ตอนที่ 82 – เพิ่ม 3 Lv
กรีนตื่นขึ้นมาอีกทีก่อนเที่ยง หลังจากนั้นเขาก็ลุกจากเตียงมาล้างหน้าล้างตาก่อนจะออกไปจากห้อง
ตอนนี้ทั้งคฤหาส์นั้นกำลังยุ่งวุ่นวาย เนื่องจากอันเดตที่ขนหินจากข้างนอกเข้ามาข้างใน และพวกทาสก็กำลังเรียนและลองสร้างอุปกรณ์จากหินเหล่านั้น
หินพวกนี้นั้นมีความแข็งมากซึ่งยากที่จะนำไปใช้สร้างอะไรเมื่อขาดเครื่องมือต่างๆ ซึ่งถ้าหากต้องการทำหินโม่แล้ว พวกเขาก็ต้องใช้เวลานานในการสร้างมันขึ้นมา นอกจากนี้แล้วทาสเองก็ยังไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ทักษะของพวกเขาเรียกได้ว่าอยู่ในระดับคนฝึกงานเท่านั้น
โดยมีผู้ชายนั้นคอยขนส่งและผู้หญิงทำความสะอาดหิน และบางส่วนก็ทำการเจียรหินพวกนี้ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่านี้นั้นเป็นโรงงานแปรรูปหินขนาดใหญ่ ถ้าหากคนข้างนอกเข้ามาเห็นแล้ว พวกเขาคงจะไม่เชื่อสายตาตัเอง ซึ่งก็เพราะว่าเจ่าไห่นั้นทำให้ภูเขาหินนี้กลายเป็นสถานที่แห่งความลึกลับ
เจ่าไห่ที่กำลังยืนอยู่ที่ลาน ซึ่งเขานั้นก็ไม่ได้ชอบที่ยืนมองพวกทาสอย่างนี้ แต่เพราะว่าเขานั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย จึงทำได้เพียงแค่ยืนและคอยส่งหินที่อันเดตนั้นลำเลียงมาเข้าไปในมิติ
ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นทำให้พวกทาสเข้าใจนิสัยของเจ่าไห่มากขึ้น มันไม่สำคัญว่าคุณจะหัวเราะกับเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยโกรธเลย ตอนนี้พวกเขานั้นคุ้นเคยกับการปรากฎตัวของเจ่าไห่มากขึ้น
ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเพราะพวกเขานั้นอยู่ในมิติของเจ่าไห่ และไม่เคยห่างไกลจากแหล่งอาหารและน้ำเหมือนกับตัวของเจ่าไห่ด้วย หรือจะให้แน่ชัดก็คือชีวิตประจำวันของเขานั้นอยู่เจ่าไห่ ทำให้พวกทาสนั้นลดความตึงเครียดลง ตอนนี้แม้ว่าเจ่าไห่นั้นจะไปยืนอยู่ข้างๆพวกเขา พวกเขาก็ไม่รู้สึกกดดันอะไร
จากนั้นเจ่าไห่ก็เห็นกรีนที่ตื่นขึ้นมาแล้ว เขาก็จึงเดินเข้าไปหา “ปู่กรีนครับ ผมหวังว่าพวกเราคงไม่ได้ทำให้คุณตื่นขึ้นมานะครับ”
“ไม่ครับ นายน้อย” กรีนกล่าวขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัว “ผมนำเมล็ดพันธุ์พืชกลับมาตามที่คุณขอ พวกเราเข้าไปในบ้านและดูสิ่งของเหล่านี้ก่อนเถอะครับ”
เจ่าไห่พยักหน้าก่อนจะตามกรีนเข้าไปในบ้าน เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้วก็พบถุงขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับใช้งานกับหินต่างๆ ถ้าไม่ใช่กรีนแล้วมันก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขนสิ่งของเหล่านี้กลับมาที่ภูเขาหินด้วยเวลาเพียงสั้นๆเช่นนี้
กรีนนั้นเอาเครื่องมือต่างๆออกมาก่อนจะส่งถุงเมล็ดพันธุ์พืชให้กับเจ่าไห่ เมล็ดพันู์พืชนั้นแบ่งออกเป็นถุงๆ ดังนั้นเจ่าไห่จึงส่งมันเข้าไปมิติ แม้ว่าเขาจะดื่มน้ำแห่งความว่างเปล่าเข้าไปซึ่งทำให้เขานั้นมีแรงน้อยกว่าคนปกติแต่ด้วยน้ำแค่นี้นั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา
เจ่าไหที่รับเมล็ดพันธุ์พืชมาก็พูดกับกรีนว่า “ผมขอตัวก่อน” จากนั้นเขาก็หายไปต่อหน้าต่อตากรีนซึ่งไม่ได้พูดอะไรเลยในขณะที่กำลังถือเครื่องมือต่างๆ
ภายในมิตินั้น เจ่าไห่ไม่สามารถที่จะอดใจเปิดถุงเมล็ดพันธุ์พืชได้ จากนั้นก็มีเสียงดังออกมาพร้อมกับรายการเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆจนทำให้เขานั้นมึนงง
[พบเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่ ประเมินคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ทีให้ดีขึ้นทำการแทนที่เมล็ดพันธุ์ข้าวภายในมิติ ตอนนี้คุณสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์นี้ในร้านค้ามิติแล้ว]
[พบเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่ ประเมินคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณสมบัติกำจัดเมล็ดพันธุ์]
[พบเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่ ประเมินคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ให้ผลผลิตสูง ทำการสกัดข้อดีออกมา เสริมความแข็งแกร่งให้กับพืชตระกูลถั่วในมิติ ตอนนี้คุณสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์นี้ในร้านค้ามิติแล้ว]
[พบเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่ ประเมินคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ……………]
เจ่าไห่ไม่สามารถมองตามการแจ้งเตือนขึ้นมาได้ เขาจึงเข้าไปในกระท่อมก่อนจะเปิดหน้าจอดูหน้าต่างร้านค้าขึ้นมา แน่นอนว่ามันมีเมล็ดพันธุ์พืชใหม่ปรากฎขึ้นมา
แม้ว่าเสียงแจ้งเตือนจะยังดังไม่หยุด แต่ก็เห็นว่ามีเมล็ดพันธุ์พืชใหม่กว่าสิบชนิด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญสำหรับเจ่าไห่ เพราะสิ่งที่เขาต้องการคืออยากรู้ว่ามันจะสามารถเพิ่ม Lv ให้กับมิติมากแค่ไหน
เมื่อรายการแจ้งเตือนเมล็ดพันธุ์เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็มีเสียงดังขึ้นมาอีกอย่างว่า
[เนื่องจากการค้นพบของเมล็ดพันธุ์พืชใหม่ทำให้ Lv ของมิติเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 7 คุณสามารถขยายพื้นที่ได้อีก 2 มู่ คุณจะได้รับของรางวัลเป็น ถุงของเมล็ดถั่ว 1 ถุง ซึ่งสามารถใช้ในการเพราะปลูกได้ถึงสองมู่]
[เนื่องจากการค้นพบของเมล็ดพันธุ์พืชใหม่ทำให้ Lv ของมิติเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 8 คุณจะได้รับของรางวัลเป็น ถุงของเมล็ดแตงกวา 1 ถุง ซึ่งสามารถใช้ในการเพราะปลูกได้ถึงสองมู่]
[เนื่องจากการค้นพบของเมล็ดพันธุ์พืชใหม่ทำให้ Lv ของมิติเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 9 คุณสามารถขยายพื้นที่ได้อีก 2 มู่ คุณจะได้รับของรางวัลเป็น ถุงของเมล็ดฟักทอง 1 ถุง ซึ่งสามารถใช้ในการเพราะปลูกได้ถึงสองมู่]
จากนั้นเสียงก็หยุดลง
ด้วยเมล็ดพันธุ์พืชที่กรีนนั้นนำกลับมานั้นทำให้ Lv ของมิติเพิ่มขึ้นไปสามระดับแต่มันก็ไม่ทำให้เจ่าไห่นั้นพอใจ เพราะเขานั้นต้องการที่จะใช้เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นจนถึง Lv 10 เพื่อที่จะสามารถเปิดทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงแค่เพิ่มแหล่งรายได้แล้ว มันยังสามารถจับสัตว์อสูรระดับสูงเข้ามาในมิติได้ด้วย
แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายิ่งมี Lv ที่สูงมากเท่านั้นการเพิ่ม Lv ก็จะยากขึ้นตามไปด้วย แม้ว่ากรีนนั้นจะนำเมล็ดพืชจำนวนมากมา แต่มันก็เพิ่ม Lv ได้แค่ถึง Lv 9
เจ่าไห่นั้นถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังโรงนา เพราะว่ามันมีการแจ้งว่าเขานั้นสามารถขยายพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น แต่มันต้องใช้เงิน ตอนนี้เขานั้นมีเงินอยู่เพียงแค่หกร้อยเหรียญทองเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่เพียงพอที่จะใช้ในการขยายพื้นที่
สิ่งเดียวที่เจ่าไห่ทำได้ในตอนนี้คือการขายของบางอย่างในมิติเพื่อแลกเป็นเงิน เพื่อที่จะใช้ในการขยายพื้นที่สำหรับการเพราะปลูก
ในมิตินั้นมีต้นผลน้ำมันที่เติบโตอยู่และเขาก็ไม่อยากที่จะเสียข้าวโพดไป แต่ผลผลิตอื่นๆนั้นก็มีเพียงเล็กน้อยซึ่งถ้าขายไปก็ให้เงินได้ไม่มากพอ สิ่งเดียวที่เขาขายได้ตอนนี้คือหัวไชเท้า
เจ่าไห่จึงทำได้แต่สาปแช่งในใจ ในตอนนี้เขานั้นมีหัวไชเท้าที่มีค่าประมาณหนึ่งห้าร้อยเหรียญถ้าหากขายในมิติ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่เหลือก่อนหน้านี้หกร้อยเหรียญทองก็จะสามารถขยายพื้นที่ได้ แต่เขาก็จะเหลือเงินไม่มากนัก
แต่ตอนนี้เจ่าไห่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขานั้นจำเป็นต้องขายหัวไชเท้านี้เพื่อขยายพื้นที่ในการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึง หนึ่งพันเจ็ดร้อยเหรียญทอง เนื่องจากว่าการขยายพื้นที่ตอน Lv 7 นั้นต้องใช้เงินเจ็ดร้อยเหรียญทอง ส่วน Lv 9 นั้นใช้เงินหนึ่งพันเหรียญทอง ดังนั้นเจ่าไห่จะเหลือเงินสี่ร้อยเหรียญ แต่เขาก็ต้องใช้อีกหนึ่งร้อยห้าสิบเพื่อที่จะซื้อเมล็ดหัวไชเท้าเพื่อปลูกลงในพื้นที่เพราะปลูกใหม่
เดิมทีนั้นเขาจะปลูกพื้นอื่นๆในพื้นที่ใหม่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลอร่าจะกลับมาเมืองคาซ่า ซึ่งเมื่อเธอนั้นกลับมา และพวกเขานั้นกลับไม่มีหัวไชเท้าขายมันก็คงจะน่าอายน่าดู
พร้อมกับตอนนี้เจ่าไห่นั้นต้องการจะดูว่าเขาสามารถที่จะได้เมล็ดหัวไชเท้าได้ไหม เพราะถ้ามันได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเมล็ดจากร้านค้ามิติอีก ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้จำนวนมาก
หลังจากได้รับเมล็ดหัวไชเท้าแล้วเจ่าไห่ก็ออกไปจากมิติ เขานั้นรู้สึกผิดหวังอย่างมากเพราะเขานั้นไม่ได้ไปถึง Lv ที่เขานั้นต้องการแต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาหลังจากที่ขายหัวไชเท้าได้แล้ว
เจ่าไห่รู้สึกว่าถ้ามิตินั้นเพิ่มเลเวลขึ้นแล้วจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคือะไรแต่ด้วยระบบของเกมแล้วเมื่อถึงจุดๆหนึ่งเขาจะได้รับรางวับมหาศาล
และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ่าไห่ก็คือทุ้งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะทำให้เขานั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
กรีนเห็นเจ่ไห่ที่สีหน้าหดหู่ออกมาจากตัวบ้าน ด้วยความตกใจเขาจึงรีบเข้าไปถามอย่างรวดเร็ว “นายน้อย เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอครับ?”
เจ่าไห่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรมาก Lv ของมิตินั้นเพิ่มขึ้นแต่มันก็ไม่ถึง Lv ที่ต้องการ มันเป็นเมล็ดพืชทั่วไปเลยทำให้มีผลไม่ต่างจากเดิมมาก ซึ่งถ้าจะให้มันเพิ่มระดับมากกว่านี้ พวกเราต้องหาพืชที่มีระดับสูงกว่านี้”
กรีนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องมิติของเจ่าไห่ แต่เจ่าไห่ก็พูดว่า Lv ของมิตินั้นเพิ่มขึ้น เขาก็ควรจะมีใจไม่ใช่เหรอ กรีนถึงถามคำถามว่า “นายน้อยครับ การที่ Lv เพิ่มขึ้นนั้นก็หมายความว่าพวกเรามีพื้นที่เพราะปลูกเพิ่มขึ้นไม่ใช่เหรอครับ?”
เจ่าไห่พยักหน้า “อ่า ใช่แล้ว ผมเพิ่มพื้นที่เพราะปลูกไปอีก 4 มู่ แต่ผมก็ต้องขายหัวไชเท้าทั้งหมดเพราะว่ามันต้องใช้เงินในการขยายพื้นที่เพราะปลูก ดังนั้นหัวไชเท้าทั้งหมดก็หมดแล้ว หัวไชเท้าที่เหลือนั้นก็คือสิ่งที่ผมนั้นปลูกใหม่”
กรีนยิ้ม “มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับนายน้อย ตราบใดที่พวกเรานั้นมีพื้นที่มากขึ้น” แม้ว่ากรีนนั้นจะไม่เคยเล่นเกมฟาร์มมาก่อน แต่เจ่าไห่ก็อธิบายเรื่องฟาร์มในมิติอยู่บ่อยครั้งทำให้เขานั้นรู้ว่าเขานั้นสามารถที่จะขายหัวไชเท้าในมิติเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินได้ ในความคิดขงอกรีนนั้น เนื่องจากว่าเงินในมิตินี้ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ข้างนอกได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร