SH – 3 ผีดิบที่แข็งแกร่ง !
SH – 3 ผีดิบที่แข็งแกร่ง !
ชิงหยุ่นซื่อ ส่ายหน้าและเริ่มอธิบาย “นี้เป็นครีมจากน้ำมันของศพ ถูกสาปด้วยมนต์คาถา มันจะปลดปล่อยพิษจากศพออกมาให้แก่คนที่อยู่ในระยะรัศมี 5 ฟุต นอกจากนี้ ถ้ามีใครก็ตามได้รับพิษนี้เป็นเวลา 1 เดือน มันจะเปลี่ยนให้คนๆนั้นกลายเป็นผีดิบ พวกเขาจะสูญเสียสติจะควมคุมตัวเองไม่ได้และเริ่มที่จะก้าวร้าว จนถึงตอนนี้ พิษนี้ได้เข้าสู่หัวใจของหลานชายคุณแล้ว และมันกำลังจะกระจายไปยังแขนขาของเขา สิ่งที่เห็นบนมือของเขานั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังจะกลายเป็นผีดิบ”
คำพูดเหล่านี้ทำให้เหยี่ยต้ากงขวัญหนีดีฟ่อ ใจตกไปที่ตาคุ่ม เขาขอร้อง ชิงหยุ่นซื่อ “ได้โปรดท่านนักบุญ ท่านต้อง .. ต้องช่วยหลานชายของผมด้วย เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัวเรา ได้โปรด...”
“ได้โปรดยืนขึ้น ถึงแม้ว่านี้จะเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก อาตมาจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาหลานชายของนาย”
เมื่อเหยี่ยต้ากงยืนขึ้น ชิงหยุ่นซื่อ ยังคงพูดต่อไป “โดยปกติ เมื่อพิษศพเข้าสู่หัวใจแล้ว มันจะฆ่าเขาแน่นอน แต่กรณีหลานชายของนาย ....” ชิงหยุ่นซื่อ หยุดทันที เขาคิดว่าเป็นการดีกว่าถ้าเขาไม่บอกเหยี่ยต้ากงให้รู้เกี่ยวกับเรื่องที่เขาพบ
“หลานชายของนายเป็นคนพิเศษ !”
ชิงหยุ่นซื่อ มองที่ก้อนน้ำมันศพและพูดว่า “น้ำมันศพนี้ไม่ธรรมดา ! น้ำมันนี้เอามาจากใครบางคนที่ตายกะทันหัน ยิ่งดวงวิญญาณมีความโกรธแค้นมาก น้ำมันที่ได้ยิ่งมีฤทธิ์มาก”
ชิงหยุ่นซื่อ ทำท่าทีเคร่งเครียดทันทีและพูดขึ้น “เฮ้ ท่านผู้เฒ่า มีเพียงแค่ 5 คนบนโลกนี้เท่านั้นที่สามารถรักษาเขาได้ และหนึ่งในนั้นคืออาตมา โชคดีที่ลูกชายของนายพบอาตมาและนำอาตมามาที่นี้ มันต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ”
เหยี่ยต้ากงไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ณ เวลานั้น ชิงหยุ่นซื่อ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาและถามขึ้น “ตอนนี้แม้ว่าเราจะสามารถยับยั้งพิษนี้ได้ชั่วคราว แต่เรายังคงต้องหาและฆ่าเจ้าของยานี้เพื่อหยุดยั้งผลจากยานี้ ดังนั้น อาตมาจะถามนาย ให้นายคิดดีๆ บอกอาตมามา ในหมู่บ้านนี้ มีใครตายกะทันหันบ้างรึเปล่า?”
หมู่บ้านเหยี่ยมีเพียงแค่ 10 ครัวเรือน ดังนั้นเหยี่ยต้ากงจะรู้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ดังนั้น เหยี่ยต้ากงพูดขึ้น “ใช่ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว มีหญิงท้องแก่คนหนึ่งตายในขณะที่เธอคลอด เด็กคนนั้นก็ตายด้วย แบบนี้นับรึเปล่า?”
“แน่นอนว่านับ แล้วเธอตายเมื่อไหร่?”
เหยี่ยต้ากงเกาหัว “ผมไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่ ผมคิดว่า มันเป็น... โอ้ ใช่แล้ว เธอตายได้ประมาณ 50 วันแล้ว ก่อนช่วงเวลาวิญญาณกระหายเลือด”
เรื่องที่ได้รู้นี้ทำให้ ชิงหยุ่นซื่อ รู้สึกตกใจ และเขาสั่งทันที “รีบนำอาตมาไปยังหลุมศพของเธอ”
เหยี่ยต้ากงรีบนำ ชิงหยุ่นซื่อขึ้นเขาไปยังหลุมศพของผู้หญิงคนนั้น ชิงหยุ่นซื่อ ใช้พลัง พลังปราณปั๋งของเขาเพื่อรับรู้ถึงพลังงานของหลุมศพนี้ และเขาก็พึมพำขึ้นมา “มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับหลุมศพนี้ ทำไมมันถึงประกอบด้วยดวงวิญญาณสองดวง ? มันน่าแปลกมาก หนึ่งในนั้นเป็นเด็ก โอ้ไม่ ! ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ รีบเรียกคนมาที่นี้แล้วขุดศพเดี๋ยวนี้ อาตมาอยากจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี้!”
เหยี่ยต้ากงทำหน้าแปลกๆใส่ ชิงหยุ่นซื่อและพูดขึ้น “นี้ ... นี้เป็นหลุมศพแม่หม้าย และเธอไม่มีสมาชิกในครอบครัวคนอื่น โดยปกติจะไม่มีใครยุ่งวุ่นวายรอบๆหลุมศพนี้ แล้วยิ่งถ้าคนในหมู่บ้านได้ยินว่าพวกเราขุดใครขึ้นมาจากหลุมโดยไม่มีเหตุผลที่ดี มันจะทำให้ผมตกที่นั่งลำบาก”
ชิงหยุ่นซื่อ ตอบกลับอย่างเกรี้ยวกราด “ถ้านายไม่ขุดศพขึ้นมาตอนนี้ ศพเหล่านี้จะมีเวลาเปลี่ยนเป็นผีดิบที่ดุร้าย แล้วหลังจากนั้น พวกมันจะฆ่าทุกคนในหมู่บ้านของนาย”
คำพูดเหล่านั้นทำให้เหยี่ยต้ากงตกใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งลงเขาอย่างรวดเร็วเพื่อหาคนมาช่วย เหยี่ยต้ากงอธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคนที่มาช่วยในระหว่างทางเดินขึ้นเขา และพวกเขาก็เต็มใจช่วยเขา เมื่อเหยี่ยต้ากงสัญญาว่าจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด พวกเขาไม่มีความลังเลเลยในขณะที่พวกเขาขุดหลุมศพ เมื่อพวกเขาขุด ชิงหยุ่นซื่อ ได้นำธงเล็กๆ 5 สีออกมาจากกระเป๋าผ้าของเขา ธงมีสีทอง เขียว น้ำตาล ขาวและแดง 5 สีนี้เป็นตัวแทนของธาตุของจีน ชิงหยุ่นซื่อ ติดผ้าเหล่านี้รอบๆหลุมศพ และได้จุดธูปเชิญวิญญาณด้วย แล้วนำมันไปยังที่ตำแหน่งเฉียนและคุน ตำแหน่งเหล่านี้เชื่อกันเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม
“ทุกคนถอยหลังแล้วไปอยู่ด้านหลังธง 5 สีนี้ ห้ามเข้ามาในวงกลมนี้” ชิงหยุ่นซื่อพูดด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม พลังปราณหยินเริ่มรั่วไหลออกจากโลงศพไม้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในโลงศพนี้ต้องมีพลังมากแน่ๆ เขาคิดในหัว
ชิงหยุ่นซื่อ เห็นว่าที่โลงศพไม่มีตะปูตกปิดอยู่ ดังนั้นเขาจึงนำหมึกตะกั่วแดงบางส่วนมาเขียนเป็นตัวอักษรภาษาจีนว่าฉือบนฝ่ามือด้านขวา หลังจากนั้นประกบฝ่ามือลงบนฝาโลงและตะโกนขึ้น “ลุก!”
เขายกฝาโลงที่หนักมากแล้วโยนไปด้านข้างด้วยมือข้างเดียว
เหยี่ยต้ากงและคนอื่นๆเริ่มรู้สึกอยากรู้อยากเห็นและพยายามที่จะแอบมองไปในโลงศพ ภาพภายในที่ได้เห็นทำให้พวกเขาตกตะลึง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าเห็นใจดังขึ้น “เธอ... เธอมีเขี้ยว” มีเขี้ยวสองแถวงอกออกมาจากปากศพ เขี้ยวพวกนี้สะท้อนกับแสงของพระอาทิตย์ ทำให้เห็นถึงความคมของเขี้ยว
ชิงหยุ่นซื่อ ตรวจสอบโลงศพด้วยความเร็วแสง และจับตามอง เขาเห็นว่าที่ท้องของศพผู้หญิงมีรอยโป่ง เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลอย่างมาก “ในตัวของเธอมีศพเด็กรึเปล่า ?”
“เท่าที่จำได้รู้สึกว่าไม่มีครับ ถึงแม้ว่าเธอจะตายตอนคลอดก็ตาม” เหยี่ยต้ากงตอบด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “หลังจากเธอตาย พวกเราไปปรึกษานักบุญนิกายเต๋า เขาบอกพวกเราว่าพวกเราต้องฝังศพแยกกันเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะ ดังนั้นเราจึงทำตามที่เขาบอกและฝั่งร่างของทารกไว้ที่ภูเขาอีกลูก”
ชิงหยุ่นซื่อ พยักหน้าและพูดตอบกลับไป “คนคนนั้นพูดถูก เมื่อมีแม่ตายขณะคลอด นายไม่สามารถฝังร่างของเธอร่วมกับเด็ก เพราะมิฉะนั้น พวกเธอจะเริ่มแข็งแกร่งเพื่อที่จะมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงมากขึ้น และวิญญาณจะเลือกที่จะไม่ไปภพภูมิอื่น เมื่อดวงวิญญาณถูกคุมขังไว้ในร่างกายของพวกเธอ และสุสานเป็นแหล่งรวมพลังปราณหยินพวกเธอจะถูกบ่มพลัง และจะกลายเป็นคู่ผีดิบที่ดุร้าย”
เหยี่ยต้ากงไม่สามารถละสายตาไปจากแสงแวววาวที่สะท้อนออกมาจากฟันแหลมคมสองแถวได้เลย แล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ถ้าอย่างนั้น ของ ... ในเธอ ...”
“นี้มันแย่มาก แม่กับเด็กคู่นี้ถูกบ่มเพาะพลังมาเป็นเวลามากกว่า 49 วัน ดังนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งไม่เหมือนผีหรือปีศาจทั่วไป” ชิงหยุ่นซื่อ พูด หลังจากนั้นเขาชี้ไปยังส่วนที่ยื่นออกมาจากศพหญิงสาว “นั้นเป็นทารกผีดิบที่ดุร้าย และมันกำลังโตภายในท้องของเธอ”
“อ่า!” เหยี่ยต้ากงและคนอื่นๆกรีดร้องออกมา “ได้อย่างไรกัน เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”
ชิงหยุ่นซื่อ ถอนหายใจและตอบกลับ “ต้องมีใครบางคนทำแน่ๆ เขานำเด็กมาใส่ในท้องของแม่เด็ก นี้ทำให้รู้ด้วยว่าเขาเอาน้ำมันพรายมาจากไหน อาตมาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอพลังปีศาจร้ายในที่แบบนี้ คุณต้องทำให้ใครบางคนที่มีพลังไม่พอใจ!” ชิงหยุ่นซื่อ มองไปบนท้องฟ้าอย่างฉับพลัน ตอนนี้เป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว
“เราได้ไปปลุกพวกมันขึ้นมาแล้ว เมื่อเขาเปิดฝาโลงออก ดังนั้นเราต้องกำจัดมันก่อนแสงอาทิตย์จะหมดลง ถ้าเราไม่ทำ เราจะเจอปัญหาใหญ่ เร็วเข้า ไปหาไม้ แก๊ส และตะกั่วแดง”
เหยี่ยต้ากงนำทางเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วเพื่ออกไปหาวัสดุ พวกเขาไปหาอย่างรวดเร็ว เหยี่ยต้ากงถาม ชิงหยุ่นซื่อ ด้วยเสียงสั่นระริก “ท่านอาจารย์ ท่านพูดว่าทั้งแม่และเด็กได้กลายเป็น...ผีดิบ แล้วทำไมพวกเขาไม่ขยับล่ะ?”
“ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีเวลามาก แต่พวกเธอยังคงกลัวแสงแดด แต่ถ้ากลางคืนมาเยือนเมื่อไหร่ นั้นแหละพวกเราจะพบกับความยุ่งยากมากที่จะจัดการพวกเธอ” ชิงหยุ่นซื่อ เริ่มที่จะเอาเครื่องมือสำหรับปราบผีออกจากกระเป๋าของเขา และเขาเริ่มเตรียมโต๊ะบูชา
เมื่อเขาเตรียมโต๊ะบูชาเสร็จ พวกชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมกับเชื้อเพลงและแก็สเล็กน้อย คนในหมู่บ้านบางคนมาเพื่อมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ท่ามกลางคนเหล่านั้นมีเหยี่ยบิงและภรรยาของเขาด้วย และไม่นานเหยี่ยบิงได้พบกับพ่อของเขา เขารายงานพ่อ “ซ่าวยางได้ดื่มยาแล้ว เขามีอาการดีขึ้น ตอนนี้แม่กำลังดูแลเขาอยู่ ดังนั้นผมจึงมาที่นี้ เผื่อผมช่วยอะไรได้บ้าง”
เหยี่ยต้ากงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้ยินที่เหยี่ยบิงพูด แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงหันไปตำหนิลูกชาย “ทำไมพาคนในหมู่บ้านมากมายมาที่นี้!”
“โอ้ ไม่เป็นไร ยิ่งคนมากยิ่งอุ่นใจ” ชิงหยุ่นซื่อ พูด ในขณะที่ดวงตาเจ้าเล่ห์ของเขากวาดมองไปยังฝูงชน
ชิงหยุ่นซื่อ ไม่รอให้เสียเวลาเปล่า เขาสั่งเด็กหนุ่มใจกล้าไปตั้งไม้รอบๆโลงศพ หลังจากนั้นเขาสั่งให้ไปเทแก๊สบนไม้ และโปรยผงตะกั่วแดง หลังจากนั้น ชิงหยุ่นซื่อ จุดไฟให้สว่างขึ้น สวดคาถาและโยนชิ้นไม้ลงไป
ทันใดนั้น ก็เกิดเปลวไฟโหมกระหน่ำล้อมรอบโลงศพ
ชิงหยุ่นซื่อ นั่งลงหน้าแท่นบูชา เขาเริ่มสวดมนต์ “ในฐานะอาจารย์ของ นิกายหม่าวซาน รุ่นที่ 38 ข้าขออัญเชิญศาสดาแห่งเต๋า ข้าสวดภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามของเต๋าและสรรพสิ่งถึงนรกอเวจี ข้าซาบซึ้งยกย่องวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ และนรก ข้าจะทำลาย ปีศาจทั้งหมด และรักษาความสงบสุข โปรดฟังข้า ผู้พิทักษ์เต๋าทั้ง 12 และพยักค์ทมิฬจากสวรรค์ โปรดมาช่วยเหลือข้า และฆ่าพวกเดรัจฉานนี้ด้วย !”
บทสวดทำให้ไฟโหมกระหน่ำมากขึ้น มันจะช่วยให้สามารถทำลายผีดิบที่ดุร้ายได้ หลังจากเผาไหม้ประมาณ 10 นาที โลงศพได้กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ศพผู้หญิงไม่เป็นอะไรเลย เปลวไฟไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย แม้แต่เผาไหม้เสื้อเธอ เปลวไฟถูกผลักออกโดยเส้นใยสีขาวของพลังหยินที่ออกมาจากร่างของเธอ ทำให้ร่างกายของเธอไม่ไหม้ไฟแม่แต่น้อย............
ติดตามตอนต่อไป.........