ตอนที่ 31 กุญเเจในหีบ
ผมและคุณแมสเปิดกล่องหีบไปพร้อมๆกัน พอเปิดได้ฟองอากาศก็ไหลออกมาจากกล่องหีบกระทบกับหน้าของพวกเรา ก่อนที่มันจะจางหายไปผมจึงว่ายเข้าไปดูแล้วพบกับกุญแจอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างในกล่องหีบ ผมหยิบกุญแจสีทองที่อยู่ในหีบขึ้นมา แล้วมองไปที่คุณแมสแล้วยื่นไปให้คุณแมส
“คุณแมสเก็บไว้เลยครับพอเราขึ้นไปจะได้ดูกันว่าไอ้กุญแจเนี่ยมันเอาไว้ทำอะไรกันแน่”
คุณแมสพยักหน้าให้กับผมแล้วพวกเราก็ว่ายน้ำออกจากซากเรือเพื่อจะขึ้นไปยังเหนือน้ำ จะได้ขึ้นเกาะไปดูว่ากุญแจนี้เอาไว้ทำอะไรแล้วทำไมถึงเก็บไว้ในหีบแน่นหนาแบบนี้ เดี๋ยวเราค่อยเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆที่ผืนดินจะดีกว่า ในน้ำถ้าอยู่นานมันอาจจะไม่ดีก็เป็นได้ ผมแล้วก็คุณแมสก็เลยว่ายออกจากซากเรือเพื่อขึ้นไปยังผิดน้ำให้ได้ก่อน //วี่ วี่// ในระหว่างที่พวกเราว่ายน้ำเพื่อขึ้นไปสู่ผิวน้ำเสียงบางอย่างในน้ำก็ดังขึ้น เสียงเหมือนกับปลาวาฬเลยแต่มันไม่ใช่ เสียงของมันไม่แหลมขนาดนี้ดูเหมือนจะตัวใหญ่กว่าด้วย
“แย่แล้วค่ะฉันคิดว่าปีศาจใต้ทะเลมันรู้แล้วว่าเราอยู่ที่ไหน ยังไงเราก็ต้องรีบขึ้นไปที่ฝั่งก่อนที่มันจะมาเจอพวกเราจะดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกิดอันตรายก็ได้นะคะ”
ถ้าเป็นอย่างที่คุณแมสบอกผมว่าพวกเราคงต้องรีบว่ายขึ้นไปแล้วล่ะ ผมกับคุณแมสพากันว่ายน้ำขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว //วี่ วี่// เสียงมันเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วมันผมสำผัสได้ถึงเสียงของมันเลย มันใหญ่กว่าวาฬฉะนั้นถ้ามันจะกินเรามันก็แค่ว่ายอ้าปากมาหาเราก็กินเราได้แล้ว
“ต้องเร็วกว่านี้แล้วนะคะคุณอดัม” จากที่เธอว่ายน้ำด้วยขาของเธอตอนนี้แสงระยิบระยับเริ่มกระจายทั่วเท้าของเธอ มันเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นว่าจากที่เธอมีเท้ามีครีบเหมือนปลาแทน อย่างที่บอกเธอเป็นนางเงือกแต่การเปลี่ยนแปลงของเธอก็ทำให้ผมตกใจเหมือนกันนะบางทีน่ะ เธอว่ายเร็วกว่าปกติมากเมื่อเปลี่ยนจากขามนุษย์เป็นครีบแทน ผมว่ายน้ำตามเธอไม่ทันแล้วแล้วมันก็เข้าใกล้ผมมามากแล้วด้วย ผมจะรอดออกไปไหมหรือผมจะโดนมันเขมือบเสียก่อน
“คุณอดัมเดี๋ยวฉันช่วยเองค่ะคุณช้าเกินไปมันกำลังจะมากินเราแล้ว”
พอเธอพูดจบเธอก็ว่ายกลับมาหาผมก่อนที่จะจับผมเอาไว้ แล้วพาผมว่ายขึ้นไปยังผิวน้ำพร้อมๆกัน ฟองอากาศได้แตกออกจากหัวของผมเมื่อผมอยู่บนผิวน้ำ
“ว่ายไปค่ะว่ายขึ้นฝั่งกันเร็ว” ผมจ้ำอ้าวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันแปลว่าว่ายน้ำนั่นแหละครับ //ฟู้// พอผมถึงฝั่งก็ตะเกียกตะกายกันเข้าฝั่ง น้ำก็ได้พุ่งออกมาจากจุดที่ผมว่ายออกมาเพียงนิดเดียว กระเด็นเข้ามาถึงชายหาดที่พวกผมได้มาถึงแล้ว
“เกือบไปแล้วนะคะเนี่ย แฮก แฮก” คุณแมสคงเหนื่อยมากเลยผมก็เช่นกันนึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว
“เจ้าตัวยักษ์นั่นมันตัวอะไรครับทำไมมันถึงตัวใหญ่ได้ขนาดนั้น ผมฟังจากเสียงที่มันร้องออกมาก็รู้เลยว่ามันตัวใหญ่กว่าปลาวาฬอีก”
เสียงมันก้องไปทั่วทั้งทะเลขนาดนั้นถ้าคิดว่ามันตัวเล็กก็บ้าแล้วล่ะครับ ตัวของมันต้องใหญ่มากแน่ๆ
“เจ้าตัวนั้นที่มันอยู่ในทะเลมันมีชื่อว่า มอเอน แห่งหลุมทะเลลึกค่ะ พ่อของฉันเคยเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนนี้เคยเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ปลา แต่เมื่อมนุษย์ปลาตายมันก็เริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่คอยจะกลืนกินทุกอย่าง ตัวของมันใหญ่มากใหญ่กว่าปลาวาฬสิบตัวราวกันเสียอีกนะคะ ตั้งแต่นั้นมาใต้มหาสมุทรก็ไม่ปลอดภัยอีกเลย แต่มันกลัวต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ใต้ทะเลนั่น มันมีชื่อเรียกว่าต้นอากวาดอ เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่งที่ติดอยู่แถวๆนี้ พวกเราก็เลยใช้วิธีเอามันมาปลูกรอบๆแถวนี้เพื่อไม่ให้มันมาทำร้ายใครอีก แต่รู้สึกว่าที่มันมาที่นี่เพราะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอนค่ะ มันคงต้องเกิดเรื่องบางอย่างถึงกล้าเข้ามาในเขตที่เต็มไปด้วยพืชที่มันกลัวแบบนี้ ยังไงก็ต้องลองสืบดูทีหลังล่ะนะคะ ว่าแต่..กุญแจนี่มันคืออะไรกันหรอคะ ทำไมถึงไปอยู่ในหีบที่ปิดตายแบบนั้นได้ล่ะ”
เธอหยิบกุญแจสีทองขึ้นมาแล้วยื่นคืนมาให้กับผม เศาพืชน้ำติดอยู่จนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีของมีที่มีหลุดๆออกมาบ้าง
“งั้นผมขอดูก่อนนะครับ คงต้องใช้เวลาขัดนิดหน่อยให้พวกพืชที่ติดเกาะกันจนแน่นหายไปก่อน ยังไงเราก็กลับบ้านกันก่อนะเถอะครับมันจะปลอดภัยกว่า”
แล้วพวกเราก็เดินกลับบ้านไปพร้อมๆกัน ตอนนี้ผมคงต้องหาคำตอบกับกุยแจสีทองที่ได้มาแล้ว ว่าอาโทโร่เอามันมาทำอะไรกันแน่