ตอนที่ 109 สเกลเล็ต อามาดิโล่
"หวังว่าเขาจะทำสำเร็จ" เฉวียนเกอมองลงไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
ไม่มีอะไรมั่นใจได้ เมื่อล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ บวกกับชื่อเสียงที่ไม่ดีของหานเซิ่นยิ่งทำให้พวกเขาไม่ค่อยมั่นใจนัก
พวกเขามองดูมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิด้วยความกังวล เพราะมันยังไม่มีท่าทีที่จะไปดื่มน้ำเลย มันยังคงกินเถาวัลย์สีดำอยู่ มันกินมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่นานมันก็ขึ้นไปนอนอยู่บนก้อนหิน
เฉวียนเกอ และคนอื่นๆเริ่มหน้าซีดทันที เพราะหน้ากากออกซิเจนที่หานเซิ่นได้ไปนั้นมีเวลาจำกัด ถ้ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธินอนนานเกินไป ออกซิเจนอาจจะหมดก่อน
ขณะที่พวกเขากำลังสวดภาวนา ในที่สุดมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิก็ตื่นขึ้น และเดินไปที่สระน้ำอย่างช้าๆ มันยื่นหัวลงไปเหนือสระน้ำ และเริ่มใช้ลิ้นตวัดน้ำขึ้นมากิน แต่กระนั้นพวกเฉวียนเกอ และคนอื่นๆก็ยังไม่สบายใจ เพราะมันเลือกกินน้ำในตำแหน่งที่อยู่ห่างจากจุดที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ ถ้าหานเซิ่นพยายามจะว่ายน้ำไปใกล้ อาจจะทำให้มันรู้ตัวก่อน
"เอาไงต่อดี?" สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มของเฉวียนเกอพูดขึ้นมา
หานเซิ่นไม่อาจจะสัมผัสมอนสเตอร์ได้จากระยะไกล ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะฆ่ามัน
โชคร้ายที่ใต้น้ำมืดเกินไป พวกเขาจึงไม่เห็นว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรอยู่
หัวใจของพวกเขาเกือบจะหล่นไปถึงตาตุ่ม เมื่อได้ยินเสียงน้ำกระเพื่อม
มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิยกหัวของมันขึ้น ทันใดนั้นมีลูกธนูสีดำพุ่งเข้าไปปักทะลุคางของมัน มีเลือดไหลออกมาตามลูกธนู
มันไม่สามารถหาศัตรูได้พบ มันพยายามขดตัว และกลิ้งหนีไป แต่ทว่าทีลูกธนูค้ำที่คอของมันอยู่ ทำให้มันงอตัวได้ไม่ดีนัก ตอนนี้มันเหมือนกับยางล้อรถที่บู้บี่ ซึ่งทำให้มันไม่สามารถปกปิดส่วนท้องที่เป็นจุดอ่อนได้ไม่มิด
เฉวียนเกอและคนอื่นๆเรียกวิญญาณอสูรออกมา และรีบวิ่งเข้าไปทันที มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิก็ยังคงมีพละกำลังที่มาก แม้ว่าจะบาดเจ็บ เมื่อมันกลิ้งไปแม้แต่ก้อนหินก็ยังแหลกเป็นชิ้นๆ ไม่มีใครสามารถป้องกันมันได้ตรงๆ
เฉวียนเกอและคนอื่นๆไม่กล้าที่จะสู้กับมันตรงๆ พวกเขาตัดสินใจที่จะสู้ไปถอยไป เพื่อรอจังหวะดีๆ พวกเขาหนีขึ้นไปข้างบน แต่มอนสเตอร์กลับเลือกที่จะไม่โจมตีพวกเขา มันหนีเข้าไปในอุโมงค์ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่มันทำได้
หานเซิ่นถือดูมเดย์ และขึ้นจากน้ำมา เขารีบเข้าไปในอุโมงค์เพื่อตามคนอื่นๆและมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิไป
หานเซิ่นตามพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว แต่มอนสเตอร์ถึงแม้ว่ามันจะบาดเจ็บก็ไม่ได้มีผลกับความเร็วของมัน ไม่นานมันก็หายไปในอุโมงค์ แต่โชคดีที่มันมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาสามารถตามรอยมันได้
ลูกธนูแบล็คสตริงเกอร์นั้นเคลือบด้วยพิษ และเมื่อมันกลิ้งจะทำให้ลูกธนูแทงลึกลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นบาดแผลของมันจะไม่ฟื้นฟู เลือดของมันจะไหลออกมาเรื่อยๆ
พวกเขาไล่ตามมันมา 2 ชั่วโมงในอุโมงค์ และในที่สุดพวกเขาก็เห็นแสงสว่าง พวกเขาออกจากถ้ำ และเห็นว่าบนพื้นยังคงมีรอยเลือดอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังหนีไปตามหุบเขา
"บ้าเอ้ย มอนสเตอร์นี่มันอึดอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าเป็นพวกเราคงตายไปนานแล้วถ้าเสียเลือดมากขนาดนี้" นิ้วโป้งพูด
ทางเดินนั้นขรุขระมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้วิญญาณอสูรสำหรับขี่ได้ พวกเขาต้องวิ่งตามมันไปด้วยเท้า
ในขณะที่หานเซิ่นกำลังวิ่ง เขาได้ยินเสียงในหัวของเขา
"สเกลเล็ต อามาดิโล่ระดับเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรสเกลเล็ต อามาดิโล่ เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ"
หานเซิ่นหยุดวิ่ง เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตายแล้ว? และยิ่งกว่านั้น เขาได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ
เมื่อเห็นหานเซิ่นหยุด คนอื่นๆก็หันมามองหานเซิ่นทันทีและถาม
"เกิดอะไรขึ้น"
"สเกลเล็ต อามาดิโล่ตายแล้ว" หานเซิ่นตอบ
"สกลเล็ต อามาดิโล่?" ไม่นานทุกคนก็ตระหนักว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนั้นชื่อสกลเล็ต อามาดิโล่ พวกเขาเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที
"ลูกธนูนายเคลือบยาพิษหรอ?" เฉวียนเกอรีบถาม
"ใช่ แต่พิษไม่น่าจะแรงพอที่จะฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้"
หานเซิ่นตอบ เขาเองก็ยังสงสัยว่ามันตายได้ยังไง
"เจ้าตัวนิ่มนั้น มันอาจจะกลิ้งจนลูกธนูแทงทะลุเข้าไปถึงสมองของมัน" นิ้วนางออกความคิดเห็น
"อ่า ฉันก็คิดว่าใช่ พวกเรารีบไปดูกันเถอะ" นิ้วโป้งพูด
หลังจากที่ทุกคนวิ่งตามรอยเลือดไปไม่นาน พวกเขาก็พบซากสเกลเล็ต อามาโล่ แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องหยุดชะงักกับสิ่งที่พวกเขาเห็น มันแตกต่างจากที่จินตนาการไว้ สเกลเล็ต อามาดิโล่ตายก็จริง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เพราะธนูหานเซิ่นเพียงอย่างเดียว
นกขนาดใหญ่สูงกว่า 9 ฟุต ตัวสีเงิน และดวงตาสีแดง มันกำลังใช้กรงเล็บสีเงินของมันฉีกร่างของสเกลเล็ต อามาดิโล่ เกล็ดของสเกลเล็ต อามาดิโล่นั้นแข็งมาก แม้แต่อาวุธวิญญาณอสูรยังทำอะไรมันไม่ได้ แต่มันกลับถูกกรงเล็บนกตัวนี้ฉีกขาดอย่างง่ายดาย
ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่ามันไม่ได้ตายเพราะลูกธนู แต่เป็นเพราะนกสีเงินตัวนี้ที่ฆ่าสเกลเล็ต อามาดิโล่ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร มันยังคงนับว่าหานเซิ่นเป็นคนฆ่าสเกลเล็ต อามาดิโล่
"เวรเอ้ย มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอีกตัวหรอเนี่ย แล้วแถมเป็นประเภทบินได้" นิ้วโป้งกรีดร้องออกมา
เสียงของเขาทำให้ทุกคนหน้าซีดทันที นกยักษ์ที่กำลังจิกกินเนื้ออย่างมีความสุขหันหน้ามาทันที มันจ้องมาที่พวกเขาด้วยตาสีแดงๆของมัน จากนั้นมันก็กางปีกขนาดใหญ่ของมัน และบินตรงมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
"รีบแยกย้ายกันหนี เร็วเข้า!" เฉวียนเกอตะโกนออกมา เห็นได้ชัดว่านกยักษ์ตัวนี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่สเกลเล็ต อามาดิโล่ก็ยังไม่สามารถต้านทานกรงเล็บของมันได้ พวกเขาไม่มีทางจะสู้มันได้อย่างแน่นอน
หานเซิ่นวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุด ทุกคนต่างแยกย้ายกันหนีไปคนละทาง แต่เมื่อหานเซิ่นหันกลับไป เขาเห็นว่านกยักษ์เลือกที่จะตามเขา ตาสีแดงๆของมันจ้องมาที่เขาแทบไม่กระพริบตา
'บ้าเอ้ย สงสัยพระเจ้าคงอิจฉาวิญญาณอสูรใหม่ของผม' หานเซิ่นบ่นในใจ และวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต