ตอนที่แล้วตอนที่ 73 – นอกเมืองคาซ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 075 – Level Up

ตอนที่ 74 – ปลาเพลิง


เจ่าไห่ที่ยืนด้วยเท้าเปล่านั้นกำลังมองไปรอบๆภูเขาที่เขียวชอุ่ม ซึ่งมันทำให้หัวใจของเขานั้นเบิกบานขึ้นมา

เมื่อเขาได้ยินว่ากรีนได้ซื้อเนินเขาเล็กๆ พร้อมกับคฤหาสน์ด้วยเงินเพียงหนึ่งร้อยเหรียญทองนั้น มันทำให้เขานั้นรู้สึกแปลกใจ เพราะว่ามันมีราคาที่ถูกเกินไป แต่เมื่อพวกเขานั้นเดินทางมาถึงเนินเขาแห่งนี้แล้ว เจ่าไห่ก็เขาใจแล้วว่าทำไมถึงถูกเช่นนั้น และคิดว่าราคาของมันควรจะถูกกว่านี้ด้วยซ้ำ

ภูเขาแห่งนี้นั้นมีขนาดเล็กและไม่มีอะไรพิเศษเลยนอกจากหิน เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ เขาก็จะพบเพียงแค่หินสีฟ้าพร้อมกับต้นหญ้าที่ขึ้นตามรอยแยก มันไม่ใช่ที่ดินที่ดีเลย ภูเขาทั้งลูกนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับชายที่สวมหมวกเล็กๆที่เปิดเผยให้เห็นผมเพียงไม่กี่เส้นของเขา ซึ่งมันดูอึดอัดอย่างมาก

กรีนที่ยืนอยู่ข้างเจ่าไห่นั้นเมื่อมองเห็นสีหน้าของเขาแล้ว กรีนก็รู้สึกอับอาย เขารู้อยู่แล้วว่าภูเขาลูกนี้นั้นมีข้อเสีย แต่เพราะว่าเขานั้นไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินใกล้เมืองคาซ่าที่มีราคาสูงได้ ซึ่งด้วยเงินที่มีนั้น นี้เป็นที่ดินเดียวที่เหมาะสมที่สุด กรีนนั้นรู้ว่าเจ่าไห่นั้นไม่พอใจจึงรีบพูดขึ้นมาว่า “นายน้อย แม้ว่าภูเขาลูกนี้นั้นจะไม่ดีมาก แต่ก็ยังมีคฤหาส์ที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่”

เจ่าไห่เห็นว่ากรีนนั้นกลัวว่าเขาจะรู้สึกไม่พอใจภูเขาและคฤหาสน์ เจ่าไห่จึงตอบว่า “ไม่เป็นอะไรปู่กรีน ผมคิดว่ามันยังเป็นที่ดินที่ดี”

กรีนพยักหน้า แม้ว่าตอนที่เขาจะซื้อนั้นเขาก็ไม่รู้เกี่ยวกับที่ดินแห่งนี้มากนัก นอกจากราคาที่ถูกและอยู่ห่างไกลจากเมืองคาซ่า ถ้าหากเจ่าไห่นั้นคิดว่ามันดีแล้ว เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้

เมอร์รินและเม็กที่ยืนอยู่ข้างๆเจ่าไห่ แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาทั้งสองก็รู้สึกไม่พอใจกับภูเขาแห่งนี้เมื่อเห็นมัน

เจ่าไห่นั้นไม่สนใจและกลับเข้าไปในตัวของเอเลี่ยนทันที ก่อนที่จะเดินตรงไปยังเนินเขาเขานั้นอยากจะเป็นพื้นที่ด้านในของที่ดิน

มันมีถนนหินที่กว้างกว่าห้าเมตรจากตีนเขาจนถึงยอดเขา ถนนสายนี้นั้นไม่ได้ถูกปูด้วยก้อนหิน แต่มันเป็นหินธรรมชาติที่พบบนภูเขาแห่งนี้ แต่เมื่องเจ่าไห่เห็นถนนนี้แล้ว เขาก็ยังรู้สึกแปลกใจ ในชีวิตอดีต แม้ว่าเขานั้นจะไม่เคยอาศัยอยู่บนเขา แต่เขาก็พอจะเขาใจว่าถนนที่จะนำรถขึ้นไปบนภูเขานั้นส่วนใหญ่จะเป็นถนนที่คดเคี้ยว

การที่ทำให้ถนนนั้นคดเคี้ยวและค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่องนั้น แม้ว่าจะทำให้ถนนนั้นมีระยะทางที่ไกลขึ้น แต่ด้วยการไต่ระดับที่ค่อยๆขึ้นไป มันทำให้ยานพาหนะนั้นสามารถที่จะเคลื่อนที่ยังบนภูเขาได้

แต่ถนนที่เจ่าไห่อยู่นั้นกลับเป็นเส้นตรงขึ้นไปยังยอด มันจึงกลายเป็นถนนที่สูงขัน ถ้าเป็นในอดีต มันก็คงที่ยากในการที่ม้าจะลากรถขึ้นไปได้

แต่ถึงอย่างนั้น เจ่าไห่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะว่าเขานั้นพบรอยลากของรถม้าบนถนนเส้นนี้ จึงคิดว่าน่าจะมีใครเส้นทางนี้อยู่บาง เขารู้ว่าเขานั้นไม่สามารถที่จะตัดสินทวีปอาร์คได้โดยใช้สิ่งที่รู้จากโลก ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรและสั่งให้เอเลี่ยนนั้นเดินขึ้นไปยังเนินเขา

เมื่อเขามาถึงที่ดินของเขา ก็มีกำแพงหินสีฟ้าที่แข็งแกร่งพร้อมด้วยตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่ ในขณะที่มันก็มีสีจำนวนมากที่หลุดล่อนออกไปจากประตูไม้ ซึ่งทำให้รู้ว่ามันนานแล้วที่ไม่มีใครดูแลสถานที่แห่งนี้

เจ่าไห่และคนอื่นๆก็ออกมาจากตัวเอเลี่ยนและไปยังประตูไม้ ประตูนั้นสูงกว่าสองเมตรและกว้างกว่าห้าเมตรด้วยสีที่หลุดล่อนออกไปนั้น ทำให้พวกเขานั้นเห็นสีเดิมของไม้

กรีนนั้นเดินไปข้างหน้าและผลักประตู ซึ่งส่งเสียงอันโหยหวนออกมา

เมื่อประตูเปิดออก ตาของเจ่าไห่ก็ประกายขึ้นมา พวกเขานั้นเห็นเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่ซึ่งไม่เล็กไปกว่าลานที่ปราสาทของเขา

ในสนามนั้นมีบ้านสี่หลังที่ทำจากไม้และหินเป็นแนว ซึ่งมีประตูและหน้าตาพร้อมกับหลังคาที่แบนราบ ดูเหมือนว่าบ้านทั้งสีหลังนั้นจะใช้เป็นเรือนรับรองสำหรับบุคคลภายนอก บ้านเหล่านี้นั้นดูทรุดโทรดด้วยรอยแตกจำนวนมาก แต่ว่าถ้าพวกเขานั้นก็ยังสามารถที่จะใช้อยู่อาศัยเพื่อหลบลมแรงได้

เจ่าไห่มองไปยังบ้านเหล่านั้นด้วยความพอใจ คฤหาสน์นั้นอาจจะไม่ดูดี แต่แล้วยังไงล่ะทุกสิ่งที่นี้ก่อสร้างด้วยหินฟ้าเป็นหลัก ซึ่งมันทำให้แข็งแกร่งมา แม้ว่าสถานที่แห่งนี้นั้นจะไม่ได้รับการดูแลและต้องผ่านแดดผ่านฝนมาอย่างยาวนาน แต่มันก็ไม่ได้รับความเสียหายที่มากนัก

ทุกคนก็เข้าไปในบ้านและพบว่าห้องนั้นว่างเปล่า ไม่มีเครื่องใช้ใดๆ ดังนั้นแล้วห้องจึงค่อนข้างกว้างขวาง ถ้าจัดระเบียบซึ่งหน่อยก็สามารถให้คนอาศัยอยู่ได้โดยไม่มีปัญหา

เมื่อผ่านบ้านแนวแถวบ้านไป พวกเขาก็พบลานกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งตรงกลางนั้นก็มีต้นไม้ที่มีใบเหมือนกับใบแปะก๊วย จึงทำให้เจ่าไห่นั้นไม่รู้ว่าต้นไม้นี้คือต้นไม้สายพันธุ์อะไร

นอกจากนี้เขาก็พอคอลงเล็กๆที่มีน้ำไหล เจ่าไห่นั้นตกใจมากเมื่อเขานั้นเห็นปลาตัวเล็กๆ

ลานกว้าง ต้นไม้ คลองและปลา พวกมันถูกจัดอย่างสวยงามในลานแห่งนี้จนเหมือนกับสิ่งก่อสร้างจีนโบราณ ซึ่งมันสามารถบรรเทาจิตใจจากความโกรธใดๆ

เจ่าไห่พยักหน้าพอใจก่อนจะหันไปถามว่า “ปู่กรีน มันมีสภาพแวดล้อมที่ดีมาก แต่น้ำของมันไม่ลึกมาก และมันก็จะเย็นในช่วงหน้าหนาว ทำไมปลาพวกนี้ถึงไม่แข็งตายล่ะครับ?”

กรีนจึงตอบอย่างไม่รอบช้า “นายน้อยผมคิดว่มันเป็นบ่อน้ำพุร้อน ทำให้อุณหภูมิของน้ำนั้นไม่ลดลง และคุณอาจจะไม่รู้ว่าปลาเหล่านี้เรียกว่าปลาเพลิง ซึ่งเป็นปลาที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ จึงเรียกได้ว่าปลานี้ถูกเลือกด้วยตัวของน้ำ เพราะมันจะอาศัยอยู่ได้เฉพาะน้ำอุ่นเท่านั้นถ้าหากอุณหภูมิของน้ำนั้นต่ำ มันก็จะแข็งตาย ซึ่งปลานี้มีอาหารหายาก ด้วยรสชาติที่อร่อยและเนื้อที่ละเอียดอ่อน ผมเคยได้ยินมาว่า แม้แต่กษัตริย์ก็ใช้ปลาเหล่านี้เลี้ยงแก่แขกต่างๆ เพราะมันเป็นอาหารรสเลิศ”

เจ่าไห่นั้นแปลกใจ เขานั้นไม่เคยคิดว่าเลยว่าจะมีปลาเช่นนี้อยู่ เขานั้นหมอบลงและเอื้อมมือลงไปในคูน้ำและเขาก็รู้ว่าน้ำนั้นอุ่นและร้อนกว่าเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอุณหภูมินั้นจะต่ำกว่าสามสิบองศาเซลเซียสเลย ซึ่งนอกจากจะทำให้ปลาเหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้แล้ว มันยังมีชีวิตที่สบายอีกด้วย

เขานั้นมองดูปลาที่ว่ายไปรอบด้วยความผ่อนลาย จากนั้นเขาก็พยายามจะคว้ามัน แต่เขานั้นไม่เคยคิดเลยว่าปลาเหล่านี้จะรวดเร็วจนหลุดจากมือของเขาออกไป

เมื่อเจ่าไห่นั้นจับปลาไม่ได้ เขาลุกขึ้นยืน “ดีเลย ดูเหมือนว่าในอนาคตนี้พวกเราจะสามารเลี้ยงปลาบางอย่างได้ ในตอนนี้ผมจะปล่อยอันเดตไปยังตีนเขาเพื่อค่อยแจ้งเตือนพวกเรา และปล่อยพวกทาสออกมา พวกเขาไม่ได้สูดลมหายใจอากาศบริสุทธิ์มาหลายวันแล้ว”

กรีนยิ้ม “อ่าใช่แล้ว, ให้พวกเขาออกมาบางจะมีต่อพวกเขา บางทีพวกเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างได้กับหินฟ้าบนภูเขานี้ ผมเคยอ่านมาว่าหินพวกนี้นั้นแข็งมากและเหมาะในการสร้างเครื่องมือหิน นายน้อย พวกเราใช้ที่นี้สร้างเป็นโรงงานหินดีไหม? ผมคิดว่ามันเป็นโอกาศที่ดีที่จะสร้างมันตอนนี้?”

เจ่าไห่พยักหน้าแล้วหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ปู่กรีน ดูเหมือนว่าคราวนี้พวกเราจะเลือกสมบัติขึ้นมาจริงๆ บ่อน้ำพุร้อนที่ทำให้พวกเราเลี้ยงปลาเพลิง พร้อมกับก้อนหินที่พวกเราตกการ ไม่ช้าพวกเราจะทำเงินได้มหาศาล”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด