เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 141 ฉิงซูปะทะไป่หนิงปิง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 141 ฉิงซูปะทะไป่หนิงปิง
ภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณระดับสาม ดวงตาของฉิงซูเปลี่ยนเป็นสีเขียวหยก
กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนจากมนุษย์มีชีวิตไปเป็นป่าไม้ที่ลึกลับ
"โอ้?" ไป่หนิงปิงตะลึงเล็กน้อยก่อนจะแสดงออกด้วยความหงุดหงิด "ดูเหมือนเจ้าจะได้รับทักษะใหม่บางอย่างที่น่าสนใจ"
วิญญาณแท่งน้ำแข็ง!
"ไป!" แท่งน้ำแข็งพุ่งออกจากนิ้วทั้งห้าของไป่หนิงปิง
"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."
จากฝ่ามือทั้งสองข้างของฉิงซู เถาวัลย์สองเส้นงอกออกมา พวกมันเต้นรำอยู่กลางอากาศราวกับอสรพิษและป้องกันแท่งน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย
แท่งน้ำแข็งที่เปลี่ยนทิศพุ่งเฉือนไหล่ของฉิงซูไปเล็กน้อยแต่เขายังสามารถยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงราวกับไม้ยืนต้นที่หลั่งรากลึกลงไปในพื้นดิน
ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงเย็น "ทักษะของเจ้าดีขึ้น แต่ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะสามารถรับมือแท่งน้ำแข็งของข้าได้มากเท่าใด?"
หลังจากกล่าวจบคำ ดวงตาสีฟ้าของไป่หนิงปิงพลันส่องประกายขึ้น
วินาทีต่อมาสิบแท่งน้ำแข็งจึงพุ่งตรงไปยังฉิงซูอีกครั้ง
หลังจากนั้นอีกสิบแท่งน้ำแข็งก็ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ มันจึงไม่ต่างจากฝนน้ำแข็ง
"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว..."
เสียงกรีดเฉือนอากาศของแท่งน้ำแข็งจำนวนมากสามารถทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะท้านได้โดยไม่ง่าย
ฉิงซูหลบเลี่ยงพร้อมกับเถาวัลย์ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
หลังจากการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน มันจึงก้าวเข้าสู่ระดับที่เขาสามารถควบคุมเถาวัลย์ได้ราวกับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
แต่แท่งน้ำแข็งยังมีมากเกินไปเป็นเหตุให้ฉิงซูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
แท่งน้ำแข็งแทงทะลุไหล่ขวาของเขาและพุ่งออกทางด้านหลัง
วิญญาณเข็มสน!
ฉิงซูสะกดข่มความเจ็บปวดและยิงเข็มสีเขียวจำนวนมากออกไปจากเส้นผมสีเขียวของเขา
เข็มจำนวนมากปะทะกับเกราะวารีของไป่หนิงปิง ด้วยเกราะวารีที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวิญญาณระดับสาม มันจึงสามารถรับการโจมตีทั้งหมดและกำจัดมันออกไปด้วยพลังอำนาจของกระแสน้ำ
แต่เหตุการณ์นี้ยังสามารถหยุดยั้งการโจมตีของไป่หนิงปิงได้ในที่สุด
ฉิงซูฉวยโอกาสนี้ดึงแท่งน้ำแข็งออกจากไหล่ แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา ด้านหนึ่งเป็นเพราะความหนาวเย็น อีกด้านเป็นเพราะร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นต้นไม้
ไป่หนิงปิงยังรักษาเกราะวารีเอาไว้ขณะที่มองไปยังฉิงซู
จากรอยฉีกขาดบนเสื้อ ไป่หนิงปิงสามารถมองเห็นเนื้อหนังที่เปลี่ยนเป็นต้นไม้ของฉิงซู ในเวลาเดียวกันใบหูของเขาก็เริ่มยืดยาวออกไป เส้นผมของเขาเผยให้เห็นใบไม้สีเขียวที่เริ่มเติบโตขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉิงซูใช้วิญญาณมนตราพฤกษาโดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมา
วิญญาณมนตราพฤกษาทำให้ฉิงซูกลายเป็นต้นไม้ ในเวลาเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา
นี่ทำให้ฉิงซูรู้สึกราวกับกำลังนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำพุธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ
ในร่างกายของเขา วิญญาณกงล้อจันทราไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่วิญญาณเถาวัลย์มรกตและวิญญาณเข็มสนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ฉิงซูสูดหายใจลึก เขาไม่เคยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งระดับนี้มาก่อน พลังธรรมชาติทำให้เขารู้สึกราวกับสามารถใช้พลังวิญญาณได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือพลังอำนาจของวิญญาณมนตราพฤกษา
แต่ในเวลาเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวยังทวีความรุนแรงมากขึ้นในหัวใจของเขา
เขารู้ว่าหากเขาใช้งานมันต่อไปโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ เขาจะกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้และตกตายในลักษณะนั้น
ทุกสิ่งมีราคาของมันเสมอ
ฉิงซูสะกดข่มความหวาดกลัวและมองไปยังไป่หนิงปิง "มาต่อกันเถอะ"
หลังจากนั้นการต่อสู้จึงเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เถาวัลย์มรกตปะทะดาบน้ำแข็ง เข็มสนปะทะแท่งน้ำแข็ง
ด้านหนึ่งคือสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดที่ครอบครองความเร็วในการกู้คืนพลังวิญญาณที่น่าตกตะลึง อีกด้านหนึ่งคือวิญญาณมนตราพฤกษาที่สามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การต่อสู้ครั้งนี้ไกลเกินกว่าขอบเขตของผู้ใช้วิญญาณระดับสามไปเรียบร้อยแล้ว
ฟางเจิ้งที่ยืนอยู่บนเนินเขาเฝ้ามองการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความโง่งม เขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงเช่นนี้มาก่อน
ปกติแล้วผู้ใช้วิญญาณย่อมมีพลังวิญญาณอยู่อย่างจำกัด พวกเขายังต้องสำรองพลังวิญญาณเอาไว้สิบส่วนเสมอ
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฉิงซูหรือไป่หนิงปิง พวกเขากลับใช้พลังวิญญาณออกมาราวกับไร้ขีดจำกัดใดๆทั้งสิ้น
ตรรกะทั้งหมดถูกทำลายลงด้วยการต่อสู้ของพวกเขา
เมื่อเวลาผ่านไป...
วิญญาณวิหคน้ำแข็ง!
ไป่หนิงปิงเปิดปากกว้างและส่งวิหคน้ำแข็งบินออกไป
เดิมทีวิหคน้ำแข็งมีรูปลักษณ์เหมือนนกพิราบที่น่ารัก แต่เวลานี้ด้วยพลังอำนาจของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด มันกลับเปลี่ยนเป็นอินทรีย์น้ำแข็งตัวโตที่พุ่งตรงไปยังฉิงซู
ฉิงซูไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันเวลา ดังนั้นเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับมันโดยตรง
"ปัง!"
เสียงระเบิดดังขึ้นขณะเดียวกันร่างของฉิงซูก็ถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์
"มันจบแล้ว..." ไป่หนิงปิงถอนหายใจแต่ยังรู้สึกไม่พอใจกับผลงานของตนเอง
เขามองไปยังก้อนน้ำแข็งที่ผนึกฉิงซูเอาไว้ภายในและพึมพำ "ขอบคุณที่มอบประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับข้า นี่เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่ข้าเคยผ่านมา ฉิงซู ความตายของเจ้ามีความหมายต่อข้า ข้าจะจดจำเจ้าเอาไว้ในหัวใจ"
"ท่านหัวหน้า!" ฟางเจิ้งตะโกนเสียงดังอยู่บนเนินเขา
"เหตุใดต้องตะโกนเสียงดัง มดตัวน้อย ถัดจากเขาก็คือเจ้า" ไป่หนิงปิงเดินตรงไปยังฟางเจิ้ง
แต่เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงแตกหักของก้อนน้ำแข้งดังเข้าหูของไป่หนิงปิง
"เป็นไปได้อย่างไร?" เขาหันหลังกลับและเห็นร่างของฉิงซูที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก
ร่างกายของเขาใหญ่โตขึ้น ชุดที่เขาสวมใส่ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เส้นผมของเขาเปลี่ยนเป็นเถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยใบไม้ มือและเท้าของเขายืดยาวออกไป นิ้วมือและนิ้วเท้าของเขากลายเป็นกิ่งไม้ที่แหลมคม
ด้วยเสียงระเบิดของก้อนน้ำแข็ง
ฉิงซูก้าวเท้าออกมา ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นมนุษย์ต้นไม้ไปอย่างสมบูรณ์
เขาสูงสามเมตร ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเปลือกไม้สีน้ำตาล มีทั้งกิ่งไม้ เถาวัลย์ และใบไม้งอกออกมาเป็นจำนวนมาก
ไป่หนิงปิงตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับฉิงซู เวลานี้เขาดูราวกับเด็กน้อยที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้ใหญ่
"รูปลักษณ์เช่นนี้ เจ้าปรับแต่งวิญญาณมนตราพฤกษางั้นหรือ? การปรับแต่งวิญญาณชนิดนี้มันยากลำบากยิ่งกว่าการปรับแต่งวิญญาณปีศาจน้ำแข็ง" ไป่หนิงปิงค้นพบคำตอบของความแข็งแกร่งชนิดนี้ในที่สุด
"วิญญาณมนตราพฤกษาสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดฉิงซูจึงสามารถใช้พลังวิญญาณได้ราวกับไม่มีขีดจำกัด" ไป่หนิงปิงเข้าใจเรื่องนี้แต่ยังรู้สึกตกใจ
เขาลอบถามตนเองในใจ 'เขากล้าใช้งานวิญญาณมนตราพฤกษา เขาไม่กลัวว่าจะตายด้วยการกลายเป็นต้นไม้งั้นหรือ? แม้เจ้าจะชนะข้า เจ้าก็ยังต้องตาย'
"ไป่หนิงปิง..." เสียงทุ่มต่ำของฉิงซูดังขึ้น "ข้าเข้าใจเจ้า ทั้งเจ้าและข้าต่างเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกชุบเลี้ยงโดยผู้นำตระกูล แต่พวกเราเดินอยู่บนเส้นทางที่แตกต่าง ต้นไม้ที่กำลังจะตายเพียงต้นเดียวในป่าใหญ่ไม่ถือเป็นสิ่งใด ตราบเท่าที่ป่าไม้ยังอยู่ ต้นไม้ก็จะเติบโตขึ้นอีกครั้ง มาจบการต่อสู้ของพวกเรากันเถอะ!"
หลังจากนั้นเถาวัลย์นับร้อยจึงพุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิงอย่างพร้อมเพรียงราวกับอสรพิษยักษ์
"เพื่อตระกูลงั้นหรือ? โง่เง่า!" ไป่หนิงปิงล่าถอยออกไป
แต่เถาวัลย์กลับรวดเร็วกว่าก่อนหน้าหลายเท่าขณะที่มันพยายามไล่ล่าไป่หนิงปิง
ไป่หนิงปิงควบคุมร่างกายของตนเองและหลบเลี่ยงการโจมตีของอสรพิษสีเขียว แต่เถาวัลย์ยังเฉี่ยวเฉือนต้นแขนของเขาก่อนจะพุ่งเข้าทำลายล้างภูเขาหินเป็นเหตุให้เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง
เกราะวารี!
ไป่หนิงปิงไม่มีเวลาหลบเลี่ยงและทำได้เพียงกระตุ้นใช้งานวิญญาณเกราะวารีอีกครั้ง
ฉิงซูสังเกตเห็นจุดอ่อนของวิญญาณชนิดนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งเถาวัลย์จำนวนมากออกไปรัดพันเกราะวารีเอาไว้ทั้งหมด
เกราะวารีไม่สามารถทนต่อพลังการบีบอัดของเถาวัลย์สีเขียวและค่อยๆยุบตัวลงเรื่อยๆ
"ไม่ดีแล้ว หากเกราะวารีพังทลาย ข้าจะถูกสังหารโดยฉิงซูผู้นี้" ไป่หนิงปิงเข้าใจสถานการณ์ของเขา
เป็นไปตามคาด เกราะวารีพังทลายลงในที่สุด
"บึม!"
แต่ในจังหวะนี้พายุหมุนน้ำแข็งกลับพวยพุ่งออกมาจากภายในก่อนจะขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น
เมื่อไม่สามารถป้องกัน ไป่หนิงปิงจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์โดยใช้การโจมตีปะทะการโจมตี
อุณหภูมิในอากาศลดลงอีกครั้ง
ใบมีดน้ำแข็งจำนวนมากฉีกกระชากเถาวัลย์สีเขียวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ทำได้ดี" ฉิงซูก้าวเท้าตรงไปยังพายุน้ำแข็งโดยปราศจากความหวาดกลัว
ด้วยการกางแขนทั้งสองข้าง เขาบีบรัดพายุน้ำแข็งทั้งหมดด้วยกิ่งไม้จำนวนมหาศาล
ความรู้สึกเจ็บปวดของเขาล่าช้าและลดน้อยลงเมื่ออยู่ในร่างต้นไม้ มันจึงอนุญาตให้เขาคว้าจับพายุหมุนเอาไว้ด้วยพลังความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามี
พายุหมุนน้ำแข็งหดตัวลงเรื่อยๆภายใต้พละกำลังของฉิงซู
'บัดซบ! เจ้าบ้านี่ไม่สนใจชีวิตเลยงั้นหรือ?' ไป่หนิงปิงก่นด่าอยู่ภายในใจ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาสามารถทำได้เพียงเพิ่มพลังเข้าไปในพายุหมุนน้ำแข็งเพื่อแข่งขันกับบฉิงซูเท่านั้น
พายุหมุนน้ำแข็งในกำมือของฉิงซูเริ่มลดความรุนแรงลง แต่ด้วยพลังอำนาจของวิญญาณดาบน้ำแข็ง มันจึงกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
การต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมและไม่มีผู้ใดสามารถถอนตัวหรือหยุดยั้งมันได้
ไม่ว่าจะเป็นฉิงซูฆ่าไป่หนิงปิงหรือเป็นไป่หนิงปิงที่สังหารฉิงซู ศึกครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญและเร้าร้อน