บทที่ 11 กล้าดียังไง
หวังหยู่จ้องมอง เจ้าอันธพาลอย่างเคียดแค้น แต่เมื่อเห็นท่าทางที่สนุกของเขา เธอก็พยายามระงับความโกรธเอาไว้ เธอเป็นคนมีการศึกษา
มีเหตุผลอะไร ที่ต้องหัวเสียกับคนอันธพาลแบบนี้ นอกจากนี้หากเธอโกรธมันก็เข้าทางเย่เฉินทว่าเธอไม่ปล่อยให้เขา ร่าเริงแน่ ต้องเอาคืนให้ได้ เมื่อถึงสถานีตำรวจเธอมีวิธีการจัดการกับเขาและเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้เอาคืนอย่างแน่นอน
และแล้วรถก็มาถึงสถานีตำรวจ หวังหยู่และเจ้าหน้าที่คนอื่นก็พาเย่เฉินเข้าไปข้างใน เย่เฉินมีท่าทางไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดราวกับว่าเขามาเดินที่สวนหลังบ้านของตนแล้วชมนกชมไม้อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเจ้าหน้าที่คนอื่นเห็นหน้าของหวังหยู่ก็รีบหลีกทางให้ทันใด พวกเขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงแสดงอาการแบบนี้หรืออาจจะเป็นเพราะวันนั้นของเดือนก็เป็นได้ เย่เฉินถูกโยนเข้าห้องสอบสวนสองมือถูกล็อคด้วยกุญแจมือติดกับเก้าอี้แต่เขาไม่ได้ต่อต้านใดๆเขาเพียงแค่รอเท่านั้น
รอที่จะได้เห็นเทคนิคของตำรวจสาวหัวรุนแรงและพราวเสน่ห์ว่าจะงัดไม้ไหนออกมา
“ออกไป!!” หวังหยู่พูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชายด้วยเสียงที่ดัง
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูฉุนเฉียวของหวังหยู่เข้าก็ไม่ลังเลใดๆรีบออกจากห้องทันทีราวกับเขาเป็นนักโทษที่ได้รับนิรโทษกรรม เขาไม่อยากแม้จะคิดหากเขายังอยู่หลังจากเธอไล่แล้วเขาคงต้องเจอมรสุมความโกรธของเธอเป็นแน่ เมื่อเขาออกมา เพื่อนร่วมงานก็ต่างรุมล้อมพร้อมถามสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในกันแน่
“เย็นไว้พวกเย็นไว้ ฉันรู้ว่าพวกแกจะถามอะไรแต่ขอเถอะ ขอให้ฉันดื่มน้ำสักแก้วก่อนโอเคไหม? ฉันยังตกใจไม่หายเลยเนี่ย” ซุนจีเซียงเอามือทาบ อก แล้วนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่บนรถ ตอนที่เย่เฉินแสดงความเห็นเกี่ยวกับหน้าอกของหวังหยู่ เขากลัวอย่างจับใจกลัวว่าเธอจะควักปืนออกมาเหนี่ยวไกใส่เย่เฉินแต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วเธอกลับไม่ทำอะไรมีแต่นั่งเก็บกดอยู่เงียบๆตอนนี้เขาเข้าใจแล้วเธอรอเวลาเอาคืนอยู่นี่เอง
“เอ้าพูดเร็วสิ เกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เพื่อนร่วมงานต่างเร่งร้อนคำตอบ
“อ่าห์ เขาคืนคนที่ทำร้ายเจิ้งต้าฟู รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหยู่ตอนอยู่บนรถ?” ซุนจีเซียงตอบกลับ
“ก็บอกมาซักทีสิ”เพื่อนร่วมงานรออย่างใจจดใจจ่อแม้ว่าเขาจะคิดถึงคำตอบที่เป็นไปได้แล้วก็ตาม
“เขาพูดถึงหน้าอกของหวังหยู่ว่ามันใหญ่จนชุดเธอคับเกินไปหน่ะสิ”ซุนจีเซียงตอบกลับ
“เขา…”เพื่อนร่วมงานช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นนัยน์ตาหดเล็กลงมองไปที่ห้องสอบสวนแล้วคิดว่าชีวิตเย่เฉินคงจบสิ้นเสียแล้ว ต่อให้หัวหน้ามาเองเธอก็ไม่ไว้หน้า
“ทุกคนทำอะไรกันอยู่? ไม่มีงานการทำกันหรือไง” มีเสียงดังขึ้นมาพอทุกคนหันกับไปมองก็พบหยางเว่ยที่ยืนยิ้มอยู่จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป หยางเว่ยเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลกฎระเบียบ เขาไม่ได้เก่งกาจอะไรเพียงแต่มีอิทธิพลของพ่อหนุนหลังและชอบกดขี่ตำรวจด้วยกันเอง
หยางเว่ยมองอย่างงงงวยไปยังห้องสอบสวนแล้วกวักมือเรียกซุนจีเซียงมาถาม “เห็นเสี่ยวหยู่บ้างไหม?” ในกรมตำรวจต่างรู้กันดีว่า หยางเว่ย กำลังไล่ตามจีบหวังหยู่อยู่ แต่แปลกใจที่แบบเขาไม่อยู่ในสายตาของหวังหยู่ เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังตามตื้อไม่เลิก
“เธออยู่ห้องสวบสวนกำลังสวบสวนผู้ต้องสงสัยครับ” ซุนจีเซียงชี้ไปที่ห้องสอบสวนแล้วตอบกลับ
“สอบสวนผู้ต้องสงสัย? คดีไหนล่ะ?” หยางเว่ยถามต่อ
“หัวหน้าใหญ่ของเหมืองถ่านหินถูกทำร้ายเราได้รับแจ้งและจับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วตอนนี้หวังหยู่กำลังสิบสวนอยู่ครับ”ซุนจีเซียงตอบกลับ
หยางเว่ยพยักหน้า “อ่อแบบนี้เอง…ชั่งเถอะ! นายไปได้!”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ในห้องสอบสวนหลังจากซุนจีเซียงออกไปหวังหยู่ก็ปิดประตูเสียงดัง “ปัง” เธอนั่งลงตรงข้ามเย่เฉินพร้อมปากกาและกระดาษเหลือบมองเขาแล้วถามขึ้น
“ชื่อ?”
“เย่เฉิน!”
“อายุ?”
“25!”
“อาชีพ?”
“ว่างงานชั่วคราว” เย่เฉินให้ความร่วมมืออย่างดีซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่หวังหยู่คาดการณ์ไว้ หวังหยู่คิดว่าเจ้าอันธพาลนี่คงจะเป็นเรื่องยากที่จะตอบคำถามใดๆแต่เขากับให้ความร่วมมือและตอบในทันทีและดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ทว่าต่อให้เย่เฉินให้ความร่วมมือก็ตามเขาก็ยังเป็นเจ้าสารเลวที่หัวเราะเยาะหน้าอกที่ดูใหญ่เกินไปในบางครั้งของเธอ พอกลับมาพูดถึงเรื่องหน้าอกของหวังหยู่มันใหญ่มาก คัพดีของเธอ เป็นไซส์ที่ค่อนข้างหาได้ยากมาก
“พวกตกงานสินะ ผู้ชายที่ไม่มีงานทำ สมัยนี้น่าขายหน้าออกนะ”
หวังหยู่เจตนาเยาะเย้ยเย่เฉินเพื่อจะทำให้เขาโกรธ เธอมองหาเหตุผลที่ชอบธรรมเพื่อกลั่นแกล้งเขา
แต่เย่เฉินก็ไม่ได้ใส่ใจเขาพูดออกมาอย่างไม่แยแส
“น่าขายหน้า? ผมสามารถหาผู้หญิงแก่ๆรวยๆมาช่วยผมได้ คุณรู้จักไหม พวกสุภาพสตรีที่ร่ำรวยน่ะ? ไม่ว่าพวกเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ช่าง แค่รวยก็พอ” เมื่อฟังคำตอบของเขา เธอเบะปากก่อนจะรีบตีฝีปากกับเขาทันที
“นายเป็นคนประเภทนี้สินะ? นายกล้าดียังไงที่พูดแบบนี้ออกมา”หวังหยู่พูดด้วยความโกรธ
“อ่าฮะ เธอคงไม่รู้จักชีวิตที่ยากลำบากสินะ ลองเป็นเหมือนฉันสิที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีแล้วจะให้หางานทำได้ยังไง? อ่า…ถ้าเธอรู้จักใครที่ราวๆนั้นก็บอกฉันได้นะ เอ่อ…เอาหน้าอกซักราว 36D ก็พอเพราะถ้าหากมันใหญ่เหมือนของเธอล่ะก็…มันคงจะดูเหมือนของปลอม ถ้าฉันสัมผัสมันก็คงจะไม่เกิดอารมณ์หรอก” เย่เฉินทำหน้าจริงจังไม่เหมือนคนที่พูดเล่น
“นาย…นายเคยจับมันหรือไง นายจะรู้ได้ยังไงมันไม่รู้สึกอะไร” หวังหยู่ไม่พอใจจึงหลุดปากพูดออกไปเธอรู้ว่าที่พูดมันไม่เหมาะสมนัก แต่ทว่าหากเธอเงียบก็เท่ากับว่าเธอแพ้
“นั่นสินะ ฉันคงไม่รู้สึกหรอก….”เย่เฉินไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหวังหยู่จะตอบกลับมาแบบไหน ถ้าเขาพูดประโยคนี้ “เธอแน่ใจนะว่าไม่ได้หลองลวงประชาชน? ฉันรู้สึกได้ว่าถึงจับมันไปก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะพวกมันดูไปแล้วมันก็เหมือนของปลอมที่มีซิลิโคนหรืออะไรทำนองนั้นยัดอยู่ข้างใน”
“อย่ามาพูดไร้สาระนะ นายลองจับมันดูสังครั้งสิ แล้วนายจะรู้ว่ามันเป็นของจริง!!” หวังหยู่พูดแล้วยืนขึ้นพร้อมผสานหน้าอกเข้าหากัน
และแล้วมันก็เกิดขึ้นจริง เย่เฉินมองอย่างระแวงไปยังหวังหยู่ สาวน้อยนี่ดูเหมือนว่าจะจริงจังมาก ก่อนจะขำออกมา