20-ความสามารถของหน้ากาก[ฟรี22/3/2561]
โรดี้นั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้นโดยไม่พูดจาอะไร แอนดี้เองก็ยืนเงียบๆเป็นเพื่อนเขาตรงนั้น
หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งแอนดี้ก็เปิดปากพูด
"หรือว่าบางทีคุณอยากจะถอดมันออก? คุณรู้ไหมว่าบนโลกใบมีมีกี่ล้านคนที่อยากจะสวมเจ้าหน้ากากนี่? คุณได้สวมมันแต่กลับดูไม่ค่อยพอใจเลย?"
"หืมม?" เมื่อได้ยินสิ่งที่แอนดี้พูดหัวใจของโรดี้ก็ฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง หรือว่าเจ้าหน้ากากอัปมงคลนี่ยังมีพลังอย่างอื่นอยู่อีก?
แอนดี้พูดอย่างนิ่มนวล"คุณเองก็ดูไม่โง่เท่าไหร่นะ หน้ากากนี่ตกทอดมาสู่คุณได้ยังไง? ไม่มีใครบอกไว้หรอว่าผู้ที่สวมหน้ากากคือผู้ที่สามารถสืบทอดมรดกของเจ้านายฉันได้!!"
แม้เสียงของแอนดี้จะดูเอื่อยๆแต่สิ่งที่เขาพูดออกมามันเหมือนกับพายุที่กระหน่ำใส่หูของโรดี้
มรดกของตานตง!
หลังจากนั้นแอนดี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะและภาพลักษณ์ของเขาดูน่ากลัวในยามค่ำคืน ถ้าหากไม่มีความกล้าหาญพอเหมือนกับโรดี้หลายคนอาจจะเป็นลมสลบไปเลยก็ได้กับฉากที่แอนดี้หัวเราะ
โรดี้ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้จึงถามแอนดี้ต่อ
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ละ? ทำไมการได้รับหน้ากากนี้หมายถึงการได้รับสืบทอดมรดกของตานตง?"
แอนดี้หยุดหัวเราะแล้วถามกลับ"ทำไมฉันต้องบอกนายด้วยละ?"
"......" โรดี้นิ่งไปกับคำถามของแอนดี้
แอนดี้เริ่มเดินออกไป
"อืมม...จากสิ่งที่นายทำหากฉันไม่บอกนายนายคงจะบังคับให้ฉันพูดโดยใช้กำลังแน่นอน.....อาจจะเป็นวิธีการบางอย่างเช่นการเค้นความลับ......การทรมาน......แต่อย่างไรก็ตามนายอ่อนแอเกินไปฉันสามารถใช้เพียงนิ้วเดียวเพื่อล้มนายฉะนั้นดูเหมือนวิธีที่พูดไปก่อนหน้านายไม่สามารถใช้ได้....จริงสิยังมีวิธีการใช้การโกหกหลอกล่ออีก...แต่หน้าโง่ๆอย่างนายคงทำไม่ได้..."
คำพูดเหล่านี้ทำให้โรดี้หน้าแดงด้วยความอาย
"งั้นสิ่งใดละที่จะทำให้นายบอกความลับนั้นกับฉัน?" แอนดี้ถามกลับ
"แล้วอะไรละที่ทำให้นายอยากได้รับการสืบทอดมรดก?" คำถามนี้ทำให้โรดี้ต้องหยุดคิด
แล้วสิ่งใดละที่เขาต้องการ?
ทั้งภูมิปัญญาและมรดกของตานตงนั้นล้วนสูงค่า ด้วยภูมิปัญญาของตานตงเขาสามารถคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่สั่นสะเทือนทั้งทวีป
แต่สิ่งเหล่านัี้นั้นจะมีค่าอะไรกับสามัญชนอย่างเขา?
โดยจิตใต้สำนึก โรดี้รู้ว่ามันจะต้องสำคัญเป็นอย่างมากและมันจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยออกมา
"ฉัน..." โรดี้คิดอะไรบ้างอย่างออก "อย่างน้อยที่สุดฉันก็สามารถถอดหน้ากากนี่ออกได้"
เมื่อพูดจบโรดี้มองไปยังสเกลตันแอนดี้ด้วยสายตามีความหวัง
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
โรดี้ตกใจและแอบมองไปยังประตู เขาไม่แน่ใจว่าได้ล็อคไว้หรือไม่ หากมีคนเห็นว่าเขากำลังคุยกับโครงกระดูกอยู่ละก็มันคงจะแย่เอามากๆ
เมื่อโรดี้หันกลับไปมองแอนดี้ก็พบว่ามันกลับไปยืนนื่งๆตรงที่เดิมของมันเรียบร้อยแล้ว
กลายเป็นเพียงโครงกระดูกธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเหมือนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
โรดี้ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ โชคดีที่แอนดี้ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ถึงการมีตัวคนของมัน โรดี้มองไปที่ประตูก่อนจะตะโกนถาม
"นั้นใคร?"
หลังจากนั้นก็มีเสียงตอบมจากอีกฝั่ง
"นายน้อยนี่ผมเอง"
หลังจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกและชายชราที่มีผมสีเทาก็เดินเข้ามา
ชายชรานั้นดูคุ้นเคย ไม่นานโรดี้ก็จำเขาได้ เขาคือชายที่ขับรถม้าให้นิโคลในวันที่พวกเขาดักปล้นนั้นเอง
ในตอนที่เขาพูดกับโรดี้นั้นมันเป็นสถานการที่ค่อนข้างอึดอัด เพราะชายคนนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวร้ายๆของเขา
ในคืนนั้นที่นิโคลสั่งให้เขาเลือกจับกุมใครสักคนมา ปรากฎว่าชายชราคนนี้เลือกที่จะจับตัวสตาร์มา
ผลของมันก็คือโรดี้ต้องบุกรุกเข้าบ้านตระกูลทิวลิป ก่อนที่จะถูกจับโดยนิโคล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่โรดี้จะแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรกับชายคนนี้
เฒ่ามาร์คไม่สนใจารแสดงออกของโรดี้เขาพูดอย่างสุภาพว่า
"นายน้อย ท่านหญิงมีคำสั่งให้พาตัวท่านไปหา"
"ตอนนี้เช้าแล้วหรอ?" โรดี้ตกใจมาก
"ตอนนี้เช้าแล้วขอรับ" เฒ่ารมาร์คตอบอย่างสุภาพก่อนจะหันไปมองผลงานของโรดี้้ที่หั่นโต๊ะออกเเป็น7-8ชิ้นกับข้าวของที่กระจัดกระจาย
โรดี้รู้สึกอายมากและพูดขึ้นมา
"เมื่อคืนฉันฝึกดาบและเผลอไปทำมันพัง" เฒ่ามาร์คไม่ได้สนใจอะไร เขาพูดด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้
"นายน้อยฉันคิดว่าคุณอาจจะเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนมาทั้งคืน กระผมจะสั่งให้คนมาทำความสะอาดที่หลังแต่ตอนนี้ได้โปรดมากับผม หากเราสายท่านหญิงคงจะอารมณ์เสียเป็นแน่"
โรดี้ถอนหายใจ หากนิโคลเรียกเขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
เขาจึงเดินตามเฒ่ามาร์คไปอย่างไม่มีทางเลือก
เมื่อเขาเดินออกจากประตูหางตาของเขาเหลือบไปเห็นเจ้าสเกลตันแอนดี้โบกมือบ๊ายบายเขาอยู่
เจ้ากระดูกนี่!!
ท้องฟ้านั้นเริ่มจะสว่างขึ้นมา แต่ว่าดวงอาทิตย์ก็ยังไม่ขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า โรดี้ยังคงสงสัยว่าทำไมนิโคลถึงเรียกเขาให้มาพบแต่เช้า บางทีครอบครัวนี้อาจจะมีนิสัยตื่นเช้ากันก็เป็นได้
ห้องนอนของนิโคลอยู่เหนือห้องนอนของเซทที่โรดี้ไปนอนพักในวันก่อนพอดี ห้องของเธอถูกตกแต่งอย่างดีด้วยวัสดุที่หรูหราราคาแพงในจุดที่ดีที่สุดของคฤหาสน์
เฒ่ามาร์คเดินนำหน้าโรดี้มาจนถึงห้องนอนนิโคลเขาเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเดินกลับมายืนอยู่ด้านหลังของโรดี้
ใครบางคนในห้องมาที่ประตูทันทีและค่อยๆเปิดประตูออก
เป็นแม่บ้านที่อยู้หน้าประตูเมื่อเห็นโรดี้เธอจึงทักทาย
"สวัสดีค่ะนายน้อย" หลังจากนั้นก็ทักทายเฒ่ามาร์คและเดินออกไป
โรดี้รวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าประตูไป
ห้องนอนขของนิโคลนั้นมีขนาดเล็กกว่าห้องของเซท แต่ของประดับตกแต่งภายในห้องดูพิถีพิถันมากกว่าโดยเฉพาะเครื่องประดับต่างๆและโต๊ะเครื่องแป้ง ทั้งห้องให้อารมณ์ที่ดูนุ่มนวล
นิโคลไม่ได้อยู่ในห้อง เธออยู่ด้านหลังฉากตรงมุมห้องเธอพูดกับเขา
"รอ...รอตรงนั้นก่อนเดี๋ยวฉันจะไปคุยกับนาย"
ด้านหลังฉากแม่บ้านกำลังช่วยนิโคลแต่งกาย เธอช่วยผูกริบบิ้น ติดกระดุม รวบผมของนิโคลให้ดูเรียบร้อย
โรดี้ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้แต่มองไปยังฉากกั้น แม้ว่าเขาไม่สามารถมองทะลุฉากไปได้ แต่มันก็มีเงาที่ฉายออกมาอยู่ มันก็พอจะทำให้เขาคาดเดาสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากนั้นได้ ภาพเงาของทรวดทรงหญิงสาวที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าทำให้หัวใจของโรดี้เต้นแรง
เขามีความคิดแปลกๆที่ว่าหากเขาสามารถมองทะลุฉากกั้นไปได้ก็คงจะดี
ทันทีที่เขามีความคิดนี้ขึ้นมาในหัว ดวงตาของเขาก็เปล่งแสงออกมา หลังจากนั้นฉากด้านหน้าของเขาค่อยๆโปร่งใสขึ้นทีละนิดๆ
เกิดอะไรขึ้น?
ก่อนที่เขาจะทันได้คิดอะไรฉากเซ็กซี่ด้านหลังจากก็ปรากฎขึ้น
ด้านหลังจากภาพของนิโคลที่ผมบลอนด์ทองของเธอถูกมัดรวบเอาไว้แม่บ้านกำลังช่วยเะอสวมกระโปรงและตอนนี้เธอสวมเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ภาพที่ไม่มีอะไรขวางนี้กำลังทำให้ตาของโรดี้เบลอนิโคลก้มลงทั้งตัวของเธอโค้งดูสง่างาม รูปร่างของเธอเป็นเหมือนตัวS เธอดูสวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่อนขาอันเรียวงามเอวที่เพียวบางและที่สำคัญหน้าอกอันบึ้มบั้มของเธอ
โรดี้นั้นเผลอร้องออกมาเบาๆ
"อ่า~~"