บทที่ 15 ท้าทาย
หลังจากได้ยินในสิ่งที่หลี่ฮ่าวพูดขึ้น ว่าเขาและเย่เฉินเป็นพี่น้องกัน เจิ้งต้าฟู ก็มีความกลัวบังเกิดขึ้น เขาเข้าใจถึงเหตุผลที่หลี่ฮ่าวมาเยี่ยมได้ทันทีและถามไถ่อย่างสุภาพว่าเขาจะถอนแจ้งความได้หรือไม่ หลี่ฮ่าวอยู่ในจุดที่ไม่ต้องการทำอะไรโจ่งแจ้ง มังกรที่แข็งแกร่งไม่มีทางลดตัวไปสู้กับ
งูดิน ที่เขามาเจอเรื่องแบบนี้แสดงให้เห็นว่าโชคดีของเขาได้หมดไปเสียแล้ว
พอได้มองดูเจิ้งต้าฟูดีๆอีกครั้ง หลี่ฮ่าว ก็รู้สึกโกรธมากทั้งๆที่ชายคนนี้ทำให้พ่อเขาได้รับบาดเจ็บแต่เพื่อที่จะปล่อย เย่เฉิน ออกมาให้ได้เขาจำเป็นต้องระงับความโกรธแค้นเอาไว้ข้างใน
เจิ้งต้าฟู คิดถึงสถานการณ์ของเขาในตอนนี้หลังจากหลี่ฮ่าวพูดประโยคเหล่านี้ออกมาเขา จึงตอบกลับอย่างไร้ซึ่งความลังเล
พอได้รับคำตอบจาก เจิ้งต้าฟู หลี่ฮ่าวหัวเราะอย่างเบาๆอย่างสุภาพและพูดตอบกลับอีกเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ออกจากโรงพยาบาลขับตรงไปยังสถานีที่ขังเย่เฉินไว้
_____________________________
เช้าวันนี้ หวังหยู่ มาถึงสถานีช้าจนผิดปกติ เมื่อเปิดประตูเข้าไปเธอรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “ไอ้สารเลวนั่นอยู่ไหน?” เมื่อวานเย่เฉินได้ฉวยโอกาสจากเธอ ทำให้เธอต้องระเบิดน้ำตาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอเธอกลับมาบ้านจึงได้รู้สึกดีขึ้นในวันนี้เธอจะต้องล้างแค้นเย่เฉินเป็นสองเท่า
“ห้องขังส่วนกลางครับ”เจ้าหน้าที่ที่ประจำการพูดออกมาหลังจากเห็นหวังหยู่ เต็มไปด้วยความโกรธและคุกคาม เขารู้สึกไม่ดีและระวังตัวเพื่อไม่ให้ชักนำความซวยเข้าสู่ตนเอง มีใครที่ไหนที่กล้ายั่วโมโหเธอบ้าง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพูดอยู่ หยางเว่ยก็เห็นหวังหยู่เช่นกัน เขาถือโอกาสเดินปรี่เข้าไปหาเธอ “เสี่ยวหยู่เธอเป็นยังไงบ้าง เธอโอเคนะ? เมื่อวานฉันช่วยเธอสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าโจรนั่นแล้ว ฉันจับมันขังรวมกับนักโทษที่แสนเลวร้ายมันคงออกมาโดยไม่ครบสามสิบสองแน่นอน”
“ใครขอให้นายมาช่วย หะ! เรื่องนี้ฉันจัดการเองได้ อย่าได้มายุ่ง!!!”
หวังหยู่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชาขณะที่เดินไปห้องขัง
บัดซบ!! ความหวังดีของเขากลับกลายเป็นเรื่องโง่ๆ อีกแล้ว เขาสาปแช่งสวรรค์ แล้วมองแผ่นหลังของหวังหยู่อย่างงุนงง “ยัยผู้หญิงน่ารังเกียจ!!
ภาคภูมิใจอะไรนักหนา ถ้าพ่อของเธอไม่เป็นถึงรองเลขานุการกรรมการเทศบาล นะอย่าหวังว่า ฉันจะเสียเวลาลดตัวมาคุยกับเธอ” หลักจากพูดเสร็จเขาก็เดินตามหลังเธอไปยังห้องขัง
พอมาถึงห้องขังหยางเว่ยก็ต้องตกตะลึงเขาเชื่อมาตลอดว่าเย่เฉินจะต้องไม่เหลือชิ้นดีแต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นไม่เพียงแต่นอนสบายๆ บนเตียง เท่านั้นกระทั่งนักโทษเหล่านั้นยังถูกใช้งานราวกับเด็กส่งของ
เย่เฉินทำราวกับที่นี่เป็นที่พักผ่อนของตน
เย่เฉินยิ้มแล้วพูด “สุดสวยคิดถึงผมมากสินะ ถึงมาหาผมถึงที่ เมื่อคืนนี้คงจะนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงผมละสิ”
“นอนไม่หลับของเตี่ยแกสิ ฉันมาที่นี่เพื่อดูว่าแกตายหรือยังต่างหากล่ะ!!” หวังหยู่ สบถออกมา
“โอ้ที่รัก จิตใจสตรีนั่นยากแท้หยั่งถึง เรามา กระชับความสัมพันธ์กันดีไหม ยังมีอีกหลายอย่างเลยนะที่คุณยังไม่ได้ลอง”
เมื่อได้ยินเย่เฉินพูดทุกคนก็มองหวังหยู่เป็นตาเดียว หยางเว่ย คิดในใจว่า เขาทำอย่างกับว่ายัยผู้หญิงน่ารังเกียจนี่ได้เสียความบริสุทธิ์และเป็นผู้หญิงของตนไปแล้ว
“จะมองหาอะไรกัน อยากถูกควักลูกตางั้นเหรอ!!” หวังหยู่ตะโกนใส่นักโทษแล้วกัดริมฝีปากของตนมองไปยังเย่เฉิน
“ถ้าแกเป็นลูกผู้ชายจริงละก็ ออกมาดวลกันฉันซะ!!”
“ดวล?”เย่เฉินหลุดขำไม่ตั้งใจ “สุดสวยเธอบ้าไปแล้วเหรอนี่มันสมัยยุโรปตอนกลางหรือไง แล้วอีกอย่างทำไมฉันต้องดวลกับเธอด้วย?”
“อะไร? แกกลัว? ยังกล้าเรียกตัวเองว่าผู้ชายอีกหรอไง”
“เหอะ ฉันจะเป็นผู้ชายหรือไม่ เธอไม่ต้องทดสอบหรอก อย่าทำตัวแบบนี้เลย เธอกลับบ้านไปนั่งเล่นเปียโนเถอะ ทำแบบนี้เดี๋ยวจะแต่งงานยากหรอกนะ” เย่เฉินยิ้มอย่างชวนทะเลาะ เขารู้สึกผิดที่ทำให้เธอร้องไห้จนถึงกับวิ่งออกจากห้องสอบสวนแต่พอมาเจอเธอวันนี้เขาอดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอเล่นอีกอย่างนึกสนุก
“ฉันจะได้แต่งงานหรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องของแก แต่ที่แน่ๆ ฉันจะไม่แต่งกับแกแน่นอน!!!”
“เฮ้! ถ้าเธออยากแต่งงานฉันก็แต่งแต่เพียงเธอลดความ
รุนแรงลงซะหน่อย เพราะอย่างงั้นจะแต่งงานได้ยากจริงๆ”
หยางเว่ยมองการสนทนาของทั้งสองอย่างตกตะลึงนี่คือการพูดคุยของ ตำรวจและนักโทษจริงๆหรือนี่ หรือนี่มันคือการทะเลาะกันของคู่รักกันแน่ “ไอ้โจรสารเลว!!”หวังหยู่โกรธมาก
เย่เฉินกลับดูไม่ทุกข์ร้อน “ใช่ฉันมันเลว จริงอย่างที่เธอว่านั่นแหละ แล้วยังไงล่ะ จะกัดฉันหรอ?”
หวังหยู่โกรธจนแทบจะระเบิด หยางเว่ยรีบหลบออกข้าง “ฉันไม่อยู่ที่นี่ละ”
หยางเว่ยสัมผัสถึงบรรยากาศที่เย็นขึ้นเขารีบหลบออกนอกประตูแล้วมองหวังหยู่ด้วยความสาปแช่ง ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องตกเป็นของเขาแล้วเขาจะหาทางย่ำยีเธอแน่
หวังหยู่กวาดสายตาหาเหล่านักโทษ “ออกไป!!”
เย่เฉินเห็นดังนี้ก็พูดต่อว่า “เธอ…เธอจะทำอะไรฉัน ฉันสามารถฟ้องข้อหากระทำชำเราหรือทำอนาจารฉันได้นะ” เย่เฉินเอามือปิดช่วงอกของเขา ทำท่างราวกับผู้หญิงที่เพิ่งเคยเห็นผู้ชายเข้าใกล้
หวังหยู่ตรงไปหาเขาจับแขนขึ้นแล้วกัดลงไปอย่างเต็มเหนี่ยว “โอ้ย!!…” เย่เฉินถึงกับร้องออกมา “เจ็บนะโว้ย เธอเป็นหมาหรือไงถึงได้มากัดฉันเนี่ย”
“ฉันจะกัดแกแล้วจะทำไมล่ะ?”
“ลืมมันเสียเถอะ ผู้ชายเขาไม่สู้กับผู้หญิงหรอกนะ”เย่เฉินทำเป็นเมินเธอ
เมื่อเธอเห็นว่า เขาไม่สนใจในคำพูดของเธอเลยสักนิด เธอก็จับแขนของเขาอีกครั้งอย่างแน่น แล้วจะลงฟันงับที่แขนของเขาให้สาแก่ใจ เขาก็รีบพูดดักก่อนที่เธอจะลงมือ
“เธอลองทำอีกสิ แล้วเธอจะได้รู้แน่”
“เอาสิ!! นายจะทำอะไรฉันได้”หวังหยู่พูดอย่างท้าทาย ก่อนจะจับแขนเขาไม่ยอมปล่อย
“ดูเหมือนเธอจะไม่เลิก จนกว่าจะได้รับบทเรียนสินะ”พูดเสร็จเย่เฉินก็กด
หวังหยู่ลงกับเตียงนักโทษ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงกว่าและกำยำนั้น…!!