ตอนที่แล้วตอนที่ 90 – ลูกพีชเวทย์มนตร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 92 – เลี้ยงปลาเพลิง

ตอนที่ 91 – เมล็ดหัวไชเท้า


เมอร์รินและเม็กนั้นชอบที่จะอยู่ในมิติ เพราะว่ามันเหมือนกับสวนสวรรค์

โดยเฉพาะเมื่อเธอค้นพบพวกเขานั้นสามารถที่จะฝึกฝนเวทย์มนตร์ได้เร็วกว่าการฝึกข้างนอก ซึ่งเม็กนั้นเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเรื่องนี้

เม็กนั้นเป็นนักเวทย์ระดับหกจึงมีพื้นที่ในการพัฒนาตัวเองอย่างมาก ตอนที่เธออยู่ในมิติก่อนหน้านี้ เธอนั้นไม่ได้ฝึกเวทย์มนตร์เลยเนื่องจากเธอนั้นยุ่งอยู่กับงานต่างๆ จนกระทั่งเธอได้มีเวลาในฝึกและก็พบว่าเธอนั้นฝึกนั้นได้ผลเร็วกว่าอยู่ข้างนอก

เมื่อรู้สึกถึงความแตกต่างแล้ว เธอก็บอกกับเมอร์รินถึงเรื่องนี้

เมอร์รินนั้นไม่ได้ฝึกเวทย์มนตร์มานานแล้ว เนื่องจากเธอนั้นเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งระดับแปด ซึ่งถึงจุดตันของเธอแล้ว และแม้ว่าเธอจะฝึกเวทย์มนตร์ต่อ มันก็ไม่ใช้เวลาสั้นๆในการที่จะเลื่อนระดับไปอีกขึ้น เนื่องจากเมอร์รินเองนั้นยุ่งอยู่กับงานและไม่ได้ฝึกเวทย์มนตร์แล้ว แน่นอนว่าเธอจึงไม่สังเกตเห็นถึงเรื่องนี้

เมื่อเม็กบอกเธอถึงเรื่องนี้แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะลองดูก็พบว่ามันเป็นไปอย่างที่เม็กบอกว่าเธอนั้นสามารถที่จะฝึกพลังเวทย์ได้เร็วขึ้น กว่าข้างนอกถึงครึ่งหนึ่งเลย

เมอร์รินก็บอกเรื่องนี้กับเจ่าไห่เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจมันสักเท่าไหร่เนื่องจากว่าเจ่าไห่นั้นไม่สามารถที่จะฝึกเวทย์มนตร์ได้ การค้นพบนี้จึงไม่ส่งผลอะไรกับเขา และตราบใดที่มันทำให้เม็กและเมอร์รินแข็งแกร่งขึ้นได้ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

และในที่สุดก็ถึงเวลาที่พืชต่างโตเต็มที่แล้ว ซึ่งหัวไชเท้านั้นไม่ได้เป็นผักที่โตเต็มที่เป็นชนิดแรก แต่กลับเป็นถั่วที่โตเต็มที่ก่อน ถั่วนั้นใช้เวลาเพียงแค่สิบแปดชั่วโมงก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว ซึ่งเจ่าไห่นั้นไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเร็วเช่นนี้ เขาจึงทำการเก็บเกี่ยวมันทันที ซึ่งถั่วนั้นนอกจากที่จะใช้เป็นอาหารได้แล้ว มันยังสามารถใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ่าไห่ก็ไม่คิดที่จะปลูกถั่วเพิ่มในตอนนี้

เมื่อทำการเก็บเกี่ยวถั่วเสร็จแล้ว เขาก็มีพื้นที่ว่างขึ้นกว่าสองมู่ และไม่จำเป็นต้องคิดเลย เขาลงมือที่จะปลูกต้นลูกพีชเวทย์มนตร์ทันที เนื่องจากว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขามาก

เนื่องจากว่าในพื้นที่หนึ่งมู่นั้นปลูกต้นลูกพีชเวทย์มนตร์ได้ต้นเดียว จึงทำให้พื้นที่นั้นโล่งมาก ดังนั้นเจ่าไห่จึงลองที่ลงเมล็ดข้าวโพดลงไป แต่ผลของมันคือเมล็ดข้าวโพดนั้นเหี่ยวลงทันทีที่ปลูก

ตอนนี้เมื่อเมล็ดต้นลูกพีชเวทย์มนตร์ถูกปลูกลงไปแล้ว พื้นที่นั้นก็กลายเป็นสิ่งมีค่า จนไม่มีใครกว่าที่จะเดินไปเนื่องจากกว่าว่าจะส่งผลกับการเติบโตของมัน ซึ่งหากใครต้องการที่จะมาพื้นที่ใกล้ๆ พวกเขาก็จะเดินอ้อมแทน

เมื่อเวลาผ่านไปสองชั่วโมงแล้วหลังจากปลูกต้นลูกพีชเวทย์มนตร์ หัวไชเท้าก็พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว  แต่เพื่อที่จะทำให้สามารถที่จะเก็บเกี่ยวเมล็ดหัวไชเท้าได้นั้น เขาจะต้องรอให้มันเติบโตกว่ายี่สิบชั่วโมงเสียก่อน แต่เมื่อเจ่าไห่เก็บเกี่ยวมันได้ ก็ทำให้เขานั้นรู้สึกมีความสุขอย่างมาก เนื่องจากว่าเขาสามารถเก็บเกี่ยวหัวไชเท้าได้ถึง 160 กิโลกรัม ซึ่งหมายถึง 80 กิโลกรัมต่อหนึ่งมู่

ตอนนี้เขาก็ทำการเก็บเกี่ยวมันเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็ต้องการรู้ว่าเขานั้นได้รับเมล็ดหัวไชเท้าได้มากแค่ไหน ซึ่งเจ่าไห่ก็อดหัวเราะไม่ได้เมื่อพบว่าเขาได้เมล็ดหัวไชเท้ามาถึง 2 กิโลกรัมจากทั้งสองมู่นี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องเมล็ดหัวไชเท้าอีกแล้ว

สองชั่วต่อถัดไป ฟักทองก็เติบโตเต็มที่ ซึ่งเมื่อเขาทำการเก็บเกี่ยวมันเขาโรงนาเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ปลูกหัวไชเท้าแทน และในที่สุดเขาก็ทำการเก็บเกี่ยวแตงกวาที่ใช้เวลากว่ายี่สิบแปดชั่วโมงในการเติบโต และในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ทำการเก็บเกี่ยวผลน้ำมันอีกด้วย

เมื่อตรวจสอบดูว่าจำนวนของในมิติแล้วก็พบว่าตอนนี้เขามีเงินหนึ่งร้อยห้าสิบเหรียญทอง แตงกวา ,ฟักทอง ,บร็อคโคลี่ ,กะหล่ำปลี ,มะเขือม่วง และข้าวสาลีจำนวนพื้นที่ 2 มู่ และหัวไชทเท้าอีก 8 มู่ นอกจากนี้ยังมีผลน้ำมันรอบที่ 15 และข้าวโพดรอบที่ 28 อีกด้วย

เจ่าไห่นั้นไม่ต้องการให้ใช้ข้าวโพดเป็นอาหารสัตว์โดยตรง เพราะมันใช้เป็นอาหารได้และเมื่อนำไปผ่านกระบวนการบางอย่างแล้ว เมื่อรวมกับรำข้าวแล้วจะใช้เป็นอาหรสัตว์ได้ พร้อมกับใบหัวไชเท้าและกากของผลน้ำมัน ซึ่งก็เพียงพอที่จะเลี้ยงสัตว์อสูรได้

แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่มีสัตว์อสูรในมิติ แต่ในไม่ช้าเขาก็จะมีแล้ว เนื่องจากบลูอายแรบบิทกว่าสามร้อยตัวนั้นก็ถึงว่าไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย เขาจำได้ว่าตอนที่เล่นเกมนั้น แค่กระต่ายธรรมดาก็ใช้อาหารกว่าหนึ่งปอนด์ทุกๆสองชั่วโมง

แม้ว่าบูลอายแรบบิทนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเดียวกัน แต่เจ่าไห่ก็ไม่รู้ว่ามันจะกินอาหารมากเท่าไหร่และต้องรอจนกว่ากรีนกลับมาถึงจะรู้ได้

อย่างนอกตอนนี้เขาก็มีใบหัวไชเท้าจำนวนมาก ซึ่งน่าจะเพียงพอไปชั่วระยะหนึ่ง และเมื่อพวกทาสนั้นปลูกต้นอัลฟาฟ่าบนภูเขาหินเหล็กแล้ว เขาสามารถใช้มันเป็นอาหารสัตว์ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วหลังจากที่ลอร่าช่วยพวกเขาขายหัวไชเท้าแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะซื้อเครื่องกดน้ำมันได้ เมื่อรีดน้ำมันออกจากผลน้ำมันแล้ว กากของมันก็สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ได้อีกด้วย

อย่างก็ก็ตาม เจ่าไห่นั้นยังไม่พร้อมที่จะเลี้ยงสัตว์อสูรจำนวนมาก เขาต้องการที่จะมีพื้นที่ว่างบางส่วนไว้สำหรับสัตว์อสูรบางชนิดที่เขาต้องการจะจับมัน

หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว เจ่าไห่ก็รู้สึกเบื่อก่อนจะตรวจสอบสิ่งต่างๆบนหน้าจอ อย่างแรกเลยเขานั้นมองไปที่ปราสาท พวกทาสชายนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการซ่อมกำแพงปราสาท ส่วนอยู่ทาสหญิงก็จัดเตรียมที่จะปลูกต้นอัลฟาฟ่า ซึ่งเจ่าไห่ก็รู้สึกพอใจกับการทำงานในตอนนี้

ตัวผนังปราสาทนั้นไม่มีเวทย์มนตร์ป้องกันใดๆ ดังนั้นแล้วความสามารถในการป้องกันมันจึงจำกัด แต่อย่างน้อยการซ่อมแซมมันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

สำหรับต้นอัลฟาฟ่านั้นเป็นพืชที่ปลูกไม่ง่าย แต่มันก็ไม่ยากจนเกิดไป เพียงแค่ขุดหลุมเล็กๆก่อนจะใส่เมล็ดและรดน้ำ และต้องคอยหมั่นกำจัดวัชพืชต่างๆ ไม่งั้นแล้วพวกมันจะขึ้นแข่งกับต้นอัลฟาฟ่านี้

ส่วนวัชพืชที่ถูกกำจัดออกไปนั้นก็ไม่เสียเปล่า เดซี่นั้นเตรียมใช้มันในการทำเสื่อ นอกจากนี้แล้วเธอเองก็ยังไม่หยุดที่จะค้นคว้าในการสร้างเรือแม้ว่าตอนนี้จะมีไม้ใช้แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างนั้นก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้หน้าที่หลักของพวกเขาคือการปลูกต้นอัลฟาฟ่าเมล็ดมันมีขนาดเล็ก แต่เพราะกรีนต้องการที่จะพัฒนาพื้นดินบนภูเขาเหล็ก เขาจึงนำมันมาด้วย พวกเขานั้นใช้เวลาทั้งหมดไปการปลูกต้นอัลฟาฟ่า ,ทอเสื่อ และค้นคว้าวิธีการสร้างเรือ

เมื่อเห็นว่าที่ปราสาทนั้นไม่มีอะไรแล้ว เขาจึงติดต่อไปหาดรังค์ ซึ่งตอนนี้เขาอยู่ในบึงซากศพแล้ว แต่อยู่แค่รอบนอกเท่านั้น เขาและนักเวทย์มนตร์ดำคนอื่นๆนั้นยังไม่เจอสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเลย

เขานั้นใช้มิติในการสื่อสารกับดรังค์ แต่ว่าบึงซากศพนั้นอยู่นอกรัศมีของจุดวาร์ป ทำให้เจ่าไห่ไม่สามารถที่จะเห็นภาพได้ จึงทำได้เพียงแค่ซักถามเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ดรังค์ก็เชื่อฟังต่างที่เจ่าไห่สั่งแบบคำต่อคำ พวกเขานั้นไม่รีบที่จะรุดหน้าเข้าไปข้างใน แต่ทำเพียงแค่สำรวจรอบตัวบึงซากศพ

เมื่อไม่พบอะไรผิดปกติ เจ่าไห่ก็รู้สึกสบายใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนภาพหน้าจอกลับไปยังภูเขาหิน ซึ่งสเกลและบริกซ์อยู่ที่นั้น ทุกอย่างนั้นสงบนิ่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนอกจากอันเดตที่กำลังขนหิน

ในขณะที่เบื่ออยู่นั้น เจ่าไห่ก็เลื่อนนิ้วไปบนหน้าจอเรื่อยๆ จนกระทั่งเขานั้นเห็นบางอย่างที่หน้าสนใจบนหน้าจอของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด