ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 132 วิญญาณหญ้าหอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 134 ล่า

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 133 ขอบคุณที่ให้ข้าฆ่าเจ้า


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 133 ขอบคุณที่ให้ข้าฆ่าเจ้า

วิ่งสุดกำลัง!

ต้นไม้ด้านหน้าฟางหยวนราวกับตาข่ายที่กำลังจะจับตัวเขาเอาไว้ เขาหลบเลี่ยงพวกมันอย่างรวดเร็วด้วยการใช้เท้ากระโดตขึ้นจากพื้น

รากโสมที่งอกออกมาจากใบหูข้างขวาของเขาแกว่งไปมา ขณะที่หมาป่าสายฟ้าเดือดที่กำลังโกรธรวมถึงฝูงหมาป่าหลายร้อยตัวไล่ล่าเขามาจากด้านหลัง

ความเร็วของหมาป่าสายฟ้ารวดเร็วกว่าเขา โดยเฉพาะหมาป่าสายฟ้าเดือด ร่างกายที่ปราดเปรียวของมันเคลื่อนไหวไปรอบๆอย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

แต่ในจังหวะที่ฟางหยวนกำลังจะถูกจับ ร่างของเขากลับเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

หมาป่าสายฟ้าเดือดหยุดเท้าและหันหน้ามองไปรอบๆด้วยความสับสน

ฟางหยวนวิ่งห่างออกไปในระยะไกลก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

สายตาอันแหลมคมของหมาป่าสายฟ้าเดือดค้นพบเขาอย่างรวดเร็ว มันเห่าหอนออกมาด้วยความโกรธและไล่ล่าฟางหยวนอีกครั้ง

สำหรับฝูงหมาป่าสายฟ้า พวกมันติดตามไปด้านหลังอย่างกระชั้นชิด

ฟางหยวนหัวเราะอยู่ในใจก่อนจะวิ่งต่อไป

เขาทำซ้ำวิธีการเดิมกระทั่งมาถึงจุดหมายก่อนจะกระตุ้นใช้งานวิญญาณเกราะลี้ลับอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ฝูงหมาป่าติดตามมาถึงจุดที่ฟางหยวนหายไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นหมาป่าสายฟ้าเดือดกลับพบเป้าหมายใหม่

ไม่ไกลจากที่นั่น สูงขึ้นไปบนเนินเขา ปรากฏผู้ใช้วิญญาณห้าคนกำลังต่อสู้อยู่กับหมาป่าสายฟ้าอีกฝูงหนึ่ง

"อะวู้..."

แม้จะเป็นหมาป่าสายฟ้าเดือด มันก็มีสติปัญญาที่จำกัด เวลานี้มันลืมฟางหยวนไปเรียบร้อยแล้ว มันเงยศีรษะเห่าหอนขึ้นสู่ท้องฟ้าและออกคำสั่งฝูงหมาป่าด้านหลังเข้าสู่สนามรบทันที

"มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?" ผู้ใช้วิญญาณทั้งห้ากลายเป็นสิ้นหวังเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

"พวกเขาบอกว่าหมาป่าแต่ละฝูงมีอาณาเขตของพวกมันเองมิใช่หรือ?"

"พวกเราพยายามอย่างมากที่จะกำจัดหมาป่าสายฟ้าเดือดตัวนี้ แต่ตอนนี้กลับมีอีกตัวปรากฏขึ้น"

"รีบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเร็วเข้า!"

เมื่อหมาป่าอีกฝูงเข้าร่วมการต่อสู้ แรงกดดันจึงทวีความรุนแรงขึ้นอีกมหาศาล น้ำเสียงของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยหงุดหงิดและหวาดกลัว

ผู้ใช้วิญญาณสายสนับสนุนเร่งยิงวิญญาณออกจากฝ่ามือ

วิญญาณดวงนี้อยู่ในรูปลักษณ์ลูกบอลสีทองแต่มีปีกหลากหลายสีสัน เมื่อมันกางปีกบิน มันกลายเป็นสายรุ่งโค้งตัวออกไปเป็นระยะทางห้าสิบกิโลเมตรในพริบตา

นี่เป็นวิญญาณระดับหนึ่งที่ใช้ได้ครั้งเดียวและมักจะใช้เพื่อขอความช่วยเหลือ

"สัญญาณถูกส่งออกไปแล้ว ทุกคนอดทนไว้ อีกไม่นานกำลังเสริมจะมาถึง" หัวหน้ากลุ่มตะโกนให้กำลังใจสมาชิกในช่วงเวลาที่เหมาะสม

'ไร้ประโยชน์' ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นบนหน้าผาในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปและจ้องมองลงมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

สถานการณ์ของกลุ่มนี้ได้รับการตรวจสอบจากเขาอย่างรอบคอบแล้ว กลุ่มที่อยู่ใกล้ที่สุดกำลังอยู่ในวงล้อมหมาป่าเช่นกัน

ฝูงหมาป่าถูกหลอกล่อโดยฟางหยวนให้มากำจัดพวกเขาโดยเฉพาะ

'ดวงตาของหมาป่าสายฟ้าแต่ละดวงสามารถแลกเปลี่ยนคะแนนผลงานได้สิบแต้ม แต่ในสนามรบ การส่งคืนวิญญาณให้กับตระกูลจะได้รับคะแนนผลงานหนึ่งพันแต้ม หลังจากทำสิ่งนี้สองหรือสามครั้ง ข้าก็จะสามารถแลกเปลี่ยนวิญญาณหญ้าหอม' ฟางหยวนคิดอยู่ในใจ

ภายใต้โครงการนี้ กลุ่มของผู้ใช้วิญญาณทั้งห้าจึงถูกปิดผนึกทางรอด

'ต่อไปข้าก็เพียงต้องรอให้พวกเขาถูกกำจัด แล้วข้าก็จะล่อฝูงหมาป่าให้จากไป ก่อนจะกลับมาที่นี่เพื่อเก็บรวบรวมวิญญาณ' ฟางหยวนเดินไปยังต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลและนั่งลงอย่างสะดวกสบาย

ไม่มีผู้ใดเต็มใจตาย ดังนั้นกลุ่มผู้ใช้วิญญาณจึงดิ้นรนต่อสู้อย่างอดทน

ฟางหยวนไม่เสี่ยงที่จะดึงดูดราชาพันอสูรหมาป่าสายฟ้าคลั่งมาที่นี่แต่เลือกหมาป่าสายฟ้าเดือด ดังนั้นเขาจึงต้องรอคอยเล็กน้อย

โดยเฉพาะเมื่อคนกลุ่มนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามของฟางหยวน กลุ่มของผู้ใช้วิญญาณม่านซื่อ

เขาครอบครองวิญญาณหินผาและมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงสามารถรับมือหมาป่าสายฟ้าได้หลายตัว

แต่นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนเลือกเขา

ยิ่งเป็นวิญญาณล้ำค่ามากเท่าใด หลังจากส่งคืน เขาก็จะได้รับคะแนนผลงานมากขึ้นเท่านั้น เมื่อวิญญาณหินผาถูกส่งคืน ฟางหยวนจะได้รับคะแนนผลงานจำนวนสามพันเก้าร้อยแต้ม นี่จะทำให้รายชื่อของเขาบนหอคอยเกียรติยศพุ่งสูงขึ้นอย่างน้อยยี่สิบอันดับ

แน่นอนว่าหากมันเป็นวิญญาณของซื่อซาน โม่เยี่ยน หรือฉิงซู มันย่อมมีค่ามากกว่าวิญญาณหินผาของม่านซื่อ

แต่กลุ่มของซื่อซานมีซื่อเช่อที่ครอบครองวิญญาณอสรพิษสื่อสารที่สามารถตรวจจับความร้อน วิญญาณเกล็ดลี้ลับของฟางหยวนไม่มีประโยชน์ต่อหน้าเขา

สำหรับโม่เยี่ยน เธอมีผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่ากลุ่มของซื่อซาน ดังนั้นเธอจึงได้รับมอบหมายให้ลอบเข้าไปตรวจสอบการเคลื่อนไหวของฝูงหมาป่าอยู่บ่อยครั้ง

กลุ่มของฉิงซูไม่มีผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากนัก แต่ด้วยการดำรงอยู่ของฟางเจิ้ง ตระกูลจึงส่งผู้อาวุโสหลายคนลอบติดตามให้การคุ้มครองเขาอยู่ห่างๆ หากฟางหยวนล่อลวงพวกเขา มันก็ไม่ต่างจากการนำตนเองไปสู่ความตาย

สำหรับผู้ใช้วิญญาณของอีกสองตระกูล ฟางหยวนไม่เคยพบพวกเขา

การสุ่มเลือกกลุ่มที่ไม่รู้จักไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเนินการ หลังจากทั้งหมดสุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเลือกบางกลุ่มและเริ่มจัดฉาก

ไป่หนิงปิงเอนกายนอนอย่างสะดวกสบายเมื่อเสียงการต่อสู้ดังเข้าหูของเขา

ดวงตาที่เปิดขึ้นเล็กน้อยของเขาส่องประกายเย็นเยียบ

"ละครอีกฉากที่น่าเบื่อหน่าย" เขาเอนกายอยู่บนขอบหน้าผาและสามารถมองเห็นรอบๆ แต่เพียงเมื่อเขากำลังจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง เขากลับมองเห็นร่างของคนผู้หนึ่ง

"โอ้?" ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้นเมื่อเห็นฟางหยวน

ฟางหยวนนั่งพิงต้นไม้และกัดกินผลไม้ป่าโดยไม่มีความตั้งใจให้ความช่วยเหลือ

ไป่หนิงปิงสนใจฟางหยวนทันที เขาไม่เคยพบผู้ใดเหมือนคนผู้นี้ คนหนุ่มสาวรอบตัวเขาต่างจงรักภักดีต่อตระกูลและหลงใหลในระบบสายสัมพันธ์

แต่จากที่เขาเห็น ฟางหยวนดูเหมือนคุ้นเคยกับความโดดเดี่ยวและแปลกแยก

"เขาคือผู้ใด?" หัวใจของไป่หนิงปิงรู้สึกสับสนและสนใจ

ผลไม้ป่ากำลังถูกแทะเล็ม แต่ด้วยประสบการณ์ของฟางหยวน เขาสามารถรับรู้ได้ถึงอันตราย

ขณะที่น้ำผลไม้รสเปรี้ยวหวานละลายเข้าไปในปาก ใบหูข้างขวาของฟางหยวนกระตุก เขาได้ยินเสียงบางอย่างและมันอยู่ใกล้มาก

ไป่หนิงปิงนอนอยู่บนตำแหน่งที่สูงขึ้นไป ก่อนหน้านี้หญ้าใบหูปฐพีไม่สามารถได้ยินเสียงของเขา แต่ตอนนี้เมื่อเขาขยับ เขาจึงถูกค้นพบ

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกาย เมื่อเขาหันหลังกลับเขาจึง็พบกับชายผิวขาวที่มีเส้นผมสีขาวในชุดคลุมขาวถือดาบน้ำแข็งกำลัวกระโดดลงมาจากด้านบน

ไป่หนิงปิง!

ฟางหยวนจำคนผู้นี้ได้ทันที

อัจฉริยะอันดับหนึ่งของภูเขาชิงเหมา สัญลักษณ์ของตระกูลไป่ ผู้สังหารผู้ใช้วิญญาณระดับสามในเวลาที่ยังเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสอง เขาบรรลุระดับสามตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นคนสำคัญที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจบนภูเขาชิงเหมา

หากเป็นผู้ใช้วิญญาณคนอื่นที่ต้องเผชิญหน้ากับไป่หนิงปิง พวกเขาจะกังวลหรือหวาดกลัว

แต่สายตาของฟางหยวนยังนิ่งขณะที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของคนผู้นี้ การแสดงออกของเขายังเยือกเย็นและแทบไม่แยแส เนื่องจากฟางหยวนรู้จักไพ่ตายและความลับของไป่หนิงปิงเป็นอย่างดี

"โอ้..." ไป่หนิงปิงเดินเข้าไปหาฟางหยวนด้วยความรู้สึกโง่งม

เขาจ้องมองฟางหยวนราวกับค้นพบวัตถุบางอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ ยิ่งเขามองไปที่ฟางหยวนมากเท่าใด ดวงตาของเขาก็ยิ่งส่องประกาย ความสนใจของเขาที่มีต่อฟางหยวนยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

'คนผู้นี้ เหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายของเขา? มันเป็นความรู้สึกราวกับข้าเคยเห็นเขามาก่อน นานมาแล้ว ราวกับพวกเราเคยเป็นสหาย ความรู้สึกนี้!' หัวใจของไป่หนิงปิงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

สหาย! นี่เป็นคำที่เขารู้สึกไม่เชื่อถือ รังเกียจ และถึงกับเดียดฉันท์

แต่ตอนนี้ เขากลับรู้สึกถึงสิ่งนี้

นี่เป็นความรู้สึกลึกลับ แต่เขามั่นใจอย่างมาก เมื่อเขามองไปที่ฟางหยวน เขารู้สึกราวกับกำลังจ้องมองตัวเขาเอง

ไป่หนิงปิงไม่ได้เดินเข้าไปใกล้เกินไป ขณะที่ฟางหยวนใช้ดวงตาคู่สีดำสนิทจ้องมองมาที่เขา

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไป่หนิงปิงเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในการจ้องมองนี้

มันเป็นคำเตือน!

เขาหยุดเท้า ตะลึง และจ้องมองไปยังฟางหยวนด้วยสายตาแปลกประหลาด "เจ้าน่าสนใจ"

หากผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไป่ได้ยินถ้อยคำนี้ออกมาจากปากของไป่หนิงปิง พวกเขาอาจจะรู้สึกคลั่งไคล้

นั่นเป็นเพราะไป่หนิงปิงไม่เคยยกย่องผู้ใด

ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับละความสนใจไปจากคนผู้นี้โดยไม่คาดคิด เขากัดผลไม้ก่อนจะชำเลืองมองลงไปยังการต่อสู้ที่ดุเดือดด้านล่าง

ไป่หนิงปิงเดินวนไปรอบๆฟางหยวนและสังเกตเขาอย่างใกล้ชิดราวกับกำลังมองหาอาหารที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก เขากวาดตามองฟางหยวนทุกซอกทุกมุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

เส้นผมสีขาวของเขาสะท้อนแสงราวกับคริสตัลที่สะอาดบริสุทธิ์แต่มันเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจ

ชุดคลุมสีขาวของเขาก็เต็มไปด้วยโคลนไม่ต่างจากเส้นผม

เวลานี้เขาดูราวกับเด็กน้อยบริสุทธ์ไร้เดียงสากำลังจ้องมองสหายและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะพูดคุยแต่กลับไม่สามารถเปิดปาก

ไป่หนิงปิงต้องการพูดบางคำ แต่เมื่อเขามองไปยังฟางหยวน เขากลับรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องกล่าวเพราะฟางหยวนเข้าใจเรื่องที่เขาต้องการพูดคุยเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ เขาจึงเปิดปากขึ้นในที่สุด "สงครามบนภูเขาไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ มันมีสิ่งใดน่ามอง"

เขายกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนกล่าวต่อ "ข้าเห็นเจ้าล่อฝูงหมาป่ามาที่นี่ เจ้าต้องการฆ่าคนเหล่านี้ แต่เหตุใดเจ้าไม่ทำมันด้วยตนเอง โอ้ กลัวว่าจะทิ้งหลักฐาน เจ้าระวังตัวเกินไป จากกลิ่นอายของเจ้า เจ้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะทำมันด้วยตัวข้าเอง"

ทันใดนั้นเขากลับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับเห็นของเล่นที่น่าสนุกที่สุด "เจ้าน่าสนใจจริงๆ หลายสิ่งที่เจ้าทำล้วนน่าสนใจ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเริ่มชอบเจ้าแล้ว"

ฟางหยวนถอนสายตาจากการต่อสู้ด้านล่างและหันกลับมามองไป่หนิงปิง

เขารู้จักคนผู้นี้

นั่นเพราะคนผู้นี้เป็นปีศาจโดยธรรมชาติ

ปีศาจคือสิ่งใด?

ละทิ้งกฎเกณฑ์ของโลก ปฏิบัติต่อผู้คนอย่างไม่แยแส จมอยู่กับความโดดเดี่ยว และมองสายสัมพันธ์เป็นเรื่องน่ารังเกียจ

คนผู้นี้คล้ายเงาของฟางหยวน ความแตกต่างของพวกเขาอยู่ที่ฟางหยวนเดินอยู่ในจุดที่ลึกกว่า แต่ไป่หนิงปิงมีหัวใจปีศาจที่บริสุทธิ์มากกว่า

หากกล่าวอย่างง่ายๆ พวกเขาก็ไม่ต่างจากพี่น้อง

ในความทรงจำของเขา หลังจากสามตระกูลแทบจะล่มสลายเพราะสถานการณ์คลื่นหมาป่า เป็นไป่หนิงปิงผู้นี้ที่สังหารผู้คนและเปลี่ยนภูเขาชิงเหมาให้กลายเป็นนรกเยือกแข็ง

"ไป่หนิงปิง...ไป่หนิงปิง..." ฟางหยวนถอนหายใจและกล่าวออกมาอย่างช้าๆ "เจ้าเหงามากงั้นหรือ?"

ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายขึ้นพร้อมกับพยักหน้าอย่างต่อเนื่องราวกับพบบางคนที่เข้าใจ เขาถอนหายใจก่อนกล่าว "ถูกต้อง ชีวิตทุกวันนี้ช่างน่าเบื่อนัก บางครั้งข้าก็สังหารผู้คนตระกูลซ่งและขโมยวิญญาณของพวกเขาเพื่อความเพลิดเพลินเล็กๆน้อยๆ"

ฟางหยวนมองไปยังวิญญาณหัวขโมยในมือของไป่หนิงปิงก่อนจะเริ่มหัวเราะ "ดังนั้น เจ้าจึงต้องการฆ่าข้า?"

ดวงตาของไป่หนิงปิงเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีฟ้าและเริ่มยืดตัวขึ้น

"ฮ่าฮ่าฮ่า" เขาเงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะจ้องมองไปยังฟางหยวนด้วยความตื่นเต้น "เจ้ารู้จริงๆ นั่นถูกต้องแล้ว ข้าต้องการฆ่าเจ้า เข้ามาฆ่าข้าเช่นกัน การต่อสู้แห่งชีวิตและความตายสนุกที่สุด ได้พบบางคนที่น่าสนใจเช่นเจ้า ข้าสาบานว่าข้าจะทำอย่างดีที่สุด"

เขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้นและมากขึ้น เขาเปิดแขนและโค้งศีรษะ "อา...ข้าไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของข้ามีสีสันเช่นนี้มาก่อน ขอบคุณ ขอบคุณ แม้ข้าจะไม่รู้จักชื่อของเจ้า แต่ก็ขอบคุณที่ให้ข้าฆ่าเจ้า! ฮ่าฮ่าฮ่า"