ตอนที่แล้วบทที่ 1: การแย่งชิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 กลับบ้าน

บทที่ 2 :การแย่งชิง 2


 

ตั้งแต่เขาออกจากประเทศจีน นั้นคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ การฆ่าคนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาไปแล้ว เขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ไม่รู้กี่ชีวิตที่ตายด้วยน้ำมือของเขา ด้วยตำแหน่งที่เขาได้มา มันทำให้เขาต้องโหดเหี้ยมและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน

เย่เฉินดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าของ

กลุ่มเขี้ยวหมาป่าซึ่งเป็นตำนานในหมู่ทหารรับจ้างนั่นเอง

 

กลุ่มเขี้ยวหมาป่าแต่เดิมแล้วถูกพิจารณาให้เป็นเพียงกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดและมีสมาชิกเพียงสิบคนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ ‘ราชาหมาป่า’ เย่เฉินก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้า สามปีต่อมา กลุ่มเขี้ยวหมาป่ากลับเติบโตจนกลายเป็นกองทัพ

 

เขาปกครองทุกอย่างโดยใช้เวลาแค่ปีเศษ หลังจากนั้นก็โค่น เซี่ยป่าว

ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า ราชา ลงได้ อาจเรียกได้ว่าเพราะเหตุนั้นทำให้เย่เฉินเป็นเหมือนกับหัวหน้าของเหล่าทหารรับจ้างนานาชาติ เพราะเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นแล้วในตอนนี้

 

หลังจากจัดการผู้ก่อการร้ายสองคนเสร็จ เย่เฉินกระโจนพุ่งเข้าหาคนร้ายอีกสองคนสุดท้ายในห้องเครื่องนี้ การยื้อแย่งปืนเกิดขึ้น แต่มีเพียงผู้ชนะที่เหนี่ยวไก

ปัง!!

เสียงปืนดังสนั่นขึ้น! ผู้ก่อการร้าย หันไปหาจุดที่วิถีกระสุนพุ่งใส่ และแล้วเขาถูกกระสุน

ฝังอยู่หน้าผากของเขานั่นเอง ผู้โดยสารโดยรอบร้องลั่นทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น

เย่เฉิน ไม่ได้ใส่ใจต่อเสียงร้องเหล่านั้นเขาเดินอย่างสบายๆไปที่ห้องคนขับ ผู้ก่อการร้ายคนสุดท้ายยังลอยนวลอยู่ ถ้ามันรู้ว่าเพื่อนของตัวเองตายหมดแล้ว ผลที่ตามมาค่อนข้างอันตรายไม่เพียงถือ AK47 ไว้ในมือเท่านั้นยังมีระเบิดติดไว้ที่เสื้ออีกต่างหาก ถ้าเขารู้ตัว ทุกอย่างคงจบกัน

“คุณช่วย ดูแลพวกเขาด้วยนะครับ ผมจะเข้าไปข้างใน” เย่เฉินพูดกับแอร์โฮสเตสาว เธอทำได้เพียงกอดปลอบผู้โดยสารท่านหนึ่งและพยักหน้าตอบเย่เฉิน หลังจากพูดจบแล้วจึงค่อยๆเดินเข้าไปที่ห้องคนขับพร้อมปืนในมือของเขา และยังคงไม่ลืมที่ดึงมีดจากหน้าอกผู้ก่อการร้ายที่เป็นหัวหน้าโดยไม่สนใจแม้เลือดจะเปื้อนก็ตาม

เมื่อเย่เฉินเข้าใกล้ประตูห้องคนขับ เขาได้มองลอดเข้าไปยังด้านใน เขาเห็น

ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยนั่งสบายๆใกล้ๆตัวมีโคล่าวางอยู่ ส่วนถัดจากนั้นก็มี

ชายวัยกลางคนชุดสีขาว ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยไม่ได้หวาดกลัวหรือคิดถึงอันตรายที่กำลังจะมาเยือนเลยสักนิด

แต่กลับนั่งจิบโคล่าอย่างสบายใจ

ชายวัยกลางคนพูดกับผู้ก่อการร้ายอย่างหวาดกลัว

“พวกเราไม่สามารถนำเครื่องบินลำนี้กลับไปได้ เพราะน้ำมันคงไม่พอที่จะทำอย่างนั้น” ชายวัยกลางคนคนนั้นคือกัปตันของเครื่องบินลำนี้

ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยเห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่กัปตันพูดเลยแม้แต่นิด เขาเข้าใจแค่เพียงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ ถ้าหากเครื่องบินลำนี้ลงจอดบนแผ่นดินประเทศจีน

“ถ้าพวกเราบินย้อนกลับไม่ได้ทำไมเราไม่ไปลงจอดที่อื่นล่ะ? ยกตัวอย่างเช่นไม่ประเทศ T ไม่ก็ประเทศ YN”

ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความเข้าใจ

“แต่ว่า…หากพวกเราไปบินที่น่านฟ้าของพวกเขาล่ะก็ เขาจะเห็นว่าเราเป็นศัตรู” กัปตันเริ่มหมดหวังที่จะอธิบายมันค่อนข้างอธิบายลำบากในการเข้าน่านฟ้าประเทศอื่นในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจถูกขีปนาวุธสอยร่วงก็เป็นได้

“ฉันไม่มีตัวเลือกให้แกมากนะโว้ย !ถ้าแกไม่อยากตายหยุดพ่นเรื่องไร้สาระได้แล้ว” กัปตันถอนหายใจอย่างหมดหวัง นี่มันกฎของเจียงฮู่หรือยังไงที่คนอ่อนแอจักต้องทำตามผู้แข็งแกร่งกว่า แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องทำตามคำสั่งผู้ก่อการร้ายเพราะเป็นเรื่องจริงที่ว่าในตอนนี้เขาไม่มีตัวเลือกมากนัก

ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยรู้สึกโล่งใจที่กัปตันฟัง และกำลังจะทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ไม่นานเย่เฉินก็ผลักประตูเปิดแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเตี้ยโดยไม่มีสัญญาณใดๆแจ้งบอก

ผู้ก่อการร้ายร่างผอมเห็นเย่เฉินก็ตกใจคว้าปืนขึ้นมาแต่ยังไม่ทันได้เหนี่ยวไกก็เห็นแสงสีแดงวาปขึ้นแล้วตายโดยไม่รู้ตัวไม่รู้แม้กระทั่งตนถูกอะไรฆ่า

สำหรับเย่เฉินการฆ่าคนนั้นมันสุดแสนจะง่ายดาย เขาถูกฝึกซ้อมมาตั้งแต่ยังเดินกระเปาะกระแปะแล้วเชี่ยวชาญเรื่องโครงสร้างร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดีจะชำแหละทิ้งช่างง่ายดายยิ่งนัก ยากที่จะหาศัตรูต่อกรด้วย ระดับความรู้ของเขาแม้ในหมู่คนกลุ่มเขี้ยวหมาป่าเหมือนกันยังต้องให้การยอมรับ

กัปตันจ้อง เย่เฉิน อยู่สักพักจึงกล่าวออกมาอย่างเร่งรีบ “ขอบคุณมากหากไม่ได้คุณแล้วล่ะก็ทั้งผู้โดยสารและพนักงานคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่ทราบว่าผมขอทราบชื่อของคุณได้ไหม? ผมหวังว่าคุณจะมากับพวกเราเพื่อให้ปากคำกับตำรวจ”

เย่เฉินขมวดคิ้วขึ้นแต่แล้วก็ต้องคลายออกเมื่อสัมผัสได้ว่าคำพูดของกัปตันไม่มีความนัยใดๆ เขาจึงผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามเย่เฉินไม่ต้องการให้ชื่อของเขามาพัวพันในเหตุการณ์ครั้งนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่หน่วยงานราชการของจีนจะไม่ออกหมายจับเขา

เมื่อเห็นหน้าเย่เฉินที่ดูหมองลงกัปตันจึงรีบกล่าวอธิบาย

“คุณครับอย่างเพิ่งเข้าใจผิด นี่เป็นเพียงขั้นตอนทั่วไปเท่านั้น คุณจะได้รับบริการที่ดีและผู้คนมากมายย่อมให้รางวัลแก่ฮีโร่ของพวกเขา”

 

“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ต้องการ ขอบคุณ”

เย่เฉินไม่ได้อยากเป็นฮีโร่จึงปฏิเสธข้อเสนอของกัปตัน เขาย่างเท้าเดินออกจากห้องควบคุมทันที แต่ก็หยุดแล้วหันมาพูดว่า “เอ่อกัปตัน ที่นี่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยใช่ไหม งั้นยกหน้าที่ฮีโร่ให้พวกเขาแทนแล้วกัน”

กัปตันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเข้าใจคำขอของเย่เฉิน พนักงานพวกนั้นไม่ใช่คนของราชการหากเขารับเรื่องเหตุการณ์นี้ไปก็จะเป็นเครดิตติดตัวพวกเขาและเป็นประโยชน์ในอนาคต ได้ทั้งรางวัลและคนสรรเสริญเยินยอ

และแล้วเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบิน

พู่ตงอินเตอร์เนชั่นแนล เย่เฉินรีบคว้ากระเป๋าลงจากเครื่องแล้วตรงไปยังทางออก นักข่าวมากมายรุมล้อมเครื่องบินเห็นได้ชัดเลยว่าคาดหวังข่าวจากกัปตันเครื่องบินลำนี้มากแค่ไหน

ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่ากัปตันจะไม่เปิดเผยข้อมูลของเขาก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่วางใจ และเดินออกไปที่ทางออกอย่างเงียบๆห่างจากฝูงชน ไม่นานนักกัปตันก็เดินออกมา นักข่าวมากมายรีบพุ่งใส่เขาแล้วรัวคำถามนับพันราวกับระเบิด

กัปตันค่อยๆอธิบายเรื่องราวทั้งหมดยกเว้นเรื่องของเย่เฉินและได้เผยว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยของเครื่องเป็นผู้ที่จัดการเหล่าผู้ก่อการร้ายทั้งหมดลงด้วยกำลังที่มี…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด