฉันจะขอซื้อหมีตัวนี้จากทั้งสองคนได้หรือไม่?และเพื่อเป็นการตอบแทน...ฉันจะให้เฮียยืมรถแทร็คเตอร์ขนาด55แรงม้าของครอบครัวฉันสำหรับการหว่านไถนั่น”

เฝิงหยู่กล่าวออกมา  เขาเพื่อนึกไอเดียนี้ขึ้นได้อย่างกะทันหัน   ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถลบล้างความขุ่นเคืองของหลิวซื่อฉวนที่มีต่อตงจุนได้และยังมีเงินเป็นทุนเริ่มต้นสำหรับการลงทุนในอนาคตอีกด้วย

เขาไม่สามารถหาเงินมากมายขนาดนั้นโดยใช้รถแทร็คเตอร์ในหมู่บ้านแต่ด้วยหมีตัวนี้ในเมืองใหญ่จะต้องมีคนแห่มาซื้อเป็นจำนวนมาก

แม้ว่าเวลานี้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนแต่โอกาสดีๆคงเข้ามาในอีกไม่ช้า เดิมทีเขาคิดว่าคงพลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาจะฉวยโอกาสนั้นไว้ได้ ยังสามารถเตรียมแผนการลงทุนล่วงหน้าได้เร็วหลายปีกว่าที่เขาวางแผนเอาไว้นัก

หลิวซื่อฉวนเหวี่ยงปืนทิ้งบนพื้นและจับมือของเฝิงหยู่มากุมไว้อย่างตื่นเต้น

“จริงหรือ?...ป๊านายจะตกลงหรือเปล่า?”

“ฉันสัญญากับป๊าว่าหากสอบเข้าโรงเรียนมัธยมดีๆในเมืองได้..ป๊าจะตกลงอย่างแน่นอน..ตงจุน แล้วนายล่ะจะตกลงในเรื่องนี้ไหม?”

หลังจากนิ่งคิดสักครู่ เหวินตงจุนจึงกล่าวออกมา

“ฉันจะเอาแมวป่าตัวนั้นและพวกนายทั้งสองคนต้องบอกคนอื่นว่าฉันเป็นคนล่ามันได้และเป็นคนแรกที่ยิงหมีได้ด้วย”

“ตกลง! สัญญาแล้วนะ!..รีบไปทำลากเลื่อนให้เสร็จเถอะและกลับไปที่หมู่บ้านกัน...หมีตัวนี้มีน้ำหนักอย่างน้อยสองถึงสามร้อยเหรียญจิน (หนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลกรัม) คงไม่ง่ายที่จะนำกลับไปยังหมู่บ้านได้ง่ายๆ”

เฝิงหยู่กล่าว เขาไม่ได้มีความสนใจที่จะคุยโวเรื่องหมีตัวนี้

หลิวซื่อฉวนตรวจดูหมีอีกครั้ง  ร่างของมันเย็นเฉียบมันต้องตายแล้วอย่างแน่นอน หลิวซื่อฉวนจึงไปยกร่างของแมวป่ามาด้วย  เฝิงหยู่และเหวินตงจุนได้ใช้กิ่งไม้หลายอันและกระสอบป่านทำลากเลื่อนแบบง่ายๆ และเมื่อเดินทางกลับไปถึงหมู่บ้านพวกเขาจะต้องกลายเป็นจุดสนใจอย่างแน่นอน

“ตาเฒ่าเหวิน...ทำไมตงจุนยังไม่กลับมาสักที? จะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขาหรือเปล่า?”  ถางจิงเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ

“จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาได้ละ? เขาขโมยปืนฉันไปคงไปล่าเป็ดที่คูน้ำแน่ๆน่าจะกลับมาในครึ่งชั่วโมงนี้แหละนะ”

ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน  ญาติข้างบ้านของพวกเขาก็วิ่งเข้ามาในบ้านของพวกเขาอย่างตื่นเต้น

“ผู้ใหญ่บ้านเหงิน...เฮียกวางเอ้ย!!!..ฮีโร่ของพวกพี่กลับมาแล้ว”

“อะไรนะ? อาเฉา!ฮีโร่อะไรกัน?”  ถางจิงถาม

“ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่จากบ้านของพวกพี่อย่างไรล่ะอาซ้อ..ครั้งนี้ลูกของอาซ้อล่าเหยื่อตัวใหญ่มาได้..รู้มั้ยว่าเขาจับอะไรมา?  หมีไงล่ะ! ตัวใหญ่เสียด้วย..เขาใช้ลากเลื่อนพามันกลับมาทุกคนในหมู่บ้านกำลังห้อมล้อมและดูเจ้าหมีนั้นอยู่” ญาติข้างบ้านเอ่ยอย่างตื้นเต้น

เหวินเต๋อกวางและถางจิงวิ่งถลาออกไปจากบ้านโดยที่ยังไม่ได้ล็อกประตูบ้านด้วยซ้ำ

“เฮียตงจุน...เฮียยิงหมีและแมวป่าได้จริงๆหรือ?”

เด็กน้อยอายุแปดขวบเอ่ยถามตงจุนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แน่ล่ะ!ถ้าไม่ใช่ฉัน..สัตว์สองตัวนี้คงหนีไปได้แล้ว..ฉันวิ่งไล่หมีอยู่หลายไมล์จนฆ่ามันด้วยลูกปืนเพียงนัดเดียว..แน่นอนว่าเฮียซื่อฉวนและเฝิงหยู่ก็ช่วยยิงซ้ำไปที่มันเพื่อช่วยฉันอีกแรงหนึ่ง”

เหวินตงจุนคุยโม้กับเด็กๆเป็นครั้งที่หกแล้ว ประโยคแรกคือทั้งสามคนล่าหมีด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของเขาแปรเปลี่ยนไปเป็นเขาที่พบหมีและสังหารมันด้วยลูกปืนสองสามนัด  ทุกครั้งที่เขาพูดถึงการล่าสัตว์เรื่องจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนกลายเป็นคุยโวโอ้อวดถึงบทบาทของเขาในการล่าสัตว์ครั้งนี้

แน่นอนว่าเด็กคนนี้มองเขาด้วยสายตาประทับใจ

ทั้งเฝิงหยู่และหลิวซื่อฉวนไม่ได้เปิดเผยคำมุสาของเหวินตงจุนออกมา เขากล้าพูดโม้ว่าเขาไล่หมีเป็นระยะทางสองสามไมล์ไม่มีใครเชื่อถือนักหรอกแม้แต่คนที่เคยล่าสัตว์มาก่อนก็รู้ว่าเขากำลังโกหก

พอเหวินตงจุนเริ่มคุยโม้เรื่องความกล้าหาญของเขาในการล่าสัตว์เป็นครั้งที่เก้าก็มีใครบางคนดึงหูทั้งสองข้างของเขา

“โอ้ย! เจ็บ! เจ็บ!. ใครวะเนี่ย?....อาม๊า...อาป๊า?”  เสียงของเหวินตงจุนสั่นระริก เขาขโมยปืนของพ่อไปล่าสัตว์หลังจากที่เขากลับไปถึงบ้านเขาจะถูกพ่อตีจนหลังหลายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม  การถูกตีนี้ก็คุ้มค่ายังไม่มีใครในหมู่บ้านจะสามารถล่าหมีขนาดใหญ่เช่นนี้ได้อีกเช่นนั้นหรือ? มีเพียงนักล่าตัวฉกาจอย่างเหวินตงจุนเท่านั้น!

“ไสหัวกลับบ้านเดี๋ยวนี้!  พวกที่เหลือก็หยุดชุมนุมได้แล้ว..มันเริ่มมืดค่ำแล้ว..รีบๆกลับบ้านไปได้แล้ว” เหวินเต๋อกวางแสดงอำนาจและความน่ายำเกรงในฐานะที่เขาเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งนี

ในเวลาต่อมากลุ่มไทมุงก็แยกย้ายกันไป ยกเว้นครอบครัวของเฝิงหยู่ ครอบครัวของเหวินตงจุนและครอบครัวของหลิวซื่อฉวน ทั้งสามครอบครัวช่วยกันพาร่างของหมีเคลื่อนไปยังบ้านของเฝิงหยู่ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด

“อาแปะเฝิง...เฝิงหยู่สัญญากับฉันว่าตลอดฤดูใบไม้ผลินี้...หลังจากอาแปะเสร็จจากการหว่านไถแล้ว  ครอบครัวของพวกเราสามารถใช้แทร็คเตอร์ต่อได้...เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหมีตัวนั้นมันจะกลายเป็นของเฝิงหยู่แต่เพียงผู้เดียวและแมวป่าก็จะเป็นของเหวินตงจุน...ผู้ใหญ่บ้านมีพื้นที่น้อยที่สุดดังนั้นเขาสามารถใช้รถแทร็คเตอร์ไถที่ดินก่อนได้ส่วนครอบครัวของฉันจะได้ใช้เป็นคนสุดท้ายแต่เราจำเป็นต้องใช้รถแทร็คเตอร์นานกว่านั้น”  หลิวซื่อฉวนกล่าว

ผู้ใหญ่ทั้งหมดมองดูเฝิงหยู่  เมื่อเห็นพ่อของเขามีอาการราวกับโมโหเขาก็รีบเดินไปกระซิบบางอย่างที่หูของพ่อเขาทันที

เฝิงซิ่งไท่จ้องมองเฝิงหยู่และพยักหัวไปทางพ่อของหลิวซื่อฉวน

“เฮียหลิว...ไม่มีปัญหา...ผู้ใหญ่บ้านมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้?”

“ตกลง!... ให้เป็นไปตามนั้น....ฉันจะนำแมวป่ากลับไปก่อนแล้วกัน..มาดื่มกันที่บ้านฉันวันหลังด้วยล่ะ...ตาเฒ่าหลิวถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว..ให้ทุกคนมาดื่มที่บ้านของฉันวันหลังนะ..มันเริ่มมืดแล้ว..พวกเราจะกลับกันไปก่อน”

เหวินเต๋อกวางแบกแมวป่าแล้วกลับบ้านไปพร้อมกับภรรยาและลูกชายของเขา

หลิวเหล่าซื่อและเฝิงซิ่งไท่ยังคงเจรจากันเกี่ยวกับรถแทร็คเตอร์สักพัก เขาคิดไม่ถึงว่าลูกชายจะแก้ไขปัญหาใหญ่ของครอบครัวจากการเดินทางไปล่าสัตว์ในครั้งนี้  พื้นที่ที่เขาต้องการเพาะปลูกนั้นมีมากกว่าร้อยเอเคอร์ ปีนี้ครอบครัวของเขาจะหลุดพ้นจากความจนและปีหน้าเขาน่าจะสามารถซื้อรถแทร็คเตอร์เล็กๆที่มีแรงม้าแรงๆได้

หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว ฉางมูวาก็เริ่มบ่นกับเฝิงซิ่งไท่ทันที

“ทำไมเฮียถึงฟังเรื่องเหลวไหลของลูกชายของเฮียด้วยล่ะ? ...คิดดูสิ!ว่าเราสามารถหาเงินได้จากรถแทร็คเตอร์นี้ได้มากเท่าไรถ้าเราให้แทรคเตอร์คนอื่นไปไถในพื้นที่ของพวกเขาแทน..แล้วตอนนี้ เราจะทำอะไรกับหมี? กินมันงั้นหรือ?”

“ม๊า! ถ้าผมจะบอกว่าสามารถขายหมีนี้ได้ในเมืองปิงเป็นเงินถึงหนึ่งหมื่นเหรียญ..ม๊าจะเชื่อหรือไม่?...หนึ่งหมื่นเหนียญเชียวนะ! ครูซุนบอกผมมา” เฝิงหยู่กล่าวอย่างมั่นใจ

ถึงแม้ว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาไม่นานนักก่อนหน้าที่จีนจะปฏิรูปและเปิดประเทศ  ยังคงมีครัวเรือนจำนวนมากที่มีเงินถึงหมื่นเหรียญ ยกตัวอย่างเช่นครอบครัวของเฝิงหยู่ซึ่งเป็นหนึ่งในครัวเรือนที่มีถึง “หนึ่งหมื่นเหรียญ”  และยังมีครอบครัวและชาวต่างชาติที่ร่ำรวยอยู่อีกมากมายในเมืองใหญ่

หลังจากที่เฝิงหยู่บอกกับพ่อของเขาว่า หมีนี้มีมูลค่าเป็นเงินสดถึงหนึ่งหมื่นเหรียญ ถึงแม้รถแทร็คเตอร์ที่ให้คนอื่นเช่าเพื่อใช้ในการเพาะปลูกในที่ดินของพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้เป็นหมื่นเช่นกัน แต่มันก็เหนื่อยกว่าและพวกเขายังจะสามารถเก็บเงินได้อีกในฤดูใบไม้ร่วงตอนที่ขายผลผลิตไปแล้วถ้าเอาเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารเงินจำนวนนี้สามารถงอกเงยเป็นดอกเบี้ยได้อีก

“ลูกชาย..ลูกชายของม๊า...ลูกฉลาดจริงๆวันพรุ่งนี้ให้ป๊าของลูกไปขายหมีในเมืองขากลับก็สามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆทั้งชุดให้ลูกและอาเจ๊ของลูกด้วย”

เมื่อเธอได้ยินว่าหมีนั้นมีมูลค่าถึงหมื่นเหรียญ ฉางมู่วาจึงยิ้มอย่างมีความสุข แม้ว่ามันจะมีค่าเพียงห้าพันเหรียญก็ยังคุ้มกว่าเมื่อเทียบกับการให้คนอื่นยืมรถแทร็คเตอร์ไป

เฝิงซิ่งไท่ชำเลืองมองภรรยาของเขาและแอบค้อนวงใหญ่

‘ลูกชายได้หน้า...ในขณะที่ฉันถูกตำหนิตอนนี้ใครเป็นหัวหน้าครอบครัวกันแน่นะ?’

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด