เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 134 ล่า
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 134 ล่า
"อย่ากังวล เจ้าเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสอง ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้าและจะควบคุมระดับการบ่มเพาะของข้าให้อยู่ในระดับเดียวกับเจ้า มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม" ไป่หนิงปิงหัวเราะชั่วร้าย
เผชิญหน้ากับการแสดงออกที่น่าขยะแขยงของไป่หนิงปิง ฟางหยวนยังสามารถรักษาความเยือกเย็นก่อนจะตอบกลับอย่างเย็นชา "หากต้องการฆ่า ก็เข้ามา"
ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ฟางหยวนเริ่มเคลื่อนไหวทันที
เสียงหัวเราะของไป่หนิงปิงหยุดลงอย่างกะทันหันก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงที่แฝงไว้ด้วยความกรุ่นโกรธ "อย่าวิ่งหนีจากข้า!"
เขาวิ่งไล่ล่าฟางหยวนไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเยาะขณะที่วิ่งไปตามเส้นทางหุบเขาอย่างเงียบงัน
เมื่อสนามรบถูกรบกวน ฝูงหมาป่าสายฟ้าตอบสนองด้วยการพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนกับไป่หนิงปิงอย่างบ้าคลั่ง
ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ในวงล้อมหมาป่าสูญเสียสมาชิกไปแล้วหนึ่งคนสังเกตเห็นสถานการณ์นี้ คนทั้งสี่เริ่มผ่อนคลายเมื่อฝูงหมาป่าเกิดความปั่นป่วน
" อดทนไว้ กำลังเสริมมาถึงแล้ว" หนึ่งในสี่ตะโกนเสียงดัง
"เหตุใดจึงมีเพียงสอง?" อีกคนถามหลังจากเห็นฟางหยวนกับไป่หนิงปิง
แต่เมื่อตระหนักถึงคนทั้งสอง ใบหน้าของม่านซื่อกลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"มันคือเขา!"
เป็นไปได้อย่างไรที่ม่านซื่อจะไม่สามารถจดจำฟางหยวน บุคคลที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและอับอาย ชายผู้นี้มอบความพ่ายแพ้ให้กับเขาในที่สาธารณะ ดวงตาที่เย็นชาและไร้ปรานียังฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขา เขาไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่น่ากลัวรวมถึงชายที่มอบความทรงจำอันเลวร้ายให้แก่เขา
เขายังสาบานกับตนเองว่าจะเรียกคืนความภาคภูมิใจของตนเองกลับมาในวันหนึ่ง
อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนมาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตเขา ความรู้สึกของม่านซื่อจึงกลายเป็นซับซ้อนและหลากหลาย
"เดี๋ยว! คนที่สองคือ..."
พวกเขารู้จักไป่หนิงปิง ดังนั้นเมื่อตระหนักถึงคนผู้นี้ มันจึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะตกใจ
"ไป่หนิงปิง!" ดวงตาของม่านซื่อเบิกกว้างขึ้น เขาไม่คาดหวังว่าไป่หนิงปิงจะปรากฏตัวในสถานการณ์เช่นนี้
"เจ้าถุงขยะ หยุดเดี๋ยวนี้!" ไป่หนิงปิงยังตะโกนเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
แต่ฟางหยวนไม่แยแสและยังพุ่งผ่านฝูงหมาป่าสายฟ้าเป็นแนวทแยงมุม
แสงสีขาวส่องประกายขึ้นบนร่างของฟางหยวนขณะที่มันช่วยป้องกันการโจมตีของฝูงหมาป่าอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการรุมล้อมโจมตีดังกล่าว พลังวิญญาณของเขาจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ไกลจากเขา จมูกของไป่หนิงปิงพ่นไอน้ำสีขาวออกมาและกลายเป็นเกราะน้ำปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้
แม้หมาป่าสายฟ้าจำนวนมากจะโจมตีมายังเกราะน้ำ แต่กระแสไฟฟ้าที่แฝงอยู่ในการโจมตีของพวกมันก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในกระแสน้ำทั้งหมด
กล่าวตามจริง เวลานี้ไป่หนิงปิงก็ดูไม่น่าประทับใจเท่าใดนัก เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม แต่กลับสะกดพลังอำนาจของตนเองให้อยู่ในระดับสองเพื่อกำจัดฟางหยวน
แม้ความเร็วและพลังวิญญาณระดับสองของเขาจะยังเหนือกว่าฟางหยวนเล็กน้อย แต่ด้วยการรุมล้อมของฝูงหมาป่า ระยะทางระหว่างเขากับฟางหยวนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกต่างก็คือความแข็งแกร่งทางกายภาพ
ฟางหยวนครอบครองความแข็งแกร่งของหมูป่าสองตัว ขณะที่ไป่หนิงมีความความแข็งแกร่งทางกายภาพต่ำกว่าเล็กน้อย ฟางหยวนสามารถอดทนต่อการโจมตีของหมาป่าและเดินหน้าต่อไป แต่สำหรับไป่หนิงปิง แม้เกราะน้ำจะสามารถลดพลังการโจมตีของศัตรู มันก็ยังไม่สามารถเปิดเส้นทางให้กับเขา นี่เป็นจุดที่แตกต่างจากฟางหยวน
"อะวู้..."
หมาป่าสายฟ้าเดือดตัวหนึ่งเริ่มให้ความสนใจฟางหยวนกับไป่หนิงปิง มันเห่าหอนเพื่อออกคำสั่งให้ฝูงหมาป่าเปิดเส้นทางให้มัน
หมาป่าสายฟ้าเดือดไม่ยอมเสียวเวลาและขยายกรงเล็บพุ่งไปทางฟางหยวนทันที
เมื่อเห็นฉากเหตุการณ์นี้ใบหน้าของผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่จึงเผยให้เห็นถึงความกังวล
สำหรับไป่หนิงปิงที่อยู่ด้านหลังฟางหยวน เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
แต่ในจังหวะนี้ร่างของฟางหยวนกลับอันตรธานหายไปจากมุมมองสายตาของไป่หนิงปิงอย่างกะทันหัน
เสียงหัวเราะของเขาหยุดลงทันที ผู้ใช้วิญญาณอีกสี่คนกลายเป็นไร้ถ้อยคำไปอย่างสิ้นเชิง
หมาป่าสายฟ้าเดือดเห่าหอนออกมาด้วยความโกรธ แต่ความเร็วของมันไม่ได้ลดน้อยลงเมื่อมันหันไปโจมตีไป่หนิงปิงเพื่อระบายความเคียดแค้น
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้มุมปากของไป่หนิงปิงยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้มสนุกสนาน
"ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ เจ้าน่าสนใจจริงๆ เช่นนั้นข้าก็จะใช้พวกมันเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย" ขณะกล่าวคำ ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีฟ้า จากนั้นเขาก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นในท่านกกระเรียนก่อนที่ใบมีดน้ำแข็งอันแหลมคมจำนวนมากจะปรากฏขึ้นกลางอากาศและหมุนวนรอบตัวเขาจนกลายเป็นพายุหมุนใบมีดน้ำแข็ง
พายุหมุนน้ำแข็งกลืนกินหมาป่าสายฟ้ารอบๆเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีเลือดที่สาดกระเซ็นออกมาเพราะพวกมันถูกแช่แข็งไปในทันที
หมาป่าสายฟ้าเดือดส่งเสียงคำรามขึ้นท่ามกลางพายุน้ำแข็ง วิญญาณที่อยู่ในร่างของมันเริ่มทำงานเป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้าสีทองแลบลั่นอยู่บนขนทุกเส้นของมัน
ขนบนร่างกายของมันตั้งชูชันขึ้นพร้อมกับอสนีสีทองที่เคลื่อนไหวไปตามแขนขาราวกับโซ่อันงดงาม
เมื่อมันออกวิ่ง มันดูราวกับดาวตกสีทองที่พุ่งผ่านพายุน้ำแข็ง
"เปรี้ยง"
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นขณะที่พายุน้ำแข็งถูกทำลายและส่งเศษน้ำแข็งจำนวนมากระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง
ไอหมอกสีขาวกระจายตัวออกไปทั่วบริเวณ
แต่หมาป่าสายฟ้าเดือดกลับเอนกายนอนอยู่บนพื้น หัวใจของมันถูกเจาะทะลวงด้วยดาบน้ำแข็ง การโจมตีที่เหี้ยมโหดแทบจะคร่าชีวิตมันไปทันที
ไป่หนิงปิงหัวเราะด้วยความพึงพอใจกับชัยชนะก่อนจะดึงดาบน้ำแข็งออกจากร่างของหมาป่า
ดาบน้ำแข็งแตกหักไปครึ่งเล่มแต่ไป่หนิงปิงไม่แยแสก่อนจะใช้มือซ้ายลูบไปตามคมดาบอย่างแผ่วเบา จากนั้นปลายดาบน้ำแข็งจึงกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ความตายของหมาป่าสายฟ้าเดือดทำให้ฝูงหมาป่ากลายเป็นตื่นตระหนกและเริ่มแยกย้ายกันไป
"พวกเราจะจดจำพระคุณที่ท่านไป่หนิงปิงให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้เอาไว้อย่างดี" ผู้ใช้วิญญาณที่เหลือเริ่มขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ
มีเพียงผู้ใช้วิญญาณม่านซื่อที่รู้สึกไม่แน่ใจ
ย้อนกลับไปเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับไป่หนิงปิงและรู้สึกไม่พอใจ อย่างไรก็ตามแม้ตอนนี้เขาจะครอบครองวิญญาณหินผา แต่เขายังไม่มั่นใจว่าสามารถท้าทายคนผู้นี้
ไป่หนิงปิงเย้ยหยันก่อนที่แขนของเขาจะเคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมกับดาบน้ำแข็งที่ส่องประกายขึ้นกลางอากาศ
"นี่..."
"อา..."
ผู้ใช้วิญญาณทั้งสามที่ลดการป้องกันตัวถูกโจมตีโดยผู้ช่วยชีวิตอย่างไม่คาดคิด ใบหน้าของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อขณะที่พวกเขาล้มลงบนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้อีกตลอดกาล
"ไป่หนิงปิง เจ้ากำลังทำสิ่งใด?" ผู้ใช้วิญญาณม่านซื่อกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจและโกรธแค้นกับการฆาตกรรมอย่างกะทันหัน
"แน่นอนว่าเป็นการฆาตกรรม มันเป็นสิ่งผิดในความคิดของเจ้า ถูกต้องหรือไม่?" ไป่หนิงปิงยักไหล่และหัวเราะเสียงเย็น
"สารเลว!" ม่านซื่อกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ "ทั้งสามตระกูลจับมือเป็นพันธมิตร แต่เจ้ากลับสังหารผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์ นี่เป็นการละเมิดสนธิสัญญาพันธมิตรของสามตระกูลอย่างชัดเจน ฮืม หากเจ้ามีปัญหาก็เข้ามา ถึงเวลาชำระแค้นเมื่อครั้งก่อนเสียที"
หลังจากตะโกนเสียงดัง ม่านซื่อก็พุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิงพร้อมกับกระตุ้นใช้วิญญาณหินผาอย่างเต็มประสิทธิภาพและเปลี่ยนร่างกายของเขาให้กลายเป็นหิน
"หาที่ตาย" ไป่หนิงปิงหัวเราะเย้ยหยัน
ดาบน้ำแข็งฟาดลงบนศีรษะของม่านซื่อและลากผ่านระหว่างคิ้ว จมูก ปาก ปลายคาง ไปจนถึงหน้าของเขา
เศษหินร่วงหล่นขณะที่ดาบน้ำแข็งแตกสลายเมื่อมันเคลื่อนที่มาถึงหน้าท้องของม่านซื่อ อย่างไรก็ตามไอหมอกที่หนาวเหน็บกลับแช่แข็งม่านซื่อที่อยู่ภายในเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
"เพล้ง!"
ร่างน้ำแข็งของม่านซื่อล้มลงกระแทกพื้นและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา
ตายอย่างไม่สามารถตายได้อีก!
"หน้าคุ้นๆ" ชัดเจนว่าไป่หนิงปิงลืมเรื่องราวระหว่างเขากับม่านซื่อไปนานแล้ว
หลังจากทั้งหมด ไป่หนิงปิงหันหน้าไปรอบๆก่อนจะตะโกนเสียงดัง
"ออกมา ข้าฆ่าพวกมันให้เจ้าแล้ว ตอนนี้จงออกมาต่อสู้กับข้า!"
เพียงเมื่อไป่หนิงปิงกล่าวจบประโยค ฟางหยวนจึงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ไป่หนิงปิงจ้องมองไปยังฟางหยวนขณะเดียวกันก็ชี้ดาบตรงไปที่เขา
ฟางหยวนหัวเราะอยู่ภายในใจก่อนจะหันหลังและจากไป
ไป่หนิงปิงกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธและไล่ล่าฟางหยวนอย่างไม่ลดละ
ระหว่างทางฟางหยวนยังล่อลวงให้ไป่หนิงปิงเข้าสู่สนามรบใกล้เคียงซึ่งมีกลุ่มของซ่งหลี่กำลังต่อสู้กับหมาป่าสายฟ้าเดือดอีกตัวอยู่ที่นั่น
หมาป่าฝูงนี้ชัดเจนว่าถูกล่อลวงมาที่นี่โดยฟางหยวนเช่นกัน
"ทุกคนพยายามให้มากขึ้น ฝูงหมาป่ามีอยู่จำกัด กลุ่มทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมา พวกเขายังรอความช่วยเหลือจากพวกเรา..." ซ่งหลี่กระตุ้นสมาชิกในกลุ่ม แต่เมื่อเขาตระหนักถึงฟางหยวนกับไป่หนิงปิงที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เขากลับไม่สามารถกล่าวคำใดออกมาได้อีก
นับตั้งแต่ฟางหยวนยอมจำนนต่อเขา ซ่งหลี่ก็ไม่ให้ความสนใจกับฟางหยวนอีก ดังนั้นเวลานี้ความสนใจทั้งหมดของเขาจึงมุ่งไปที่ไป่หนิงปิง
"ไป่หนิงปิง!" ดวงตาของซ่งหลี่แทบลุกเป็นไฟเมื่อเห็นชายผิวขาวผมขาวในชุดขาวผู้นี้
ไม่นานที่ผ่านมา ไป่หนิงปิงปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาและทำร้ายเขาทันทีโดยปราศจากถ้อยคำ เหตุการณ์นี้ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขา
แม้ไป่หนิงปิงจะกดระดับการบ่มเพาะเอาไว้ในระดับสองแต่ซ่งหลี่ยังพ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บ เกียรติส่วนตัวและศักดิ์ศรีของตระกูลถูกเหยียบย่ำโดยไป่หนิงปิง ได้รับความอับอายเช่นนี้แล้วซ่งหลี่จะไม่โกรธแค้นได้อย่างไร?
"ไป่หนิงปิงผู้นี้ดูเหมือนกำลังไล่ล่าคนที่ชื่อฟางหยวน" ซ่งหลินสังเกตเห็น
เขามีรูปร่างสันทัด ศีรษะโล่นกลมของเขาส่องประกายเมื่อมันสะท้อนกับแสงแดด ซ่งหลินอายุเท่ากับฟางหยวนแต่มีพรสวรรค์นภาที่สอง เขาเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลซ่งในรุ่นนี้
ขณะนี้เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง หลังจากได้รับประสบการณ์เล็กน้อย เขาก็เริ่มเติบโตขึ้น
ซ่งหลี่รู้สึกหงุดหงิด แต่ฟางหยวนเป็นสมาชิกตระกูลแสงจันทร์ แม้จะมีการจัดตั้งพันธมิตรสามตระกูล มันยังห่างใกล้จากคำว่ามิตร ดังนั้นเมื่อมันเป็นการต่อสู้ของคนนอก ซ่งหลี่จึงไม่มีความคิดที่จะเข้าไปข้องแวะ
กลุ่มของซ่งหลี่ต่อสู้กับฝูงหมาป่าขณะเดียวกันก็เฝ้ามองคนทั้งสองอยู่ด้านข้าง แต่ฟางหยวนจะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆได้อย่างไร? เพียงหนึ่งประโยคของฟางหยวน มันกลับสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไปอย่างสิ้นเชิง
ฟางหยวนเคลื่อนที่เข้าไปใกล้กลุ่มของซ่งหลี่อย่างรวดเร็วก่อนจะตะโกนออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ข้าเห็นวิญญาณหัวขโมยอยู่กับเขา ปกป้องข้า! ไป่หนิงปิงพยายามกำจัดพยานทั้งหมด!"