เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 138 บางคนกำลังไล่ล่าและพยายามฆ่าไป่หนิงปิงงั้นหรือ?
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 138 บางคนกำลังไล่ล่าและพยายามฆ่าไป่หนิงปิงงั้นหรือ?
'ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เคยมีผู้ใดสามารถไล่ต้อนข้าจนถึงจุดนี้ ฟางหยวน เจ้า...น่าสนใจจริงๆ หากทะเลวิญญาณของข้าถูกกู้คืน ข้าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน' ไป่หนิงปิงกรีดร้องอยู่ในหัวใจขณะออกวิ่ง
เจตนาสังหารอันเข้มข้นของฟางหยวนทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก
กลิ่นอายแห่งความตายทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น
ขณะที่ฟางหยวนใกล้เข้าไปเรื่อยๆ
"รับนี้!" เขาสะบัดข้อมือและส่งวิญญาณสีดำออกไป
เท้าของฟางหยวนชะงักไปชั่วครู่ราวกับศัตรูปรากฏตัว แต่เมื่อเขาเข้าใกล้ เขากลับพบว่ามันคือวิญญาณหัวขโมยของซ่งซาน
"ควับ!"
ฟางหยวนคว้ามันไว้ในมือ
วิญญาณหัวขโมยอยู่ในรูปลักษณ์ของด้วงกว่างสีดำที่มีจุดสีขาวและเขาคู่อันแหลมคม
ด้วยการปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณกาลเวลา วิญญาณหัวขโมยถูกปรับแต่งและนำเข้าไปเก็บไว้ในทะเลวิญญาณของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
เขาไล่ล่าต่อไป
สำหรับไป่หนิงปิง การใช้วิธีถ่วงเวลาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่ด้วยวิธีนี้มันจึงทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
'น่าเสียดายที่ข้าไม่มีวิญญาณที่ช่วยเพิ่มความเร็ว หากข้ามีวิญญาณเช่นนั้นข้าคงไล่ล่าไป่หนิงปิงได้อย่างง่ายดาย' ฟางหยวนถอนหายใจ
'ฟางหยวนปรับแต่งวิญญาณหัวขโมยเรียบร้อยแล้วงั้นหรือ?' ไป่หนิงปิงลอบตกใจ
เขาได้รับวิญญาณหัวขโมยและพยายามปรับแต่งมันมาแล้วสองสามวันแต่ยังล้มเหลว นี่เป็นเพราะความตายของซ่งซานส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเขา เจตจำนงที่อยู่ในร่างของวิญญาณหัวขโมยเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อไป่หนิงปิงทำให้เขาพบกับความยากลำบากในการปรับแต่ง
แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับสามารถปรับแต่งมันได้อย่างง่ายดาย นี่จึงทำให้ไป่หนิงปิงรู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้
นี่เป็นวิญญาณหายากชนิดหนึ่ง แต่โดยไม่คาดคิดฟางหยวนกลับเป็นคนสุดท้ายที่สามารถครอบครอง
นี่ทำให้ภาพลักษณ์ของฟางหยวนในหัวใจของเขาทวีความน่าเกรงขามมากขึ้นในแง่ของความลึกลับและอันตราย
อย่างไรก็ตามยิ่งเวลาผ่านไป หัวใจของฟางหยวนก็ยิ่งหนักอึ้งมากขึ้น
เพราะทุกวินาทีที่ผ่านไปมันอนุญาตให้ไป่หนิงปิงกู้คืนพลังวิญญาณและรักษาอากาบาดเจ็บ ยิ่งนาน ความได้เปรียบของฟางหยวนก็ยิ่งลดลง
'ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ในเวลานี้' ฟางหยวนถอนหายใจ
ด้วยความสามารถพิเศษของกายาน้ำแข็งแห่งความมืด มันสามารถกู้คืนพลังวิญญาณให้กับไป่หนิงปิงได้ในความเร็วที่เหนือกว่าการดูดซับพลังจากหินวิญญาณของฟางหยวน
'เว้นเพียงว่า...ฝูงหมาป่าหรือผู้ใช้วิญญาณบางกลุ่มจะปรากฏตัวขึ้น นั่นจะสามารถหยุดไป่หนิงปิงได้ชั่วคราว แต่หากพวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไป่ ข้าอาจตกอยู่ในอันตราย' ความคิดของฟางหยวนล่องลอยออกไป เขากระทั่งคิดที่จะล่าถอย
การไล่ล่าของพวกเขาค่อนข้างยาวนาน แต่ระหว่างทางพวกเขากลับไม่พบฝูงหมาป่าหรือกลุ่มผู้ใช้วิญญาณ นี่หมายความว่าไป่หนิงปิงใช้วิญญาณตรวจสอบและหลีกเลี่ยงอันตราย
"การเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือ หากเจ้าถูกแยกออกไป เจ้าจะตกอยู่ในอันตราย" ฉิงซูสั่งสอนฟางเจิ้งขณะที่วิ่งไปตามเส้นทางภูเขา
"หากฝ่ายตรงข้ามเป็นฝูงหมาป่าสายฟ้าเดือด พวกเราสามารถเอาชนะมันด้วยความได้เปรียบทางภูมิประเทศ แต่หากมันเป็นฝูงหมาป่าสายฟ้าคลั่ง สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือล่าถอย และส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็เพียงรอการมาถึงของกำลังเสริม เราจำเป็นต้องรวมตัวกันอย่างน้อยสามกลุ่มเพื่อโอกาสในการเอาชนะหมาป่าสายฟ้าคลั่ง แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามของเรามิใช่เพียงฝูงหมาป่า แต่ยังรวมถึงผู้ใช้วิญญาณ"
เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ ฉิงซูจงใจหยุดพูดชั่วขณะ
สมาชิกอีกสี่คนเข้าใจว่าฉิงซูหมายถึงผู้ใด
เห็นได้ชัดว่ามันคือไป่หนิงปิง
หลายวันที่ผ่านมา ไป่หนิงปิงวิ่งไปรอบๆเพื่อท้าทายผู้ใช้วิญญาณระดับสองเช่น ซ่งหลี่ ซื่อซาน และสร้างปัญหาให้กับพวกเขา
จากสิ่งที่เขาเคยประกาศเอาไว้ เป้าหมายถัดไปของเขาก็คือฉิงซู
"หากพวกเราพบไป่หนิงปิง" ฉิงซูกล่าวต่อ "สิ่งที่ดีที่สุดก็คือหลีกเลี่ยงการต่อสู้"
เมื่อประโยคนี้ดังเข้าหูฟางเจิ้ง มันทำให้เรารู้สึกว้าวุ่นใจ
ในความคิดของเขา ฉิงซูคือต้นแบบและญาติมิตร หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเคารพรัก เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ต้องการเห็นไป่หนิงปิงเหนือกว่าฉิงซู
"ไป่หนิงปิงเป็นคนเช่นไร?" ฟางเจิ้งขมวดคิ้วถาม
ใบหน้าของสมาชิกอีกสามคนกลายเป็นเคร่งขรึม
มีเพียงฉิงซูที่เผยรอยยิ้มและตอบคำถามฟางเจิ้ง "เขาเป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งของภูเขาชิงเหมา ฟางเจิ้ง ฟังให้ดี เจ้ายังเด็กและมีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง เจ้าสามารถเหนือกว่าเขาได้ในอนาคต ดังนั้นก่อนที่เจ้าจะเติบโตขึ้น จงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง จำเรื่องที่ข้าเคยบอกได้หรือไม่? ก้มหัวของเจ้าลงและพุ่งทะยานขึ้นไป บางครั้งผู้คนก็จำเป็นต้องก้มศีรษะลง มันเป็นเรื่องธรรมดา..."
ฟางเจิ้งจ้องมองฉิงซูก่อนจะพยักหน้า "ข้าเข้าใจ ท่านหัวหน้าโปรดสบายใจ"
"ดี..." ขณะที่ฉิงซูกำลังจะกล่าวต่อ เขากลับพบสิ่งผิดปกติบางอย่าง "ไม่ไกลจากที่นี่มีผู้ใช้วิญญาณกำลังเคลื่อนไหวด้วยเร็วสูง"
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนแปลงไป
ผู้ใช้วิญญาณสายรักษาเหยาหงเผยใบหน้าเคร่งขรึม "ต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ถูกแยกออกมาโดยฝูงหมาป่า เราควรไปช่วยพวกเขา"
ฟางเจิ้งเร่งกล่าวต่อ "เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาคือไป่หนิงปิง? ไม่ใช่ว่าเขาเดินทางเพียงลำพังงั้นหรือ?"
"อาจเป็นเขาหรืออาจไม่ แต่หากเป็นผู้ใช้วิญญาณที่กำลังประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลใด พวกเราก็ต้องไปช่วยพวกเขา" ฉิงซูกล่าวก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปทางผู้ใช้วิญญาณคนนั้น
คนทั้งสี่ติดตามไปอย่างใกล้ชิด
แต่หลังจากนั้นผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบกลับกล่าวออกมา "ยังมีผู้ใช้วิญญาณอีกคนตามหลังเขามา"
"มีผู้ใช้วิญญาณสองคน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหลบหนีมาจากฝูงหมาป่าจริงๆ" ฟางเจิ้งกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
การแสดงออกของฉิงซูยังไม่เปลี่ยน แต่ท่าทีของสมาชิกที่เหลือล้วนผ่อนคลายลง
เวลานี้หากบางคนมองลงมาจากมุมสูง พวกเขาจะเห็นกลุ่มของฉิงซู ไป่หนิงปิง และฟางหยวนเคลื่อนที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน
"โอ้?" การแสดงออกของไป่หนิงปิงเปลี่ยนแปลงไป เขามีวิญญาณสายตรวจสอบ นี่ทำให้เขารับรู้ได้ว่ามีกลุ่มผู้ใช้วิญญาณห้าคนกำลังใกล้เข้ามา
เขารีบเปลี่ยนเส้นทาง
แม้เขาจะมีวิญญาณสายตรวจสอบ แต่มันก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้ใด ทั้งหมดก็คือวิญญาณทุกดวงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ตัวอย่างเช่นวิญญาณหญ้าใบหูปฐพีของฟางหยวน มันอ่อนไหวต่อเสียงโดยเฉพาะเสียงฝีเท้า แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หากผู้ใช้วิญญาณเหล่านั้นใช้วิญญาณย่างก้าวเงียบงัน หญ้าใบหูปฐพีจะไม่สามารถตรวจพบการคงอยู่ของพวกเขา
แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ไป่หนิงปิงก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยง
อย่างไรก็ตามกลุ่มของฉิงซูเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับแนวหน้าและมีผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบเช่นกัน
"มีบางคน" ไม่นานหลังจากนั้นฟางหยวนจึงพบการคงอยู่ของกลุ่มฉิงซูในที่สุด
ขณะที่เขาวิ่ง รากโสมหลายเส้นงอกออกมาจากใบหูข้างขวาของเขาแต่มันไม่ได้สัมผัสพื้นดิน ดังนั้นประสิทธิภาพของมันจึงลดลงครึ่งหนึ่ง
ไป่หนิงปิงเปลี่ยนเส้นทางอีกครั้ง
แต่กลุ่มของฉิงซูยังติดตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นไป่หนิงปิงหรือฟางหยวน การแสดงออกของพวกเขาต่างเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งสองเป็นคนฉลาด พวกเขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มระดับแนวหน้าที่สามารถส่งผลกระทบกับการต่อสู้้
'หากเป็นกลุ่มของตระกูลไป่ ข้าจะใช้วิญญาณเกล็ดลี้ลับและล่าถอยทันที แต่หากเป็นอีกสองตระกูล...' ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ
เขารู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีความเสี่ยงเล็กน้อย
หากเป็นกลุ่มของตระกูลไป่ ผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบของพวกเขาอาจค้นพบการคงอยู่ของเขาและไล่ต้อนเขาไปสู่ความตายในที่สุด
แต่หากเขาพลาดโอกาสนี้ มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะหาโอกาสสังหารไป่หนิงปิงได้อีก
นอกจากนั้นยังมีความน่าจะเป็นสองในสามที่มันจะเป็นกลุ่มของอีกสองตระกูล ขณะที่ไป่หนิงปิงมีโอกาสเพียงหนึ่งในสาม มันจึงเป็นการพนันที่น่าสนใจ
"เราอาจเห็นพวกเขาหลังจากทางโค้งข้างหน้า" ผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบชี้ินิ้วไปข้างหน้า
พวกเขาชะลอฝีเท้าลงก่อนที่ไป่หนิงปิงจะปรากฏตัวขึ้น
"ไป่หนิงปิง!" ฟางเจิ้งตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
การแสดงออกบนใบหน้าของอีกสี่คนกระทั่งฉิงซูยังเปลี่ยนเป็นมืนมน
"ไป่หนิงปิงอยู่ในสภาพที่น่าอเนจอนาถ เขาจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าสายฟ้าคลั่งมาอย่างแน่นอน"
"ฮืม เขาสมควรได้รับสิ่งนี้ เดินทางลำพังท่ามกลางคลื่นหมาป่า แล้วเขาจะรอดไปได้อย่างไร?"
พวกเขาก่นด่าแต่ไม่เดินทางต่อเพราะไม่ต้องการเผชิญหน้ากับไป่หนิงปิง
การเคลื่อนไหวและการแสดงออกของไป่หนิงปิงชัดเจนว่าเขากำลังหลบหนีจากบางสิ่ง นี่ทำให้กลุ่มของฉิงซูรู้สึกมีความสุขอย่างช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับตะโกนเสียงดังมาจากด้านหลังทางโค้ง "ไป่หนิงปิง ไม่ว่าเจ้าจะหลบหนีไปที่ใด ข้าก็จะฆ่าเจ้าในวันนี้"
เขากล่าวประโยคเหล่านี้ออกมาเพื่อทดสอบ
ด้วยวิญญาณหญ้าใบหูปฐพี เขารู้ว่ามีกลุ่มผู้ใช้วิญญาณห้าคนหลบอยู่ด้านหลังทางโค้ง
หากเป็นกลุ่มของตระกูลไป่ พวกเขาจะต้องตอบสนองอย่างดุเดือด
แต่เมื่อกลุ่มของฉิงซูได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ดวงตาของพวกเขากลับเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
"เกิดสิ่งใดขึ้น?"
"มีบางคนกำลังไล่ล่าและพยายามฆ่าไป่หนิงปิงงั้นหรือ?"
"ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่?"
"สภาพที่น่าอเนจอนาถของไป่หนิงปิง เป็นผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังเขากันแน่?"
คนทั้งสี่หันหน้ามองซึ่งกันและกัน
ฟางเจิ้งตกใจและรู้สึกสงสัย "เสียงนี้ เหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นเคยนัก?"
ก่อนที่เขาจะสามารถจดจำเจ้าของเสียง ฟางหยวนกลับปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังทางโค้งโดยไม่คาดคิด
"อันใด?" การแสดงออกที่เคร่งเครียดของฉิงซูเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
อีกสี่คนจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนลูกตาแทบหลุดออกจากเป้า
"นี่...นี่..." เหยาหงอ้าปากค้างและมันก็กว้างพอที่จะยัดไข่ห่านเข้าไปได้ทั้งใบ
"พี่ใหญ่!" ฟางเจิ้งกล่าวออกมาด้วยลิ้นที่แทบจะพันกันเป็นปม
"เป็นเขา!?" กระทั่งฉิงซูยังต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจอย่างที่สุด