ตอนที่แล้วตอนที่ 78 – แผนที่ผิดพลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 80 – อันเดต Lv up

ตอนที่ 79 – ยาพิษ


เจ่าไห่มองที่ตราสัญลักษณ์บนมือของเขา ซึ่งไม่ใช่ตราสัญลักษณ์นักเวทย์ระดับล่างทั่วไป แต่เป็นของนักเวทย์ระดับกลาง ซึ่งตราสัญลักษณ์นี้นั้นถูกให้กับมือด้วยคาร์ล พร้อมด้วยเงินจำนวนหนึ่งร้อยเหรียญทอง

กรีนไม่คิดเลยว่าคาร์ลนั้นจะประเมินเจ่าไห่สูงขนาดนี้ เจ่าไห่นั้นอัญเชิญอันเดตออกมาเพียงแค่หนึ่งตัว และไม่ได้ใช้เวทย์มนตร์ใดๆอีก แต่เขาก็ยังได้รับตราสัญลักษณ์ของนักเวทย์ระดับกลาง

อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้รับเพิ่มมาหนึ่งร้อยเหรียญทองนั้นก็ช่วยแก้ปัญหาที่เร่งด่วนของพวกเขาได้ในตอนนี้ และมันยังจะช่วยในการเติบโตของตระกูลบูดาอีกด้วย

จากนั้นทั้งสามก็ออกไปหารถม้า ตอนนั้นเองกรีนก็มองท้องฟ้าและหันมาหาเจ่าไห่ว่า “นายท่าน ตอนนี้ถึงเวลาทานอาหารของท่านแล้ว ผมคิดว่าพวกเราควรจะไปที่ร้านอาหารของตระกูลมาร์กี้นะครับ”

แม้ว่าตระกูลมาร์กี้นั้นจะมีธุรกิจหลักในเรื่องของใช้ในชีวิตประจำวัน แต่พวกเขาก็มีธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารและโรงแรมด้วย เพราะว่าของใช้ในชีวิตประจำวันนั้นมีราคาที่ต่ำ พวกเขาจึงใช้ร้านอาหารและโรงแรมเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้มาก ซึ่งการกินอาหารแต่ละมื้อจะใช้เงินไม่กี่เหรียญทอง แต่หนึ่งเหรียญทองสำหรับสามัญชนแล้วนั้น สามารถเลี้ยงครอบครัวของพวกเขาได้เป็นเดือน

เจ่าไห่พยักหน้าตอบ ก่อนจะขึ้นรถม้า จากนั้นกรีนก็บอกกับร๊อคกี้ว่าจะไปที่ไหนต่อ ซึ่งร๊อคกี้ก็ขับรถม้าไปจนถึงหน้าร้านอาหาร ร้านอาหารในเมืองคาซ่านั้นใหญ่กว่าตัวสมาคมนักเวทย์ด้วยซ้ำ และสูงถึงสี่ชั้น

เมื่อรถม้านั้นหยุดลง ก็มีชายที่สวมชุดเกราะหนังที่สวยงามเดินออกมา เกราะนั้นดูสวยงามและมีลวดลายสีฟ้าทำให้เขานั้นดูเปล่งประกาย ซึ่งเครื่องแบบนี้นั้นเหมือนจะเป็นชุดของหน่วนรักษาความปลอดภัยของร้านอาหารตระกูลมาร์กี้

เมื่อชายคนนั้นมาถึงรถม้าก็โค้งคำนับ “ด้วยความเคารพครับท่าน รถม้าของท่านไม่สามารถที่จะจอดที่นี้ได้ ได้โปรดตามกระผมมาด้วยนะครับ”

กรีนนั้นไม่เถียงอะไรกับชายคนนี้ แต่เขานั้นลงจากรถม้าและเปิดประตูก่อนจะให้เม็กและเจ่าไห่นั้นออกมา เมื่อทั้งสามเดินเข้าไปในร้านอาหารแล้ว หน่วนรักษาความปลอดภัยก็พาร๊อคกี้ไปจอดรถม้าที่อื่น

เมื่อทั้งสามเข้าไปในร้านอาหารแล้ว ก็มีพนักงานต้อนรับสองคนมาทักทายและคำนับ “ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารแสงประทีป เรียนท่านนักเวทย์ ท่านได้ทำการจองที่นั่งไว้หรือไม่?”

เจ่าไห่นั้นไม่ได้พูดอะไร กรีนจึงเดินเข้าไปและยืนเหรียญตราทอง เมื่อพนักงานสาวทั้งสองมาดูเหรียญตราทองแล้ว ก็ส่งมันคืนให้กับกรีนและคำนับอีกครั้งและพูดขึ้นว่า “เรียนแขกผู้มีเกียรติ ท่านต้องการให้ดิฉันจัดการสิ่งใดบ้างค่ะ”

จากนั้นกรีนก็พูดว่า “จัดห้องพักให้สำหรับพวกเราด้วย พวกเรามารับประทานอาหารที่นี้”

จากนั้นพนักงานสาวทั้งสองก็พาทั้งสามเดินเข้าไปและจัดห้องพักให้ที่ชั้นสาม ซึ่งห้องพักที่ชั้นสามนั้นมีอยู่ไม่มาก และมีเพียงผู้ที่ต้องการมารับประทานอาหารเพียงเท่านั้น เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั้น กรีนก็เลือกอาหรสองกานพร้อมกับสั่งซุปไปด้วย เมื่อสั่งเสร็จแล้ว กรีนก็คำนวนเงินซึ่งมีราคาถึงสิบเหรียญทอง แต่ตัววัตถุดิบจริงๆนั้นมีราคาเพียงแค่หนึ่งเหรียญทอง ช่างเป็นการหากำไรจากลูกค้าจริงๆ

เมื่อพวกเขาทำการสั่งอาหารแล้ว พนักงานก็นำกาน้ำชามาให้ เจ่าไห่นั้นก็ไม่ขยับตัวเลยและรอจนกระทั่งพวกเขานั้นเสิร์ฟอาหารจนเสร็จ และเมื่อพวกเขารับอาหารจนครบแล้ว กรีนก็ปิดประตูและเจ่าไห่ก็ถอดหมวกออกมา ก่อนที่จะสูดลมหายใจเขา “หายใจลำบากจริงๆชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้าต้องใช้ชุดพวกนี้ตลอดเวลาละนี้?”

กรีนยิ้ม “มันคงจะอึดอัดที่ไม่สามารถที่จะพูดได้สินะครับ”

เจ่าไห่ยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า “แต่นี้มันก็คุ้มค่านะครับ อย่างน้อยวันนี้พวกเราก็ได้เงินมาถึง หนึ่งร้อยเหรียญทองนะปู่กรีน บางทีพวกเราควรจะซื้อเนื้อให้กับทาสเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขานะครับ”

แต่กรีนกลับพูดว่า “แม้ว่าพวกเราจะได้เงินมาหนึ่งร้อยเหรียญแต่พวกเราก็ไม่ทราบว่าคุณลอร่านั้นจะกลับมาเมื่อไหร่ ดังนั้นผมคิดว่าพวกเราควรจะเก็บเงินไว้ใช้ในภายหลังก่อนนะครับ”

เจ่าไห่จึงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขานั้นตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้เงินมาถึงหนึ่งร้อยเหรียญทอง ซึ่งถ้าหากพวกเขานั้นใช้จ่ายในเมืองคาซ่าล่ะก็ เขาก็เกรงว่ามันจะหมดภายในไม่ถึงชั่วโมงอย่างแน่นอน

เม็กรินน้ำชาและส่งให้กับเจ่าไห่ “น้ำชาค่ะ นายน้อย”

เจ่าไห่พยักหน้ารับถ้วยน้ำชา จากนั้นเม็กก็รินอีกถ้วยให้กับกรีน

เจ่าไห่ที่กำลังจะดื่มน้ำชานั้น จู่ๆก็มีเสียงแจ้าเตือนขึ้นว่า [ค้นพบสารพิษ เปิดระบบป้องกันโฮสต์ ทำการสกัดสารพิษ การวิเคาระห์สารพิษเสร็จสิ้น พิษทำลายระบบประสาทถาวรนั้นจะสร้างความเสียหายรุนแรงกับระบบประสาทของมนุษย์ คาดการว่าจะตายในสามชั่วโมงสร้างยาต้านพิษ สร้างยาต้านพิษเสร็จสมบูรณ์ กรุณาดิ่มน้ำสเปเทียล ใช้สารพิษใหม่ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวัตถุประเภทหุ่นยนตร์]

ตัวเจ่าไห่นั้นแข็งทื่อไปด้วยความตกใจ ก่อนจะว่าถ้วนน้ำชา และมองไปยังกรีนที่กำลังจะดื่มน้ำชา “หยุด! ปู่กรีนในชานั้นมีพิษ!”

กรีนจ้องมองด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ทันใดนั้นเขาก็วางถ้วยชาลงบนโต๊ะก่อนจะพุ่งไปที่ประตู ก่อนจะแง้มประตูดูว่ามีใครหรือไม่ จากนั้นเขาก็ปิดประตูและกลับมาที่โต๊ะ “นายน้อย มันมียาพิษจริงงั้นเหรอครับ?”

เจ่าไห่พยักหน้า “ใช่แล้วมันมีพิษอยู่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงปู่กรีน ยาแก้พิษนั้นถูกสร้างขึ้นในน้ำสเปเทียลแล้ว ดังนั้นคุณวางใจได้”

กรีนจึงหน้ามุ่ย “เราอยู่ในร้านอาหารของตระกูลมาร์กี้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวางยาพิษ ยกเว้นว่าคนที่วางยานั้นคือคนของตระกูลมาร์กี้ แต่ทำไมพวกเขาถึงคิดจัดการกับพวกเรากันล่ะ?”

เจ่าไห่ขมวดคิ้วของเขา มันน่าแปลก จากการคาดเดาแล้วตระกูลมาร์กี้นั้นไม่มีเหตุผลที่จะสังหารพวกเรา ในเมื่อพวกเรานั้นช่วยคนของตระกูลมาร์กี้ไว้ แต่ถ้าไม่ใช่คนของตระกูลมาร์กี้แล้วจะเป็นใครกันล่ะ?”

จู่ๆเม็กก็พูดขึ้นว่า “นายน้อย ปู่กรีน เม็กคิดว่าที่ตระกูลมาร์กี้นั้นโจมตีพวกเราก็เพราะว่าการต่อสู้ภายในตระกูลหรือป่าว นี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลก็ได้?”

เจ่าไห่และกรีนนั้นไม่คาดคิดเรื่องนี้เลย แต่มันก็เป็นไปได้ กรีนพยักหน้า “ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น พวกเรานั้นแสดงเหรียญตราทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในตระกูล ไม่งั้นแล้วลอร่าจะให้สิ่งนี้มาเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตทำไม ถ้าเช่นนั้นแล้วเหรียญตราทองนั้นควรจะเป็นสัญลักษณ์สำหรับแขกคนสำคัญ แต่คนที่ดูแลร้านอาหารนี้กลับไม่ออกมาทักทายเลยแม้แต่น้อย ถ้าคนที่ดูแลที่นี้ไม่ปรากฎตัวขึ้นมา เช่นนั้นแล้วมันต้องมีอะไรซักอย่างแน่”

เจ่าไห่ขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ภายในตระกูลมาร์กี้ซะแล้วพวกเขานั้นบอกกลุ่มกองทัพอมตะว่าลอร่านั้นกำลังทำอะไร และพวกเราทำให้แผนการนั้นพังลง ดังนั้นพวกเขาคงคิดว่าพวกเราคือศัตรูเสียแล้ว”

กรีนพยักหน้า “นายน้อย ผมคิดว่าพวกเราควรออกไปจากที่นี้”

เจ่าไห่หัวเราะเล็กน้อย “ทำไมพวกเราควรจะออกไปล่ะ? อาหารมาที่นี้แล้ว ผมนั้นอยากจะรู้ว่าพวกเขานั้นวางยาพิษในอาหารหรือไม่ ถ้าหากพวกเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ผมจะเผาร้านอาหารนี้ซะ”

ไฟโกรธของเจ่าไห่ลุกโชนขึ้นมา แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กเนิร์ดที่ไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขานั้นจะโกรธไม่เป็น ชายที่เป็นคนดีนั้นก็ไม่ใช่ชายที่ไร้ซึ่งความโกรธถ้าพวกเขาถูกยุแหย่หรือรังแก

แม้ว่าพวกเขานั้นจะยังไม่เข้าใจเบี้องหลังของการวางยากพิษในครั้งนี้ แต่มันก็มีเพียงแค่สาเหตุเดียวที่เป็นไปได้คือการต่อสู้กันภายในตระกูลมาร์กี้

“นี้พวกเขาคิดว่าการต่อสู้กันภายในนั้นมีบางอย่างเกี่ยวกับพวกเราอย่างงั้นเหรอ? พวกเราแค่ผ่านมาและช่วยชีวิตลอร่าจากกองทัพอมตะเท่านั้น เพียงแค่นี้ถึงกับต้องวางยาพิษกันเลยอย่างงั้นเหรอ?” เจ่าไห่นั่งคิดกับตัวเอง

ในขณะที่คิดนั้นเขาก็หยิบมีดและซ้อมมากินอาหาร เพราะหน้าตาของอาหารนั้นน่าอร่อยมากเลย และเมื่อตรวจสอบแล้ว มันก็ไม่มีพิษอีกด้วย เจ่าไห่จึงบอกกับคนอื่นๆ

แต่เพื่อความแน่ใจ เจ่าไห่ก็เติมน้ำสเปเทียลนั้นลงในหม้อชาเพื่อสลายพิษ ในขณะที่ดื่มน้ำเข้าไปนั้น พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวพิษใดๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด