ตอนที่ 82 สู้กับหลัวเทียนหยาง
หานเซิ่น : ยังไม่วิวัฒนาการ
สเตตัส : ไม่มี
อายุขัย : 200 ปี
จีโนพ้อย : 100 จีโนพ้อยสามัญ,100 จีโนพ้อยโบราณ,47 จีโนพ้อยกลายพันธ์,29 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ
วิญญาณอสูร : ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ,นักฆ่ากระหายเลือดเลือดศักดิ์สิทธิ,มังกรปีกม่วงเลือดศักดิ์สิทธิ,แมว 3 ตากลายพันธ์,บาร์ราคูด้ากลายพันธ์,แบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์,ปลาฉนากกลายพันธ์
มีวิญญาณอสูรกลายพันธ์ 2 ดวงที่เขาได้มาจากคุณอื่น ซึ่งพวกมันยังใช้ประโยชน์ไม่ได้มากนัก หนึ่งคือแมว 3 ตากลายพันธ์ มันคือวิญญาณอสูรประเภทสัตว์เลี้ยง และในตอนนี้มันถือว่าไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ส่วนบาร์ราคูด้ากลายพันธ์ที่เขาพึ่งได้มาจากลู้เว่ยหนาน มันเป็นวิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่ สำหรับใช้ในน้ำ ซึ่งมันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงเมื่ออยู่บนบก
ที่พุ่มไม้ใกล้ๆสตีลอาเมอร์ หานเซิ่นนัดพบกับหลินเป้ยเฟิง เขาจงใจนัดส่งเนื้อมอนเตอร์กลายพันธ์ให้หลินเป้ยเฟิง หลังจากวันที่เขาขายเนื้อให้ซินเสวียน 2-3 วัน
"นี่ส่วนของนาย" หานเซิ่นเอาปลาฉนากตากแห้งออกมาจากกระเป๋า 2 ตัวและส่งให้หลินเป้ยเฟิง เขาไม่อยากจะใช้แบล็คสตริงเกอร์บ่อยเกิน เขาจึงให้ปลาหลินเป้ยเฟิงไปแทน
"2 เลย!" หลินเป้ยเฟิงดีใจมาก
"ใช่ การเดินทางมันค่อนข้างไปได้สวย"
หานเซิ่นส่งลูกธนูที่เหลือคืนให้หลินเป้ยเฟิง
"ไม่เป็นไรนายเก็บพวกมันไว้เถอะ เซิ่น รอบหน้าให้ฉันไปด้วยได้ไหม?"
หลินเป้ยเฟิงมองที่หานเซิ่นด้วยสายตาอ้อนวอน
"ฉันจะชวนนายถ้ามีโอกาส นายเอาลูกธนูกลับไปเถอะ" หานเซิ่นยืนกราน
หลินเป้ยเฟิงเอาลูกธนูกลับไป ทั้ง 2 คนเดินกลับไปที่เมืองพร้อมๆกัน
ที่หน้าประตูเมือง พวกเขาเดินไปเจอกลุ่มของเซินเทียนจื่อ หลัวเทียนหยางจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาอาฆาตตามเคย
"เซินเทียนจื่อ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" หลินเป้ยเฟิงพูด
"เป้ยเฟิง ทำไมนายอยู่กับหมอนี่ได้?" เซินเทียนจื่อมองมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
"เซิ่นคือเพื่อนของฉันเอง ดูเหมือนว่านายกับเขาจะมีอะไรที่ทำให้ไม่ลงรอยกัน แต่ฉันหวังว่านายจะเห็นแกฉันให้เขาผ่านไปได้ไหม?"
หลินเป้ยเฟิงมองไปที่เซินเทียนจื่อ
"ผ่านไป? นายคิดว่านายเป็นใคร?" หลัวเทียนหยางพูดกับหลินเป้้ยเฟิง
"หุบปาก!" เซินเทียนจื่อหยุดหลัวเทียนหยาง และพูดกับหลินเป้ยเฟิง "เป้ยเฟิง ไม่ใช่ไม่เห็นแก่นายนะ แต่เรื่องของฉันกับหมอนั่นมันคงจะไม่จบง่ายๆแบบนั้นหรอก"
"แล้วจะต้องจบยังไง? ฉันจะจ่ายเท่าไหร่ก็ตามที่นายต้องการ" หลินเป้ยเฟิงพูด
"ฉันกลัวว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน นายลองถามเขาดูเองก็ได้"
เซินเทียนจื่อพูด จากนั้นเขาก็เปิดทางให้หานเซิ่นกับหลินเป้ยเฟิง
"เซิ่น เรื่องมันเป็นยังไงมายังไง?" หลินเป้ยเฟิงถามด้วยความสงสัย เขาคิดว่าความบาดหมางคงเป็นแค่ที่เขาเป็นแทงก้นซินเสวียน ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ
หานเซิ่นพูดถึงเรื่องมังกรปีกม่วงให้หลินเป้ยเฟิงฟัง
"นี่แหละ ที่เป็นเรื่องที่เซินเทียนจื่อแค้นฉันมากที่สุด"
หลินเป้ยเฟิงหยุดไปชั่วครู่แล้วก็หัวเราะออกมา
"แต่มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายก็ไม่ได้วิญญาณอสูร เดียวฉันจะหาทางเคลียร์ปัญหานี้ให้นายเอง มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเป็นศัตรูกับเซินเทียนจื่อ"
พวกเขาทั้ง 2 คนเดินเข้ามาในเมือง และดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนในเมืองกำลังพูดถึงข่าวบางอย่าง
หานเซิ่นตั้งใจฟัง และเขาได้ยินว่าดอลลาร์จะต้องสู้กับหลัวเทียนหยางในรอบที่ 2
"ดอลลาร์เจอกับหลัวเทียนหยาง! มันต้องเป็นการต่อสู้ที่สุดยอดแน่ เซินเทียนจื่อคงยังรู้สึกแค้นไม่หายหลังจากถูกแย่งวิญญาณอสูรไป หลัวเทียนหยางที่เป็นคนสนิทของเขาจะต้องพยายามฆ่าดอลลาร์แน่"
"ฆ่าดอลลาร์? ฉันไม่คิดว่าเขาจะสู้กับดอลลาร์ได้เกิน 10 นาทีด้วยซ้ำ"
"มันไม่ยุติธรรม ถึงดอลลาร์แข็งแกร่งก็จริง แต่หลัวเทียนหยางจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มของเขาแน่ เขาจะมีวิญญาณอสูรหลากหลายไว้แก้ทางดอลลาร์ ฉันคิดว่าคงจะสูสี"
"สูสีที่ไหน ดูยังไงดอลลาร์ก็คงชนะเห็นๆ"
"ฮาฮา ฉันก็คิดว่างั้น หลัวเทียนหยางมีปีกหรอ? เขาสู้กับชูร่าเขาทองได้ไหม?"
"หลัวเทียนหยางยังเทียบกับดอลลาร์ไม่ได้ ฉันคิดว่าดอลลาร์ใช้เวลาแค่ 3 นาทีในการจัดการเขา"
...
หานเซิ่นไม่ได้หวังว่าจะเจอหลัวเทียนหยางในรอบที่ 2 เขายิ้มอยู่ในใจ 'ในที่สุดพระเจ้าก็เห็นใจผม ให้โอกาสผมได้เอาคืนเร็วกว่าที่คิด'
"ว้าว ฉันจะได้มีโอกาสดูดอลลาร์ต่อสู้ใกล้ๆ รอบแรกฉันพลาดไป" หลินเป้ยเฟิงตาลุกเป็นไฟขึ้นมา
"เสียดายที่ฉันไม่มีโอกาสได้ไปดู ฉันมีงานที่ต้องรีบกลับไปทำ"
แน่นอนว่าหานเซิ่นไปดูไม่ได้ เพราะเขาต้องลงไปสู้
"นายจะไม่ไปดูจริงๆหรอ? ดอลลาร์เชี่ยวนะ" หลินเป้ยเฟิงพูด
"เขาก็ไม่ใช่คนวิเศษอะไรหรอก เขาก็แค่คนธรรมดาคน" หานเซิ่นยักไหล่
"เขาเป็นคนพิเศษ ฉันไม่ค่อยจะชื่นชมใครจริงๆหรอกนะ แต่ดอลลาร์คือข้อยกเว้น หลังจากที่ฉันได้เห็นเขาต้องสู้กับชูร่า" หลินเป้ยเฟิงพูด
"โอเค แต่ฉันต้องกลับไปทำธุระที่บ้าน บางทีโอกาสหน้าฉันอาจจะได้ดู" หานเซิ่นพูด
"โชคร้ายที่กล้องวิดีโอไม่สามารถใช้งานได้ในก็อตแซงชัวรี่ ไม่งั้นฉันคงถ่ายวิดีโอตอนที่เขาต่อสู้และส่งให้นายดูได้" หลินเป้ยเฟิงเสียดายแทนหานเซิ่น
หานเซิ่นเดินอ้อมไปไกลและมาปรากฏตัวในเมืองอีกครั้ง หลังจากที่เขาสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เขาเตรียมผ้ามาคลุมตัวของเขาไว้ทั้งตัว ถึงแม้ว่ามันจะดูแปลก แต่มันทำให้ไม่มีคนมามุ่งล้อมเขาเหมือนรอบก่อน
หานเซิ่นหามุมดีๆนั่งดูการต่อสู้ ขณะรอให้ถึงรอบของเขา ไม่นานหลังจากนั้นมีกลุ่มคนเดินเข้ามานั่งข้างๆเขา หานเซิ่นต้องช็อคเมื่อเห็นว่าพวกเขาคือสมาชิกทีมบูลอายที่นำมาโดยหยางม่านลี่
หานเซิ่นอุส่าเลือกที่นั่งหลบมุมแล้ว แต่พวกเขาก็ยังบังเอิญมานั่งใกล้ๆ
ซูเสี่ยวเฉียวนั่งอยู่ข้างๆเขา ขณะที่หยางม่านลี่และลิ่วฮงทาวนั่งถัดไปอีก 2 ที่นั่ง
"เฮ้พี่ชาย ทำไมคุณแต่งตัวแบบนี้ในสภาพอากาศร้อนๆแบบนี้ล่ะ? คุณแต่งตัวเป็นแม่หมดงั้นหรอ?"
ซูเสี่ยวเฉียวเห็นหานเซิ่นแต่งตัวแปลกๆก็เลยถาม
'ไอ้บ้าเสี่ยวเฉียว ฉันจะอัดนายทีหลัง' หานเซิ่นคิดในใจ เขาไม่พูดอะไร
"ม่านลี่ คุณคิดว่าใครจะชนะ ดอลลาร์หรือว่าหลัวเทียนหยาง?" สมาชิกคนหนึ่งในบูลอายถามขึ้นมา
***ผู้แปลขอแก้ชื่อตัวละครนะครับ หลัวเทียนหลางเป็นหลัวเทียนหยาง