TWO Chapter 96 การโอน
TWO Chapter 96 การโอน
หลังจากที่ได้เห็นชอบกับแผนยุทธศาสตร์นี้แล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องพูดคุยกันต่อไปก็คือ ผู้ที่จะทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านสาขาแห่งใหม่
“หมู่บ้านสาขาแห่งที่ 3 นี้ จะได้รับชื่อว่า ‘มิตรภาพ’ เนื่องจากมันตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิตรภาพ และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรของพวกเราอีกด้วย สำหรับชนเผ่าเร่ร่อนทั้งหมด เราไม่สามารถใช้กำลังบังคับได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือการพูดคุยกับพวกเขา เมื่อเทียบกับเมืองเป่ยไห่และเมืองฉิวซุ่ยแล้ว อนาคมของหมู่บ้านมิตรภาพนี้มีความท้าทายมากกว่า ฉะนั้น เราจำเป็นต้องส่งหัวหน้าหมู่บ้านที่เหมาะสมที่สุดไปดูแลที่นั่น โดยเขาจะต้องมีความสามารถด้านการเมือง และดูแลเกี่ยวกับการทหารได้ นอกจากนี้ เขาจะต้องเป็นคนที่ปรับตัวได้ดี เพราะเขาต้องอยู่คนละฝั่งแม่น้ำของเมืองหลัก และอยู่นอกขอบเขตพลังอำนาจของเมืองหลัก พวกเราจะไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันเวลา พวกท่านมีคนที่จะแนะนำหรือไม่?” โอหยางโชวถาม
นี่เป็นครั้งแรกที่โอหยางโชวขอความเห็นจากเจ้ากรมทั้ง 4 ในการเลือกผู้นำหมู่บ้านสาขา ในกรณีเมืองเป่ยไห่ และเมืองฉิวซุ่ยนั้น เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้ เขายังไม่มีตัวเลือกที่เขาคิดว่าเหมาะสม
จากเจ้ากรมทั้ง 4 เก่อหงเหลียงเป็นคนที่ผ่อนคลายที่สุด เขาเพิ่งเข้าร่วมเมืองซานไห่ และยังเป็นเจ้ากรมกิจการทหาร จึงเห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีคนที่จะแนะนำ สำหรับอีก 3 คน พวกเขากำลังลังเลใจ ถ้าคนที่พวกเขาแนะนำทำผลงานได้ดี พวกเขาก็จะมีความสุข แต่ถ้าไม่ พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบกับการแนะนำของพวกเขา
กรมการเงินนั้นได้รับพิจารณาว่า เป็นหน่วยงานเฉพาะทาง และจากหัวหน้าฝ่ายและผู้จัดการทั้งหมด มันยากที่จะหาคนที่สามารถมาควบคุมภาพรวมทั้งหมดได้ ดังนั้น ขุ่ยหยิงหยูจึงส่ายหัว แล้วบอกว่า เธอไม่มีใครจะแนะนำ
กรมคลังวัสดุก็ไม่ต่างกัน หัวหน้าฝ่ายและผู้จัดการทั้งหลายของเขาไม่มีอะไรเลย พวกเขามีขีดจำกัดของตัวเอง แล้วพวกเขาจะกลายเป็นผู้นำหมู่บ้านสาขาแห่งใหม่ได้อย่างไร? คนเดียวที่เขาพอจะนึกออกก็คือ หัวหน้าฝ่ายนาเกลือ เซิ่นจุ้ย แต่เขาก็ยังขาดประสบการณ์อยู่ดี ดังนั้น เทียนเหวินจิงจึงส่ายหัว
ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ กรมการบริหาร บุคคลากรในฝ่ายต่างๆที่อยู่ภายใต้กรมนี้ พวกเขามีค่าสถานะที่สูง ฟ่านจงหยานลังเล เขามีในใจ 2 คน คือ ผู้ช่วยเจ้ากรม ฉินซีเจี้ยน และหัวหน้าฝ่ายทะเบียน โจวไห่เฉิน ทั้ง 2 ต่างก็เป็นคนพิเศษ พวกเขาสามารถมองภาพรวมได้ดี อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คน ต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกันไป มันยากที่เขาจะตัดสินใจ
“ข้าขอเสนอฉินซีเจี้ยน และโจวไห่เฉิน ซึ่งข้าเห็นว่านายทท่านควรจะเป็นคนตัดสินใจ เลือกคนใดคนหนึ่งจากพวกเขา” ในที่สุด ฟ่านจงหยานก็ตัดสินใจ ยกการตัดสินใจให้กับโอหยางโชว
โอหยางโชวพยักหน้า ทั้ง 2 คน คือ คนที่เขาคาดไว้แล้วว่าจะได้รับการแนะนำ ตอนนี้เขาต้องเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าฟ่านจงหยานไม่อยากตัดสินใจ แต่การเลือกในครั้งนี้สำคัญมากเกินไป เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง
ขุ่ยหยิงหยูแอบยิ้มอยู่ในใจข้างๆเขา ขณะที่เธอกำลังมองโอหยางโชวที่กำลังจะตัดสินใจอย่างยากเย็น
โอหยางโชวจ้องเธอแล้วกล่าวว่า “ข้าเลือกหัวหน้าฝ่ายทะเบียน โจวไห่เฉิน เป็นผู้นำหมู่บ้านมิตรภาพ และให้ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายทะเบียนตู่ฉวน เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทะเบียนแทนโจวไห่เฉิน เขาเป็นผู้ช่วยมากนานแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายทะเบียน ส่วนฉินซีเจี้ยนจะถูกย้ายไปเป็นหัวหน้าฝ่ายบริการคุณความดี”
ในท้ายที่สุด โอหยางโชวก็ตัดสินใจเลือกโจวไห่เฉิน ส่วนฝ่ายทะเบียน เขาเลือกให้ตู่ฉวนมารับช่วงต่อ เพราะถ้าเขาเลือกฉินซีเจี้ยน จะทำให้ฝ่ายทะเบียนมีบุคคลากรจำนวนมาก และฝ่ายบริการคุณความดีจะมีบุคลากรน้อยเกินไป
สำรหรับการตัดสินใจของโอหยางโชว เจ้ากรมทั้ง 4 ต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขาเห็นถึงความสามารถในการใช้คนของเขา
หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับหมู่บ้านสาขาแห่งใหม่เสร็จสิ้น โอหยางโชวก็จบการประชุม
สำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เขาเตรียมจะรวบรวมหัวหน้าฝ่าย และผู้จัดการทั้งหลายมาร่วมหารือในช่วงบ่าย
…………………………………………………………………………………………………….
เวลา 14.00 น. ณ ห้องโถงประชุม คฤหาสน์ของลอร์ด
โอหยางโชวได้รวบรวมบุคคลากรจากทุกกรม และทุกฝ่าย ที่เกี่ยวของกับการก่อตั้งหมู่บ้านสาขาแห่งใหม่
โอหยางโชวแบ่งปันมุมมองของเขาในเรื่องหมู่บ้านมิตรภาพ “ก่อนอื่น เราต้องสร้างสิ่งป้องกันอนาคตของหมู่บ้านมิตรภาพ กำแพงเมืองจะมีความยาวด้านละ 2 กิโลเมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยมันจะ กว้าง 9 เมตร และสูง 2 เมตร เมืองหลักจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการก่อสร้างนี้ ฝ่ายก่อสร้างจะต้องส่งพนักงานบางคนไป เราต้องสร้างมันให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
เจ้าเต๋อหวังพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าเขาเข้าใจ ขนาดของโครงการนี้เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเมืองหลักเท่านั้น ส่วนที่ยากที่สุด คือการขนส่งข้ามแม่น้ำ
“ชาวบ้านที่จะถูกส่งไปยังหมู่บ้านมิตรภาพ จะต้องได้รับการคัดเลือกอย่างเหมาะสม ชาวบ้านทั่วไปจะเป็นคนเลี้ยงสัตว์ โดยคอกม้าของทหารจะถูกสร้างขึ้นในอนาคต สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ มันจะดีที่สุดถ้าเราเลือกผู้ที่มีทักษะ เช่น ช่างตีเหล็ก พ่อค้า และอื่นๆ ในขั้นกลาง หรือสูงกว่านั้น” โอหยางโชวกล่าว
หัวหน้าฝ่ายทะเบียนคนใหม่ตู่ฉวน เขาพยักหน้าแล้วถามอย่างระมัดระวัง “นายท่าน เราจะส่งไปกี่คน?”
“1,000 คน ซึ่งมันเป็นขีดจำกัดของหมู่บ้านระดับ 3 จากกลุ่มนี้ 200 คน จะเป็นกองทหารรักษาการณ์หมู่บ้านมิตรภาพ และเจ้าจะต้องประสานงานกับค่ายทหารในเรื่องนี้” โอหยางโชวสั่ง
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
โอหยางโชวมองไปที่ตู่เสี่ยวหลาน แล้วกล่าวว่า “ฝ่ายทรัพยากรจะต้องเตรียมการสำหรับการค้ากับชนเผ่าเร่ร่อน สร้างพื้นที่ทางการค้าในหมู่บ้าน โดย ธัญพืช, เกลือ, ผลิตภัณฑ์จากโลหะ และสินค้ายุทธศาสตร์ จะต้องขายในช่องทางเฉพาะและจะต้องถูกควบคุม”
“เจ้าใจแล้วค่ะ!”
“ฝ่ายขนส่งรับผิดชอบการขนส่งข้ามแม่น้ำมิตรภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัสดุ ต้องวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบ” โอหยางโชวกล่าวกับเจิ้งซานเป่า
“เข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะทำภารกิจนี้ให้สมบูรณ์!” เจิ้งซานเปากล่าวเสียงดัง
“เยี่ยม, ทุกคนไปเตรียมตัวได้แล้ว พวกเจ้ามีเวลาเพียงช่วงบ่ายนี้เท่านั้น พรุ่งนี้ เราจะเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านมิตรภาพแล้ว” โอหยางโชวกล่าว
หลังจากจบการประชุม โอหยางโชวก็เรียกโจวไห่เฉินไปที่สำนักงานของเขา เขาต้องคุยกับโจวไห่เฉินให้เข้าใจเสียก่อน
ทั้ง 2 คุยกันจนเวลาล่วงเลยมาถึง 18.00 น. กว่าจะเสร็จสิ้น จากนั้นโอหยางโชวก็ออกจากระบบไป
…………………………………………………………………………………………………….
หลังจากออกมาจากระบบ โอหยางโชวก็โทรมาหาซ่งเจี๋ย เขากล่าวว่า “ขอโทษนะ การโจมตีค่ายโจรในครั้งนี้ ฉันไม่ได้รับเหรียญการสร้างหมู่บ้านที่เธอต้องการ”
ซ่งเจี๋ยไม่ค่อยใส่ใจมากนัก เธอยิ้มขณะที่ตอบเขา “บ้ารึเปล่า จะมาขอโทษฉันทำไม? มันขึ้นอยู่กับโชคนะ”
โอหยางโชวพยักหน้า “จริงๆแล้ว มันยังมีอีกวิธีหนึ่ง แต่ฉันไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอเต็มใจจะลองรึเปล่า?”
“วิธีอะไร?”
“ตระกูลของเธอมีเป้าหมายที่จะมีดินแดนเป็นของตัวเองใช่มั้ย?”
“ใช่ แต่พวกเรายังขาดเหรียญการสร้างหมู่บ้านไง” ซ่งเจี๋ยล้อเลียน
โอหยางโชวหัวเราะ “จะให้ฉันอธิบายต่อมั้ย?”
“โอเค ต่อได้เลย”
“ถ้าพวกเธอต้องการฐานที่มั่น นอกเหนือจากการใช้เหรียญการสร้างหมู่บ้านแล้ว เธอสามารถขอให้ผู้เล่นลอร์ดคนอื่นๆ โอนดินแดนของเขาให้กับพวกเธอได้ ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่พวกเธอจะบรรลุเป้าหมายเท่านั้น แต่พวกเธอยังได้รับดินแดนที่ถูกสร้างขึ้นแล้วด้วย”
ในอดีตที่ผ่านมา กลุ่มอำนาจขนาดกลางไม่รู้ว่า นอกเหนือจากการใช้เหรียญการสร้างหมู่บ้าน ยังมีวิธีอื่นในการครอบครองดินแดน สาเหตุก็เพราะพวกเขาไม่เข้าใจกฎของเกมส์ และไม่ทราบว่าสามารถโอนดินแดนกันได้ และพวกเขายังคิดว่า พวกผู้เล่นลอร์ดคงจะไม่เต็มใจที่จะโอนดินแดนของพวกเขา ที่พยายามสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากให้กับคนอื่น
จนกระทั้งวันหนึ่ง มีผู้เล่นชื่อ ไชอี(Jiye) ได้ทำตามวิธีการที่ว่านี้ มันทำให้คนอื่นๆเริ่มทำตาม โดยใช้เครดิตที่แทบจะไร้ประโยชน์ในอนาคต เพื่อซื้อดินแดนของผู้เล่นในเกมส์ ภายใต้การโจมตีของเงิน ดินแดนต่างๆก็ถูกพิชิต จากนั้น กลุ่มอำนาจเหล่านี้ก็เข้ามาปกครองโลกในเกมส์
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทำให้บางคนเสียใจ เนื่องจากขาดข้อมูล คนที่โชคร้ายเหล่านั้นได้สูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ เขาจำได้ว่าอีก 1 ปี หลังจากนี้ เมื่อมีการประกาศความจริงออกไป ผู้เล่นที่โอนดินแดนให้คนอื่นพยายมฟ้องร้องเอาดินแดนของตนคืน
น่าเสียดายที่คดีทั้งหมดถูกโยนทิ้ง เนื่องจาก ดินแดนของพวกเขาได้รับการโอนและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
มีบางคนกล่าวว่า โชคชะตานั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เฉพาะผู้ที่ยึดมั่นในโชคชะตาเท่านั้นที่จะเป็นผู้ครองโลก
“อ๊า? ทำได้จริงเหรอ?” ซ่งเจี๋ยร้องอุทานออกมา
“แน่นอน นี่ถือว่าจบภารกิจรึยัง?” โอหยางโชวล้อเลียน
ซ่งเจี๋ยหัวเราะ “อื้ม นายทำเกินความคาดหวังของฉันด้วยซ้ำ ฉันจะเลี้ยงนายในครั้งต่อไป!”
“ฉันจะรอ!”
“โอเค เดี๋ยวค่อยคุยกัน ฉันจะรีบไปบอกข่าวนี้กับพี่ชายของฉัน เขากังวลเรื่องเหรียญการสร้างหมู่บ้านหลายวันแล้ว” ซ่งเจี๋ยกล่าว
“โอเค บ๊ายบาย!”
“บ๊ายบาย!” หลังจากวางสาย ซ่งเจี๋ยก็รีบโทรไปหาพี่ชายของเธอทันที
แฟนเพจ : TWOแปลไทย