TWO Chapter 91 กรมกิจการทหาร
TWO Chapter 91 กรมกิจการทหาร
หลังจากที่เห็นเก่อหงเหลียงและผู้อพยพแล้ว โอหยางโชวก็นำเหล่าเจ้าหน้าที่ไปต้อนรับพวกเขา “ยินดีต้อนรับท่านเก่อ จากวันนี้ไปเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
เก่อหงเหลียงไม่กล้าละเลยโอหยางโชว เขารีบคำนับโอหยางโชวด้วยความเคารพ แล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน!” เขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสงรักภักดีต่อโอหยางโชว หลังจากนี้ เขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอีก พวกเขาจะกลายเป็นดั่งผู้นำและขุนนาง ทุกคนที่ตามหลังเขามาก็ทำการคำนับโอหยางโชว เหล่าผู้อพยพกล่าวพร้อมกันเสียงดังว่า “คำนับนายท่าน!”
โอหยางโชวเข้าใจความหมาย เขายอมรับคำนับของพวกเขา เขาเดินไปด้านหน้า ประคองเก่อหงเหลียงขึ้นแล้วกล่าวว่า “ไปกันเถอะข้าสั่งให้เตรียมสุราอาหารไว้เลี้ยงต้อนรับทุกคนแล้ว” จากนั้นเขาก็นำเก่อหงเหลียงไปที่คฤหาสน์ของเขา
เมืองซานไห่อยู่ระหว่างการปรับปรุง ทุกๆที่เต็มไปด้วยการก่อสร้าง เก่อหงเหลียงให้ความสนใจตลอดการเดินทาง เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รูปแบบของเมืองซานไห่มีตรรกะและการวางตำแหน่งที่ชัดเจน ระหว่างเดินเขาได้มองเห็นชาวเมืองซานไห่สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้าน ดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา แสดงให้เห็นว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี
เก่อหงเหลียงช่วยไม่ได้ที่จะพยักหน้าไปตลอดทาง ดูเหมือนคำสัญญาเมื่อวานไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริง และเมืองซานไหก็รุ่งเรืองอย่างที่เขาได้กล่าวไว้จริงๆ
ในห้องโถงคฤหาสน์ โอหยางโชวได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อต้อนรับเก่อหงเหลียง สู่เจิ้นชาง และซุนเถิงเจียว โดยมีเจ้ากรมทั้ง 3 และขุนพลซีเข้าร่วมด้วย สำหรับผู้อพยพคนอื่นๆ โอหยางโชวปล่อยให้กรมคลังวัสดุจัดการ
ก่อนเริ่มงานจัดเลี้ยง โอหยางโชวได้แนะนำให้ทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเขาจะต้องทำงานร่วมกัน ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำความรู้จักซึ่งกันและกัน นอกจากขุ่ยหยิงหยูแล้ว คนของเมืองซานไห่เป็นชายวัยกลางคน 3 คน พวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ดังนั้น พวกเขาจะช่วยดูแลผู้ที่มาใหม่ได้
ทั้ง 3 คน ที่มาใหม่รู้สีกประหลาดใจ พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่า เมืองขนาดเล็กระดับ 2 สามารถรวบรวมผู้มีความสามารถมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร ความภาคภูมิใจที่พวกเขาเคยมีแทบจะถูกลบหายไป
เมื่อซุนเถิงเจียวเห็นขุนพลซี เขาแทบจะไม่สามารถรวบรวมจิตวิญญาณของการต่อสู้ของเขาได้เลย เมื่อครั้งที่เขาเห็นหลินยี่อยู่ข้างๆโอหยางโชว เขาคิดว่านั่นเป็นขุนพลที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองซานไห่แล้ว เขาไม่คิดว่าที่นี่ยังมีขุนพลขั้นพิเศษอีก
หลังจากงานเลี้ยงจบลง โอหยางโชวไม่ได้รีบเร่งมอบหน้าที่ใดๆ เขาปล่อยให้พวกเขาไปพักผ่อนก่อน
เมื่อเวลา 14.00 น. ในห้องโถงประชุม คฤหาสน์ของลอร์ด
เจ้ากรมทั้ง 3 หัวหน้าฝ่ายทั้ง 14 ประธานสมาคมสิ่งทอ นายทหารทั้งหลาย และผู้จัดการกิจการทั้งหมดก็เข้าร่วมประชุม
โอหยางโชวกล่าวว่า “ครั้งนี้ข้าเรียกทุกคนมาเพราะจะมีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร เมื่อกองทัพของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีการสนับสนุนด้านโลจีสติกส์ การออกแบบอาวุธและอุปกรณ์ การจัดการทหาร การปิดประกาศทางทหาร และการออกแบบกลยุทธ์ต่างๆ ดังนั้น ข้าจึงรู้สึกว่า มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการทหารโดยเฉพาะ”
ขณะที่กิจการทางทหารควรอยู่คนละส่วนกับรัฐบาล โอหยางโชวพยายามหาผู้ที่เหมาะสมในการจัดการองค์กร ตอนนี้เขาได้พบกับเก่อหงเหลียง มันเป็นโอกาสที่ดีมาก
“ข้าตัดสินในที่จะจัดตั้งกรมกิจการทหาร โดยมีท่านเก่อหงเหลียงเป็นเจ้ากรม ฝ่ายข่าวกรอง ฝ่านโลจีสติกส์ทางทหาร และฝ่ายคลังอาวุธ จะอยู่ภายใต้กรมนี้”
การจัดตั้งกรมกิจการทหาร ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ กรมการบริหาร กรมการเงินและกรมคลังวัสดุ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเชิญเจ้ากรมทั้ง 3 มาร่วมประชุมด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมืองซานไห่จะมีทั้งสิ้น 4 กรม และเก่อหงเหลียงจะกลายเป็น 1 ใน 4 เสาหลักชองเมืองซานไห่คนใหม่
เก่อหงเหลียงลุกขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณนายท่านที่ไว้วางใจ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” การที่โยนโอกาสเช่นนี้มาให้กับคนใหม่เช่นเขา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ มันแสดงให้เห็นว่าลอร์ดของเขาไว้วางใจเขามาแค่ไหน
เมื่อสู่เจิ้นชางและซุนเถิงเจียวเห็นว่าผู้นำของตนได้รับตำแหน่งที่สำคัญเช่นนี้ ความกังวลของพวกเขาก็หายไป พวกเขาเริ่มหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเมืองซานไห่
โอหยางโชวได้ยึดหลักการของคนที่เชื่อถือได้ และเขาไม่สงสัยใดๆในตัวของเก่อหงเหลียง เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเก่อหงเหลียง ว่าจะจัดการกับกรมกิจการทหารและลดความกังวลของเขาได้ กรมกิจการทหารยังไม่สมบูรร์ แต่โอหยางโชวไม่อยากเร่งรัดสร้างมันขึ้นมาเร็วจนเกินไป ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปล่อยให้มันค่อยๆเติบโต และรอซักพักก่อนจะเติมเต็มมัน
การจัดตั้งกรมกิจการทหารจะช่วยแก้ปัญหาความสับสนวุ่นวายในฝ่ายข่าวกรอง เดิมที่ฝ่ายนี้ต้องทำงานโดยอิสระ แต่พวกเขาก็ยังอยู่ภายใต้ขุนพลซี พวกเขาถูกมองเป็นหน่วยสำรอง และไม่ได้รับการจัดสรรอาวุธและอุปกรณ์ที่เหมาะสมมากนัก วำหรับฝ่ายคลังอาวุธ พวกเขาจะสามารถมุ่งเน้นในการสร้างอาวุธและอุปกรณ์ได้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการประสานงานอีก
เจ้าโหยวฟางถูกลดตำแหน่งเป็นเพียงรักษาการณ์หัวหน้าฝ่าย เนื่องจากเขาทำผลงานได้ไม่ดีในการประเมินสิ้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฝ่ายของเขาถูกย้ายไปอยู่กรมกิจการทหาร เขาจะมีโอกาสได้แก้ตัวใหม่อีกครั้ง
เมื่อฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหารถูกย้ายไปอยู่กรมกิจการทหาร สถานะของกรมคลังวัสดุก็ลดลง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กรมนี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนนี้การปฏิรูปกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี งานส่วนใหญ่ภายในกรมแทบจะไม่ทันกับความเร็ขของความคืบหน้า จึงเหมาะสมแล้วที่จะลดภาระของกรมลง
สำนักงานของกรมกิจการทหารได้ถูกจัดการโดยโอหยางโชว “สำนักงานของกรมกิจการทหารจะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ซึ่งเป็นเขตทหาร ในสำนักงานต้องมีสำนักงานย่อย 4 แห่ง”
“ไม่มีปัญหาขอรับ!” เจ้าเต๋อเสี้ยนพยักหน้าพร้อมกล่าว
เหตุผลที่ตั้งสำนักงานที่นั่น เนื่องจากพื้นที่คฤหาสน์ของลอร์ดไม่มีพื้นที่สำหรับการทำงานอย่างเพียงพอ และไม่ว่าจะเป็นคลังแสงหรือค่ายทหารก็ตั้งอยู่ในเขตทหาร การตั้งสำนักงานกรมกิจการทหารที่นั่น จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้มากกว่าด้วย
หลังจากจัดการกรมกิจการทหารแล้ว โอหยางโชวก็หันไปทางขุ่ยหยิงหยู เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “หยูเอ๋อ ข้าพบผู้มีความสามารถเหมาะสมที่จะทำงานในกรมของเจ้า แต่ไม่รู้ว่าเจ้าต้องการผู้ช่วยหรือไม่?”
“พี่ใหญ่อย่าได้แกล้งข้าแบบนี้ คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ท่านรู้ดีว่าข้ายุ่งมากแค่ไหนการที่จะมีใครบางคนมาช่วยแบ่งเบาภาระย่อมเป็นสิ่งที่ข้าต้องการอย่างมาก”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วประกาศว่า “ข้าตัดสินใจที่จะแต่งตั้ง สู่เจิ้นชาง ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมการเงิน และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจ ในขณะที่ถอดตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนั้นจากขุ่ยหยิงหยู”
สู่เจิ้นชางมีประสบการณ์เกี่ยวกับกิจการของรัฐบาลจำนวนมาก เขาคงช่วยให้กรมการเงินดำเงินงานต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ด้วยประสบการณ์หลายปีในหน่วยงานต่างๆที่ผ่านมา มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะจัดการฝ่ายธุรกิจ
โอหยางโชวไม่ต้องการให้ขุ่ยหยิงหยูทุ่มไปกับฝ่านธุรกิจ เขาต้องการให้เธอควบคุมภาพรวมของกรมการเงิน
หลังจากที่ได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารของดินแดนแล้ว นอกเหนือจากบุคลกรทางทหารแล้วทุกคนก็ออกไป จากนั้นเขาก็จัดประชุมทางทหารต่อ คนที่เข้าร่วมนอกจากนายทหารของเมืองซานไห่ ยังมีผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์เมืองฉิวซุ่ย จางต้าหนิว รวมถึงเผ่ยตงหลาย ที่กำลังยุ่งอยู่กับการฝึกอบรมในเมืองเป่ยไห่ก็มา เขาได้นำโจวเฟิง และโหยวฟาง(You Fang) มาเข้าประชุมด้วย โหยวฟางเป็นโจรสลัดที่ดี ดังนั้น หลังจากที่เขาได้รับคำแนะนำจากเผ่ยตงหลาย เขาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้บัญชาการกองร้อยทหารเรือที่ 2
“ท่านเก่อไม่ได้เป็นเจ้ากรมกิจการทหารเท่านั้น แต่เขายังเป็นที่ปรึกษาด้านสงครามของเราอีกด้วย ปฏิบัติการการโจมตีในฤดูใบไม้ผลิมีความสำคัญสูงสุด ท่านเก่อจะรับผิดชอบและเป็นผู้สั่งการปฏิบัติการนี้ คำสั่งของเขาก็เหมือนกับคำสั่งของข้า พวกท่านต้องคอยช่วยเหลือและปฏิบัติตามคำสั่งของเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ห้ามเกียจค้านโดดเด็ดขาด!” โอหยางโชวกล่าวออกมาเสียงดัง
“เราจะทำตามที่นายท่านสั่ง!” อำนาจทางทหารของโอหยางโชวไม่มีใครทักท้วง เพราะผู้นำจะได้รับเลือกแลพดูแลโดยเขา หลายคนสงสัยแต่ก็ไม่ได้สนมากนัก พวกเขาเชื่อมั่นในคำสั่งของโอหยางโชว
การวางแผนและการจัดการทหารไม่ใช่สิ่งที่โอหยางโชวถนัด ในฐานะคนสมัยใหม่ มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับคนในยุคอาวุธเย็น เขาได้เรียนรู้จากภาพยนต์และหนังสือมาเพียงบางส่วนเท่านั้น เขาจึงอยู่เพียงขั้นเรียนรู้และค้นคว้า ดังนั้น เขาจึงมอบอำนาจบางส่วนออกไป เพื่อให้ผู้ที่มีประสบการณ์ ได้จัดการปฏิบัติการการโจมตีในฤดูใบไม้ผลิ
หลังจากนั้น โอหยางโชวก็แนะนำซุนเถิงเจียวให้พวกเขารู็จัก เขาจะเป็นผู้บัญชาการกองร้อยทหารม้าที่ 3 ซึ่งจะมาจากทหารในค่ายผู้อพยพ
“การฝึกฝนกองพันผสมไปถึงไหนแล้ว?” โอหยางโชวถาม
“เรียนนายท่าน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดี กองพันผสมได้เริ่มฝึกทหารม้าและทหารราบร่วมกันแล้ว ข้าเชื่อว่าอีกไม่นาน พวกเขาจะพร้อมสำหรับการสู้รบจริงในเร็วๆนี้ ชาวเผ่าคนเถื่อนภูเขาได้ปรับตัวให้เข้ากับการเป็นทหารและพวกเขาเข้ากับพวกทหารคนอื่นๆได้ดี” ขุนพลซีตอบ
“ดีมาก นอกเหนือจากพวกเขา อย่าลืมเกี่ยวกับกองร้อยทหารม้าที่ 3 ที่เพิ่งจะถูกตั้งขึ้นใหม่ด้วย ข้าต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกับกองพันผสม และอยู่ภายใต้ระเบียบวินัยทหาร”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
“แล้วกองทหารรักษาการณ์หมู่บ้านฉิวซุ่ยล่ะ เป็นเช่นไรบ้าง?”
จางต้าหนิวลุกขึ้น แล้วกล่าวเสียงดัง “นายท่านไม่ต้องกังวล หลังจากความผิดพลาดครั้งล่าสุด พวกเราได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อเอาชนะความภาคภูมิใจและเกียรติของพวกเรา ข้าสัญญาว่ากองทหารรักษาการณ์หมู่บ้านฉิวซุ่ยจะไม่อ่อนแอกว่ากองทหารราบอื่นๆแน่นอน”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วหันไปทางเผ่ยตงหลาย เขากล่าวว่า “กองทัพเรือเป็นเช่นไรบ้าง?”
เผ่ยตงหลายลุกขึ้น แล้วกล่าวว่า “เรียนนายท่าน หลังจากฝึกฝนได้ครึ่งเดือน กองร้อยทหารเรือทั้ง 2 กอง มีความพร้อมที่จะออกรบแล้ว”
โอหยางโชวถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวว่า “เมื่อเป็นเช่นนั้น ปฏิบัติการการโจมตีในฤดูใบไม้ผลิก็จะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้”
“เจ้ากรมเก่อ!”
“นายท่าน!”
“ข้าให้เวลาท่าน 2 วัน ทำความคุ้นเคยกับกองกำลังต่างๆในแต่ละพื้นที่ แล้วทำรายงานแผนการสู้รบโดยระเอียดมาให้ข้า สำหรับรายละเอียด ท่านสามารถขอได้จากฝ่ายข่าวกรองได้” โอหยางโชวสั่ง
“นายท่านอย่าได้กังวล ข้าจะตรวจสอบกองกำลังต่างๆทั่วทั้งดินแดน ข้าพอจะมีความเข้าใจบ้างแล้ว ข้าสัญญาว่าจะรีบทำรายงานให้เสร็จโดยเร็ว” เก่อหงเหลียงกล่าวอย่างมั่นใจ
“ดี แล้วข้าจะรอข่าวดี” โอหยางโชวกล่าว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย