ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 138 บางคนกำลังไล่ล่าและพยายามฆ่าไป่หนิงปิงงั้นหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 140 เริ่มต้นด้วยความตาย

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 139 ระเบิดทำลายตัวเอง


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 139 ระเบิดทำลายตัวเอง

ผู้ใดคือไป่หนิงปิง?

อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งภูเขาชิงเหมา บางคนที่สามารถเปลี่ยนขั้วอำนาจของสามตระกูล ผู้ครอบครองความเร็วในการบ่มเพาะที่น่าตื่นตะลึงและเหนือยิ่งกว่าผู้มีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง ไม่มีผู้ใดสงสัยในอนาคตของเขา กระทั่งศัตรูของเขายังต้องยอมรับความจริงที่ว่าพรสวรรค์ของเขาไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ตามเวลานี้กลับมีบางคนทำให้อัจฉริยะผู้นี้ต้องหลบหนีในสภาพที่น่าอเนจอนาถเช่นนี้?

ไม่มีผู้ใดในกลุ่มของฉิงซูคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจและประหลาดใจที่สุดก็คือบางคนที่ไล่ล่าไป่หนิงปิงกลับเป็นฟางหยวน

ตามความเข้าใจของพวกเขา ฟางหยวนเป็นบุคคลที่ขับไล่คางคกกลืนกินแม่น้ำ แต่เมื่อเขายอมรับความพ่ายแพ้ต่อซ่งหลี่ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาจึงไม่สามารถประเมินได้

"ฟางหยวนแข็งแกร่งถึงเพียงนั้นเลยงั้นหรือ?"

กลุ่มของฉิงซูพบว่าเรื่องนี้เป็นบางสิ่งที่ยากจะยอมรับได้อย่างแท้จริง

ฟางหยวนหันไปรอบๆ

"ฉิงซู!" กระทั่งตัวเขาเองยังมึนงงไปชั่วครู่เมื่อพบว่ามันเป็นกลุ่มของฉิงซู

'ข้าชนะพนัน ไป่หนิงปิง วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!' ฟางหยวนคิดก่อนตะโกนเสียงดัง "น้องเล็ก เจ้าอยู่ที่นี่! ยอดเยี่ยม! เร็วเข้า หยุดไป่หนิงปิง! เขาเป็นฆาตกรที่สังหารกลุ่มของซ่งหลี่รวมถึงกลุ่มของม่านซื่อจากตระกูลของเรา"

"กระไรนะ!?"

"แต่สามตระกูลลงนามในสัญญาพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว!"

"ไม่ ไม่มีสิ่งใดมากเกินไปสำหรับไป่หนิงปิง!"

"เป็นเช่นนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดฟางหยวนจึงสามารถไล่ล่าไป่หนิงปิง!"

กลุ่มของฉิงซูตกใจแต่ก็เข้าใจเรื่องราวในที่สุด ดูเหมือนว่าหลังจากไป่หนิงปิงต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง พลังการต่อสู้ของเขาจึงลดลงถึงจุดต่ำสุดและเปิดโอกาสให้ฟางหยวนคว้าชัยชนะ

'ข้าจะตายอยู่ที่นี่จริงๆงั้นหรือ? ไม่ ข้าเหลือพลังวิญญาณพอที่จะระเบิดพลังปีศาจน้ำแข็งออกไป ข้ายังมีโอกาส' ไป่หนิงปิงคิด ด้านหน้าของไป่หนิงปิงมีกลุ่มของฉิงซู ขณะที่ฟางหยวนตามมาทางด้านหลัง

นี่เป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับฟางเจิ้ง แน่นอนว่าฟางเจิ้งไม่เชื่อคำพูดของฟางหยวน

แต่ไป่หนิงปิงไม่ทราบเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นคนนอก เขาเห็นเพียงรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันของคนทั้งสอง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบางอย่าง

เขายกแขนขวาขึ้นและใช้วิญญาณปีศาจน้ำแข็ง

มัดกล้ามเนื้อบนแขนขวาของเขากลายเป็นโปร่งใสและสามารถมองเห็นกระดูกภายในแขนน้ำแข็งได้อย่างชัดเจน

"บึม!"

ด้วยเสียงดังสนั่น แขนขวาของไป่หนิงปิงระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ไอหมอกและมวลอากาศเย็นแผ่กระจายออกไปทุกทิศทาง

"แคร็ก...แคร็ก..."

ชั้นน้ำแข็งปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดท่ามกลางฤดูร้อนที่อบอ้าว อุณหภูมิในอากาศลดลงอย่างฉับพลัน

"เขาระเบิดทำลายแขนของตนเอง!" ฟางเจิ้งตะลึงกับความเหี้ยมโหดของไป่หนิงปิง

"หนีเร็ว!" ฉิงซูคว้าแขนของฟางเจิ้งและรีบวิ่งหนี

คลื่นความเย็นพุ่งตามพวกเขาด้วยความเร็วสูงราวกับคลื่นหมาป่า

โดยไม่จำเป็นต้องสงสัยมันจะเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริงหากพวกเขาถูกแช่แข็ง

ฟางหยวนถอยห่างออกไปหนึ่งร้อยก้าวพร้อมกับกลุ่มของฉิงซูก่อนที่การโจมตีจากคลื่นความเย็นจะค่อยๆหยุดลง

บนภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและกลิ่นหอมของพฤกษานานาชนิดกลับกลายเป็นโลกน้ำแข็งไปในพริบตา

ฟางหยวนก้าวเท้าเข้าไปในโลกน้ำแข็งและเดินไปตามเส้นทางภูเขา

ร่างกายของไป่หนิงปิงถูกแช่แข็งอยู่ท่ามกลางโลกน้ำแข็งด้วยใบหน้าที่ยังคงหยิ่งยโสและโหดเหี้ยมอย่างที่สุด

"เขา...ฆ่าตัวตาย?" ฟางเจิ้งพึมพำ ขณะเดียงกันกลุ่มของฉิงซูก็ติดตามฟางหยวนไปอย่างกระชั้นชิด

"ไม่" การแสดงออกของฉิงซูยังคงเคร่งเครียด "ไป่หนิงปิงบ่มเพาะร่างกายด้วยวิญญาณมัดกล้ามน้ำแข็ง น้ำแข็งเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเขา นอกจากนั้นมันยังเป็นเกราะป้องกันตัวเขาจากอันตรายและอนุญาตให้เขากู้คืนพลังวิญญาณ"

ฟางหยวนจ้องมองไปยังไป่หนิงปิงก่อนจะยิงดาบแสงจันทร์ออกไป

"ฟิ้ว..."

ดาบแสงจันทร์สร้างเสียงกรีดเฉือนน้ำแข็งที่คมชัด

บนก้อนคริสตัลน้ำแข็งที่สูงสามเมตรกว้างสองเมตรปรากฏรอยกรีดเฉือนตื่นๆบนพื้นผิวของมัน แต่เพียงชั่วครู่ต่อมามวลอากาศเย็นกลับลบรอยกรีดเฉือนและกู้คืนให้มันกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

"ฟางหยวน สิ่งที่เจ้ากล่าวก่อนหน้าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?" ฉิงซูหันหน้าไปทางฟางหยวน

"แน่นอน ซ่งหลิน สมาชิกในกลุ่มของซ่งหลี่ยังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถเป็นพยานในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามพวกเราไม่สามารถอยู่ที่นานนัก รายละเอียดสามารถพูดคุยกันภายหลัง ตอนนี้พวกเราควรจากไปอย่างรวดเร็วที่สุด" ฟางหยวนพยักหน้าตอบ

เขาตัดสินใจที่จะล่าถอย

เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถทำลายคริสตัลน้ำแข็งชนิดนี้ได้แม้จะรวมพลังอำนาจทั้งหมดของพวกเขาก็ตาม มันเป็นเพียงการใช้พลังวิญญาณไปอย่างไร้ประโยชน์เท่านั้น

ในเวลาที่ไป่หนิงปิงออกมาจากก้อนน้ำแข็ง พลังการต่อสู้ของพวกเขาจะลดลงขณะที่พลังของไป่หนิงปิงจะถูกกู้คืน

"จากไป? เหตุใดพวกเราต้องจากไป?" ฟางเจิ้งตะโกนเสียงดัง "ไป่หนิงปิงทำลายแขนขวาของตัวเอง เขาผ่านศึกมาอย่างต่อเนื่อง เขาอยู่ในสภาพที่อ่อนล้าทั้งกายและใจ พวกเราเพียงต้องทำลายคริสตัลน้ำแข็งและส่งสัญญาณขอกำลังเสริมจากตระกูลเพื่อกำจัดเขา นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก!"

หัวใจของทุกคนพองโตขึ้นเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้

"เมื่อฟางหยวนสามารถไล่ล่าและพยายามฆ่าเขา แล้วเหตุใดพวกเราจึงไม่สามารถ?" สมาชิกในกลุ่มมองหน้ากันและมีความคิดเช่นเดียวกัน

"หากพวกเราสามารถสังหารไป่หนิงปิง พวกเราจะกลายเป็นวีรบุรุษของตระกูล"

"แต่หากพวกเราฆ่าเขา ตระกูลไป่จะทำสงครามกับพวกเราด้วยความโกรธหรือไม่? นอกจากนั้นมันยังมีคลื่นหมาป่า..."

"ไม่ มันจะไม่เป็นเช่นนั้น ในสถานการณ์คลื่นหมาป่า แม้พวกเราจะฆ่าไป่หนิงปิงที่นี่ ตระกูลไป่ก็ทำได้เพียงกล่ำกลืนความขมขื่นและอดทนเท่านั้น"

"ถูกต้อง อัจฉริยะที่ตายแล้วก็ไม่ถือเป็นอัจฉริยะ"

สมาชิกในกลุ่มแสดงความเห็นและคิดไปถึงเกียรติยศที่จะได้รับในอนาคต

'โง่เขลาอย่างแท้จริง พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ถึงพลังอำนาจของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด' ฟางหยวนคิดและลอบหัวเราะอยู่ภายในใจ เขาไม่ต้องการไปกับคนกลุ่มนี้หากพวกเขาต้องการดิ้นรนเพื่อแสวงหาความตาย

ฉิงซูยังลังเลใจ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจไป่หนิงปิงมากที่สุดในกลุ่ม

เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสุดยอดกายาทั้งสิบ แต่เขาก็ไม่ปรารถนาที่จะมีชื่อเสียงโดยการสังหารไป่หนิงปิงเช่นกัน

เขาไม่สนใจชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ เขาได้รับการชุบเลี้ยงจากผู้นำตระกูล เขาเพียงต้องการตอบแทนบุญคุณและเต็มใจยอมแพ้ในการชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลกับฟางเจิ้ง

เขาให้ความสำคัญกับตระกูลเท่านั้น หัวใจของเขาเชื่อมโยงกับระบบตระกูลอย่างเหนียวแน่น

'หมู่บ้านตระกูลไป่สามารถทะยานสูงได้เพราะการคงอยู่ของไป่หนิงปิง หากไป่หนิงปิงตายไป ตระกูลแสงจันทร์บรรพกาลของเราจะยังเป็นอันดับหนึ่งบนภูเขาชิงเหมา แม้ไป่หนิงปิงจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม แต่ข้ามีวิญญาณมนตราพฤกษาและสามารถต่อสู้กับเขา นอกจากนั้นเขายังสูญเสียแขนขวา แน่นอนว่าเขาต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับแขนที่ขาดหาย นี่เป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากในการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย' ฉิงซูคิด

ดวงตาของฉิงซูส่องประกายเมื่อคิดได้เช่นนี้

ฟางหยวนตระหนักถึงเส้นทางที่ฉิงซูเลือกจากการแสดงออกของเขาและกำลังรอชมการแสดงของฉิงซูอยู่อย่างเงียบๆ

'หากฉิงซูใช้วิญญาณมนตราพฤกษา โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา เขาจะแข็งแกร่งกว่าผู้ใช้วิญญาณระดับสามทั่วไป อย่างไรก็ตามเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับไป่หนิงปิงที่ครอบครองสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด การต่อสู้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไป่หนิงปิงที่กดพลังวิญญาณของตนเองให้อยู่ในระดับสองสามารถระเบิดพลังวิญญาณระดับสามออกมาได้ไม่ยากและเวลานี้เขาก็มีเวลามากพอ เมื่อใดก็ตามที่เขาออกมาจากก้อนคริสตัลน้ำแข็ง เขาก็จะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามที่แข็งแกร่งที่สุด'

พรสวรรค์ของไป่หนิงปิงแน่นอนว่าไม่ธรรมดา ฟางหยวนจึงต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดจากภายนอกเพื่อต่อสู้กับเขาแม้ในเวลาที่เขากดพลังวิญญาณให้อยู่ในระดับสอง

ดังนั้นหากไป่หนิงปิงกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ฟางหยวนเป็นต้นเหตุการสูญเสียแขนขวาของเขา เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ไป่หนิงปิงจะต้องเล็งเป้ามาที่ฟางหยวนอย่างแน่นอน

นอกจากนั้นฟางหยวนยังไม่ต้องการเปิดเผยความลับของเขาต่อหน้ากลุ่มของฉิงซู ดังนั้นฟางหยวนจึงเปิดเผยความตั้งใจที่จะล่าถอยออกจากสนามรบโดยไม่สนใจความคิดเห็นของผู้ใด

"ขี้ขลาดนัก"

"ฮืม เขาจากไปก็ดีแล้ว หากเขาเข้าแทรกแซง มันอาจเป็นการทำลายรูปแบบการต่อสู้ของพวกเรา"

"ฮ่าฮ่า เขาทำข้ากลัวจริงๆตอนที่เห็นเขาไล่ล่าไป่หนิงปิง แต่ดูเหมือนฟางหยวนก็ยังเป็นฟางหยวน คนขี้ขลาดที่ยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีในการประลองของผู้ใช้วิญญาณ"

"พอแล้ว ทุกคนมีความทะเยอทะยานเป็นของตนเอง ไม่ว่าอย่างไรอย่างน้อยเขาก็ให้ข้อมูลของไป่หนิงปิงกับพวกเราก่อนที่เขาจะจากไป นอกจากนั้นมันดีแล้วที่เขาจะกลับไปแจ้งข่าวกับตระกูลเพื่อให้ตระกูลส่งกำลังเสริมมาที่นี่" ฉิงซูมองฟางหยวนด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

"ท่านหัวหน้า ท่านใจดีเกินไป ไม่จำเป็นต้องช่วยแก้ตัวให้คนขี้ขลาดเช่นฟางหยวน"

"ถูกต้อง แม้ฟางหยวนจะเป็นพี่ชายของฟางเจิ้ง แต่เท่าที่ข้าเห็นพวกเขาแตกต่างกันราวสวรรค์กับปฐพี"

'ข้า...ข้าจะไม่พูดกับพี่ใหญ่อีกแล้ว' ใบหน้าของฟางเจิ้งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำด้วยความอับอายขณะที่ฟางหยวนวิ่งหนีออกจากสนามรบ

"ฟางเจิ้ง เจ้าออกไปด้วย" ฉิงซูเร่งกล่าว

"อันใด?" ดวงตาของฟางเจิ้งเบิกกว้างเมื่อได้ยินเรื่องนี้

"ในฐานะผู้มีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง เจ้าเป็นความหวังของตระกูล แม้ไป่หนิงปิงจะสูญเสียแขนขวาแต่การต่อสู้กับเขายังเป็นเรื่องอันตราย หากสถานการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น พวกเราสามารถตาย แต่เจ้าไม่สามารถ!"

"กล่าวได้ดี!" เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายชราผู้หนึ่ง

"ผู้อาวุโส" ฟางเจิ้งเร่งแสดงความเคารพ เขาจำได้ว่าชายชราผู้นี้คือผู้อาวุโสของตระกูล

ชายชรามองไปยังฉิงซูและกล่าวสรรเสริญ "อวี๋โป้มีบุตรบุญธรรมที่ประเสริฐนัก ด้วยความรู้สึกที่สามารถตายเพื่อตระกูล พวกเรายังต้องกังวลว่าตระกูลจะไม่ยิ่งใหญ่อีกงั้นหรือ?"

ฟางเจิ้งอยู่ระหว่างการเติบโตและหลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งก่อนหน้า ตระกูลจึงส่งผู้อาวูโสคอยติดตามปกป้องฟางเจิ้งตลอดเวลา

"ฟางเจิ้ง เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการต่อสู้ แต่เจ้าสามารถยืนสังเกตการณ์จากระยะไกล ไม่ใช่ว่าเขาก็เป็นเพียงไป่หนิงปิงงั้นหรือ? ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับความโดดเด่นของเขาและเรื่องที่เขาเอาชนะผู้อาวุโสบางคน ฮืม แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้ประสบการณ์ที่ผลักตนเองเข้าสู่สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาก็เป็นเพียงมือสมัครเล่นเช่นนั้นหรือ?" ชายชราเย้ยหยันด้วยความรังเกียจ

ฉิงซูยืนกรานความคิดของตน แต่เขายังปฏิบัติตามการตัดสินใจของผู้อาวุโส

ในฐานะรุ่นน้อง เขาต้องเคารพรุ่นพี่ ด้วยการเป็นผู้เยาว์ เขาจะกล้าตั้งคำถามและหักหน้าผู้อาวุโสได้อย่างไร?