ตอนที่แล้วตอนที่ 83 – เลือดปู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 85 – ฟังก์ชั่นใหม่

ตอนที่ 84 – โกยกันเถอะ


ตอนเที่ยงคืน ก็มีเสียงแจ้งเตือนบอกให้เจ่าไห่นั้นว่าผลผลิตของเขานั้นเติบโตเต็มที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวแล้ว แต่เขาก็ยังหลับต่อจนถึงเช้า

เขานั้นต้องการดูว่าถ้าเขานั้นปล่อยหัวไชเท้าต่อไปในมิติแล้วมันจะสามารถที่จะผลิตเมล็ดพันธุ์ได้หรือไม่ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงไม่ทำการเก็บเกี่ยวมันในทันที

แต่น่าเสียดายเมื่อรุ่งเช้า เจ่าไห่ก็เข้าไปในมิติก็พบว่าหัวไชเท้าเหล่านั้นก็อยู่ในสภาพที่โตเต็มที่เท่านั้นเอง

เจ่าไห่จึงบ่นพึมพำ “ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยถ้าผมปล่อยมันไว้ในมิติเช่นนี้”

จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับมาว่า [ต้องการ Lv 10 เพื่อที่จะสามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ได้ ]

เจ่าไห่ตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะรู้สึกดีใจ เขานั้นคิดว่าจะไม่สามารถที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์จากหัวไชเท้าได้แล้ว แต่เขาก็พบว่าตราบใดที่เขานั้นสามารถที่จะเพิ่ม Lv จนถึงระดับ 10 ได้นั้นเขาก็จะสามารถทำมันได้

ด้วยการที่เจ่าไห่นั้นรู้ว่า Lv 10 นั้นเป็นอุปสรรคที่จะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะว่ามันทำให้เขานั้นสามารถที่จะอะไรได้มากขึ้นอย่างมากมาย

เจ่าไห่ที่อยู่ในอารมณ์ดีนั้นก็ทำการเก็บเกี่ยวหัวไชเท้ารวมถึงข้าวโพดและผลน้ำมันก่อนจะออกไปจากมิติ

เมื่อวานกรีนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว วันนี้เขาจึงพร้อมที่จะออกเดินทาง ในตอนเช้าหลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เจ่าไห่ก็ให้อันเดตซึ่งฉลาดกว่าเดิม แม้ว่ามันจะยังไม่สามารถที่จะสื่อสารได้แต่มันยังสามารถที่จะทำตามคำสั่งได้

เจ่าไห่จึงไม่กลัวเมื่อเขานั้นสั่งเอเลี่ยนว่าไม่ให้อยู่ห่างจากกรีนมากนัก และเมื่อผ่านไปสี่ชั่วโมง มันก็หยุดกรีนก่อนจะนำเขากลับมายังคฤหาสน์

แม้ว่ากรีนนั้นจะไม่กลัวอะไร แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความเมตตาของเจ่าไห่ เขาอาจจะไม่สามารถที่จะหาพืชที่ต้องการได้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

ความจริงแล้วในป่านั้นสามารถหาพืชระดับสูงได้มากมาย แต่บางส่วนก็เป็นพืชเวทย์มนตร์ระดับสูงที่มีความก้าวร้าว และยังสามารถใช้เป็นวัสดุเวทย์มนตร์ได้ ซึ่งถ้าสามารถนำพืชเวทย์มนตร์ไปขายในเมืองได้ มันก็จะมีราคาที่สูงมาก

ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพืชเช่นนี้แถวนี้ เนื่องจากว่าภูเขาแห่งนี้อยู่ใกล้เมืองคาซ่า และยังมีคฤหาสน์อื่นนั้นตั้งอยู่บริเวณนี้ด้วย แม้ว่ามันจะไม่มีคฤหาสน์อยู่แถวนี้ก็ตาม ก็คงจะมีทหารรับจ้างจำนวนมากนั้นมาสำรวจภูเขาแถวนี้หลายครั้งเพราะว่าพืชเวทย์มนตร์ระดับสูงนั้นมีราคาที่สูงมาก

ดังนั้นเจ่าไห่จึงไม่มีความหวังมากนักว่ากรีนจะหาอะไรพบ มันเหมือนกับการใช้ยาวที่จะรักษาม้าที่กำลังจะตาย พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะรอจนขายหัวไชเท้าได้ แต่ถ้าพวกเขานั้นรวยก็คงอาจจะจ้างทหารรับจ้างมาช่วยหาพืชระดับสูงเช่นนี้ แต่ด้วยตอนนี้เขาจึงทำเช่นนั้นไม่ได้

คนที่คอยสอดแนมอยู่นั้นก็สังเกตเห็นเอเลี่ยนนั้นเดินออกมาจากภูเขาหินก่อนจะเห็นกรีนนั้นนั่งอยู่บนตัว

การเคลื่อนไหวของกรีนนั้นทำให้คนที่สอดแนมนั้นจับตามองไปที่เอเลี่ยน แต่พวกเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเอเลี่ยนนั้นไม่ได้เดินทางไปตามถนนแต่กลับเข้าไปในป่าซึ่งทำให้ให้คนที่สอดแนมนั้นกลัวขึ้นมา ในทวีปนั้นทุกคนรู้ดีว่านักเวทย์มนตร์ดำนั้นมีนิสัยประหลาด ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าพวกเขานั้นถูกพบแล้ว และเขากำลังส่งอันเดตมาล่าพวกเขา ทำให้บางคนนั้นวิ่งหนีไป

ซึ่งคนที่วิ่งหนีนั้นเป็นทหารรับจ้างที่ถูกจ้างมาจากตระกูลเล็กๆ พวกเขานั้นต่างจากมือสังหารที่มาจากตระกูลใหญ่ มือสังหารเหล่านี้จะทำภารกิจให้สำเร็จแม้ว่าจะแลกด้วยชีวิตของพวกเขา ตราบใดที่งานสำเร็จแล้วมันก็คุ้มค่า แต่ทหารรับจ้างนั้นไม่มีความจงรักภักดีเช่นนั้น พวกเขานั้นทำงานเพื่อเงิน แต่เมื่อพบกับอันตรายถึงชีวิตแล้ว พวกเขาจะหนีไปทันที

กรีนนั้นรู้ดีว่ามีคนสอดแนมพวกเขาอยู่ ซึ่งเมื่อเขานั้นออกมาจากภูเขาหิน เขาก็ระวังตัวและพบว่ามีคนมากๆซ่อนตัวอยู่ แต่กรีนก็ไม่ได้คิดจะแตะต้องพวกเขา นอกจากนี้แล้วเขาก็ไม่กังวลคนเหล่านี้เลย

ภายใต้ความสนใจของทุกคน เอเลี่ยนนั้นก็พากรีนเข้าไปในป่า ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วกรีนก็ลงจากเอเลี่ยนก่อนจะมองไปรอบ

ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าป่าแห่งนี้ได้ทำการสำรวจไปแล้ว แม้ว่ามันจะยังมีต้นไม้อยู่ที่นี้ แต่ก็มีรอยเหยียบย่ำซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนเดินสัญจรไปมา และยังเห็นมีหลายจุดนั้นถูกขุดขึ้นมา ซึ่งสรุปได้เลยว่าสิ่งที่มีประโยชน์นั้นถูกขุดออกไปแล้ว

กรีนส่ายหัว ก่อนจะไปยังอีกส่วนของป่าในขณะนั้นก็มองหาพืชที่อาจจะเป็นที่ต้องการของเจ่าไห่ แม้ว่าจะมีพืชหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ในทวีป แต่เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมันเลย

แม้ว่ากรีนนั้นเป็นนักรบที่ไม่มีความรู้เรื่องการแปรธาตุเลย แต่อย่าลืมว่าเมอร์รินนั้นเป็นนักเวทย์ ซึ่งทำให้รู้วิธีการสร้างยาเวทย์มนตร์อยู่บาง ด้วยเหตุนี้กรีนที่อยู่กับเธอมานานยอมรู้เรื่องราวของพืชเวทย์มนตร์อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่พบพวกมันเลย

กรีนก็ถอนหายใจในขณะที่เขากำลังสำรวจป่า แต่ในขณะที่เข้าไปในป่าลึกนั้นทันใดนั้นเขาก็เป็นผลไม้ป่าสองลูก

ผลไม้ป่านี้เป็นต้นไม้ทั่วไปในทวีป แม้ว่ามันจะมีรสชาติที่ดี แต่มันก็ให้ผลผลิตไม่สูง ดังนั้นจึงไม่มีใครใช้มันทำฟาร์มขนาดใหญ่ และมันไม่ใช่พืชเวทย์มนตร์ จึงไม่มีขุนนางคนไหนกินพวกมัน และโดยทั่วไปแล้วสามัญชนก็ไม่ปลูกมันเพื่อเป็นอาหาร ซึ่งถ้าหากพวกเขานั้นต้องการจะหาผลไม้นี้ทานแล้ว พวกเขาจะเข้ามาในป่าเพื่อเก็บเกี่ยวมันมากกว่า

ต้นไม้ทั้งสองนั้นดูธรรมดาเกินไปจนกรีนไม่ทันได้สังเกตุเห็นจนกระทั่งตอนนี้ เมื่อเขาเห็นผลไม้ทั้งสอง เขาก็ใช้ดาบนั้นตัดกิ่งมันออกมา ก่อนจะใส่เข้าไปในตัวของเอเลี่ยน

กรีนทำเช่นนี้ก็เพราะว่าต้นไม้เหล่านี้เมื่อนำมันลงไปปักในพื้นดินแล้ว มันจะค่อยโตจนกลายเป็นต้นไม้ใหม่ได้นั้นเอง

คนที่คอยสอดแนมนั้นเมื่อเห็นกรีนทำเช่นนั้นก็ตะลึง พวกเขานั้นไม่เข้าใจว่ากรีนกำลังทำอะไร สิ่งนี้นั้นพบได้ทั่วไปในภูเขา แต่กรีนนั้นกลับทำเหมือนกับว่าได้รับสมบัติอะไรบางอย่างงั้นล่ะ

พวกเขานั้นจ้องมองพฤติกรรมแปลกของกรีน ซึ่งพวกเขานั้นก็พร้อมที่จะรายงานทุกเรื่องที่พบกลับไปยังตระกูล พร้อมทั้งเก็บต้นไม้ที่กรีนนั้นเก็บไปเพื่อที่จะไปดูว่ามันสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างอีกด้วย

กรีนนั้นเดินไปรอบๆ และเขานั้นก็จำไม่ได้แล้วว่ามีต้นไม้กี่ต้นที่เขานั้นเก็บไป นั้นก็เพราะว่าเขานั้นเก็บแม้กระทั่งพืชทั่วไป รวมทั้งต้นหญ้ายาวด้วย

กรีนนั้นเข้าป่าลึกในภูเขากว่าสามชั่วโมง เขาหาพืชและใส่ในเข้าไปในตัวเอเลี่ยน ก่อนจะหยุดลงและมุ่งตรงกลับไปยังภูเขาหิน

เมื่อกรีนจากไปแล้ว คนที่สอดแนมก็รีบเข้าไปเก็บพืชที่กรีนนั้นเก็บไปและส่งมันกลับไปยังตระกูลและรายงานแก่พวกเขา ความจริงนั้นกรีนไม่ได้ทำอะไรที่อุกอาจเลย เขานั้นทำเพียงแค่เก็บพืชต่างๆธรรมดาทั่วไป แต่เพราะการกระทำของเขานั้นดูน่าสงสัย

กรีนนั้นไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านี้จะมีการตอบสนองอย่างไร เขานั้นสนใจแค่ว่าพวกเขานั้นปกปิดตัวตนของตัวเองได้ ตราบใดที่มันไม่ถูกเปิดเผยแล้ว เขาก็ไม่กลัวอะไรแล้ว

เมื่อกรีนกลับมายังภูเขาหินนั้นมันก็ถึงเวลาเที่ยงซึ่งเป็นเวลาในการทานอาหารกลางวัน เมอร์รินก็เตรียมอาหารให้เขากิน และเจ่าไห่ก็นำเอเลี่ยนที่มีพืชต่างๆอยู่เต็มตัวเข้าไปในมิติไม่ว่าพืชนั้นจะดีหรือแย่แค่ไหน

เมื่อพืชเหล่านั้นเข้าไปมิติก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า ….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด