บทที่ 21 มังกรหมื่นลี้!!
"ซ่งหยู! ข้าจะแนะนำวิธีสั่งสอนเด็กสาวเหล่านี้ให้รู้จักหลาบจำ!"
ซินหวงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจังว่า"รีบจัดการกับหญิงสาวเหล่านี้โดยเร็วที่สุด! และหลังจากนั้นพวกนางก็จะไม่กล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอีกต่อไป และต่อไปพวกนางจะเชื่อฟังเจ้าทั้งหมด!"
"ซินหวง! ...เจ้ากำลังคิดจะทำอะไร? "ซ่งหยูย้อนถาม
"ใช่?" ซินหวงตอบสั้นๆ
"ข้าอยากรู้ว่าผู้สืบทอดวิญญาณไฟคนก่อนๆ กระทำแบบนี้เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดเช่นนั้นหรือ? ข้าอยากรู้ว่าพวกเขาตายอย่างไร?" ซ่งหยูไม่ได้ให้ความสนใจกับคำกล่าวของซินหวงแต่อย่างใด
จากนั้นเขาแสร้งทำเป็นกระแอมและกล่าวกับหญิงสาวทั้งสองว่า"เอ่อ...ศิษย์พี่ทั้้งสองเรื่องทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด หากมันเป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องขุ่นข้องหมองใจ ข้าต้องขออภัยศิษย์พี่ทั้งสองด้วย!"
"ไม่จำเป็นต้องขอโทษเรา...."
ใบหน้าอันงดงามของอู๋เฟยหยานที่สวมชุดสีดำ นางไม่แยแสกับคำกล่าวขอโทษของซ่งหยูแต่อย่างใด
ในขณะที่นางรีบส่ายหน้าและกล่าวว่า"เรื่องราวเหตุการณ์ในคืนนั้นข้าไม่สามารถสั่งสอนเจ้าได้ก็จริง แต่มันก็ผ่านไปแล้ว! อย่างไรก็ตาม.... วันนั้นเจ้าใช้โอกาสในความมืดหลบหนีโดยที่ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่ข้ามายืนอยู่ที่นี่!"
ซ่งหยูส่ายหัวและกล่าวว่า "เรามิได้เป็นปรปักษ์ต่อกัน แล้วเหตุใดเราถึงจะต้องต่อสู้กัน? ข้าต้องขอโทษท่านด้วยความจริงใจ ข้ายังต้องใช้เวลาในการฝึกฝน และไม่สามารถทำตามคำกล่าวของท่านทั้งสองได้ต้องขออภัยด้วย!"
เขาลุกขึ้นยืนและกินยาเม็ดจิตวิญญาณเข้าไปอีกหกเม็ดและเตรียมที่จะฝึกซ้อมอีกครั้ง
ทันใดนั้น! ปลาขนาดใหญ่ก็ทะยานขึ้นจากผิวน้ำหมุนวนเป็นระลอกคลื่นอยู่หลังศรีษะด้วยพลังจิตวิญญาณ
ของอู๋เฟยหยาน และมุ่งตรงมาทางซ่งหยูด้วยความเร็วราวกับคลื่นพายุ หัวของปลาราวกับหัวของมังกรโผล่ออกมาระหว่างคลื่นแสดงถึงคลื่นพลังอย่างมหาศาล!
นางใช้เคล็ดวิชาที่เรียกว่าปลามังกรซึ่งเป็นราชาแห่งน่านน้ำในการแสดงพลังอำนาจของนางเพื่อข่มขวัญซ่งหยู...........
ในช่วงเวลาคืนวันนั้นปกคลุมไปด้วยความมืด และซ่งหยูก็ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของปลาและห่านได้อย่างชัดเจน แต่..ตอนนี้เขาสามารเห็นมันได้อย่างชัดเจน และนั่นคือปลามังกรที่ทรงพลังอำนาจยิ่งนัก!
อู๋เฟยหยานนางสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของรูปลักษณ์ของปลามังกรได้อย่างล้ำลึก นอกเหนือจากความแข็งแกร่งของนางแล้วรูปลักษณ์ของปลามังกรนั้นเสมิือนจริงยิ่งนัก ซึ่งยากที่จะหาใครเทียบได้! ปลามังกรที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำยาวกว่า 20 เมตร มีเลือดเนื้อและกระดูก ปากที่น่ากลัวและระลอกคลื่นของความรุนแรงเวลามันเคลื่อนผ่านใต้น้ำอย่างน่าสะพรึง!
จากรูปลักษณ์ของปลามังกรที่ดูแตกต่างจากมังกรของซ่งหยูยิ่งนัก ซึ่งมังกรของเขานั้นมีเพียงผิวหนังและเลือดเนื้อแต่หามีกระดูกไม่!
ซ่งหยูไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดอู่๋เฟยหยานคนนี้ถึงสามารถปลูกฝังจิตวิญญาณปลามังกรได้ถึงระดับนี้ อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับเสาสัญลักษณ์ได้อีกด้วย!
อู๋เฟยหยานสามารถปลูกฝังร่างของปลามังกรได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากเสาสัญลักษณ์ที่นางได้รับจากตระกูลหยูนั้น เป็นที่รู้จักกันเนื่องจากคำว่าหยู ที่มีลักษณะเด่นเช่นเดียวกับปลามังกรนับตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของนาง!
เนื่องจากต้นตระกูลหยูในอดีตนั้นสามารถยึดครองพื้นที่เป็นของตนเองมานานนับหมื่นปีแล้ว โดยมีกลุ่มผู้สำเร็จการบ่มเพาะขั้นสูงสุดของต้นตระกูลได้สืบทอดวิญญาณของปลามังกรไว้ให้ลูกหลานสักการะบูชาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นความเชื่อที่ว่าจิตวิญญาณของปลามังกรอายุนับหมื่นปีนั้นจะคอยปกป้องตระกูล
หยูเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้!
อู๋เฟยหยานนั้นมีสถานะเป็นหลานของหัวหน้าตระกูลหยู ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่ยากที่นางจะสามารถสำเร็จการบ่มเพาะจิตวิญญาณแห่งปลามังกรได้โดยง่าย!
นางเป็นศิษย์หญิงที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาศิษย์หญิงทั้งหมดในคืนนั้น และหลังจากที่นางปะทะกับเขาในคืนนั้นดูเหมือนนางจะไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าเขา เพียงแค่นางอยากจะสั่งสอนเขาให้รู้สำนึกโดยหักน้องชายคนเล็กของเขาเสียมากกว่า.....
ซ่งหยูรู้สึกหน้าชาในทันทีเขาคิดว่า"จากการปะทะกันครั้งที่แล้วทำให้นางได้เห็นพลังของเขา ดังนั้นในครั้งนี้หากนางปล่อยพลังจิตวิญญาณของปลามังกรออกมานั้นเขาคงสามารถรับมือได้อย่างไม่ยากนัก! แต่อย่างไรก็ตาม หากนางใช้เฉพาะปลามังกรเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้ใช้พลังจิตวิญญาณจากห่านซึ่งรวมกันเป็นหนึ่งเดียวดั่งครั้งก่อนก็คงเห็นได้ว่ายังไม่ใช่พลังทั้งหมดของนางนั่นเอง!
จากนั้นลมและคลื่นขนาดใหญ่ที่ถูกยกขึ้นโดยปลามังกรที่สูงเกินกว่า 3 เมตร บนผิวของทะเลสาบ
มันกระแทกระลอกคลื่นเข้าหาซ่งหยูข้างหน้าผาในทันที นางกล่าวว่า" ซ่งหยูข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังเจ้าพูดพล่ามแต่ข้าต้องการดวลกับเจ้าไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม!"
อู๋เฟยหยานผู้นี้ นางมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และมีพลังที่น่าเกรงขามอีกทั้งความยิ่งยโสของนาง ซึ่งไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย! ซึ่งหลานหยูเคยบอกกับเขาว่านางมีการปลูกฝังเคล็ดวิชาการโจมตีจากสองรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยนางได้รับการถ่ายทอดมรดกที่แท้จริงทั้งสองประเภท
ของเสาสัญลักษณ์ สมควรยิ่งแล้วที่นางได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดของเหล่าศิษย์หญิงทั้งหมด
ซ่งหยูยิ้มมุมปากเล็กน้อยและนำก้อนหินยักษ์มาแบกไว้ที่หลังเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็กระโดดลงมาจากหน้าผาเขาคิดในใจว่า"การบ่มเพาะของนางนั้นย่อมสูงกว่าเขาเป็นแน่ แต่ทว่า....แต่ด้านความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณนั้นนางหาสู้เขาได้ไม่! แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลัวที่จะต้องต่อสู้กับนาง แต่เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลาสู้กับนางนั่นเอง!"
จากนั้น! เถาอี้เอ๋อร้องตะโกนมาแต่ไกลนางกระโดดขึ้นมาจากพื้นและเท้าของนางก็พุ่งเข้าใส่ซ่งหยูในทันที"หนอยแน่.....ทำเป็นโอหัง.....แต่ข้าต้องการสู้กับเจ้า!....."
อู๋เฟยหยานทำหน้าตกใจ จากนั้นก็ปรากฏร่างของปลามังกรใต้ฝ่าเท้าของนางกระโดดออกมาจากทะเลสาบลงไปที่หน้าผาด้านล่างไล่ตามซ่งหยูไปอย่างรวดเร็ว!
เถาอี้เอ๋อยังไม่ทันได้คิดอะไรมากนัก นางก็กระโดดตามลงมาจากหน้าผาพลางกล่าวว่า "ศิษย์พี่เหตุใดท่านถึงกระโดดตามเขาลงมา? หากท่านทั้งสองตกเหวตายร่วมกันจะกลายเป็นตำนานแห่งความรักก็เป็นได้.....โอ้แล้วข้าจะกระโดดตามพวกท่านมาด้วยเหตุใดกัน? แล้วถ้ามันจะเปลี่ยนเป็นหญิงสองชายหนึ่งต้องมาตายร่วมกันแล้วโลกจะจดจำพวกเราอย่างไรกัน....ศิษย์พี่!....."
ทั้งสามคนพุ่งตกลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน....อย่างไรก็ตามซ่งหยูที่กำลังแบกก้อนหินยักษ์เขาเพิ่มความเร็วในการพุ่งลงมา อู๋เฟยหยานตามมาข้างหลังเขาติดๆ และทิ้งช่วงระยะห่างกับเถาอี้เอ๋อมากพอสมควร
แต่เถาอี้เอ๋อนางสามารถเพิ่มความเร็วราวกับว่านางกำลังว่ายน้ำกลางอากาศเพื่อกลับขึ้นไปยังด้านบนหน้าผา แต่ก็ไร้ประโยชน์ และในที่สุดนางก็ต้องตกลงไปเหมือนทั้งสองคน!
ตอนที่ซ่งหยูกระโดดลงจาหน้าผา เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นหญิงสาวสองคนตามหลังเขามาอย่างกระชั้นชิด ซึ่งทำให้ซ่งหยูงวยงงเป็นอย่างยิ่งพลางกล่าวว่า"ท่านมีจุดประสงค์อย่างไรกันที่กระโดดตามข้ามาเพื่อที่จะช่วยข้าหรือจะมาสังหารข้ากันแน่? หากท่านต้องการให้ข้าตายเพียงแค่ท่านปล่อยให้ข้าตกลงสู่ก้นเหวเหตุใดท่านจึงต้องกระโดดตามข้ามาด้วยเล่า?
หัวใจของหญิงผู้นี้นับว่าเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก สมแล้วที่นางเป็นลูกหลานของขุนนางแห่งอันตระกูลที่ติดอันดับสองในสิบแห่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งนางคงจะไม่ปล่อยให้ใครตกลงมาตายต่อหน้าต่อตานางโดยไม่ได้พยายามช่วยเหลือหรือไม่?
นี่พวกนางกำลังคิดอะไรกันอยู่?แม้แต่เถ๋าอี้เอ๋อซึ่งนางกระโดดตามลงมาด้วยเหตุอันใดกัน? แต่ทว่า.....พวกนางเป็นคนมีฝีมือคงจะมีวิธีการเอาตัวรอดจากการตกลงไปสู่ความตายได้ไม่ยาก!
แต่.....พวกนางจะรู้หรือไม่ว่าข้าไม่ได้มาฆ่าตัวตาย.....ข้ากระโดดหน้าผาเพื่อฝึกฝนการบ่มเพาะของข้าเท่านั้น!
ขณะนั้นเขากำลังจะเข้าสู่ภาวะสุดขีดระหว่างชีวิตและความตายอีกครั้ง และจากนั้นเขาก็เห็นภาพของ
องค์จักรพรรดิสุย!
เขารู้ดีว่าจากการที่เขาแบกหินไว้บนหลังนั้นหากเขาผิพลาดหรือประมาทเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เขาจบชีวิตลงอย่างอนาถได้ ดังนั้นเขาจึงตั้งสติและมีสมาธิ แม้อู๋เฟยหยาน และเถาอี้เอ๋อกระโดดจากหน้าผาตามไล่ล่าเขาหรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม จึงไม่สามารถทำลายสมาธิเขาได้แม้แต่น้อย!
องค์จักพรรดิสุยที่เขามองเห็นเริ่มชัดเจนเพิ่มมากขึ้น เริ่มมองเห็นเค้าโครงของหนวดเคราและมีดวงตาที่ชัดเจนและเริ่มมองเห็นรายละเอียดต่างๆได้มากยิ่งขึ้น!
ด้วยรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นซ่งหยูตระหนักดีว่ามันจะต้องใช้พลังจิตวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น และหลังจากที่เขาแบกหินยักษ์ไว้บนหลังทำให้ความเร็วของเขาก็ลดลงไป ดังนั้นการเข้าสู่ภาวะสุดขีดระหว่างชีวิตและความตายเขาก็เริ่มทำได้ดีขึ้นอีกด้วย ความรู้สึกหวาดกลัวต่อความตายเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย! ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อที่จะอยู่รอดเป็นแรงกระตุ้นอำนาจที่ซ่อนเร้นภายในร่างกายและจิตวิญญาณของเขาทำให้เขาต้องรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อยกระดับตัวเองให้รอดพ้นจากความตายนั่นเอง!
สัญชาตญาณของมนุษย์เพื่อความอยู่รอดเมื่อได้รับการกระตุ้นจะให้เกิดความสามารถภายในตัวขึ้นมาอย่างปาฏิหารย์ ทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาถูกกระตุ้นด้วยความร็วดเร็ว เพื่อความอยู่รอดนั่นเอง!
เมื่อความหวาดกลัวระหว่างชีวิตกับความตายเพาะพันธุ์ปีศาจหัวใจที่ชั่วร้ายภายในจิตใจมันก็จะแผ่ซ่านขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อองค์จักพรรดิสุยได้ปรากฏร่างออกมาก็ได้เข้ามาโจมตีความชั่วร้ายภายในความคิดของเขาให้สะอาดและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
ขณะนั้นเถาอี้เอ๋อยังคงกระเสือกกระสนในการช่วยเหลือตัวเอง แขนขาที่กำลังแหวกว่ายอยู่กลางอากาศพลางร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากอู๋เฟยหยาน "ศิษย์พี่ช่วยข้าด้วยยย!......"
จากนั้นคลื่นแห่งพลังของจิตวิญญาณของอู๋เฟยหยานก็ผุดขึ้นมากลางระหว่างคิ้วของนาง ทันใดนั้น!
ก็ปรากฏเป็นปีกสองปีกขนาดใหญ่อยู่ใต้ท้องแขนของนางซึ่งกำลังกระพือสองปีกเพื่อพยุงร่างของนางมิให้ตกลงสู่เบื้องล่างของหุบเหว!
"พรึ่บ! พรึ่บ!."
อู๋เฟยหยานกระพือปีกของนางด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและบินไปทางซ่งหยู!
ทั้งสองคนตกลงมาจากหน้าผาดั่งเช่นอุกกาบาต อู๋เฟยหยานกำลังเข้ามาใกล้ซ่งหยูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นางเห็นพื้นที่อยู่เบื้องล่างนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้และโขดหินที่แหลมคม ทำให้นางตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก!
ด้วยความเร็วของทั้งสองจึงทำให้ระยะห่างจากพื้นดินลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้...แม้นางจะมีสองปีกที่ช่วยพยุงร่างไว้ยังไงก็ตกลงไปกระแทกตายอยู่ดี!
เหงื่อเย็นๆผุดลงมาจากหน้าผากของอู๋เฟยหยาน...ในขณะที่นางกำลังสับสนอยู่กับความคิดของตัวเอง "ความเร็วของข้าสูงเกินไป.....แต่....มันสายเกินไปแล้วววว!"
----------------------------------------
"จงตื่นเดี๋ยวนี้!"
ซินหวงปลุกจิตสำนึกของซ่งหยูให้ตื่นขึ้น!
ซ่งหยูเบิกตากว้างจากนั้นอำนาจแห่งจิตของเขาก็ระเบิดออกมา จิตวิญญาณของเขาสามารถควบคุมความคิดของเขา จากนั้นก็ปรากฏร่างของมังกรที่เลื้อยพันอยู่รอบๆร่างของเขา เสียงท้องฟ้าที่แปรปรวนและส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ!
ก้อนหินยักษืที่เขาแบกไว้ที่หลังก็ถูกกวาดตกลงไปด้วยเสียงฟ้าร้องจากร่างของมังกร !
-------------------------------------------
จิตสำนึกของนางถูกครอบงำโดยความกลัวจากการยืนอยู่ระหว่างเส้นแห่งชีวิตและความตาย ปีศาจหัวใจก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในหัวใจของนางที่ทำให้นางจมอยู่กับความกลัวสุดขีด....
เมื่อซ่งหยูกำลังจะพุ่งสายฟ้าร้องออกไปเขาก็สังเกตเห็นอู๋เฟยหยานกำลังกางปีกออก เขาจึงพยายามที่จะจับปีกของนางไว้ในขณะที่นางกำลังกระเสือกกระสน!
ความหวาดกลัวสุดขีดของนางปรากฏจากสายตาของนางทันที เมื่อศรีษะของนางกำลังชี้ลงด้านล่างเพื่อพุ่งลงสู่ป่าเบื้องล่าง ซึ่งร่างของนางจะถูกบดขยี้กจากการกระแทกกับโขดหินที่แหลมคมดั่งเช่นเนื้อสับภายในไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้!
มันเร็วมากจนนางไม่สามารถจะตั้งสติพื่อที่จะสร้างปีกอีกคู่หลังจากที่คู่แรกนั้นถูกฉีกไปด้วยแรงลม หากนางมีสติมากกว่านี้นางคงสามารถชลอความเร็วพอที่จะสร้างปีกคู่ใหม่ได้ แต่ทว่า....ความตกใจกลัวต่อความตายทำให้นางถูกครอบงำจิตสำนึกของนางทั้งหมดไว้ด้วยความชั่วร้ายของปีศาจแห่งจิตนั่นเอง!
ซึ่งซ่งหยูเคยประสบกับความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ระหว่างชีวิตและความตายมาแล้ว และเขาก็สามารถแก้ปัญหามันให้ผ่านพ้นไปได้สำเร็จ ซึ่งหากกล่าวถึงนางตอนนี้จิตสำนึกของนางเต็มไปด้วยปีศาจแห่งจิตที่ทำให้นางไม่สามารถตอบสนองใดๆได้เลยแม้แต่น้อย
ขณะนั้นซ่งหยูปล่อยเสียงคำรามดังสนั่นไปทั่ว "โฮกกกกก!" จงบินไปช่วยอู๋เฟยหยางเดี๋ยวนี้! "
การตัดสินใจของซ่งหยูทำให้ซินหวงตกใจและกล่าวว่า"เจ้าจะบ้าไปแล้วหรือ? นางตั้งใจจะฆ่าตัวตายต่างหาก!"
เปรี้ยงงงงงงงงง!
จากนั้นเสียงฟ้าร้องฟ้าแลบก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และก็ปรากฏร่างของมังกรขึ้นมาอีกร่างหนึ่ง!
เขาสามารถแบ่งภาพแห่งจิตใต้สำนึกเป็นสามส่วน คือ ภาพแห่งองค์จักรพรรดิสุย และร่างมังกรสองตัวในเวลาเดียวกันเพื่อช่วยอู๋เฟยหยาน และเพื่อช่วยตัวเอง....
นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถพยามยามด้วยตัวเองนอกเหนือจากสิ่งที่ซินหวงเคยฝึกให้แก่เขา มันเป็นการกระตุ้นโดยสัญชาตญาณเพื่อความเอาตัวรอดไม่ว่าจะช่วยเหลือตัวเอง หรือผู้อื่นซึ่งเขาสามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ซ่งหยูสามารถควบคุมมังกรในขณะที่เขากำลังพุ่งลงสู่หน้าผา หลังจากปรากฏร่างของมังกรตัวใหม่ทำให้เกิดความล่าช้าเกิดขึ้น ทำให้อีกไม่นานร่างของเขาก็จะถึงพื้นดิน! ด้วยความเร็วที่ลดลงเช่นนี้แม้จะมีพลังอำนาจสักเพียงใดมันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีชีวิตรอดได้!
"มังกรหมื่นลี้!"
ซ่งหยูไม่เคยมีจิตที่สงบเยือกเย็นเช่นนี้มาก่อน ขณะที่เขาควบคุมร่างของมังกรที่กำลังทุบต้นไม้ทีละต้นด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ของมันเพื่อลดการกระแทกที่จะลงสู่พื้นเบื้องล่าง!
ด้วยหน้าผาที่สูงชันและต้นไม้ที่สูงตระหง่านถูกร่างของมังกรฉีกออกเป็นชิ้นๆ เศษกิ่งไม้ร่วงกราวราวกับใบไม้ร่วง และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็เกิดขึ้น....จากนั้นร่างของซ่งหยูและมังกรก็ตกลงสู่พื้นและลื่นไถลออกไปอีกหลายสิบเมตรก่อนที่จะหยุดลง....
ซ่งหยูรู้สึกสั่นขณะที่พยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นดิน เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายเขาว่างเปล่าจนแทบไม่สามารถรับความรู้สึกอะไรได้แม้แต่น้อย จากนั้นเขาจึงรีบหยิบยาเม็ดจิตวิญญาณขึ้นมาหกเม็ดและรีบใส่ปากในทันที จากนั้นเขาเหลียวไปมองร่องรอยที่ร่างของเขาและมังกรทิ้งไว้ในป่า ซึ่งเป็นร่องรอยของการคดเคี้ยวเช่นเดียวกับร่างของมังกร
ร่องรอยเหล่านี้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจากที่เขาสามารถค้นพบเคล็ดวิชาใหม่ด้วยตัวเอง......
คือ เคล็ดวิชามังกรหมื่นลี้!
"นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?"
ซินหวงเพิ่งรู้สึกตัวจากอาการช๊อกจนพูดไม่ออก เขาคิดในใจว่า"หรือว่า...แท้จริงแล้วเด็กคนนี้คือผู้สืบทอดวิญญาณที่ข้ากำลังตามหามาตลอด?......"
................................................................................................