ตอนที่ 49 เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่?
แววตาของหนุ่มน้อยราวกับแสงจันทราในค่ำคืนอันหนาวเหน็บแห่งเหมันต์ ประดุจดั่งแท่งน้ำแข็งแหลมคมที่ส่งผ่านความเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ และมันทำให้ความเดือดดาลภายในใจของท่านหมอเซียโหมกระหน่ำขึ้น น้ำเสียงจู่โจมตอบโต้ก้องดังออกไปรวดเร็วไม่ยั้งคิด “ดี !ดี ! ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ! ข้าจะลงเดิมพันกับเจ้า หากเจ้าสามารถรักษาเด็กหนุ่มผู้นี้ได้จริง ๆ ข้า เซียชงหมิงจะก้มลงโขกศีรษะให้แก่เจ้าสามครั้งและนับถือเจ้าเป็นอาจารย์ต่อหน้าทุกคน แต่หากเจ้าไม่สามารถทำการรักษาเขาได้ เจ้าต้องไปศาลกับข้าเพื่อรับโทษทัณฑ์สูงสุดของการฝ่าฝืนกฏข้อห้ามในการปลอมแปลงตนเป็นหมอ ! เจ้าหนู เจ้ากล้าหรือไม่ ?”
เกอซีเลิกคิ้วเรียวงามขึ้นพร้อมรอยแย้มยิ้มที่ไม่เชิงยิ้มบนริมฝีปาก “ถึงให้เจ้ามาเป็นศิษย์ของข้าและเรียกข้าว่าอาจารย์ ข้าก็ไม่ต้องการศิษย์ผู้ชราน่าอัปยศเช่นเจ้า ! หากเมื่อเจ้าแพ้เจ้าจงโขกศีรษะคำนับข้าสามครั้งเท่านั้นเป็นพอ”
“เจ้า--- ! เจ้า--- !”
ท่านหมอเซียโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุดเขาจนจะอดใจไม่ไหวอยากจะกระโดดเข้าไปหักคอบาง ๆ ของเจ้าหนุ่มผู้นี้
หากทว่าเกอซีมีหรือจะแยแสต่อท่าทีของเขา แววตาเย็นเยียบเงียบสนิทคู่นั้นจับจ้องไปทางเด็กสาว “ข้าสัญญาว่าจะรักษาพี่ชายของเจ้าให้ดีที่สุด ข้ามีความมั่นใจแปดส่วนว่าจะสามารถทำการรักษาเขาได้ หากแต่ในขั้นตอนการรักษานั้นค่อนข้างสุ่มเสี่ยง เจ้า....เชื่อใจข้าไหม ?”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นประสานสายตาที่กระจ่างใสของเกอซีด้วยนัยน์ตาที่ว่างเปล่า นางไม่รู้ว่าเมื่อไรกันที่นางเพ่งมองประกายตาสีม่วงที่วูบวาบขึ้นมาในแววตาคู่นั้น ความรู้สึกประดุจดั่งว่านางกำลังหลงอยู่ในป่าทึบลึกอันรกชัฏฉับพลันก็ปรากฏเส้นแสงแถบริ้วเรืองรองที่งดงามอย่างที่สุดท่ามกลางท้องนภาขึ้นส่งนำทาง
เด็กสาวรู้สึกราวกับตนกำลังตกอยู่ภายใต้เวทมนตร์ ภายในใจของนางไม่อาจค้นพบแม้เพียงร่องรอยความเคลือบแคลงใดที่สามารถผลิบานออกมาได้ หญิงสาวผงกศีรษะอย่างเชื่องช้าโดยไร้สิ้นการต่อต้านขัดขืน
การยอมรับของเด็กสาวทำให้เกอซีคลายใจ นางจึงขอให้ผู้ดูแลโจวช่วยอุ้มหนุ่มน้อยผู้นั้นเข้าไปห้องด้านในของโรงโอสถเซิงเต๋อ จัดวางร่างกายของเขาลงบนโต๊ะตัวยาวที่สามารถให้เด็กหนุ่มอยู่ในท่านอนเหยียดราบเสมอกัน
ท่านหมอเซียและผู้ดูแลจิ๋นติดตามเข้ามาด้านในด้วยท่าทีที่เย็นชาราวแท่งน้ำแข็ง พวกเขาต้องเข้ามาร่วมชมความล้มเหลวและจุดจบที่น่าอับอายของหนุ่มน้อยผู้นี้ให้เห็นชัดด้วยสายตาของตนเอง
ในโรงโอสถเซิงเต๋อ ภายในห้องอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่ล้วนกระหายใคร่รู้แออัดกันอย่างเนืองแน่น พวกเขาเบียดเสียดยืนมุงกันเป็นวงกว้างซ้อนเรียงตัวกันหนาแน่นออกไปถึงสามชั้น
เกอซียืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน นางยังคงสงบนิ่งยามเมื่อหยิบยกแผงเข็มเงินออกมาจากมิติเวท
เข็มเงินเหล่านี้มีความยาวไม่เท่ากัน บ้างหนาบ้างบาง อีกทั้งที่ปลายเข็มยังมีกลิ่นโอสถแปลกประหลาดฟุ้งกำจายทำให้ผู้ที่มุงดูเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจ
หากแต่นอกจากอาการประหลาดใจแล้วยังมีคนบางกลุ่มแสดงท่าทีที่ดูแคลน และรังเกียจ แม้ยามนี้ ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อถือว่าเด็กหนุ่มที่แลดูผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิตมาเพียงสิบหกสิบเจ็ดปีอีกทั้งยังไร้สิ้นกระแสพลังปราณจะสามารถให้การรักษาผู้ป่วยผู้ตกอยู่ในสภาพเส้นชีพจรฉีกขาดได้
ดวงตาของเกอซีเพ่งสำรวจจุดต่าง ๆ ในร่างกายของเด็กหนุ่ม แล้วหันไปตรวจจับเส้นชีพจรอีกคราก่อนจะเริ่มลงมือฝังเข็มเงินในมือด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แสงจากเปลวเทียนช่วยส่งความสว่างให้กว้างทั่วทุกมุมห้องในโรงโอสถเซิงเต๋อ แสงอาทิตย์อัสดงที่ด้านนอกสาดส่องลงบนฝ่ามือที่งดงามประดุจชิ้นหยกที่สลักเสลาอย่างปรานีตของหนุ่มน้อยเกอซี
ทุกผู้คนล้วนรู้สึกราวกับว่าตนกำลังมองดูหมู่มวลผีเสื้อที่กระพือปีกโฉบพริ้วผ่านเหล่าบุปผา ส่งให้สิ่งที่ปรากฏเป็นเพียงภาพเงาเคลื่อนคล้อยวูบวาบไปมาอย่างต่อเนื่องก่อนจะหายวับสลับกันไปมาต่อหน้าสายตาทุกคู่ เพียงชั่วพริบตา เสื้อผ้าบนร่างของเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนโต๊ะพลันถูกปลดเปลื้องยามนี้เขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ตลอดทั่วทั้งร่างมากมายไปด้วยเข็มเงินซึ่งแต่ละแท่งล้วนเล็กบางยิ่งกว่าปลายเส้นผม ภาพที่แลเห็นทำให้เด็กหนุ่มดูราวกับตัวเม่นที่มีหนามมากมายกระจายไปทั่ว
“นี่....คือวิธีการรักษาประเภทใดกัน ? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ?”
“อย่าว่าแต่ไม่เคยเห็นเลย ข้าไม่เคยได้ยินถึงวิธีการรักษาเช่นนี้มาก่อนด้วยซ้ำ !”
“เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกถึงกระแสพลังปราณใด นี่เขาตั้งใจจะรักษาโดยไม่ใช้พลังปราณเลยกระนั้นหรือ ?”
สรรพเสียงพูดคุยโต้ตอบกันระเบ็งเซ็งแซ่ หากแต่การรับรู้เสียงของเกอซีได้ดับลงไปแล้ว ยามนี้นางเพียงใช้สมาธิอย่างจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับเข็มเงินในมือและร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าเท่านั้น
วิธีการรักษาด้วยการแทรกแท่งเข็มลงไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นจุดสำคัญต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ กว่าค่อนชั่วยาม (ครึ่งชั่วโมง) ทำให้เม็ดเหงื่อใส ๆ พร่างพรายผุดกระจายขึ้นเต็มหน้าผากของเกอซี หยาดเหงื่อค่อย ๆ ไหลซึมพรากลงมาด้านล่างกระทบแผงขนตางอนยาวประดุจหยาดน้ำค้างบนใบบัวที่หมายจะหยดย้อยหากทว่ากลับไม่อาจ
***จบตอน เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่ ?***