ตอนที่ 273: ก้าวไปข้างหน้า (2)
พอมดทั้งห้าตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็น
แองเจเล่ขบริมฝีปาก เขาพยายามที่จะหายสายสีเขียวแต่ก็ไม่พบร่องรอย
"เกิดอะไรขึ้น" เขาสงสัย
สติกม่าหรี่ตาและส่ายหัว "เราต้องไปเส้นทางอื่น ข้าไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่หน้าผา มีเมืองที่ชื่อหมอกขาวอยู่ใกล้ๆหุบเขา เราสามารถพบมนุษย์ได้ที่นั่น เราควรไปถามพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์"
แองเจเล่ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของสติกม่า พ่อมดทั้งห้าเริ่มมุ่งหน้าไปทางขวา
สิ่งที่ดีคือทีมมีอาหารและน้ำเพียงพอ พวกเขาสามารถอยู่ที่ราบได้ประมาณสองเดือน
เส้นทางไปเมืองหมอกขาวนั้นอันตราย หลายวันแรกนั้นสงบสุขแต่พวกเขาก็ถูกติดตามโดยฝูงสัตว์อสูรแปลกๆในสิบวันต่อมา สิ่งมีชีวิตนี้ดูเหมือนเสือดาวกลายพันธุ์ที่มีเปลวไฟที่ปลายหางของมัน เสือดาวมีขนแข็ง ความเร็วสูงและอุ้งเท้าสามารถสร้างความเสียหายไฟได้
แองเจเล่ได้ทำการทดสอบ ขนของเสือดาวนั้นสามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพอย่างง่ายดายจากคนที่มีความแข็งแกร่งต่ำกว่า 7 ขนของมันจะได้รับความเสียหายจากอาวุธโลหะที่แหลมคมเท่านั้น
เรย์ไลน์ร่ายคาถาหลายครั้งหลังจากที่เขาตระหนักว่าการโจมตีทางกายภาพไม่ได้ผลเพราะเสือดาวเหล่านั้นมีความรู้สึกไวต่ออนุภาคพลังงานและพวกมันสามารถหลบคาถาได้อย่างง่ายดาย มีเพียงคาถาร่ายทันทีเท่านั้นที่เร็วพอที่จะโจมตีพวกมันแต่คาถาร่ายทันทีของแองเจเล่ก็ทรงพลังพอที่จะสร้างความเสียหายให้พวกมัน
ฮิคาริเกือบจะได้รับบาดเจ็บจากเสือดาวเหล่านั้น คาถาของมอร์ริสซ่าและฮิคาริต้องใช้เวลาเตรียมตัว มอร์ริสซ่าเป็นผู้รักษาที่เก่งแต่ก็ไม่สามารถต่อสู้ได้และยาอัญเชิญของเธอก็ใช้เวลาเตรียมนานเกินไป
ทักษะการต่อสู้ระยะใกล้ของสติกม่าและเรย์ไลน์นั้นส่วนใหญ่ใช้ป้องกันการโจมตีจากเสือดาวกลายพันธุ์ มีเพียงแองเจเล่คนเดียวที่ฆ่าเสือดาวเหล่านั้น ด้วยบัพจากดาบปลายโค้งต้องสาปความแข็งแกร่งของเขาได้มาถึง 15 และเขาสามารถฟันเสือดาวได้อย่างง่ายดาย
หลังจากต่อสู้หลายครั้งแองเจเล่ก็ฆ่าเสือดาวกลายพันธุ์มากกว่าสิบตัวและเขาก็ประสบความสำเร็จในการสกัดแก่นชีวิตมากขึ้น
ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มถึง 17 พลังจิตเพิ่มขึ้นเป็น 57.4 และความอึดของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 20
ความแข็งแกร่ง 17 หน่วยทำให้แองเจเล่มีพลังที่น่าเหลือเชื่อ เขาฟันพลาดครั้งหนึ่งและดาบปลายโค้งต้องสาปได้ทิ้งรอยแตกลึกในพื้นดิน
ความอึดที่สูงทำให้เพิ่มการป้องกันและการฟื้นฟูของแองเจเล่ เขาถูกกัดด้วยเสือดาวกลายพันธุ์สองตัวครั้งหนึ่งที่ไหล่แต่บาดแผลก็รักษาตัวอย่างรวดเร็วและกระดูกของเขาก็ไม่ได้รับความเสียหาย
เสือดาวกลายพันธุ์มีความแข็งแกร่ง 6 แต่พวกมันก็แทบไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆแก่แองเจเล่ เชี่ยวชาญโลหะของเขาก็ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากค่าสถานะของเขาที่เพิ่มขึ้น
สนามพลังโลหะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นและแองเจเล่สามารถควบคุมการสร้างโลหะได้มากขึ้น
เขาสรุปหลังจากที่ทำการทดสอบหลายครั้งแล้วว่าสนามพลังโลหะจะมีพลังมากขึ้นและควบคุมง่ายขึ้นถ้าความแข็งแกร่งและความอึดของเขาเพิ่มขึ้น จำนวนของพลังจิตและมานาที่เขามีจะส่งผลต่อความสามารถในการสร้างโลหะเท่านั้น
ค่าสถานะของแองเจเล่ได้เพิ่มขึ้นในระดับที่ต่างออกไปแต่น่าเศร้าที่ดาบปลายโค้งต้องสาปมาถึงขีดจำกัดของมันและบัพก็ไม่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งได้อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะยังดูดแก่นพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้แต่พลังจิตของเขาก็เพิ่มขึ้นช้าลงอีกครั้ง
มันทำให้พ่อมดห้าคนใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนในการไปถึงเมืองหมอกขาวที่สติกม่าได้กล่าวถึง
*****************************
ที่ขอบของหุบเขาอเวจีมีป่าเล็กๆที่มีต้นไม้สีเหลือง มีพุ่มไม้สีเทาขนาดเล็กที่ช่องว่างระหว่างต้นไม้
พ่อมดตามหลังสติกม่าในขณะที่พวกเขาข้ามป่าแล้วในที่สุดพวกเขาก็เห็นเมือง
ป่าหมอกขาวล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเหลืองและมีบ้านเก่าๆมากกว่า 100 หลังในเมือง มุมมองของสถานที่นี้เบลอเนื่องจากหมอกขาวในอากาศ
บ้านส่วนใหญ่ในเมืองมีหลังคาสีแดงและผนังสีเทา หลังคาผุพังตามธรรมชาติเนื่องจากสภาพอากาศและสีของพวกมันก็กำลังหายไป
ผนังปกคลุมไปด้วยรอยสีดำและรอยแตก มันเกือบจะดูเหมือนว่าบ้านถูกไฟไหม้
มีทรายสีขาวปกคลุมโคลนสีเข้มบนพื้นและมีตะไคร่น้ำสีเขียวอยู่เต็มไปหมด
มันเริ่มมืด
ท้องฟ้าถูกปิดกั้นด้วยเมฆสีเข้มหนาและฝนกำลังจะตก
รั้วเหล็กสนิทสีดำเรียงรายรอบเมืองและพวกมันก็เชื่อมต่อกันด้วยเสาสีเทาขนาดใหญ่ มันดูเหมือนสายสีดำยาวที่มีจุดสีเทา
ทางเข้าของเมืองมีประตูโค้งสีขาว
เมืองนั้นว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่รอบๆและมันเงียบกริบ
พ่อมดห้าคนเข้าเมืองผ่านประตูหิน พวกเขาก้าวไปบนทรายสีขาวและทำให้เกิดเสียงเบาๆ
สติกม่าเดินอยู่ข้างหน้าของทีม
"สถานที่นี้อาจจะถูกทิ้งเมื่อนานมาแล้ว" เขามองไปรอบๆ
เขามองผ่านหน้าต่างไม้ที่หักตรงบ้านแต่สิ่งเดียวที่เห็นคือความมืด
"มันดึกแล้ว ทำไมวันนี้เราไม่อยู่ที่นี่" ฮิคาริแนะนำ "ข้าต้องการหาสถานที่อาบน้ำดีๆ อนุภาคพลังงานน้ำมันทำให้ผิวแห้ง"
"ไปที่บ้านที่ใหญ่ที่สุดกันเถอะ เจ้าอาจจะพบห้องน้ำที่ดีที่นั่น" เรย์ไลน์ขมวดคิ้ว "ข้าต้องการอาบน้ำกับน้ำที่แท้จริงด้วยเช่นกัน"
แองเจเล่และสติกม่าได้สังเกตเห็นว่าเรย์ไลน์เป็นคนเก็บตัวในระหว่างการเดินทาง
เรย์ไลน์จะพูดเมื่อจำเป็นเท่านั้น เขาชอบคิดด้วยตัวเองและเขาจะไม่ขอความช่วยเหลือในยามจำเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่คนในโนล่าคิดว่าเรย์ไลน์เป็นคนที่มีอารมณ์ที่ไม่ดี
โดยปกติการสนทนาของผู้คนกับเรย์ไลน์จะสิ้นสุดลงเนื่องจากเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด บางคนคิดว่าเรย์ไลน์โกรธพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็แพร่กระจายข่าวลือว่าเรย์ไลน์มีบุคลิกแปลกๆและเขาก็เป็นคนที่ยากจะรับมือ
สถานการณ์กับมอร์ริสซ่านั้นต่างออกไป เธอเป็นพ่อมดที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มและเธอก็พึ่งพาการป้องกันของผู้อื่น แม้ว่าเธอจะต้องการเข้าร่วมการสนทนาแต่เธอก็รู้ดีว่าควรให้พ่อมดคนอื่นตัดสินใจ
สติกม่า ฮิคาริและแองเจเล่เป็นคนที่พูดมากที่สุดในทีม
ทั้งห้าคนเดินไปที่อาคารที่สูงที่สุดในเมืองอย่างรวดเร็ว
อาคารดูเหมือนโบสถ์และมันมีสามชั้น มีบันไดหินสองทางที่สร้างเป็นทางเข้า พวกเขาสามารถเข้าอาคารได้จากทั้งทางซ้ายและทางขวา
อาคารป้องกันด้วยรั้วที่เป็นสนิมแต่ส่วนใหญ่ก็พังแล้ว
แอ๊ดด
ฮิคาริเปิดประตู
ตุ้บ
ประตูไม้ตกลงไปที่พื้นและมีฝุ่นฟุ้งในอากาศ
แองเจเล่ปิดจมูกและไอหลายครั้ง
"มาทำความสะอาดกันก่อนเถอะ" แองเจเล่ส่ายหัว
พวกเขาเริ่มตรวจสอบโครงสร้างของอาคารทันที
แองเจเล่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นและสังเกตสภาพแวดล้อมในขณะที่พูดกับสติกม่า
"ข้าต้องเตรียมการบางอย่าง มาดูกันว่าข้าสามารถติดต่อกับตระกูลของข้าได้ไหม" สติกม่าลดเสียงลง "เราอยู่ใกล้กับอีกด้านของหุบเขา ข้าคิดว่ารูนสื่อสารของข้าน่าจะไปถึงจุดเฝ้ายาม"
"เจ้ากำลังจะกลับไปที่ตระกูลของเจ้าหรือ" แองเจเล่ถาม
"ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องไปเยี่ยมพวกเขา" สติกม่าพยักหน้า "น้องสาวของข้า แม่ของข้าและเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า....ข้าแน่ใจว่าพวกเขากำลังรอข้าอยู่..."
"อา!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของมอร์ริสซ่าดังในอาคาร
"เกิดอะไรขึ้น!" การแสดงออกของแองเจเล่และสติกม่าเปลี่ยนไป พวกเขาวิ่งไปทิศทางที่มีเสียงกรีดร้องมาและเห็นมอร์ริสซ่าวิ่งออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ซีด
ดวงตาของเธอเบิกกว้างและร่างกายของเธอก็กำลังสั่น มอร์ริสซ่ากระโดดไปหาพ่อมดทั้งสองเหมือนกระต่าย
"เกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่จับไหล่ของมอร์ริสซ่าและถามเธอ
ตึงๆๆๆ
ฮิคาริวิ่งลงบันไดจากชั้นสองอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง
"เจ้าเป็นไรไหมมอร์ริสซ่า เจ้าพบอะไร"
เรย์ไลน์เข้ามาอาคารจากข้างนอกมองด้วยความสับสน
พวกเขารวมตัวกันในห้องนั่งเล่นและกำลังรอคำตอบของมอร์ริสซ่า
มอร์ริสซ่าชี้ไปที่ห้องนอนที่เธอเข้าและเริ่มอธิบายเสียงสั่น
"ห-ห้องนั้น! ข้าเห็นผู้หญิงบนเตียง คอของเธอถูกแทงด้วยเข็มโลหะหนาหลายเล่ม มีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด"
"มันเป็นไปได้อย่างไร ข้าไม่...." แองเจเล่ตกใจ "ไปตรวจสอบห้องนอนกันเถอะ ระวังตัวให้ดี!"
พวกเขาเข้าห้องนอนทันที
ห้องมีขนาดค่อนข้างเล็ก บนเตียงมีผ้าห่มสีเหลืองที่ถูกย้ายไปด้านข้างและมีรอยเข้มถูกทิ้งไว้บนผิวของผ้าปูที่นอน
ฮิคาริเดินไปที่เตียงและตรวจสอบรอยดำ
"มันเป็นเลือด" เธอพยักหน้า
"วิญญาณหรือ" เรย์ไลน์มองไปที่แองเจเล่และสติกม่า
"เจ้าคิดอย่างไร" สติกม่าถาม ดูเหมือนว่าเขาไม่รู้วิธีจัดการกับสถานการณ์นี้
แองเจเล่ขบริมฝีปาก "ข้ามีข่ายเวทมนต์ที่มีประโยชน์ในการจัดการกับผี ข้าตรวจสอบระบบในข่ายเวทมนต์ ข้าคิดว่าอย่างน้อยมันก็บอกเราได้ว่าสถานที่นี้มีผีสิงหรือไม่ ข้าต้องลองแต่ข้าต้องการคนช่วย"
"ให้ข้าช่วยเจ้าเอง" ฮิคาริก้าวไปข้างหน้า "ผียากที่จะรับมือ เราต้องตรวจสอบพื้นที่ทันที ข้าเคยพบสถานการณ์ที่คล้ายกันมาแล้วในที่ราบสูงแดงทมิฬดังนั้นข้าจึงมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับพวกวิญญาณ"
"หา" แองเจเล่มองไปที่ฮิคาริด้วยความอยากรู้ มันเป็นครั้งแรกที่เขาพบพ่อมดคนอื่นที่เคยรอดจากคำสาปของผี
ผีในโลกนี้ลึกลับและแข็งแกร่ง พ่อมดทั่วไปจะถูกฆ่าด้วยคำสาปที่รุนแรง มีเพียงดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งหรือคนพิเศษที่สามารถอยู่รอดได้ในโลกนี้