บทที่ 13: การเรียนรู้ในเมืองหลวง
บทที่ 13: การเรียนรู้ในเมืองหลวง
"โอ้ว ใช่เลย! ลูนาเรียจ๋า" ลีอาห์ยังลังเลแต่อยากจะถามคำถามนี้เพราะเธอรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนแปลกหน้ากับลูนาเรียอีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงกล้าได้กล้าเสียและถามว่า:
"เธอรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้หรอ?"
ลูนาเรียได้ยินคำถามและไม่พอใจ แต่ได้มองเห็นความวิตกกังวลของคนอื่น ๆ เธอเลยเข้าใจ
"ข้าเองรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากและอำนาจเกินจะคาดการณ์ แต่ในฐานะบุคคลทั่วไปเขาเป็นคนดีและเป็นมิตร และถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์สำหรับดุ๊กดอม ข้าคงไม่ได้กล่าวเกินจริงใช่ไหม?"
คำว่าผู้พิทักษ์! เป็นสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากข่าวสารที่แพร่กระจายจากหินเวทย์มนต์และอ้างถึงบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในบางเมืองที่มีอำนาจในการปกป้องทำให้พื้นที่ทั้งหมดอันตราย ด้วยเหตุของชื่อผู้พิทักษ์
"อ่าาา! เซอร์หล่าวเจอร์รี่อาจจะมีอำนาจมากแต่เขาไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ ถ้างั้นคงไม่ต้องสุ่มเลือกดีกว่านะลูนาเรียจ๋า..."
รอสักครู่...เดี๋ยวไม่ใช่ ๆ ! !ข้าไม่ได้พูดถึงเซอร์หล่าวเจอรรี่ ข้าหมายถึงเซอร์คนอื่น ๆ และท่านรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเขา? "
ลีอาห์รีบแก้คำถามของเธอ จนทำให้ลูนาเรีย สั่นสะท้านว่าชายแก่คนนี้คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดใช่ไหม? เธอรู้สึกว่าเซอร์หล่าวเจอร์รี่เป็นเหมือนปีศาจยักษ์ที่เหนือที่สุด ทำให้ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ใครมันจะมีพลังอำนาจได้เท่าเซอร์หล่าวเจอรรี่กันล่ะ!
"อ๋าาา! ถ้างั้นพี่ลีอาห์หมายถึงคน ๆ นั้นหรอ อื้มมม.....ถึงแม้จะยังไม่ได้พบกับเซอร์ดุ๊กฮิลเลียร์เลย แต่ก็สามารถมองว่าประเทศนี้มีขนาดใหญ่และเจริญรุ่งเรือง และได้รับความรักจากพลเมืองในเวลาเดียวกัน เขาจะต้องเป็นคนที่ชอบธรรมและเป็นคนดีมากแน่ ๆ"
"ไม่!!!ไม่ได้! อ๊าาาา ลูนาเรียจ๋า พวกข้าไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับคนแก่นั้นได้หรอก? พวกข้ายังอยู่ในช่วงที่สำคัญ! พวกข้ากำลังพูดถึงชายหนุ่มที่เหมือนกับนายน้อย"
"พี่ลีอาห์ วันนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยมากและความเครียดในใจของข้ามันแย่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ชอบคุยกับพีลีอาห์นะ แต่วันนี้ข้าเหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย เราจะทิ้งสิ่งแย่ ๆ ออกไปได้ไหมในวันพรุ่งนี้?
คราวนี้ลูนาเรีย ใช้กลยุทธ์วิธีหนึ่งแกล้งทำร้ายตัวเองเพื่อหลอกลวงศัตรู ลีอาห์พูดต่อหลังจากนั้นก็หยอกล้อและตั้งคำถามกับเด็กหญิงสาว อย่างต่อเนื่องไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนรับได้และถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกผิด เธอเอาความคิดส่วนตัวมาพูด
"ไม่นะ! นี่เป็นความผิดของข้า ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้กับพี่สาวคนนี้นะ"
"เอาล่ะ~ ข้าไม่ทราบว่าจะอยู่ที่นี่นานเท่าไรและข้ารบกวนทุกคนที่นี่ในวังของดุ๊ก ก็ถือว่าไม่ต้องใส่ใจมันหรอก" ลูนาเรียแสดงสีหน้าที่เอื้อเฟื้อและใจดีทันที เหตุนี้ทำให้ลีอาห์เห็นลูนาเรียเป็นนางฟ้าตัวเล็ก ๆ ที่คอยส่องแสง ทั้งสวยงามและยังใจดีทั้งยังเชื่อฟัง ระดับของภัยอันตรายก็ผ่านมาแล้วไม่ว่าจะใครหรือเพศไหนก็ตามคิดไปจนถึงนั้นเลย! ความคิดของลีอาห์ได้แสดงให้เห็นภาพของบุรุษที่หล่อเหลา
ใคร ๆ ก็จะตกหลุมรักเธอ...จริงไหม?
-------------- เส้นแบ่งของไทร์ ------------
"ขอโทษทีท่านข่าหมิง ที่ทำให้ท่านต้องรอนาน"
ไทร์เช็ดเลือดออกจากจมูกและลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีสั่น ๆ
ท่านข่าหมิงโก่งหลังและตอบด้วยน้ำเสียง...
"แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าอะไรบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเจ้า แต่ขอให้เรากับไปพูดกับหัวข้อนี้อย่างจริงจังก็แล้วกัน"
ประโยคนี้ทำให้ไทร์ไตร่ตรอง ดังนั้นเหตุผลที่อยู่ดี ๆ ท่านข่าหมิงก็เงียบไป ก็เพราะเขาไม่สามารถระบุได้ว่า อะไรที่ทำให้ตัวไทร์มีเลือดกำเดาออกกับพลังเทพของเขากันแน่?
"ถ้าเจ้าต้องเลือกอาวุธสักชิ้น เจ้าจะเลือกอะไรรึ?"
ขณะที่ไทร์กำลังตัดสินใจอยู่ ท่านข่าหมิงก็เริ่มพูดบังคับให้ไทร์หลุดจากความนึกคิด ไทร์ได้เกิดความคาดหวังและเริ่มถาม:
"ท่านข่าหมิง ท่าน...ท่านจะให้อาวุธอะไรแก่ข้าหรอ?"
"ทุกสิ่งทุกอย่างมีความชัดเจน เทพธิดาทำให้ไม้และหญ้าทั้งหมดเป็นที่มาของการกำเนิดของอาวุธ ตั้งแต่เจ้าเรียนรู้สิ่งที่ข้าสืบทอดให้ ข้าคิดว่าเจ้าจะสามารถใช้สิ่งที่เจ้านึกฝันเหล่านี้ได้อย่างไร?" ท่านข่าหมิงโบกกล้ามปูอันใหญ่และจ้องมองที่ไทร์กับรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดและก็ไม่มีวี่แววที่จะเก่งขึ้น แต่อีกสิ่งที่ท่านข่าหมิงมองนอกจากความน่าเกลียด...
"โอ้ว! เหมือนกันเลย" เมื่อเปรียบในตัวเขา ไทร์มีสิ่งหนึ่งที่ปิดบังความเศร้าของเขาทำให้ท่านข่าหมิงรับรู้
"เจ้าเหมือนกับเด็กดื้อซนทำให้ข้าต้องวางมาด แม้หลังจากที่สูญเสียความทรงจำไปเจ้าอาจจะตกอยู่ในความโลภไม่ช้าก็เร็ว อย่างเช่นคนอายุน้อย แต่ชอบโลภในผลประโยชน์ อะไรก็ตาม รีบตัดสินใจเลือกอะไรดีไม่ดีและอย่าให้ข้าต้องคอยจ้องมองเจ้าอีก อ่าวเลือกมา? มีด หอก ดาบ ขวาน ไม้คฑา หรือค้อน ตราบเท่าที่เจ้าจะสามารถถือไว้ในมือได้...เลือกมา! "
"ไม่ว่าจะเป็นทักษะการต่อสู้แบบใด ข้าจะไม่จบลงด้วยกิ่งไม้......" ไทร์พูดพึมพำ
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจว่า:
"ถ้าข้าเลือกดาบ ท่านจะสอนอะไรข้าล่ะ?"
"หัวใจและวิญญาณของดาบอันศักดิ์สิทธิ์" ปูยักษ์ตอบด้วยความภาคภูมิใจ
"นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากสมัยโบราณทางทิศตะวันออก มันเป็นความสามารถของนักบุญในจักรวรรดิเวอร์มิลเลียน หลังจากได้รับการขัดเกลาจากข้าแล้ว ต่อไปคือจับคู่กับทักษะสนับสนุน "หวนคืนสู่สวรรค์และโลก" หัวใจและวิญญาณกลายเป็นสองสิ่งรวมกันก็คือดาบอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีสองสิ่งรวมกัน พลังของมันไม่มีที่สิ้นสุด"
"โอ้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าเลือกมีดล่ะ?"
"การล่มสลายของพระเจ้า" ปูยักษ์ดูเหมือนจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อพูดถึงทักษะการต่อสู้เหล่านี้และความภาคภูมิใจของเขาเมื่อพูดถึงทักษะเหล่านี้
“นี่คือสิ่งที่ข้าคิดขึ้นมาเอง มันคือทักษะที่ใช้การโจมตีจากทั้งด้านซ้ายและด้านขวา กล้ามปูอันใหญ่ยักษ์ใช้โจมตี ฝ่ายตรงข้ามเมื่อใช้มันจะสร้างสนามหยุดยั้งธรรมชาติ ทำให้ความแรงของฝ่ายตรงข้ามลดลง 30% ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน รูปแบบนี้คือสิ่งเรียกว่า”การล่มสลายของพระเจ้า" แต่นี้ยังคงเป็นพื้นฐานเมื่อเจ้าฝึกทักษะนี้ไปยังระดับสูงแล้ว เจ้าจะสามารถปราบฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสมบูรณ์และกลายเป็นที่กล่าวขาน ดังนั้นมันเป็นอย่างไร ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีดหรือดาบ แต่สิ่งที่สุดยอดคือทักษะการต่อสู้ที่ถูกใช้โดยเทพ และไม่ว่าอันไหนก็ตาม ถ้าเจ้าได้ฝึกเป็นเวลาประมาณสามปี เจ้าจึงสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นระดับสูงทรงแล้ว มา! เจ้าเลือกซะ.....ในขณะที่ข้ายังมีเวลา"
"โอ้ววว” ไทร์นั่งพิงคางและหลังจากที่เขาขบคิดเขาเลือกว่า:
"ข้าต้องการเรียนรู้วิธีใช้มีด...และข้าก็ต้องการเรียนรู้วิธีใช้ดาบด้วย!!!"